การ์ดไฟท์!! แวนการ์ด
การ์ดไฟท์!!! แวนการ์ด (ญี่ปุ่น: カードファイト!! ヴァンガード; โรมาจิ: Kādofaito!! Vangādo; ทับศัพท์: CARDFIGHT!! Vanguard) เป็นเทรดดิ้งการ์ดเกมที่ผลิตโดยบุชิโรด
ประวัติ
[แก้]การ์ดไฟท์!! แวนการ์ด เป็นการ์ดเกมที่ร่วมมือกันระหว่างบุชิโรดและนักเขียนการ์ตูนแนวการ์ดเกมชื่อดัง อากิระ อิโตะ และ ซาโตชิ นาคามุระ โดยมีแนวคิดสร้างจินตนาการตัวละครจากการ์ดเกม และได้ประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น และขยายการผลิตและจำหน่ายในต่างประเทศ และมีการจัดงานแข่งอย่างเป็นทางการทั่วโลก และมีสื่อภาพยนตร์อนิเมะ, มังงะและเกม
วิธีการเล่น
[แก้]ผู้เล่นแข่งได้ 2 คนโดยเล่นเพียง 1 ต่อ 1 สร้างเด็คของคุณให้มีจำนวน 50 (รวมการ์ดผู้เริ่มต้น)
ใบแล้วนำไปต่อสู้!
ก่อนการต่อสู้ ให้เลือกการ์ดเกรด 0 จากกองการ์ดมา 1 ใบแล้ววางคว่ำลงบนแวนการ์ดเซอร์เคิลของเรา การ์ดใบนี้จะถูกเรียกว่า เฟิร์สแวนการ์ด (FV) หลังจากนั้นสับกองการ์ดของกันและกัน จั่วการ์ดขึ้นมา 5 ใบ หงายการ์ดที่คว่ำอยู่บนแวนการ์ดเซอร์เคิลพร้อมกับพูดว่า "สแตนด์ อัป แวนการ์ด" และการต่อสู้ก็จะเริ่มต้นขึ้น ยูนิทที่อยู่บนแวนการ์ดเซอร์เคิลจะถูกเรียกว่า แวนการ์ด (ผู้นำ) ดังนั้นแวนการ์ดจึงเป็นตัวละครหลักของเกมและถือว่าเป็นตัวแทนของผู้เล่น (ภาพที่ผู้เล่นจะจินตนาการว่าเป็นแวนการ์ด)
ในการต่อสู้เราจะต้องโจมตีแวนการ์ดของกันและกัน และจะต้องไรด์แวนการ์ดเป็นระดับที่สูงขึ้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฝ่ายเรา ซึ่งรวมถึงการคอลการ์ดเพื่อมาเป็นเรียร์การ์ด และการใช้ความสามารถต่าง ๆ ของการ์ด หากเราทำการโจมตีสำเร็จ การ์ดของคู่แข่งจะถูกนำไปวางบนดาเมจโซนของคู่แข่ง และการแพ้ชนะจะมาจากการที่ฝ่ายที่มีการ์ดบนดาเมจโซนครบ 6 ใบ ฝ่ายนั้นจะถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ หรือถ้าหากว่าการ์ดในกองการ์ดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดไปหรือมีจำนวน 0 ใบฝ่ายนั้นจะแพ้ทันที
คำศัพท์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- ยูนิท
- คือตัวละครในการ์ดที่ถูกใช้ในเกมหรือในสนาม ในอดีตการ์ดทั้งหมดจะเป็นยูนิท และไม่มีการ์ดเวทมนตร์ แต่เมื่อปี 2020 ได้มีการเพิ่มประเภทการ์ดใหม่ นั่นคือการ์ด ออร์เดอร์
- เกรด
- ระดับของการ์ดที่มีระบุในการ์ดแต่ละใบ
- สนาม
- ตำแหน่งที่ควรวางการ์ด โดยจะประกอบด้วย 7 เซอร์เคิลและหลายอีกโซน
- แวนการ์ดเซอร์เคิล (V)
- อยู่แถวหน้าตรงกลาง วางการ์ดบนเซอร์เคิลนี้เพื่อเป็นตัวแทนของผู้เล่น
