ข้ามไปเนื้อหา

ความสัมพันธ์ฮินดู–อิสลาม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จักรพรรดิอักบัรทรงต้องรับผู้นำราชปุตฮินดูและขุนนางคนอื่น ๆ ในราชสำนัก พระองค์พยายามอุปถัมภ์เรื่องความปรองดองของชุมชนระหว่างชาวฮินดูกับชาวมุสลิม[1]

การติดต่อกันระหว่างชาวมุสลิมกับชาวฮินดูเริ่มต้นขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 หลังศาสนาอิสลามปรากฏขึ้นในคาบสมุทรอาหรับ การติดต่อโดยหลักมาจากการค้าขายทางมหาสมุทรอินเดีย ในอดีต ปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ก่อให้เกิดรูปแบบที่แตกต่างกันในภาคเหนือและภาคใต้ของอินเดีย โดยขณะที่ทางเหนือพบกับประวัติศาสตร์การพิชิตและครอบครอง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างฮินดูและมุสลิมในรัฐเกรละและรัฐทมิฬนาฑูเป็นไปอย่างสันติ[2] อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าความรุนแรงมีอยู่ตั้งแต่ ค.ศ. 1700[3]

จักรวรรดิโมกุลสถาปนาขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 อินเดียในสมัยนั้นอยู่ในช่วงเวลาแห่งความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรือง[4][5][6] ราชวงศ์โมกุลเป็นที่รู้จักในเรื่องการยอมรับทางศาสนา[7][8][9][10] และอุปถัมภ์ศิลปะและวรรณกรรม ในสมัยโมกุล ศิลปะและวัฒนธรรมอินเดียเจริญรุ่งเรือง โดยมีการก่อสร้างอนุสรณ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างทัชมาฮาลและป้อมแดง ในขณะที่ราชวงศ์โมกุลส่งเสริมความปรองดองทางศาสนาและความก้าวหน้าทางวัฒนธรรม และอุปถัมภ์นักวิชาการ กวี และศิลปินชาวฮินดู ให้อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่มีพลวัตซึ่งเสริมสร้างทั้งธรรมเนียมอิสลามและฮินดู ก็ยังมีกรณีเกี่ยวกับความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างโมกุลกับราชปุตเหนือดินแดนหลายแห่ง จักรพรรดิออรังเซพถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงนโยบายไม่ยอมรับศาสนาต่อชาวฮินดู[1][11]

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึง 20 อังกฤษปกครองอินเดียโดยใช้นโยบายแบ่งแยกแล้วปกครองในการควบคุมประเทศนี้[12][13][14] ทางอังกฤษยังนำระบบการเลือกตั้งแบบแยกส่วนมาใช้ ทำให้ความแตกแยกระหว่างชุมชนฮินดูและมุสลิมยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น[15][16] สงครามประเทศเอกราชอินเดียครั้งแรกใน ค.ศ. 1857 (มีอีกชื่อว่า การกบฏอินเดีย ค.ศ. 1857) เป็นการก่อกำเริบครั้งใหญ่ต่อการปกครองของอังกฤษในอินเดีย การกบฏนั้นเกิดจากความขัดแย้งหลากหลายรูปแบบ เช่น การแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การเลือกปฏิบัติทางสังคมและศาสนา และการกดขี่ทางการเมือง[17][18][19] แม้ว่าการกบฏไม่ได้มีสาเหตุมาจากความตึงเครียดทางศาสนาระหว่างชาวฮินดูและมุสลิมเท่านั้น แต่ความตึงเครียดเหล่านี้ยังมีส่วนทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น ในช่วงเกิดกบฏ มีบางกรณีที่ทหารและพลเรือนทั้งมุสลิมและฮินดูต่อสู้ร่วมกันต่ออังกฤษ และยังมีบางกรณีที่เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนทั้งสองด้วย[20][21][22]

