ข้ามไปเนื้อหา

การประชุมเจ็ดพันแกนนำ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

การประชุมเจ็ดพันแกนนำ (จีน: 七千人大会; พินอิน: Qīqiān rén dàhuì; เวด-ไจลส์: Ch'i1-ch'ien1 jen2 ta4-hui4) เป็นหนึ่งในการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งใหญ่ที่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จัดขึ้นในปักกิ่ง ประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ถึง 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1962[1][2][3][4][5] มีเจ้าหน้าที่พรรคกว่า 7,000 คนจากทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุม โดยมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคนในทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ของจีน[1][2][5] เหมา เจ๋อตง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ทำการวิจารณ์ตนเองในระหว่างการประชุม หลังจากนั้นเขาก็อยู่ในบทบาทกึ่งเกษียณ โดยปล่อยให้ความรับผิดชอบในอนาคตเป็นของหลิว เช่าฉี ประธานาธิบดีจีน และเติ้ง เสี่ยวผิง รองนายกรัฐมนตรี[2][4][6][7][8]

การประชุม

[แก้]
จู เต๋อ, โจว เอินไหล, หลิว เช่าฉี, เติ้ง เสี่ยวผิงและเหมา เจ๋อตง (กรกฎาคม ค.ศ. 1962)

การประชุมจัดขึ้นในปักกิ่ง ประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ถึง 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1962[5]

ในการประชุม หลิว เช่าฉี ประธานาธิบดีคนที่ 2 ของจีน และรองประธานพรรคคอมมิวนิสต์ ได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญที่ระบุอย่างเป็นทางการว่าทุพภิกขภัยมีสาเหตุมาจากภัยธรรมชาติ 30% และความผิดพลาดที่มนุษย์สร้างขึ้น 70% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากนโยบายเศรษฐกิจสุดโต่งของการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าตั้งแต่ ค.ศ. 1958[2][4][6]

นโยบายของเหมา เจ๋อตงถูกวิพากษ์วิจารณ์ และเหมาก็ทำการวิจารณ์ตนเองด้วยเช่นกันเนื่องจากการประชุมส่งเสริม "การวิพากษ์และวิจารณ์ตนเอง"[2][4][9][10] อย่างไรก็ดี หลิน เปียว รองประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังคงกล่าวชื่นชมเหมาในการประชุม[4][5][10] การประชุมครั้งนี้ส่งเสริม "ประชาธิปไตยรวมศูนย์" ภายในพรรคคอมมิวนิสต์[5][6]

อิทธิพล

[แก้]

หลังการประชุมเจ็ดพันแกนนำ หลิว เช่าฉีและเติ้ง เสี่ยวผิง เป็นผู้รับผิดชอบนโยบายส่วนใหญ่ภายในพรรคและรัฐบาล ขณะที่เหมา เจ๋อตงอยู่ในบทบาทกึ่งเกษียณ[6][7][10]

การประชุมครั้งนี้แก้ไขนโยบายเศรษฐกิจซ้ายจัดบางส่วน มีการดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ เช่น ซานจื้ออีเปา (三自一包) ซึ่งอนุญาตให้มีตลาดเสรีและครัวเรือนมีหน้าที่รับผิดชอบการผลิตทางการเกษตร โดยดำเนินการโดยหลิว เช่าฉี, เติ้ง จื่อฮุยและคนอื่น ๆ [11][12] การปฏิรูปดังกล่าวช่วยบรรเทาความยากลำบากทางเศรษฐกิจหลังการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้าได้ในระดับหนึ่ง[5]

ผลพวง

[แก้]
ประธานาธิบดีหลิว เช่าฉีและประธานเหมา เจ๋อตง (ค.ศ. 1964)

การประชุมเผยให้เห็นถึงความแตกแยกอย่างรุนแรงภายในกลุ่มผู้นำระดับสูงของพรรคระหว่างผู้ที่สนับสนุนสามธงแดงอย่างเต็มที่กับผู้ที่ยังคงเคลือบแคลงสงสัยในนโยบายดังกล่าว[13]

ความขัดแย้งระหว่างเหมากับหลิว (และเติ้ง) เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในประเด็นที่เหมาเรียกร้องให้ "ไม่มีวันลืมการต่อสู้ทางชนชั้น"[7]

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1962 เหมาเน้นย้ำระหว่างการประชุมที่เป่ย์ไต้เหอว่าการต่อสู้ทางชนชั้นจะต้องถูกพูดถึง "ทุกปี ทุกเดือน และทุกวัน (年年讲, 月月讲, 日日讲)"[14] เหมาตอกย้ำจุดยืนของเขาอีกครั้งในเดือนกันยายน ค.ศ. 1962 ระหว่างการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 10 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 8[15]