- เรียร์การ์ดเซอร์เคิล (R)
- แถวหน้าด้านซ้ายและขวา และแถวหลังด้านซ้ายและขวา ส่วนแถวหลังตรงกลาง (ด้านหลังแวนการ์ด) จะเป็นเรียร์การ์ดที่คอยสนับสนุนแวนการ์ด
- การ์เดี้ยนเซอร์เคิล (G)
- อยู่แถวหน้า (ด้านหน้าแวนการ์ด) ใช้วางการ์ดที่จะใช้ในการป้องกันการโจมตีของคู่แข่ง
- กองการ์ด
- กองการ์ดของคุณเอง (50 ใบและใส่การ์ดที่ชื่อเหมือนกันได้ไม่เกิน 4 ใบ) แม้ว่าการ์ดในดาเมจโซนของคุณมีไม่ถึง 6 ใบ แต่คุณก็จะแพ้หากการ์ดในกองการ์ดคุณหมด
- มือ
- การ์ดที่คุณถืออยู่ในมือและพร้อมที่จะใช้งาน เมื่อคุณจั่วการ์ด 5 ใบเป็นครั้งแรก คุณสามารถเปลี่ยนการ์ดบนมือกี่ใบก็ได้ แต่ทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยจะต้องนำการ์ดที่จะเปลี่ยนกลับเข้าไปสับกับกองการ์ด แต่ด้วยการแก้ไขกฎในปี 2018 จะต้องนำการ์ดที่จะเปลี่ยนไปวางใต้กองการ์ดของคุณแล้วจึงจั่วการ์ดขึ้นมาใหม่ตามจำนวนการ์ดที่เปลี่ยน จากนั้นทำการสับกองการ์ด
- ทริกเกอร์โซน
- ที่สำหรับแสดงการ์ดจากบนสุดกองการ์ดเมื่อแวนการ์ดทำการโจมตีหรือได้รับดาเมจ และเช็คว่ามีทริกเกอร์หรือไม่
- ดาเมจโซน
- เมื่อแวนการ์ดได้รับดาเมจ นำการ์ดมาวางหลังจากเช็คทริกเกอร์
- ดรอปโซน
- การ์ดที่ถูกทิ้งจากมือหรือโซลของคุณ และยูนิตที่ถูกรีไทร์ออกจากสนามจะถูกมาวางที่ดรอปโซน
- ไบนด์โซน
- วางการ์ดที่ถูก ไบนด์ ซึ่งจะไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราว การวางการ์ดหงายหน้าหรือคว่ำหน้าจะถูกระบุเอาไว้ และหากไม่ระบุ โดยพื้นฐานแล้วจะให้วางหงายหน้าขึ้น
- G (เจเนอเรชัน) โซน
- วางการ์ด G ยูนิทแยกจากกองการ์ด ในช่วงที่ G ยูนิทปรากฏตัวครั้งแรก มันถูกจำกัดไว้ให้ใส่ได้แค่ 8 ใบ แต่ในปัจจุบันสามารถใส่ได้ 16 ใบ
- ไรด์
- วางซ้อนยูนิทใบใหม่ของคุณลงบนแวนการ์ดเซอร์เคิล คุณสามารถไรด์บนยูนิทที่มีเกรดต่ำกว่าหรือเท่ากันกับการ์ดที่คุณจะไรด์
- ครอสไรด์
- การไรด์การ์ดเกรด 3 โดยที่การ์ดบนแวนการ์ดเซอร์เคิลหรือโซลมีความสามารถระบุไว้เป็นเงื่อนไข เช่น การไรด์ทับยูนิทที่มีชื่อเหมือนกันและมีความสามารถ ที่หากมีการ์ดที่มีชื่อที่กำหนดอยู่ในโซลแวนการ์ดจะได้พาวเวอร์เพิ่มขึ้น
- คอล
- วาง (คอล) ยูนิทที่มีเกรดต่ำกว่าหรือเท่ากับเกรดของแวนการ์ดคุณจากบนมือของคุณไปยังเซอร์เคิลอื่นนอกเหนือจากแวนการ์ดของคุณ คุณสามารถคอลการ์เดี้ยนเมื่อถูกโจมตีได้
- ซูพีเรียร์ไรด์/ซูพีเรียร์คอล
- ไรด์/คอล ด้วยความสามารถของการ์ด โดยไม่สนใจเงื่อนไขในการไรด์/คอลปกติ
