การแทรกแซงทางเศรษฐกิจ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยุทธศาสตร์การแทรกแซงทางเศรษฐกิจแบบต่าง ๆ ตามสถานการณ์

การแทรกแซงทางเศรษฐกิจ (อังกฤษ: economic interventionism) หรือบ้างเรียก การแทรกแซงของรัฐ เป็นจุดยืนนโยบายเศรษฐกิจซึ่งสนับสนุนให้รัฐบาลแทรกแซงในกระบวนการตลาดเพื่อแก้ไขความล้มเหลวของตลาดและส่งเสริมสวัสดิการโดยทั่วไปของประชาชน การแทรกแซงทางเศรษฐกิจเป็นการกระทำของรัฐบาลหรือสถาบันระหว่างประเทศในเศรษฐกิจแบบตลาดเพื่อพยายามให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกินกว่าการวางระเบียบพื้นฐานซึ่งกลฉ้อฉล, การบังคับใช้สัญญา และการจัดหาสินค้าและบริการสาธารณะ[1][2] การแทรกแซงทางเศรษฐกิจอาจมีเป้าหมายเพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน เพิ่มค่าจ้าง เพิ่มหรือลดราคา ส่งเสริมความเสมอภาคทางรายได้ จัดการปริมาณเงินและอัตราดอกเบี้ย เพิ่มกำไรหรือแก้ไขความล้มเหลวของตลาด

คำว่า "แทรกแซง" มักใช้โดยผู้สนับสนุนระบบปล่อยให้ทำไปและทุนนิยมแบบตลาดเสรี[3][4] และสันนิษฐานว่าในระดับปรัชญา รัฐและเศรษฐกิจในตัวควรแยกออกจากกัน และการกระทำของรัฐบาลนั้นอยู่ภายนอกเศรษฐกิจ[5] ประเทศเศรษฐกิจแบบตลาดทุนนิยมที่มีการแทรกแซงทางเศรษฐกิจสูงมักเรียกว่าเป็นเศรษฐกิจแบบผสม[6]

ผลลัพธ์[แก้]

ผลลัพธ์ของการแทรกแซงทางเศรษฐกิจของรัฐบาลมีการถกเถียงอย่างกว้างขวาง เจ้าหน้าที่วางระเบียบไม่ได้ปิดตลาดอยู่เสมอ แต่ตามที่เห็นในความพยายามเปิดเสรีทางเศรษฐกิจโดยรัฐและสถาบนต่าง ๆ ในละตินอเมริกา "การเปิดเสรีการเงินและการโอนกิจการของรัฐเป็นของเอกชนเกิดพร้อมกับการทำให้เป็นประชาธิปไตย"[7] การศึกษาหนึ่งเสนอว่าทศวรรษที่เสียไปหลังเกิด "การแพร่หลายของเจ้าหน้าที่วางระเบียบ" เพิ่มขึ้น[8] และตัวแสดงเหล่านี้เข้าร่วมในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในละตินอเมริกา ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1980 ละตินอเมริกาผ่านวิกฤตหนี้และอัตราเงินเฟ้อสูง (ระหว่าง ค.ศ. 1989 และ 1990) ผู้มีส่วนได้เสียระดับนานาชาติเหล่านี้จำกัดข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจของรัฐ และผูกมันไว้ในสัญญาให้ร่วมมือ[9] หลังมีโครงการต่าง ๆ และพยายามยินยอมอย่างล้มเหลวมาหลายปี รัฐอาร์เจนตินาดูจะยุติการรื้อฟื้นและการแทรกแซงทางเศรษฐกิจ ปัจจัยการแทรกแซงสำคัญสองปัจจัยที่กระตุ้นความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในประเทศอาร์เจนตินาเพิ่มการโอนกิจการของรัฐเป็นของเอกชนอย่างสำคัญ และตั้งคณะกรรมการเงินตรา เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างแก่สถาบันโลก รวมทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก ในการกระตุ้นและโฆษณาการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ละตินอเมริกา

