ข้ามไปเนื้อหา

การบินลาว เที่ยวบินที่ 301

พิกัด: 15°09′06″N 105°43′59″E / 15.15167°N 105.73306°E / 15.15167; 105.73306
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การบินลาว เที่ยวบินที่ 301
RDPL-34233, ATR 72 เป็นลำที่เกิดอุบัติเหตุ ภาพถ่ายในเดือน ค.ศ.2013
สรุปอุบัติเหตุ
วันที่16 ตุลาคม ค.ศ. 2013 (2013-10-16)
สรุปเครื่องบินตกลงบนพื้นเพราะปัญหาของนักบิน
จุดเกิดเหตุเกาะดอนโค, แม่น้ำโขง, ประเทศลาว
15°09′06″N 105°43′59″E / 15.15167°N 105.73306°E / 15.15167; 105.73306
อากาศยานลำที่เกิดเหตุ
ประเภทอากาศยานเอทีอาร์ 72
ดําเนินการโดยการบินลาว
หมายเลขเที่ยวบิน IATAQV301
หมายเลขเที่ยวบิน ICAOLAO301
รหัสเรียกLAO 301
ทะเบียนRDPL-34233
ต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต, เวียงจันทน์, ประเทศลาว
ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติปากเซ, ประเทศลาว
จำนวนคน49
ผู้โดยสาร44
ลูกเรือ5
เสียชีวิต49
รอดชีวิต0
การบินลาว เที่ยวบินที่ 301ตั้งอยู่ในประเทศลาว
การบินลาว เที่ยวบินที่ 301
ตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุในลาว

การบินลาว เที่ยวบินที่ 301 เป็นเที่ยวบินตามปกติภายในประเทศลาวที่เดินทางจากเวียงจันทน์ ไปปากเซ ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เครื่องบินรุ่น ATR 72-600ได้ตกลงสู่แม่น้ำโขง ที่ ปากเซ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 49 คน อุบัติเหตุนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดกับเครื่องบินรุ่น ATR 72-600[1] เป็นเหตุการณ์เครื่องบินตกที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่เคยเกิดในลาว และเป็นอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับที่สองที่เคยเกิดกับเครื่องบินรุ่น ATR 72 โดยที่เสียชีวิตมากที่สุดคือ แอโรแคริบเบียน เที่ยวบินที่ 883 และ อเมริกันอีเกิล เที่ยวบินที่ 4184 ที่เสียชีวิต 68 คน และเป็นเหตุการณ์เครื่องบินตกที่เกี่ยวกับการบินลาวเป็นครั้งแรกนับแต่ พ.ศ. 2543[2][3][4][5]

เครื่องบิน

[แก้]

เครื่องบินที่เกิดเหตุเป็นเครื่องบินเอทีอาร์ 72-600 ทะเบียน RDPL-34233 หมายเลขเครื่อง 1071 มีชั่วโมงบินสะสม 758 ชั่วโมง เครื่องบินลำนี้ถูกส่งมายังการบินลาวเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556[6][7]

อุบัติเหตุ

[แก้]

เครื่องบินได้ออกจาก ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต เวียงจันทน์ ไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติปากเซ ปากเซ[8][9] เครื่องบินออกจากเวียงจันทน์เวลา 14:45 ตามเวลาท้องถิ่น (07:45 UTC) และตกลงสู่แม่น้ำโขง เวลา 15:55 ตามเวลาท้องถิ่น (08:55 UTC) ในขณะที่เข้าใกล้ปากเซ ห่างจากสนามบินเพียง 6 กิโลเมตร (3.7 ไมล์)[10][11][12] เครื่องบินได้บินวนหนึ่งรอบเพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย [9]

มีผู้โดยสาร 44 คนและลูกเรือ 5 คนที่คาดว่าเสียชีวิตทั้งหมด[13] หลักฐานบนพื้นดินแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินร่วงลงมาอย่างรวดเร็วก่อนจะลงสู่แม่น้ำ[14] สภาพอากาศเลวร้ายในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เพราะส่วนที่หลงเหลือจาก พายุไต้ฝุ่นนารี พ.ศ. 2556 ซึ่งส่งผลต่อลาวภาคใต้[9][15]

การค้นหาผู้เสียชีวิตและซากเครื่องบินทำได้ยากเพราะแม่น้ำโขงที่ลึกและไหลเชี่ยว มีนักประดาน้ำจากไทย 50 คนเข้ามาช่วยจาก มูลนิธิฯจีตัมเกาะอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนติดต่อเมืองปาเซ แขวงจำปาศักดิ์ สปป ลาว และจากสุรินทร์ ร้อยเอ็ด นครราชสีมา[6] พบศพผู้เสียชีวิต 18 คน ในวันที่ 18 ตุลาคม[16] ในวันที่ 23 ตุลาคม พบศพผู้เสียชีวิต 44 ศพ จาก 49 ศพละยืนยันเอกลักษณ์บุคคคลได้ 27 คน [17] ผู้เสียชีวิตบางศพลอยไปตามกระแสน้ำห่างจากจุดตก 19 กิโลเมตร (12 ไมล์)[14]

การสืบสวน

[แก้]

กรมการบินพลเรือของลาวได้จัดให้สืบสวนหาสาเหตุที่เครื่องบินตก [6] ผู้ผลิตเครื่องบิน ATR และBureau d'Enquêtes et d'Analyses pour la Sécurité de l'Aviation Civile (BEA)จากฝรั่งเศสได้เข้ามาช่วย[9] โดย BEA ส่งทีมสอบสวน 4 คนเข้ามายังลาว[18]

