ข้ามไปเนื้อหา

คณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี

พิกัด: 39°0′57″N 125°44′26″E / 39.01583°N 125.74056°E / 39.01583; 125.74056
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี

조선로동당 중앙위원회
คณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี ชุดที่ 8
ภาพรวม
รูปแบบองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดเมื่อไม่ได้ประชุมใหญ่
ผู้แต่งตั้งการประชุมใหญ่
วาระ5 ปี
จำกัดวาระไม่จำกัดวาระ
ประวัติศาสตร์
สถาปนาโดยการประชุมใหญ่ครั้งที่ 1 เมื่อ 30 สิงหาคม 1946; 78 ปีก่อน (1946-08-30)
ประชุมครั้งแรก31 สิงหาคม ค.ศ. 1946
โครงสร้าง
เลขาธิการคิม จ็อง-อึน, เลขาธิการใหญ่พรรค
ฝ่ายบริหารกรมการเมือง
ฝ่ายธุรการสำนักเลขาธิการ
ฝ่ายทหารคณะกรรมการการทหารกลาง
สมาชิก
ทั้งหมด139
สมาชิกสำรอง
ทั้งหมด111
การเลือกตั้ง
ครั้งล่าสุดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 (2021)
ที่ประชุม
ศูนย์รัฐบาลเลขที่ 1 เปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ
รัฐธรรมนูญ
ข้อบังคับพรรคแรงงานเกาหลี
คณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี
โชซ็อนกึล
조선로동당 중앙위원회
ฮันจา
朝鮮勞動黨 中央委員會
อาร์อาร์Joseon Rodongdang Jungang Wiwonhoe
เอ็มอาร์Chosŏn Rodongdang Chungang Wiwŏnhoe

คณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี เป็นองค์กรสูงสุดระหว่างการประชุมระดับชาติของพรรคแรงงานเกาหลี (WPK) พรรครัฐบาลของประเทศเกาหลีเหนือ ตามข้อบังคับของพรรค คณะกรรมาธิการกลางได้รับการเลือกตั้งโดยการประชุมใหญ่พรรคและการประชุมพรรคสามารถได้รับมอบอำนาจให้ต่ออายุองค์ประกอบสมาชิกได้ ในทางปฏิบัติ คณะกรรมาธิการกลางสามารถปลดและแต่งตั้งสมาชิกใหม่โดยไม่ต้องปรึกษาหารือกับพรรคในวงกว้างในการประชุมเต็มคณะของตนเอง

คณะกรรมาธิการกลางชุดที่ 1 ได้รับการเลือกตั้งในการประชุมใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีครั้งที่ 1 ใน ค.ศ. 1946 ประกอบด้วยสมาชิก 43 คน จำนวนสมาชิกคณะกรรมาธิการกลางได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่นั้นมา โดยในการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 7 ใน ค.ศ. 2017 ได้เลือกตั้งสมาชิก 235 คน สมาชิกที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง ปัจจุบันเรียกว่าสมาชิกสำรอง ถูกนำมาใช้ในการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 2

คณะกรรมาธิการกลางมีการประชุมเต็มคณะ ("การประชุม") อย่างน้อยปีละครั้ง และทำหน้าที่เป็นเวทีระดับสูงสำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นนโยบายที่เกี่ยวข้อง โดยดำเนินการตามหลักการของระบบอุดมการณ์เอกานุภาพและทฤษฎีผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ บทบาทของคณะกรรมาธิการกลางมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดประวัติศาสตร์ ในช่วงแรกเริ่มจนถึงอุบัติการณ์ฝ่ายสิงหาคม คณะกรรมาธิการกลางเป็นเวทีที่ฝ่ายต่าง ๆ แข่งขันกัน หลังจากนั้น โดยทั่วไปแล้วคณะกรรมาธิการกลางใช้อำนาจผ่านกระบวนการที่เป็นทางการซึ่งกำหนดไว้ในข้อบังคับพรรค อย่างไรก็ตาม ความสามารถที่แท้จริงในการส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการตัดสินใจเกี่ยวกับบุคลากรระดับชาติไม่มีอยู่จริง เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วหน้าที่นั้นถูกดำเนินโดยตระกูลคิมและกรมการเมือง กระนั้น การประชุมเต็มคณะของคณะกรรมาธิการกลางทำหน้าที่เป็นสถานที่ซึ่งมีการดำเนินตามนโยบายอย่างเป็นทางการ และมีการประกาศต่อสาธารณะ การตัดสินใจจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะในรูปแบบของ "ข้อมติ" หรือ "การตัดสินใจ"