ศาสนาอิสลามและศาสนาฮินดูมีพิธีทางศาสนาบางส่วนที่คล้ายคลึงกัน เช่น การอดอาหารและการจาริกแสวงบุญ แต่มีมุมมองด้านอื่น ๆ ต่างกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ประกอบพิธีกรรมร่วมกันหลายร้อยแห่งที่เรียกว่า dargah (แปลว่า "ประตูทางเข้า" หรือ "ธรณีประตู") สำหรับทั้งชาวฮินดูและมุสลิม มีศาลเจ้าสำหรับผู้นำซุนนีที่ได้รับการเคารพนับถือ (ส่วนใหญ่เป็นศูฟี) ที่ทั้งมุสลิมและชาวฮินดูเข้ามาเยือน การโต้ตอบของทั้งสองได้ผ่านช่วงเวลาแห่งความร่วมมือและการผสานความเชื่อ กับช่วงที่มีการเลือกปฏิบัติทางศาสนา การไม่ยอมรับ และความรุนแรง ชาวมุสลิมในฐานะชนกลุ่มน้อยทางศาสนาในอินเดีย เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอินเดียและอาศัยอยู่ร่วมกับชาวฮินดูเป็นเวลากว่า 13 ศตวรรษ แม้จะมีการอ้างมาช้านานว่าต้นตอของความตึงเครียดระหว่างมุสลิมกับฮินดูส่วนใหญ่มาจากการปกครองอาณานิคมของอังกฤษในอินเดียเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ก็มีการโต้แย้งว่าอังกฤษมีอิทธิพลในการสร้างอัตลักษณ์ทางศาสนาของอิสลามและฮินดูในภูมิภาคนี้น้อยมาก และยังมีการแบ่งแยกเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นด้วย[23] เช่น สงครามโมกุล–มราฐาในคริสต์ศตวรรษที่ 18 Ajay Verghese โต้แย้งว่า ความขัดแย้งระหว่างชาวฮินดูและมุสลิมในอินเดียสามารถเข้าใจได้ดีขึ้นโดยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างชุมชนทั้งสอง เขาโต้แย้งว่าอินเดียก่อนยุคอาณานิคมมีลักษณะเฉพาะทางศาสนาที่ไม่ชัดเจน และขอบเขตทางศาสนาไม่ได้มีความชัดเจนเสมอไป สิ่งนี้ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างชาวมุสลิมและฮินดูในระดับหนึ่ง แต่ยังสร้างเงื่อนไขสำหรับความตึงเครียดและความขัดแย้งอีกด้วย[3]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 Chandra 2007, p. 252
  2. Vasudha Narayanan. Hinduism and Islam.
  3. 3.0 3.1 Verghese, Ajay; Foa, Roberto Stefan (November 5, 2018). "Precolonial Ethnic Violence:The Case of Hindu-Muslim Conflict in India" (PDF). Boston University. สืบค้นเมื่อ April 7, 2023.
  4. Smith, Stephanie Honchell (August 1, 2023). "Aurangzeb: Mughal Emperor". The Ohio State University. สืบค้นเมื่อ February 25, 2024.
  5. Kanwal, Fariha. "Mughal Rulers' (1526-1707) Religious Tolerance Policy and its Impacts on the Society of Sub-Continent". ANNALS OF SOCIAL SCIENCES AND PERSPECTIVE. สืบค้นเมื่อ February 25, 2024.
  6. "The majestic Mughal Empire: The rise and fall of India's most powerful dynasty". History Skills. สืบค้นเมื่อ February 25, 2024.
  7. Kinra, Rajeev (April 1, 2020). "Revisiting the History and Historiography of Mughal Pluralism". Reorient. 5 (2). doi:10.13169/reorient.5.2.0137. สืบค้นเมื่อ March 2, 2024.
  8. "MUGHALS AND THE RELIGIOUS MOVEMENTS". Proquest. September 2012. สืบค้นเมื่อ March 2, 2024.
  9. Akhtar, Awais. "Religious Policy of Emperor Shahjahan (1627-1658AD)" (PDF). Journal of Indian Studies.
  10. Giordan, Giuseppe (July 15, 2019). "Annual Review of the Sociology of Religion. Volume 10 (2019)". Verlag Ferdinand Schöningh. p. 278. สืบค้นเมื่อ March 10, 2024.
  11. Mehrotra, Abhishek (December 9, 2017). "The Real History of Hindu-Muslim Relations Under Akbar". The Diplomat. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
  12. Rehman, Aziz (May 11, 2018). "The British Art of Colonialism in India: Subjugation and Division". Peace And Conflict Studies Journal. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
  13. Smith, Randall (August 10, 2017). "The Partition: The British game of 'divide and rule'". Al-Jazeera. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
  14. Belkacem, Belmekki (2014). "Muslim Separatism in Post-Revolt India: A British Game of "Divide et Impera"?". Oriente Moderno. 94 (1): 113–124. doi:10.1163/22138617-12340041. JSTOR 44280740. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
  15. Tharoor, Shashi (2017). Inglorious Empire: What the British Did to India (ภาษาอังกฤษ). Hurst. p. 101. ISBN 978-1-84904-808-8.
  16. Markandey Katju. "The truth about Pakistan" (ภาษาอังกฤษ). The Nation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 November 2013. สืบค้นเมื่อ 29 January 2019.
  17. Metcalf & Metcalf 2006, pp. 100–103.
  18. Brown 1994, pp. 85–86.
  19. Peers, Douglas M. (2006), "Britain and Empire", ใน Williams, Chris (บ.ก.), A Companion to 19th-Century Britain, John Wiley & Sons, p. 63, ISBN 978-1-4051-5679-0
  20. Robb, Peter (May 18, 2017). "On the Rebellion of 1857: A Brief History of an Idea". Economic and Political Weekly. 42 (19): 1696–1702. JSTOR 4419572. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
  21. "1857 War of Independence... when Hindu-Muslim separatism, hatred wasn't an issue". Counter View. May 13, 2020. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
  22. YADAV, SANJAY (1994). "The Indian Mutiny of 1857: Why Britain Succeeded and the Rebels Failed". Journal of Asian History. 28 (2): 136–153. JSTOR 41930953. สืบค้นเมื่อ April 19, 2023.
  23. Pillalamarri, Akhilesh (March 16, 2019). "The Origins of Hindu-Muslim Conflict in South Asia". The Diplomat. สืบค้นเมื่อ April 7, 2023.

