ข้ามไปเนื้อหา

กะมัน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กะมัน
ကမန်
หญิงชาวกะมันในเจาก์พยู รัฐยะไข่ พ.ศ. 2555
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ
 พม่า50,000[1]
ภาษา
ยะไข่
ศาสนา
อิสลาม

กะมัน (พม่า: ကမန်) คือกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศพม่า ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ชื่อ กะมัน มาจากคำเปอร์เซีย แปลว่า คันธนู[2] และเป็นหนึ่งในเจ็ดชาติพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับจากรัฐยะไข่และจากรัฐบาลพม่า[3] ชาวกะมันหลายคนถือบัตรประชาชนสัญชาติพม่า[4][5][6]

ประวัติ

[แก้]

ศาห์ สุชา (เบงกอล: শাহ সুজা) เจ้าชายแห่งโมกุลผู้ไม่ประสบความสำเร็จในการสืบราชสมบัติเป็นจักรพรรดิ ได้ลี้ราชภัยไปอาณาจักรอาระกันเมื่อ ค.ศ. 1660[7][8] พร้อมด้วยครอบครัวและผู้ติดตามจำนวนหนึ่งไปอยู่ที่เมืองมโหย่ฮ่อง เพราะหวังพระทัยว่ากษัตริย์อาระกันจะทรงอุปถัมภ์พระองค์ รวมทั้งจัดเรือพระที่นั่งให้พระองค์แสวงบุญที่เมืองมักกะฮ์[2] หลังจากนั้นก็มีคลื่นผู้อพยพชาวมุสลิมจากจักรวรรดิโมกุลเข้าสู่อาระกัน[7]

พระเจ้าจันทสุธัมมา (พม่า: စန္ဒသုဓမ္မရာဇာ) กษัตริย์อาระกันทรงถวายการต้อนรับเจ้าชายโมกุลผู้นิราศเป็นอย่างดี แต่ไม่นานหลังจากนั้น ศาห์ สุชาก็ทรงคิดคดทรยศต่อพระเจ้ากรุงอาระกัน[7] โดยเจ้าชายศาห์ สุชา พร้อมด้วยบริวาร และชาวมุสลิมในท้องถิ่นอีกจำนวน 200 คน ก่อการกระด้างกระเดื่อง เพื่อล้มล้างอำนาจกษัตริย์อาระกัน[9] ครั้นเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1661 ศาห์ สุชาและบริวารบางส่วนถูกทหารอาระกันลอบสังหาร[7] บรรดาพระโอรสของศาห์ สุชา ถูกปลงพระชนม์ และพระธิดาของศาห์ สุชาก็ถูกนำไปเป็นบาทบริจาริกาของพระเจ้าจันทสุธัมมา และถูกนำไปประหารในเวลาต่อมา[7] ส่วนบริวารของศาห์ สุชาที่ยังเหลืออยู่ได้รับการแต่งตั้งเป็นราชองครักษ์พิเศษประจำพระราชสำนักอาระกัน ในตำแหน่งหน่วยพลธนูพิเศษ เรียกว่า กะมัน (เปอร์เซีย: کمان, "คันธนู")[7][10]

หน่วยพลธนูกะมันนี้รวมกลุ่มกับทหารรับจ้างชาวอัฟกันจากอินเดียตอนเหนือ ตั้งตนเป็นกบฏมีอิทธิพลทางการเมืองเหนืออาณาจักรอาระกัน กระทั่ง ค.ศ. 1710 พระเจ้าจันทวิชยะที่ 1 ทรงปราบปรามกบฏ และเนรเทศชาวกะมันไปเกาะรามรี[7] ลูกหลานของแขกกะมันยังคงอาศัยอยู่บนเกาะรามรี และบางส่วนตั้งหมู่บ้านใกล้เมืองอัคยับ[7]

ใน ค.ศ. 1931 มีชาวกะมันอาศัยอยู่ในรัฐอาระกันจำนวน 2,686 คน[7]

ค.ศ. 2012 ชาวกะมันได้รับผลกระทบจากเหตุจลาจลในรัฐยะไข่พอสมควร[11][6]

เดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 หลังเกิดเหตุการณ์การลอบสังหารเด็กหญิงชาวยะไข่พุทธจำนวนสองคน อายุห้าขวบและหกขวบ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน และวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ส่งผลให้ชาวกะมันมุสลิมตกเป็นเป้าหมายการโจมตีจากชาวยะไข่พุทธทันที ชาวกะมันเสียชีวิตไปเจ็ดคนและอีกหลายคนต้องหนีออกนอกพื้นที่[12][13]

อ้างอิง

[แก้]
เชิงอรรถ
  1. Newly arrived Kaman Muslims in Yangon defy govt pressure to return to Rakhine State
  2. 1 2 Harvey 1925, p. 148.
  3. Than Tun Win.
  4. The Economist 2013.
  5. Narinjara 2011.
  6. 1 2 Schearf 2011.
  7. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 Yegar 2002, p. 24.
  8. Harvey 1925, p. 146.
  9. Harvey 1925, p. 146-147.
  10. Thant Myint-U 2011.
  11. Human Rights Watch 2013.
  12. Nyein Nyein (15 ตุลาคม 2013). "Six Suspects Confess to Thandwe Murders: Home Affairs Ministry". The Irrawaddy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 October 2013.
  13. "Thandwe Death Toll Rises to 7 With Discovery of Two More Bodies". The Irrawaddy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 October 2013. สืบค้นเมื่อ 12 October 2013.
บรรณานุกรม