ประวัติศาสตร์

[แก้]

คณะกรรมาธิการกลางก่อตั้งขึ้นในการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 1 เมื่อมีการเลือกองค์ประกอบชุดแรก[1] ประกอบด้วยสมาชิก 43 คนและได้ขยายจำนวนขึ้นในการประชุมใหญ่ทุกครั้ง[1] ตั้งแต่ ค.ศ. 1948 ถึง 1961 มีการประชุมเฉลี่ย 2.4 ครั้งต่อปี[2] เป็นอัตราใกล้เคียงกับคณะกรรมาธิการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต[2] การประชุมที่จัดขึ้นในช่วงเวลานี้มักใช้เวลาไม่เกินหนึ่งวัน[2] อำนาจของคณะกรรมาธิการกลางไม่ได้อยู่ที่ความถี่ (หรือระยะเวลา) ในการประชุม แต่อยู่ที่กลไกการทำงานของมัน[2] กลไกนี้ถูกควบคุมโดยกรมการเมืองมากกว่าคณะกรรมาธิการกลาง และเป็นรัฐบาลโดยนิตินัยของเกาหลีเหนือภายใต้การนำของคิม อิล-ซ็อง[2] คณะกรรมาธิการกลางไม่ได้มีการประชุมเต็มคณะระหว่าง ค.ศ. 1993 ถึง 2010[3]

มีช่วงเวลาถึง 37 ปีระหว่างการประชุมใหญ่ครั้งที่ 6 และครั้งที่ 7 คณะกรรมาธิการกลางและกลไกของพรรคอ่อนแอลงอย่างมากภายใต้การนำของคิม จ็อง-อิล โดยมีตำแหน่งหลายตำแหน่งที่ยังคงว่างอยู่[4] ตั้งแต่ ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา เขาเริ่มดำเนินการหลายอย่างเพื่อฟื้นฟูพรรค โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อาวุโสเข้าสู่ตำแหน่งใหม่ ๆ พัก นัม-กีได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากรมวางแผนและการเงิน และชัง ซ็อง-แท็กได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากรมบริหาร ชังซึ่งดูแลเรื่องความมั่นคงทั้งหมด ได้รับการฟื้นฟูหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้ากรมองค์การและชี้นำโดยอ้อม[5] การประชุมผู้แทนพรรคครั้งที่ 3 (จัดขึ้นในเดือนกันยายน ค.ศ. 2010) ได้ปรับองค์ประกอบของคณะกรรมาธิการกลางใหม่ อย่างไรก็ตาม อำนาจการกำหนดวาระใหม่ของคณะกรรมาธิการกลางนั้นเป็นของการประชุมใหญ่พรรค[6]

กฎระเบียบ

[แก้]

การเลือกตั้งและกระบวนการแต่งตั้ง

[แก้]

ข้อบังคับของพรรคระบุว่าขนาดของคณะกรรมาธิการกลางจะถูกกำหนดโดยคณะผู้บริหารสูงสุดประจำการประชุมใหญ่พรรค การประชุมเต็มคณะของคณะกรรมาธิการกลางมีอำนาจปรับเปลี่ยนตำแหน่งของตนได้หาก "จำเป็น" ผู้สมัครสามารถได้รับการเสนอชื่อโดยคณะกรรมาธิการพรรคประจำจังหวัดต่าง ๆ แต่คณะกรรมาธิการกลางผ่านกรมการองค์การและชี้นำมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย[7]