- พิทักษ์
- การ์ดป้องกันแบบพิเศษโดยการทำตามเงื่อนไขแล้วคอลลงการ์เดี้ยนเซอร์เคิล คุณสามารถใส่ได้การ์ดที่มีความสามารถ พิทักษ์ ได้ไม่เกิน 4 ใบในกองการ์ด เริ่มแรกรู้จักทั่วไปในว่าเป็น "เพอร์เฟ็คการ์ด" แต่ชื่ออย่างทางการนี้มาจากชุดการ์ด BT09 竜騎激突 นอกจากนี้ ก็มีรูปร่างของชิลด์ของการ์เดี้ยนในหลาย ๆ รูปแบบปรากฏออกมาตาม ๆ กัน ก่อนที่ชื่ออย่างทางการจะออกมา ยังไม่มีการจำกัดจำนวนการ์ดพิทักษ์ที่ใส่ได้ไม่เกิน 4 ใบ ในปี 2018 ทริกเกอร์ที่ผสมกับความสามารถพิทักษ์ได้ถือกำเนิดขึ้น
- เฟอร์เฟ็คการ์ด
- การ์ดที่มีชิลด์ 0 หน่วย แต่คุณสามารถใช้เพื่อทำให้การโจมตีของคู่แข่งไร้ผลได้ด้วยการทิ้งการ์ดจากบนมือ 1 ใบ แต่ต่อมาไม่มีการกำหนดว่าจะต้องทิ้งการ์ดแคลนเดียวกัน
- ควินเท็ตวอลล์
- การ์ดที่มีชิลด์ 0 หน่วย ต้องจ่ายค่าคอสต์ด้วยการ เคาน์เตอร์บลาสต์ 1 ใบ จากนั้นแสดงการ์ดใบบนสุดกองการ์ดจำนวน 5 ใบและคอลลงไปบนการ์เดี้ยนเซอร์เคิล แต่ต่อมาไม่มีการกำหนดว่าจะต้องคอลการ์ดแคลนเดียวกัน
- ชิลด์ 30000
- ทริกเกอร์ที่มีชิลด์ 30000 ซึ่งถูกสร้างหลังจากชุดการ์ด The Next stage V-BT14 วางจำหน่ายในปี 2020 แม้ว่าจะมีความสามารถพิทักษ์ แต่ก็มีชิลด์จาก 15000 กลายเป็น 30000 และสามารถป้องกันได้โดยไม่มีค่าคอสต์ใด ๆ
กองการ์ด (Deck)
[แก้]คือ จำนวนการ์ดทั้งหมดที่เราได้จัดเตรียมเอาไว้ สามารถปรับแต่งได้โดยอิสระ แต่ต้องทำตามกฎดังนี้
1.เด็คต้องมีการ์ด 50 ใบพอดี ห้ามขาด ห้ามเกิน
2.ต้องมีทริกเกอร์ 16 ใบพอดี ห้ามขาด ห้ามเกิน
3.ฮีลทริกเกอร์ และ พิทักษ์ ไม่สามารถใส่เกิน 4 ใบได้
4.ใส่การ์ดที่ชื่อเหมือนกันได้ไม่เกิน 4 ใบ
จำนวนการ์ดที่ควรใส่โดยเฉลี่ย เกรด 3 จำนวน 8 ใบ เกรด 2 จำนวน 11 ใบ เกรด 1 จำนวน 14 ใบ เกรด 0 จำนวน 17 ใบ (รวมทริกเกอร์และตัวเริ่ม)
ทริกเกอร์
[แก้]คือความสามารถพิเศษที่อยู่ในทริกเกอร์ยูนิท โดยจะแสดงผลเมื่อทำการไดรฟ์เช็คหรือดาเมจเช็คลงบนทริกเกอร์โซน มี 5 ประเภทดังนี้
- 1.ดรอว์ทริกเกอร์ (Draw Trigger)
- คือ เลือกยูนิทบนสนาม 1 ใบและยูนิทนั้นจะได้รับพาวเวอร์เพิ่มขึ้น +5000 จนจบเทิร์นนั้น และ จั่วการ์ด 1 ใบ
- 2.คริติคอลทริกเกอร์ (Critical Trigger)
- คือ เลือกยูนิทบนสนาม 1 ใบและยูนิทนั้นจะได้รับพาวเวอร์เพิ่มขึ้น +5000 จนจบเทิร์นนั้น และ เลือกยูนิท 1 ใบยูนิทนั้นจะได้รับคริติคอล +1 จนจบเทิร์น
- 3.สแตนด์ทริกเกอร์ (Stand Trigger)
- คือ เลือกยูนิทบนสนาม 1 ใบและยูนิทนั้นจะได้รับพาวเวอร์เพิ่มขึ้น +5000 จนจบเทิร์นนั้น และ เลือกสแตนด์ยูนิท 1 ใบ (ทริกเกอร์นี้ไม่มีในฟอร์แมท V)
