ข้ามไปเนื้อหา

ข้าราชการพลเรือนกลาโหม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ข้าราชการพลเรือนกลาโหม คือข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการในกระทรวงกลาโหม

ประวัติ

[แก้]

ข้าราชการพลเรือนกลาโหมเริ่มมีการกำหนดรูปแบบขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เมื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เห็นชอบ ร่างพระราชกฤษฎีการะเบียบข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่ง การบรรจุ การแต่งตั้ง การปรับตำแหน่ง การเลื่อนขั้นเงินเดือน การบังคับบัญชา วินัย การออกจากราชการ ซึ่งรวมทุกด้านเกี่ยวกับข้าราชการพลเรือนกลาโหม สอดคล้องกับการปฏิรูปกองทัพในการลดยศและตำแหน่งของทหาร[1] จากนั้นในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ทางสภากลาโหมก็ได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เช่นเดียวกันเพื่อรองรับพระราชบัญญัติระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 รวมถึงเปิดโอกาสให้พลเรือนสามารถเข้ารับราชการในกระทรวงกลาโหมได้[2]

โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566 และให้มีผลในวันถัดมาคือในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566 ขณะเดียวกันได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหมเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี[3] แต่ในที่สุดร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ซึ่งเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้วก็เป็นอันตกไป เนื่องจากมีการยุบสภาเสียก่อน

ต่อมาในการประชุมสภากลาโหมเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตำแหน่งข้าราชการพลเรือนกลาโหมเริ่มต้นบรรจุที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมกันนี้ยังมีมติเห็นชอบให้เพิ่มข้าราชการพลเรือนกลาโหมในสายแพทย์และพยาบาล[4] กระทั่งวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นได้เป็นประธานในพิธีรับรายงานตัวข้าราชการพลเรือนกลาโหมกลุ่มแรกที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการจำนวน 8 คนซึ่งสุทินได้กล่าวว่าในอนาคตจะมีการบรรจุข้าราชการพลเรือนเพิ่มเติม หรือโอนข้าราชการทหารมาเป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม โดยข้าราชการพลเรือนกลาโหมมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตราชการไปถึงระดับปลัดกระทรวงกลาโหม และหวังว่าในอนาคตสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมจะมีแต่ข้าราชการพลเรือนทั้งหมด[5]

คุณสมบัติ

[แก้]

ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ดังนี้

  • มีสัญชาติไทยโดยการเกิดตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ
  • มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีนับถึงวันบรรจุเข้ารับราชการ
  • เป็นผู้ที่เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ

และไม่มีลักษณะต้องห้ามลักษณะต้องห้ามตามพระราชกฤษฎีการะเบียบข้าราชการพลเรือนกลาโหม

ประเภท

[แก้]

ข้าราชการพลเรือนกลาโหม แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

  • (๑) ตำแหน่งประเภทบริหาร แบ่งเป็น 2 ระดับได้แก่
    • (ก) ระดับต้น
    • (ข) ระดับสูง
  • (๒) ตำแหน่งประเภทอำนวยการ แบ่งเป็น 2 ระดับได้แก่
    • (ก) ระดับต้น
    • (ข) ระดับสูง
  • (๓) ตำแหน่งประเภทวิชาการ แบ่งเป็น 5 ระดับได้แก่
    • (ก) ระดับปฏิบัติการ
    • (ข) ระดับชำนาญการ
    • (ค) ระดับชำนาญการพิเศษ
    • (ง) ระดับเชี่ยวชาญ
    • (จ) ระดับทรงคุณวุฒิ
  • (๔) ตำแหน่งประเภทการสอนหรือวิจัย แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
    • (ก) ประเภทคณาจารย์ ได้แก่ ตำแหน่งที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการสอนหรือวิจัยในสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงกลาโหมที่ให้การศึกษาหรือจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญา แบ่งเป็น 4 ระดับได้แก่
      • ๑) อาจารย์
      • ๒) ผู้ช่วยศาสตราจารย์
      • ๓) รองศาสตราจารย์
      • ๔) ศาสตราจารย์
    • (ข) ประเภทครู ได้แก่ ตำแหน่งที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการสอนในสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงกลาโหม แบ่งเป็น 5 ระดับได้แก่
      • ๑) ครู
      • ๒) ครูชำนาญการ
      • ๓) ครูชำนาญการพิเศษ
      • ๔) ครูเชี่ยวชาญ
      • ๕) ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
  • (๕) ตำแหน่งประเภททั่วไป มี 4 ระดับได้แก่
    • (ก) ระดับปฏิบัติงาน
    • (ข) ระดับชำนาญงาน
    • (ค) ระดับอาวุโส
    • (ง) ระดับทักษะพิเศษ

พระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม

[แก้]

ในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2568 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดอัตราเงินเดือน อัตราเงินประจำตำแหน่ง การให้ได้รับเงินเดือน และการให้ได้รับเงินเดือนประจำตำแหน่ง ของข้าราชการประจำกระทรวงกลาโหมใน แต่ละประเภท ได้แก่ ประเภทบริหาร ประเภทอำนวยการ ประเภทสอนหรือวิจัย และประเภททั่วไป[6]

ชั้นสภาผู้แทนราษฎร

[แก้]

ต่อมาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาทั้งหมด 31 คน ก่อนจะมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว และส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป

ชั้นวุฒิสภา

[แก้]

ในการประชุมวุฒิสภาที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วพร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 21 คน ก่อนจะมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว และส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธยเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ 2568 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. 2568

อ้างอิง

[แก้]
  1. "ครม.รับทราบ พ.ร.ฎ.ระเบียบ ขรก.พลเรือนกลาโหม ปฏิรูปกองทัพ ลดยศ-ตำแหน่ง". ไทยรัฐ. 9 มิถุนายน 2020. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2024.
  2. ""กลาโหม" ไฟเขียวรับพลเรือน บรรจุ ขรก.กห. ยศไหลลื่น เครื่องแบบกากี". ไทยรัฐ. 23 มิถุนายน 2020. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2024.
  3. "เปิดอัตราเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ข้าราชการกลาโหม อัตราใหม่". ประชาชาติธุรกิจ. 3 กุมภาพันธ์ 2023. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2024.
  4. ""สภากลาโหม" ไฟเขียว ขรก.พลเรือนบรรจุแพทย์-พยาบาลเพิ่ม". ไทยพีบีเอส. 15 มกราคม 2024. สืบค้นเมื่อ 28 กันยายน 2024.
  5. "'สุทิน' ปักหมุด สำนักงานปลัดกลาโหม เป็นขรก.พลเรือนทั้งหมด เติบโตได้ถึง ปลัดกลาโหม". ไทยโพสต์. 11 มิถุนายน 2024. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2024.
  6. "ครม.ไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.เงินเดือน รับขรก.พลเรือนกลาโหม ภูมิธรรม แจงไม่ใช่ขึ้นเงินทหาร". มติชน. 21 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2025.