กรดฟอสฟอริก

กรดฟอสฟอริก
ชื่อ
	IUPAC names trihydroxidooxidophosphorus; phosphoric acid
	ชื่ออื่น Orthophosphoric acid
เลขทะเบียน
เลขทะเบียน CAS	7664-38-2 ;
3D model (JSmol)	รูปภาพแบบโต้ตอบ;
ChEMBL	ChEMBL1187 ;
เคมสไปเดอร์	979 ;
ECHA InfoCard	100.028.758
EC Number	231-633-2;
เลขอี	E338 (antioxidants, ...)
KEGG	D05467 ;
ผับเคม CID	1004;
RTECS number	TB6300000;
UNII	E4GA8884NN ;
UN number	1805
CompTox Dashboard (EPA)	DTXSID5024263 ;
	InChI InChI=1S/H3O4P/c1-5 (2, 3) 4/h (H3, 1, 2, 3, 4) Key: NBIIXXVUZAFLBC-UHFFFAOYSA-N ; InChI=1/H3O4P/c1-5 (2, 3) 4/h (H3, 1, 2, 3, 4) Key: NBIIXXVUZAFLBC-UHFFFAOYAI;
	SMILES OP (=O) (O) O;
คุณสมบัติ
สูตรเคมี	H3PO4
มวลโมเลกุล	98.00 g/mol
ลักษณะทางกายภาพ	white solid or colourless, viscous liquid (>42 °C)
ความหนาแน่น	1.885 g/mL (liquid) ; 1.685 g/mL (85 % solution) ; 2.030 g/mL (crystal at 25 °C)
จุดหลอมเหลว	42.35 °C (anhydrous) ; 29.32 °C (hemihydrate)
จุดเดือด	158 °C (decomp)
ละลายในน้ำ	5.48 g/mL
pKa	2.148, 7.198, 12.375
ความหนืด	2.4–9.4 cP (85% aq. soln.) ; 147 cP (100 %)
ความอันตราย
NFPA 704 (fire diamond)	2 0 0 COR
จุดวาบไฟ	Non-flammable
สารประกอบอื่นที่เกี่ยวข้องกัน
	หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa อ้างอิงกล่องข้อมูล

กรดฟอสฟอริก (Phosphoric acid) เป็นกรดแร่ มีสูตรเคมี H₃P O₄ กรดฟอสฟอริกบริสุทธิ์จะอยู่ในรูปผลึกใส (มีจุดหลอมละลายที่ 42.35° C) แต่กรดฟอสฟอริกที่ความเข้มข้นและอุณหภูมิอื่น ๆ อาจพบในรูปของเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น สามารถละลายน้ำและแอลกอฮอล์ได้^[1]

กรดฟอสฟอริกถูกใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งในการผลิตสารพวกฟอสเฟต เช่น ผงซักฟอก สบู่ ปุ๋ย รวมถึงใช้ผสมเป็นวัสดุอุดฟัน จนถึง ถูกใช้เป็นส่วนผสมของน้ำอัดลม

อันตรายของกรดฟอสฟอริกหากได้รับโดยตรงในปริมาณที่มากพอทั้งจากการหายใจหรือสัมผัสทางผิวหนังก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง

↑ "กรดฟอสฟอริก จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2007-02-12. สืบค้นเมื่อ 2011-02-14.

แหล่งข้อมูลอื่น

บทความเคมีนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล

[1] "กรดฟอสฟอริก จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2007-02-12. สืบค้นเมื่อ 2011-02-14.

[1]