- 4.ฮีลทริกเกอร์ (Heal Trigger)
- คือ เลือกยูนิทบนสนามเรา 1 ใบและยูนิทนั้นจะได้รับพาวเวอร์เพิ่มขึ้น +5000 จนจบเทิร์นนั้น และถ้าในดาเมจโซนเรามีการ์ดมากกว่าหรือเท่ากับคู่แข่ง สามารถฮีลการ์ดจากดาเมจโซนไปยังดรอปโซนได้ 1 ใบ
- 5.ฟรอนท์ทริกเกอร์ (Front Trigger)
- คือ ยูนิทแถวหน้าทั้งหมดจะได้รับพาวเวอร์เพิ่มขึ้น +10000 จนจบเทิร์นนั้น (ทริกเกอร์นี้มีเฉพาะในฟอร์เมท V)
ปล.ทริกเกอร์ในฟอร์แมท V ทุกใบจะเพิ่มพาวเวอร์ให้ยูนิทที่เลือก +10000 แทนการ +5000
คีย์เวิร์ด
[แก้]คีย์เวิร์ดจะมีชื่อที่แตกต่างกันไป
1.Generation Break (GB) เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดหงายหน้าบน G โซน หรือช่องแวนการ์ด ตามจำนวนเลขที่กำหนด
2.Limite Break (LB4) เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดในดาเมจโซน 4 ใบหรือมากกว่า
3.Utimate Break (LB5) เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดในดาเมจโซน 5 ใบ หรือมากกว่า
4.เบรฟ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดบนมือ 3 ใบ หรือน้อยกว่า
5.ริชวล เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดเกรด 1 ในดรอปโซน ตามจำนวนที่กำหนด
6.ยูไนท์ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อคุณคอลการ์ดลงช่อง เรียร์การ์ดหรือ การ์เดี้ยน 2 ใบหรือมากกว่า
7.เรสคิว เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อครบเงื่อนไขของสกิล โดยฮีลดาเมจและสร้างดาเมจให้ตัวเองตามจำนวนที่กำหนด
8.พยากรณ์ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดบนมือ 5 ใบหรือมากกว่า
9.เบลซ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อเริ่มทุกช่วงของการโจมตีและคุณมีเรียร์การ์ดมากกว่าคู่แข่ง
10.อัสนีคลั่ง เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดในไบนด์โซนคู่แข่งเท่ากับหรือมากกว่าจำนวนที่กำหนด
11.ตรึงเงา เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อเราโจมตีไม่ฮิท
12.ภาพติดตา เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อคู่แข่งนำการ์ดที่ถูกไบนด์ขึ้นมือตัวเอง และถ้าจำนวนการ์ดในมือมี 6 ใบหรือน้อยกว่า สามารถนำการ์ดที่มีความสามารถนี้กลับขึ้นมือได้
13.บงการ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อครบเงื่อนไข โดยจะสามารถความคุมยูนิทที่กำหนดของศัตรูได้
14.เวฟ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อคูณโจมตีในรอบที่กำหนด
