การตั้งชื่อดาวแปรแสง
การตั้งชื่อดาวแปรแสง (อังกฤษ: variable star designation) เป็นเกณฑ์การตั้งชื่อดาวแปรแสง ซึ่ง ณ ตอนนี้ เกณฑ์การตั้งชื่อมีดังนี้:
- ดาวซึ่งใช้อักษรกรีกตามการตั้งชื่อระบบไบเออร์แล้วจะไม่ต้องได้รับชื่อใหม่ (เช่น เอตา นกอินทรี)
- นอกเหนือจากนี้ ให้เริ่มจากอักษร อาร์ เรียงต่อไปด้วยเอส, ที, ยู... จนถึงแซด
- ตามด้วย อาร์อาร์, อาร์เอส, อาร์ที... จนถึงอาร์แซด, เอสเอส...จนถึงเอสแซด, ทีที...จนถึงทีแซด เป็นเช่นนี้ไปจนถึง แซดแซด
- ใช้เอเอ, เอบี, เอซี...เอแซด, บีบี...บีแซด, ไปเรื่อย ๆ จนถึงคิวแซด แต่ให้ยกเว้นอักษร เจ ทั้งตัวแรกและตัวหลัง
- สุดท้ายหลังจากที่ใช้การรวมกันของตัวอักษรโรมัน 334 ครั้ง ก็ให้เริ่มด้วย วี 335 และดำเนินต่อไปด้วย วี 336, วี 337... ไปเรื่อย ๆ
ตัวอย่างเช่น:
หมายเหตุ: การใช้ตัวอักษรแรกที่เป็นอักษรที่ไกลออกไปมากกว่าตัวที่สอง ซึ่งพูดได้ว่าดาวไม่สามารถมีชื่อว่า บีเอ, แซดดี, ดีบี ฯลฯ
ประวัติ
[แก้]ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 25 นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวแปรแสงเพียงไม่กี่ดวง จึงดูมีเหตุผลที่จะใช้อักษรละติน โดยการเริ่มจากตัวอาร์เพื่อไม่ให้สับสนกับการตั้งชื่อดาวตามสเปกตรัมดาวฤกษ์ (ณ ตอนนี้ถูกใช้ไม่บ่อยนัก) หรือการตั้งชื่อระบบไบเออร์โดยใช้อักษรละติน เกณฑ์การตั้งชื่อนี้ถูกพัฒนาโดยฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม อาร์เกลันเดอร์ เชื่อกันว่าอาร์จแลนเดอร์เลือกใช้อักษรอาร์เพราะคำว่า รูจ (ฝรั่งเศส: Rouge) ในภาษาฝรั่งเศส และรอต (เยอรมัน: Rot) ในภาษาเยอรมันล้วนหมายถึงสีแดง แต่ว่าคำพูดของอาร์จแลนเดอร์พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดนี้ผิด
ในปี พ.ศ. 2379 ขนาดตัวเอสยังถูกในกลุ่มดาวงูเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็มีการค้นพบดาวแปรแสงมากมานมหาศาล จนในที่สุด อักษรโรมันก็หมด จึงมีการใช้ตัวเลขแทน