บรรณานุกรม

[แก้]
ความสัมพันธ์
ศาสนาอิสลามในเอเชียใต้
  • Holt, Peter M. (1977), Peter Malcolm Holt; Ann K. S. Lambton; Bernard Lewis (บ.ก.), The Cambridge History of Islam (New ed.), Cambridge University Press, ISBN 978-0521291378
  • Khalidi, Omar (2009), Shiping Hua (บ.ก.), Islam and democratization in Asia, Cambria Press, ISBN 978-1604976328
  • Metcalf, Barbara D. (2009), Barbara D. Metcalf (บ.ก.), Islam in South Asia in Practice, Princeton University Press, ISBN 978-0691044200
ความรุนแรงในชุมชน
  • Wilkinson, Steven I. (2006), Votes and Violence: Electoral Competition and Ethnic Riots in India, Cambridge University Press, ISBN 978-0521536059
  • Reference, Blackwell (1999). Townson, Duncan (บ.ก.). "Indian communal massacres (1946–7)". Blackwell Reference. doi:10.1111/b.9780631209379.1999.x. ISBN 9780631209379.
  • Markovits, Claude. "India from 1900 to 1947". Mass Violence.Org.
  • D'Costa, Bina (2010), Nationbuilding, Gender and War Crimes in South Asia, Routledge, ISBN 978-0415565660
  • Ghosh, Partha S. (2004), Ranabir Samaddar (บ.ก.), Peace Studies: An Introduction To the Concept, Scope, and Themes, SAGE, ISBN 978-0761996606
  • Hussain, Monirul (2009), Sibaji Pratim Basu (บ.ก.), The Fleeing People of South Asia: Selections from Refugee Watch, Anthem, p. 261, ISBN 978-8190583572
  • Berglund, Henrik (2011), Galina Lindquist; Don Handelman (บ.ก.), Religion, Politics, and Globalization: Anthropological Approaches, Berghahn, p. 105, ISBN 978-1845457716
  • Smith, Glenn (2005), Asvi Warman Adam; Dewi Fortuna Anwar (บ.ก.), Violent Internal Conflicts in Asia Pacific: Histories, Political Economies, and Policies, Yayasan Obor, ISBN 9789794615140
  • Pandey, Gyanendra (2005), Routine violence: nations, fragments, histories, Stanford University Press, ISBN 978-0804752640
  • Ghassem-Fachandi, Parvis (2012), Pogrom in Gujarat: Hindu Nationalism and Anti-Muslim Violence in India, Princeton University Press, p. 2, ISBN 978-0691151779
  • Metcalf, Barbara (2013), Deana Heath; Chandana Mathur (บ.ก.), Communalism and Globalization in South Asia and its Diaspora, Routledge, ISBN 978-0415857857
ทั่วไป