ความทรงจำอันตราตรึง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ความทรงจำอันตราตรึง
ศิลปินซัลบาโด ดาลี
ปีค.ศ. 1931 (1931)
สื่อจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบ
มิติ24 เซนติเมตร × 33 เซนติเมตร (9.5 in × 13 in)
สถานที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่, นครนิวยอร์ก, สหรัฐ

ความทรงจำอันตราตรึง (กาตาลา: La persistència de la memòria; สเปน: La persistencia de la memoria) หรือที่รู้จักกันในชื่อ นาฬิกานิ่ม (กาตาลา: Els rellotges tous; สเปน: Los relojes blandos) และ นาฬิกาละลาย (กาตาลา: Els rellotges fosos; สเปน: Los relojes derretidos) เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบที่วาดโดยซัลบาโด ดาลี ศิลปินชาวสเปนในปี ค.ศ. 1931 ภาพได้รับการจัดแสดงครั้งแรกที่หอศิลป์จูเลียน เลวีในปี ค.ศ. 1932 ก่อนผู้บริจาคที่ไม่ออกนามจะมอบให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในนครนิวยอร์กในปี ค.ศ. 1934[1] ความทรงจำอันตราตรึง เป็นหนึ่งในภาพวาดที่เป็นที่รู้จักของดาลี และเป็นผลงานที่สำคัญของลัทธิเหนือจริง[2]

ความทรงจำอันตราตรึง เป็นภาพวาดขนาด 24 × 33 เซนติเมตรที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง สิ่งที่เด่นชัดที่สุดในภาพคือนาฬิกาพกที่อ่อนตัว เป็นตัวแทน "ความอ่อน" และ "ความแข็ง" ซึ่งเป็นหัวข้อที่ดาลีคิดในขณะนั้น[3] ดอว์น อะเดส นักประวัติศาสตร์ศิลป์กล่าวว่า "นาฬิกานิ่มเป็นสัญญะทางจิตใต้สำนึกของเวลาและอวกาศ ดาลีอาจครุ่นคิดถึงการล่มสลายของกฎเกณฑ์ของจักรวาล"[4] การตีความนี้ทำให้เชื่อกันว่าดาลีพยายามเชื่อมโยงภาพนี้เข้ากับทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่กล่าวถึงการขยายขนาดของเวลา เมื่ออิลียา พรีโกจิน นักเคมีเชิงฟิสิกส์ถามดาลีถึงเรื่องนี้ ดาลีได้ตอบว่าแรงบันดาลใจของนาฬิกาเหลวไม่ได้มาจากทฤษฎีสัมพัทธภาพ แต่มาจากการสังเกตเนยแข็งกาม็องแบร์ละลายเมื่อถูกแสงแดด[5] ดาลีอาจใช้นาฬิกาดังกล่าวเป็นสิ่งล้อเลียนการเดินของเวลาที่เที่ยงตรงคงที่[6] ตรงกลางภาพเป็นวัตถุคล้ายใบหน้ามนุษย์ ซึ่งดาลีใช้แทนตัวเขาเองในผลงานหลายชิ้น มีการตีความว่าวัตถุดังกล่าวอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวในความฝันของดาลีและเขาไม่สามารถชี้ชัดถึงลักษณะของสิ่งมีชีวิตนั้นได้ นอกจากนี้ ผู้ชมบางส่วนสังเกตเห็นว่าวัตถุนี้หลับตาหนึ่งข้าง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ความทรงจำอันตราตรึง แสดงภาพในความฝัน[7] ด้านซ้ายล่างของภาพมีนาฬิกาสีส้มที่มีมดตอมด้านบนแทนความเสื่อมโทรม[8] ถัดจากนาฬิกาสีส้มมีนาฬิกาอีกเรือนที่มีแมลงวันเกาะด้านบน เงาของแมลงวันแสดงภาพคล้ายร่างมนุษย์ ฉากหลังของภาพเป็นกับดาแกร็วส์ คาบสมุทรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นกาตาลุญญา ซึ่งดาลีใช้เป็นฉากในหลาย ๆ ภาพของเขา[9]

อ้างอิง[แก้]

  1. Pushkin, Kristy (May 21, 2018). "15 Things You Didn't Know About The Persistence Of Memory". Mental Floss. สืบค้นเมื่อ August 26, 2019.
  2. Farthing, Stephen (2016). 1001 Paintings You Must See Before You Die. London, Great Britain: Octopus Publishing Group. p. 685. ISBN 9781844039203.
  3. Bradbury, Kirsten (1999). Essential Dalí. ;Dempsey Parr. ISBN 978-1-84084-509-9. It includes the first appearance of what is perhaps his most enduring image: the 'soft watch'.
  4. Ades, Dawn. Dalí. Thames and Hudson, 1982.
  5. Salvador Dali (2008). The Dali Dimension: Decoding the Mind of a Genius (DVD). Media 3.14-TVC-FGSD-IRL-AVRO. Surprisingly, Dalí said that his soft watches were not inspired by the theory of relativity, but by the surrealist perception of a Camembert cheese melting in the sun. The painter insisted on this explanation in his reply letter to Prigogine, who took it as Dalí's reaction to Einstein's coldly mathematical theory.
  6. "Salvador Dali's The Persistence of Memory explained". Phaidon. สืบค้นเมื่อ August 26, 2019.
  7. "The Persistence of Memory". Google Sites. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-18. สืบค้นเมื่อ August 26, 2019.
  8. "Dalinian symbolism I Salvador Dalí I Espace Dalí". daliparis.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 กันยายน 2014. สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม 2015.
  9. Richman-Abdou, Kelly (July 1, 2019). "Exploring Salvador Dalí's Strange and Surreal 'Persistence of Memory'". My Modern Met. สืบค้นเมื่อ August 26, 2019.