15.ฮอลโลว์ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อจบเทิร์น โดยจะรีไทร์ยูนิทที่คุณสั่งให้ติดสกิลนี้ออกไป
16.ฮาร์โมนี่ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อคุณคอลการ์ดที่มีสกิลฮาร์โมนี่ลงแถวแนวตั้งเดียวกันกับยูนิทที่มีความสามารถฮาร์โมนี่และจะติดฮาร์โมนี่จนจบเทิร์นทั้ง 2 ใบ
17.กลยุทธ์ทมิฬ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อในแถวแนวตั้งเดียวกับคุณไม่มียูนิทคู่แข่งสแตนด์อยู่
18.ซัคเซส เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมียูนิทในช่อง "เรียการ์ด" มีพาวเวอร์ถึงที่กำหนด
19.ดาร์กเนส เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดเข้าโซลคุณในเทิร์นนั้น
20.ไทม์ลีฟ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อครบเงื่อนไข โดยทำการไบนด์เรียการ์ด 1 ใบ แล้วเลือกการ์ดที่มีเกรด +1 ของการ์ดนั้นลงช่องเรียร์การ์ด (ไม่สามารถไบนด์เกรด 3 คอลเกรด 3 ได้)
21.ชาร์จ เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อคูณจบการโจมตี ให้คุณนำการ์ดนั้นไปวางใต้กองการ์ด
22.มาเกีย เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อจบเทิร์น ให้คุณนำยูนิทที่คุณเรียกมาด้วยความสามารถมาเกียกลับเข้าโซล
23.รัช เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อยูนิทของคุณสแตนด์ขึ้นมา
24.ล็อก เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อครบเงื่อนไข โดยเลือกล็อกเรียการ์ด 1 ใบการ์ดนั้นจะไม่สามารถทำอะไรได้จนจบเทิร์นเจ้าของ
25.เบิร์ส เป็นความสามารถที่จะทำงานเมื่อครบเงื่อนไขโดยจะเพิ่มพาวเวอร์ให้ยูนิทในช่อง "แวนการ์ด" ตามที่กำหนด
ข้อมูลการ์ด
[แก้]- ยูนิต
- เกรด
- แรร์ริตี
- สตาร์ทสเตป
- พาวเวอร์
- ชิลด์
- คริติคอล
- สกิลไอคอน
-
- บูสท์
- อินเตอร์เซปต์
- ทวินไดรฟ์
- ทริปเปิลไดรฟ์
- แคลน
-
- รอยัล พาลาดิน (Royal Paladin)
- คาเงโร่ (Kagero)
- โอราเคิล ทิงค์ แทงค์ (Oracle Think Tank)
- โนว่า แกรปเปอร์(Nova Grappler)
- ดาร์ค อิเรกูลาร์ส (Dark Irregulars)
- สไปค์บราเธอร์ส (Spike Brother)
- เมก้าโคโลนี่ (Megacolony)
- ทาจิคาเสะ (Tachikaze)
- นูบาทามะ (Nubatama)
- แกรนบลู (Grand blue)
- เบอร์มิวด้า △ (ไทรแองเกิล) (Bermuda Triangle)
- เกรท เนเจอร์ (Great Nature)
- เพลมูน (Pale Moon)
- ไดเมนชั่น โพลิส (Dimension Police)
- ชาโดว์ พาราดิน(Shadow Paladin)
- มุราคุโมะ (Murakumo)