การประชุมเต็มคณะ

[แก้]

ในระหว่างที่ไม่มีการประชุมใหญ่พรรคและการประชุมอื่น ๆ คณะกรรมาธิการกลางถือเป็นองค์กรสูงสุดของพรรคแรงงานเกาหลี[8] ไม่ได้เป็นองค์กรถาวร และตามข้อบังคับของพรรคแรงงานเกาหลี จะต้องจัดการประชุมอย่างน้อยปีละครั้ง[8][9] กรมการเมืองเป็นผู้เรียกประชุมเต็มคณะของคณะกรรมาธิการกลาง[8] การประชุมเต็มคณะตามข้อบังคับของพรรคแรงงานเกาหลี มีหน้าที่หารือและตัดสินใจ "ประเด็นสำคัญของพรรค" และมีอำนาจในการเลือกตั้งกรมการเมืองและคณะผู้บริหารสูงสุด สำนักนโยบายบริหาร คณะกรรมการการทหารกลาง[8] คณะกรรมการควบคุม รองประธานพรรคแรงงานเกาหลี หัวหน้ากรมต่าง ๆ ของคณะกรรมาธิการกลางและตำแหน่งระดับจังหวัดที่ต่ำกว่า[10] ในอดีตเคยมีอำนาจในการเลือกตั้งผู้นำพรรค[8] สามารถเลื่อนตำแหน่งสมาชิกสำรองที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงให้เป็นสมาชิกเต็มตัวและแต่งตั้งสมาชิกใหม่ที่มีสิทธิ์ออกเสียงและไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในคณะกรรมาธิการกลางได้ในการประชุมเต็มคณะ[10]

หน่วยงานตัดสินใจหลัก

[แก้]

กรมการเมือง

[แก้]

กรมการเมือง เดิมชื่อคณะกรรมาธิการการเมือง เคยเป็นองค์กรตัดสินใจของพรรคแรงงานเกาหลีจนกระทั่งมีการจัดตั้งคณะผู้บริหารสูงสุด[11][12] กรมการเมืองประกอบด้วยสมาชิกเต็มเต็มตัว (มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง) และสมาชิกผู้สมัคร (ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง) และเป็นองค์กรตัดสินใจสูงสุดของพรรคแรงงานเกาหลีเมื่อมีการประชุม[13] ก่อนการประชุมครั้งที่ 3 กรมการเมืองได้รับเลือกตั้งโดยคณะกรรมาธิการกลางทันทีหลังการประชุมใหญ่[13] แม้ข้อบังคับของพรรคจะระบุว่ากรมการเมืองควรประชุมอย่างน้อยเดือนละครั้ง แต่ก็มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่แสดงว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง[13] สมาชิกกรมการเมืองอาจดำรงตำแหน่งควบคู่กันในคณะกรรมการของพรรคหรือของรัฐบาล หรือในกลไกของคณะกรรมาธิการกลางได้[13]

หลักฐานบ่งชี้ว่ากรมการเมืองทำหน้าที่คล้ายคลึงกับกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตภายใต้การนำของสตาลิน โดยสมาชิกกรมการเมืองทำหน้าที่เป็นเสมือนเจ้าหน้าที่ส่วนตัวของผู้นำพรรคมากกว่าจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย[13] ซึ่งไม่เป็นเช่นนี้เสมอไป ก่อนคิม อิล-ซ็องจะกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามในพรรค กรมการเมืองเคยเป็นองค์กรตัดสินใจที่สามารถอภิปรายความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับนโยบายได้[13] นับตั้งแต่การรวบรวมอำนาจของคิม อิล-ซ็อง กรมการเมืองกลายเป็นเพียงองค์กรตรายาง สมาชิกคนสำคัญหายตัวไปโดยไม่มีคำอธิบาย กรณีล่าสุดคือคิม ดง-กยู ที่หายตัวไปใน ค.ศ. 1977[14] สมาชิกกรมการเมืองภายใต้คิม อิล-ซ็องและคิม จ็อง-อิลขาดฐานอำนาจที่แข็งแกร่งและต้องพึ่งพาผู้นำพรรคสำหรับตำแหน่งของตน[14]