เหมายังวิพากษ์วิจารณ์การปฏิรูปเศรษฐกิจที่ดำเนินโดยหลิว เช่าฉีและคนอื่น ๆ ถึงขั้นบรรยายการปฏิรูปเหล่านี้กับผู้นำต่างชาติในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1964 ว่าเป็น "ความพยายามบ่อนทำลายคติรวมหมู่สังคมนิยมและทำลายสังคมนิยม"[16]

ใน ค.ศ. 1963 เหมาเปิดตัวขบวนการศึกษาสังคมนิยมทั่วประเทศ และใน ค.ศ. 1966 เขาเปิดตัวการปฏิวัติวัฒนธรรมเพื่อกลับสู่ศูนย์กลางอำนาจ ซึ่งในช่วงเวลานั้นหลิวถูกข่มเหงจนเสียชีวิตในฐานะ "ผู้ทรยศ" และ "ผู้เดินตามทุนนิยม" ขณะที่เติ้งก็ถูกกวาดล้างด้วยเช่นกัน (สองครั้ง)[1]

ในทางกลับกัน หลิน เปียว ได้รับเลือกอย่างเป็นทางการจากเหมาให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งใน ค.ศ. 1969[7]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 3 MacFarquhar, Roderick (1999). The Origins of the Cultural Revolution: Volume III, the Coming of the Cataclysm 1961--1966. Columbia University Press. ISBN 978-0-231-11083-9.
  2. 1 2 3 4 5 "Chinese Foreign Policy Database - Timeline". Wilson Center. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-22. สืบค้นเมื่อ 2020-06-21.
  3. Schoenhals, Michael; Stone, Brewer S. (1990). "More Edited Records: Liu Shaoqi on Peng Dehuai at the 7000 Cadres Conference" (PDF). CCP Research Newsletter. 5.
  4. 1 2 3 4 5 He, Henry (2016-07-22). Dictionary of the Political Thought of the People's Republic of China. Routledge. ISBN 978-1-315-50043-0.
  5. 1 2 3 4 5 6 "七千人大会". Renmin Wang (ภาษาจีน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-15. สืบค้นเมื่อ 2020-06-21.
  6. 1 2 3 4 Sun, Zhonghua. "刘少奇"三分天灾,七分人祸"提法的由来". People's Net (ภาษาจีน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-07. สืบค้นเมื่อ 2020-06-21.
  7. 1 2 3 4 "Three Chinese Leaders: Mao Zedong, Zhou Enlai, and Deng Xiaoping". Columbia University. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-05-17. สืบค้นเมื่อ 2020-06-22.
  8. "The Road to the Cultural Revolution". Chinese Law & Government (ภาษาอังกฤษ). 29 (4): 61–71. July 1996. doi:10.2753/CLG0009-4609290461. ISSN 0009-4609.
  9. Mao, Zedong. "Talk At Working Conference". Marxists Internet Archive. สืบค้นเมื่อ 2020-06-21.
  10. 1 2 3 Li, Yanchun. "七千人大会的现代启示录". Yanhuang Chunqiu (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-09. สืบค้นเมื่อ 2020-06-21.
  11. Denhardt, Janet Vinzant; Denhardt, Robert B. (2007). The New Public Service: Serving, Not Steering (ภาษาอังกฤษ). M.E. Sharpe. ISBN 978-0-7656-2181-8.
  12. "Liu Shaoqi (1898-1969)". Chinese University of Hong Kong. สืบค้นเมื่อ 2020-07-02.
  13. Jisheng, Yang (2021-01-19). The World Turned Upside Down: A History of the Chinese Cultural Revolution (ภาษาอังกฤษ). Farrar, Straus and Giroux. p. 26. ISBN 978-0-374-71691-2.
  14. "1962年北戴河会议阶级斗争升温 走上文革之路". China Internet Information Center (ภาษาจีน). 2014-09-23. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-02. สืบค้นเมื่อ 2020-07-02.
  15. Mao, Zedong (24 September 1962). "Speech At The Tenth Plenum Of The Eighth Central Committee". Marxists Internet Archive. สืบค้นเมื่อ 5 July 2020.
  16. "重要会议:1949-1978(新中国成立——改革开放以前)". Renmin Wang (ภาษาจีน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-02. สืบค้นเมื่อ 2020-07-02.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]