- เนโอ เนคต้า (Neo Nectar)
- โกลด์ พาลาดิน (Gold Paladin)
- นารุคามิ (Narukami)
- แองเจิล ฟีทเธอร์ (Angel Feather)
- อควาฟอร์ซ (Aqua Force)
- เจเนซิส(Genesis)
- ลิงก์ โจ๊กเกอร์ (Link Joker)
- เกียร์ โครนิเคิล (Gear Chronicle)
- เครย์ เอเลเมนทัล (Cray Elemental)
- เอทราเจอร์ (Etranger)
- เดอะแมสก์คอลเลคชั่น (The Mask Collection)
- เขตประเทศ/เนชั่น
-
- เคเทอร์แซงค์ทัวรี่ (Kater Sanctuary)
- ดราก้อนเอมไพร์ (Dragon Empire)
- บรันท์เกท (Brandt Gate)
- ดาร์คสเตทส์ (Dark States)
- สโตยเคีย(Stoicheia)
- ไลลิคัล โมนาสเตริโอ (Lyrical Monasterio)
เฟสการเล่น
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- ในการเล่นการ์ดไฟท์!! แวนการ์ดจากจะมีลำดับการเล่นแบ่งได้เป็น 6 สเต็ปไล่ไปดังต่อไปนี้
- สแตนด์เฟส
- ทำการสแตนด์ยูนิทที่เรสอยู่ทั้งหมด
- ดรอว์เฟส
- จั่วการ์ดจากกอง 1 ใบขึ้นมือ
- ไรด์เฟส
- ทำการไรด์แวนการ์ดใบใหม่ (สามารถข้ามเฟสนี้ได้ถ้าหากไม่ต้องการไรด์ยูนิท)
- สไตรด์เฟส
- เลือกทิ้งการ์ด 1 ใบหรือมากกว่าที่มีผลรวมเกรดการ์ดเป็น 3 หรือสูงกว่าจากบนมือ จากนั้นนำ G ยูนิทที่คว่ำอยู่ในช่อง G โซน 1 ใบมาสไตรด์ลงแวนการ์ดเซอร์เคิล
- เมนเฟส
- ทำการคอลยูนิทต่าง ๆ หรือใช้ความสามารถ ACT ของการ์ด
- แบทเทิลเฟส
- ทำการโจมตียูนิทอีกฝ่าย
- เอนด์เฟส
- จบเทิร์นของผู้เล่นคนหนึ่งและเปลี่ยนไปหาผู้เล่นอีกคนหนึ่ง
สื่อต่าง ๆ
[แก้]การ์ดไฟท์!! แวนการ์ด ได้ถูกทำในรูปแบบสื่อต่าง ๆ เพื่อขยายการตลาดสินค้าให้กับผู้ชม โดยถูกทำสื่อรูปแบบต่าง ๆ ทั้งอนิเมะ, มังงะ, เกม, ละครโทรทัศน์, ภาพยนตร์ และอื่น ๆ
อนิเมะ
[แก้]การ์ดไฟท์!! แวนการ์ด ได้ถูกทำเป็นอนิเมะทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2011 ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทีวีโตเกียว และได้ทำซีรีส์ใหม่ในชื่อ การ์ดไฟท์!! แวนการ์ด G เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2014
ละครโทรทัศน์
[แก้]การ์ดไฟท์!! แวนการ์ด ได้ถูกนำทำรูปแบบละครโทรทัศน์ตอนเดียวจบในชื่อ STAND UP! แวนการ์ด ออกอากาศเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2013
การ์ดเกม การ์ดไฟท์!! แวนการ์ด ประเทศไทย
[แก้]ปัจจุบันการ์ดเกมการ์ดไฟท์!! แวนการ์ดในประเทศไทย ได้มีลิขสิทธิ์แปลเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2556 จัดจำหน่ายโดยบริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จำกัด