คณะผู้บริหารสูงสุด

[แก้]

คณะผู้บริหารสูงสุดก่อตั้งขึ้นในการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 6 ใน ค.ศ. 1980 และเป็นองค์กรตัดสินใจสูงสุดภายในพรรคแรงงานเกาหลีในยามกรมการเมืองและคณะกรรมาธิการกลางไม่ได้อยู่ในสมัยประชุม[12] เมื่อโอ จิน-อูเสียชีวิตใน ค.ศ. 1995 คิม จ็อง-อิลจึงยังคงเป็นสมาชิกคณะผู้บริหารสูงสุดเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยสมาชิกอีกสี่คน (คิม อิล-ซ็อง, คิม อิล, โอ จิน-อู, และรี จ็อง-อก) เสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง[15] ระหว่างการเสียชีวิตของโอ จิน-อูจนถึงการประชุมพรรคครั้งที่ 3 ไม่มีรายงานใดบ่งชี้ว่าคิม จ็อง-อิลหรือผู้นำพรรคส่วนกลางวางแผนจะเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะผู้บริหารสูงสุด[16] สเตฟาน แฮกการ์ด, ลุก เฮอร์แมน และแจซ็อง รยู ซึ่งเขียนบทความให้แก่ Asian Survey ใน ค.ศ. 2014 โต้แย้งว่าคณะผู้บริหารสูงสุด "ไม่ใช่สถาบันที่ทำหน้าที่ได้อย่างชัดเจน"[17]

สำนักเลขาธิการ

[แก้]

สำนักเลขาธิการ ในรูปแบบปัจจุบันนั้น ก่อตั้งขึ้นในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 อย่างไรก็ตาม ประวัติของสำนักเลขาธิการสามารถย้อนไปได้ถึงการก่อตั้งสำนักเลขาธิการในการประชุมพรรคครั้งที่ 2 ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1966[18] โดยมีบทบาทคล้ายกับสำนักเลขาธิการของสหภาพโซเวียตในสมัยสตาลิน[18] เลขาธิการใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีเป็นหัวหน้าสำนักเลขาธิการ และสมาชิกคนอื่น ๆ มีตำแหน่งเป็น "เลขาธิการคณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี" องค์กรนี้มีหน้าที่รับผิดชอบการกำกับดูแลและนำนโยบายของพรรคไปปฏิบัติรวมถึงกำกับดูแลองค์กรต่าง ๆ ของพรรค[18]

คณะกรรมการการทหารกลาง

[แก้]

คณะกรรมการการทหารกลางถูกจัดตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1962 โดยการมติการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 5 ของคณะกรรมาธิการกลางชุดที่ 4[19] การแก้ไขข้อบังคับพรรคแรงงานเกาหลีใน ค.ศ. 1982 เชื่อกันว่าทำให้คณะกรรมการการทหารกลางมีสถานะเท่าเทียมกับคณะกรรมาธิการกลาง ทำให้สามารถ (เหนือสิ่งอื่นใด) เลือกผู้นำพรรคแรงงานเกาหลีได้[20] อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์บางคนเชื่อว่าในการประชุมครั้งที่ 3 คณะกรรมการการทหารกลางกลับมาอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของคณะกรรมาธิการกลางอีกครั้ง[21] ตามมาตรา 27 ของข้อบังคับพรรคแรงงานเกาหลี คณะกรรมการการทหารกลางเป็นองค์กรพรรคสูงสุดในกิจการทางทหารและเป็นผู้นำกองทัพประชาชนเกาหลี มีหน้าที่รับผิดชอบการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์และนโยบายการจัดหาของกองทัพ[19] เลขาธิการใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีเป็นประธานคณะกรรมการการทหารกลางโดยตำแหน่ง[22][แหล่งอ้างอิงอาจไม่น่าเชื่อถือ]