ในประเทศตะวันตก ตามทฤษฎีข้าราชการชั่งน้ำหนักค่าใช้จ่ายกับประโยชน์สำหรับการแทรกแซงแก่ประชากร มิฉะนั้นจะตกอยู่ภายใต้การบีบบังคับจากเอกชนภายนอกและต้องดำเนินการ การแทรกแซงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจยังขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและประโยชน์ส่วนตนของผู้มีส่วนได้เสีย การตีความความก้าวหน้าที่หลากหลายและทฤษฎีการพัฒนา[10] โดยจะยกตัวอย่างรัฐบาลและสถาบันระหว่างประเทศมิได้รีบเข้าช่วยเหลือเลห์แมนบราเธอส์ในช่วงวิกฤตการณ์การเงิน ค.ศ. 2007–2008 จึงปล่อยให้บริษัทยื่นล้มละลาย ไม่กี่วันให้หลัง เมื่ออเมริกันอินเตอร์เนชันแนลกรุ๊ปมีท่าทีจะล้มเช่นเดียวกัน รัฐจึงใช้งบประมาณสาธารณะเพื่อเข้าไปอุ้ม[11] บริษัทเหล่านี้มีผลประโยชน์เชื่อมโยงถึงกัน ดังนั้นสิ่งจูงใจของบริษัทคือการใช้อิทธิพลให้รัฐบาลกำหนดนโยบายวางระเบียบเพื่อจะไม่ยับยั้งการสะสมสินทรัพย์ของบริษัทเอง[12]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Karagiannis, Nikolaos (2001). "Key Economic and Politico-Institutional Elements of Modern Interventionism". Social and Economic Studies. 50 (3/4): 17–47. JSTOR 27865245.
  2. von Mises, Ludwig (1998). Interventionism: An Economic Analysis (PDF). New York: The Foundation for Economic Education. pp. 10–12.
  3. von Mises, Ludwig (1998). Interventionism: An Economic Analysis (PDF). New York: The Foundation for Economic Education, Inc. pp. 10–12.
  4. Brown, Douglas (11 November 2011). Towards a Radical Democracy (Routledge Revivals): The Political Economy of the Budapest School. Routledge. pp. 10–11. ISBN 978-0415608794.
  5. Lu, Catherine. "Intervention". Encyclopedia of Political Theory. SAGE. สืบค้นเมื่อ 5 February 2012.[ลิงก์เสีย]
  6. Brown, Douglas (11 November 2011). Towards a Radical Democracy (Routledge Revivals): The Political Economy of the Budapest School. Routledge. pp. 10–11. ISBN 978-0415608794. The political definition refers to the degree of state intervention in what is basically a capitalist market economy. Thus this definition 'portray[s] the phenomenon in terms of state encroaching upon market and thereby suggest[s] that market is the natural or preferable mechanism.
  7. Karagiannis, Nikolaos (2001). "Key Economic and Politico-Institutional Elements of Modern Interventionism". Social and Economic Studies. 50 (3/4): 19–21. JSTOR 27865245.
  8. Jordana, Jacint; David Levi-Faur (Mar 2005). "The Diffusion of Regulatory Capitalism in Latin America: Sectoral and National Channels in the Making of a New Order". Annals of the American Academy of Political and Social Science. 598 (The Rise of Regulatory Capitalism: The Global Diffusion of a new Order): 102–24. doi:10.1177/0002716204272587. JSTOR 25046082.
  9. de Beaufort Wijnholds, J. Onno. "The Argentine Drama: A View from the IMF Board" (PDF). The Crisis That Was Not Prevented: Argentina, the IMF, and Globalisation. FONDAD. สืบค้นเมื่อ 2 February 2012.
  10. von Mises, Ludwig (1998). Interventionism: An Economic Analysis (PDF). New York: The Foundation for Economic Education, Inc. pp. 1–51.
  11. Lanchester, John (November 5, 2009). "Bankocracy". London Review of Books. 31 (21).
  12. Pierson, Chris (1999). Gamble; และคณะ (บ.ก.). Marxism and Social Science. Urbana and Chicago: University of Illinois Press. pp. 176–77. CiteSeerX 10.1.1.397.5282.