ซากของเครื่องบินถูกยกขึ้นจากแม่น้ำโขงเมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556[17] ต่อมาในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ได้กู้กล่องดำหรือเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ขึ้นมาจากแม่น้ำโขงได้สำเร็จ [9][19] พบบันทึกข้อมูลการบินในอีกสองวันต่อมาคือ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 [9]

ผู้โดยสารและลูกเรือ

[แก้]

ผู้โดยสารและลูกเรือมี 11 สัญชาติ ผู้โดยสาร 44 คนเป็นชาวลาว 16 คน [13] และลูกเรืออีก 4 คน นักบินเป็นชาวกัมพูชา[14][15] ที่เหลือเป็นชาวฝรั่งเศส 7 คน ชาวออสเตรเลีย 6 คน ชาวไทย 5 คน ชาวเกาหลีใต้ 3 คน ชาวเวียดนาม 3 คน และที่เหลือเป็นชาวจีน ไต้หวัน มาเลเซีย และสหรัฐ[10][14][20][21][22][23] มีเด็กอย่างน้อย 2 คน เป็นชาวออสเตรเลีย[24] รายงานในช่วงแรกที่กล่าวว่ามีชาวแคนาดาอยู่บนเครื่องด้วยไม่ถูกต้อง และพบภายหลังว่าที่จริงเป็นชาวเวียดนาม[25]

ประเทศ ผู้โดยสาร ลูกเรือ ทั้งหมด
ธงของประเทศลาว ลาว 16 4 20
ธงของประเทศฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 7 - 7
ธงของประเทศออสเตรเลีย ออสเตรเลีย 6 - 6
 ไทย 5 - 5
ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ 3 - 3
ธงของประเทศเวียดนาม เวียดนาม 3 - 3
ธงของประเทศกัมพูชา กัมพูชา 1 1
ธงของประเทศจีน จีน 1 - 1
ธงของประเทศมาเลเซีย มาเลเซีย 1 - 1
ธงของสาธารณรัฐจีน ไต้หวัน 1 - 1
 สหรัฐ 1 - 1
ทั้งหมด 44 5 49

อ้างอิง

[แก้]
  1. Taylor, Ellis (17 October 2013). "ATR releases more details on Lao Airlines crash". Singapore: Flightglobal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-17. สืบค้นเมื่อ 2013-11-17.
  2. "Laos air safety profile". Aviation Safety Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-17. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  3. "Lao Aviation". Aviation Safety Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-17. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  4. "Lao Airlines". Aviation Safety Network. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  5. "Lao Aviation incident record". Aviation Safety Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-17. สืบค้นเมื่อ 29 October 2013.
  6. 6.0 6.1 6.2 Pongkhao, Somsack. "Recovery effort underway after Lao Airlines plane crash". Vientiane Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-19. สืบค้นเมื่อ 18 October 2013.
  7. "Lao Airlines ATR 42/72 - MSN 1071 - RDPL-34233". airfleets.net. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  8. Drum, Bruce. "Breaking News: A Lao Airlines ATR 72 crashes in the Mekong River, 44 people on board". World Airline News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-24. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  9. 9.0 9.1 9.2 9.3 9.4 9.5 Hradecky, Simon. "Crash: Lao AT72 at Pakse on Oct 16th 2013, went into Mekong River on approach". The Aviation Herald. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  10. 10.0 10.1 "Bad weather being blamed for Lao Airlines crash which killed 49 passengers and crew". Reuters. 17 October 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-17. สืบค้นเมื่อ 17 October 2013.
  11. "Lao plane crashes into Mekong River, 39 people killed". Voice of Russia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-16. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  12. Toh, Mavis. "Lao Airlines working to identify cause of ATR 72 crash". Singapore: Flightglobal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-18. สืบค้นเมื่อ 2013-11-17.
  13. 13.0 13.1 Doksone, Thanyarat. "49 feared dead in plane crash in Laos". Associated Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-16. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  14. 14.0 14.1 14.2 14.3 Harmer, Jerry (17 October 2013). "Bodies recovered in Mekong after Laos plane crash". The Aiken Standard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-19. สืบค้นเมื่อ 18 October 2013.
  15. 15.0 15.1 "Dozens reported killed in Laos plane crash". CNN. 16 October 2013. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  16. "Govt demands prompt rescue operation after Pakxe plane crash". Vientiane Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-20. สืบค้นเมื่อ 19 October 2013.
  17. 17.0 17.1 "26 bodies identified, Lao aircraft lifted from Mekong River". MCOT. 23 October 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-29. สืบค้นเมื่อ 24 October 2013.
  18. "Flight QV 301 on 16 October 2013 - ATR 72-600". Bureau d'Enquêtes et d'Analyses pour la Sécurité de l'Aviation Civile. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-21. สืบค้นเมื่อ 17 October 2013.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)() - French version เก็บถาวร 2013-10-21 ที่ archive.today()
  19. "Announcement#11". Lao Airlines. สืบค้นเมื่อ 31 October 2013.
  20. "Au moins sept Français morts dans un accident d'avion au Laos" (ภาษาฝรั่งเศส). Le Monde. 16 October 2013. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  21. "Lao Airlines plane crashes, 49 killed". Bangkok Post. 16 October 2013. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.[ลิงก์เสีย]
  22. "At least 44 people die in plane crash". BBC News. 16 October 2013. สืบค้นเมื่อ 16 October 2013.
  23. "CEO Press Conference". Lao Airlines. 17 October 2013. สืบค้นเมื่อ 17 October 2013.
  24. "Six Aussies dead as Lao Airlines plane carrying 49 people crashes into Mekong River". News.com.au. สืบค้นเมื่อ 17 October 2013.[ลิงก์เสีย]
  25. "No Canadians on crashed plane in Laos". Citynews. สืบค้นเมื่อ 18 October 2013.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]