คณะกรรมการควบคุม

[แก้]

คณะกรรมการควบคุม เดิมชื่อคณะกรรมการตรวจสอบ ได้รับเลือกตั้งโดยการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 1 ของคณะกรรมาธิการกลางหลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่พรรค[23][แหล่งอ้างอิงอาจไม่น่าเชื่อถือ] มีหน้าที่กำกับดูแลการเป็นสมาชิกพรรคและแก้ไขปัญหาทางวินัยที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกพรรค เรื่องที่สอบสวนมีตั้งแต่การทุจริตไปจนถึงกิจกรรมต่อต้านพรรคและการปฏิวัติ โดยทั่วไปแล้วจะครอบคลุมการละเมิดกฎของพรรคทั้งหมด[23] องค์กรพรรคระดับล่าง (เช่น ระดับจังหวัดหรือเทศมณฑล) และสมาชิกแต่ละคนสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการนี้ได้โดยตรง[23] คณะกรรมการควบคุมถูกยุบไปในวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2021 และหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ได้ถูกโอนไปยังคณะกรรมการตรวจสอบกลางแทน[24]

ความรับผิดชอบด้านการบริหาร

[แก้]

กรม

[แก้]

แม้ในสมัยการปกครองของคิม จ็อง-อิล กลไกของคณะกรรมาธิการกลางจะได้รับการปรับโครงสร้างหลายครั้ง แต่บางกรม (ส่วนใหญ่เป็นกรมที่รับผิดชอบกิจการภายในและงานองค์กรของพรรค ได้แก่ กรมองค์การและชี้นำ กรมโฆษณาชวนเชื่อและการปลุกปั่น และกรมแกนนำ) ยังคงไม่ถูกแตะต้องมากนัก[25][26] ตรงกันข้าม กรมที่รับผิดชอบการกำกับดูแลเศรษฐกิจหรือกิจการเกาหลีใต้ (เช่น กรมธุรการ ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ใน ค.ศ. 2006 หลังเคยเป็นส่วนหนึ่งของกรมองค์การและชี้นำตั้งแต่ทศวรรษ 1990) มักได้รับการปรับปรุงบ่อยครั้ง[27] แม้กรมแนวร่วมจะประสบกับความผันผวนในสมัยการปกครองของคิม จ็อง-อิล แต่ใน ค.ศ. 2006–2007 กรมนี้กลับกลายเป็นศูนย์กลางของการกวาดล้าง[27]

กรมการวางแผนเศรษฐกิจและกรมนโยบายเกษตรถูกยุบเลิกใน ค.ศ. 2002–2003 เพื่อเสริมสร้างการควบคุมเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีให้แข็งแกร่งขึ้น[27] มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมใน ค.ศ. 2009 โดยมีการจัดตั้งกรมนโยบายอุตสาหกรรมภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเบาขึ้น สำนักงาน 38 ถูกรวมเข้ากับสำนักงาน 39 (และต่อมาถูกจัดตั้งขึ้นใหม่) กรมประสานงานภายนอกถูกย้ายจากการควบคุมของพรรคแรงงานเกาหลีไปอยู่ภายใต้คณะรัฐมนตรี ขณะที่สำนักงาน 35 (หรือที่รู้จักในชื่อกรมสอบสวนและข่าวกรองภายนอก) และกรมปฏิบัติการถูกย้ายจากการควบคุมของพรรคแรงงานเกาหลีไปยังสำนักข่าวกรองทั่วไป[27]

ใน ค.ศ. 2010 เกาหลีเหนือเปลี่ยนชื่อกรมอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์เป็น "กรมอุตสาหกรรมจักรกล" เพื่อเลี่ยงการคว่ำบาตรที่มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อเดิมใน ค.ศ. 2017[28]

เมื่อถึงการประชุมครั้งที่ 3 เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้สังเกตการณ์ต่างชาติว่าหัวหน้ากรมบางคน (เช่น ช็อง พย็อง-โฮ, คิม กุก-แท และอี ฮา-อิล) ได้เกษียณอายุไปแล้ว[27]

มีการจัดตั้งกรมกิจการกฎหมายขึ้นใหม่ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020 และการประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2021 เปิดเผยให้เห็นถึงการมีอยู่ของสำนักงานนโยบายเศรษฐกิจ[29] ในระหว่างการประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 มีการจัดตั้งกรมสอบวินัยขึ้นด้วย

กรมและสำนักงาน
กรมหรือสำนักงาน ผู้อำนวยการ อ้างอิง
กรมองค์การและชี้นำ คิม แจ-รยง [30]
กรมประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ รี อิล-ฮวัน [30]
กรมแกนนำ โฮ ช็อล-มัน [30]
กรมอุตสาหกรรมเบา[หมายเหตุ 1] พัก มย็อง-ชุน [31]
กรมกิจการเศรษฐกิจ โอ ซู-ย็อง [32]
กรมวิทยาศาสตร์และการศึกษา ชเว ซ็อง-แท็ก [30]
กรมต่างประเทศ คิม ซ็อง-นัม [30]
กรมชี้นำการทหาร-การเมือง โอ อิล-จ็อง [30]
กรมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ[หมายเหตุ 2] ยู จิน[34] [30]
กรมองค์การแรงงาน รี อิล-ฮวัน [30]
กรมการเกษตร รี ช็อล-มัน [30]
สถาบันประวัติศาสตร์พรรค [30]
กรมเอกสารและจดหมายเหตุ [30]
กรมป้องกันพลเรือน [30]
สำนักงานอุทธรณ์ [30]
กรมการเงินและบัญชี [30]
กรมกิจการทั่วไป [30]
กรมแนวร่วม คิม ย็อง-ช็อล [30]
กรมสอบวินัย พัก แท-ดก [30]
กรมกิจการกฎหมาย คิม ฮย็อง-ชิก [35]
สำนักงาน 39 ชิน รย็อง-มัน [30]
สำนักงานนโยบายเศรษฐกิจ ช็อน ฮย็อน-ช็อล [30]

โรดงชินมุน

[แก้]

โรดงชินมุน เป็นกระบอกเสียงของคณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลีและทำหน้าที่เป็นปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรค[36] หน้าที่ของหนังสือพิมพ์นี้คือ "บรรลุการเปลี่ยนแปลงปฏิวัติของสังคมและประชาชนตามที่อุดมการณ์ปฏิวัติและแนวคิดชูเชของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ต้องการ เพื่อรวมพรรคและประชาชนทั้งหมดไว้รอบตัวคิม จ็อง-อิลอย่างแน่นแฟ้น และต่อสู้เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพทางการเมืองและอุดมการณ์ของพรรค"[36] บรรณาธิการบริหารของหนังสือพิมพ์ได้รับแต่งตั้งโดยคณะกรรมาธิการกลางในการประชุมเต็มคณะ[37]

ดูเพิ่ม

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. North Korea uses the English translation 'Information and Publicity Department'
  2. Also known as the Machine Industry Department or the Munitions Industry Department[33]

อ้างอิง

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 Suh 1988, p. 350.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 Lankov 2007, p. 66.
  3. Gause 2013, p. 20.
  4. Gause 2013, pp. 24–25.
  5. Gause 2013, p. 27.
  6. "WPK Conference Held". NK News. 28 September 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 March 2014. สืบค้นเมื่อ 12 March 2014.
  7. 4th Conference of Representatives of the Workers' Party of Korea 2010, p. 9.
  8. 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 "The Central Committee". North Korean Leadership Watch. สืบค้นเมื่อ 13 October 2017.
  9. Staff writer 2014, p. 64.
  10. 10.0 10.1 "2nd Plenary Session of the 7th WPK Central Committee Held". North Korean Leadership Watch. สืบค้นเมื่อ 13 October 2017.
  11. Buzo 1999, p. 30.
  12. 12.0 12.1 Kim 1982, p. 140.
  13. 13.0 13.1 13.2 13.3 13.4 13.5 Buzo 1999, p. 31.
  14. 14.0 14.1 Buzo 1999, p. 32.
  15. Kim 2000, p. 257.
  16. Kim 2000, pp. 257–258.
  17. Haggard, Herman & Ryu 2014, p. 779.
  18. 18.0 18.1 18.2 Buzo 1999, p. 34.
  19. 19.0 19.1 Gause 2011, pp. 226–227.
  20. Gause 2013, p. 43.
  21. Gause 2013, p. 44.
  22. "4th Party Conference To Convene in "mid-April"". North Korea Leadership Watch. 2 February 2012. สืบค้นเมื่อ 12 March 2013.
  23. 23.0 23.1 23.2 "Central Control Commission". North Korea Leadership Watch. 21 August 2010. สืบค้นเมื่อ 12 March 2014.
  24. "Newstream".
  25. Gause 2013, p. 35.
  26. Gause 2013, p. 36.
  27. 27.0 27.1 27.2 27.3 27.4 Gause 2013, p. 37.
  28. "COUNCIL IMPLEMENTING REGULATION (EU) 2022/658 of 21 April 2022".
  29. Weiser, Martin (8 January 2021). "Mystery man: Kim Hyong Sik's rise to head of the DPRK's new judicial department". NK Pro. สืบค้นเมื่อ 31 March 2021.
  30. 30.00 30.01 30.02 30.03 30.04 30.05 30.06 30.07 30.08 30.09 30.10 30.11 30.12 30.13 30.14 30.15 30.16 30.17 30.18 Weiser, Martin (12 January 2021). "Full recap: North Korea reshuffles key leadership roles at Eighth Party Congress". NK Pro. สืบค้นเมื่อ 31 March 2021.
  31. Weiser, Martin (12 January 2021). "Full recap: North Korea reshuffles key leadership roles at Eighth Party Congress". NK Pro. สืบค้นเมื่อ 31 March 2021.
  32. Koh, Byung-joon (12 February 2021). "N. Korean Foreign Minister Ri named politburo member". Yonhap News Agency. สืบค้นเมื่อ 31 March 2021.
  33. "Thae Jong Su (T'ae Cho'ng-su)". North Korea Leadership Watch. 24 February 2018. สืบค้นเมื่อ 23 January 2019.
  34. Colin Zwirko (2021-09-06). "North Korea reveals new top military brass days after politburo meeting". NK News. สืบค้นเมื่อ 2023-06-27.
  35. Weiser, Martin (31 March 2021). "Mystery man: Kim Hyong Sik's rise to head of the DPRK's new judicial department". NK Pro. สืบค้นเมื่อ 19 October 2017.
  36. 36.0 36.1 Staff writer 2014, p. 337.
  37. Madden, Michael (8 October 2017). "2nd Plenary Session of the 7th WPK Central Committee Held". North Korea Leadership Watch. สืบค้นเมื่อ 19 October 2017.

บรรณานุกรม

[แก้]
บันทึกวารสาร
หนังสือ

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
  • โรดงชินมุน - หนังสือพิมพ์อย่างเป็นทางการของคณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลี

39°0′57″N 125°44′26″E / 39.01583°N 125.74056°E / 39.01583; 125.74056