กบหนังห้อย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กบหนังห้อย
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Amphibia
อันดับ: Anura
วงศ์: Leptodactylidae
วงศ์ย่อย: Telmatobiinae
สกุล: Telmatobius
สปีชีส์: T.  culeus
ชื่อทวินาม
Telmatobius culeus
(Garman, 1876)
ชื่อพ้อง[1]
  • Telmatobius albiventris Parker, 1940
  • Telmatobius crawfordi Vellard, 1953

กบหนังห้อย (อังกฤษ: Titicaca water frog, Saggy-skinned frog; ชื่อวิทยาศาสตร์: Telmatobius culeus) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจำพวกกบชนิดหนึ่ง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น

กบหนังห้อย จัดอยู่ในวงศ์ Leptodactylidae ซึ่งเป็นวงศ์กบที่มีจำนวนสมาชิกมาก นับเป็นวงศ์ใหญ่ กระจายพันธุ์ตั้งแต่อเมริกากลาง, แคริบเบียน จนถึงอเมริกาใต้

กบหนังห้อยมีลักษณะเด่น คือ มีผิวหนังที่ใหญ่มาก จนห้อยย้อยและพับโก่งตัวขึ้นอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งผิวหนังที่พับย่นนี้มีเพื่อสำหรับหายใจในน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นจัดและในระดับที่ลึก เนื่องจากเป็นกบที่พบเฉพาะทะเลสาบตีตีกากา ในประเทศโบลิเวีย ใกล้กับเทือกเขาแอนดีส ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่บนที่สูงถึง 3,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล นับเป็นทะเลสาบแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนที่สูงแห่งหนึ่งของโลก ทำให้มีปริมาณออกซิเจนต่ำ และอุณหภูมิของน้ำเย็นยะเยือก ซึ่งผิวหนังที่พับย่นของกบหนังห้อยเป็นการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการอาศัยในสภาพแวดล้อมแห่งนี้ [2][3]

โดยภายในผิวหนังมีหลอดเลือดฝอยหนาแน่นมากเพื่อช่วยแลกเปลี่ยนออกซิเจน และมีลักษณะการว่ายน้ำแบบส่ายไปมาเพื่อให้น้ำปะทะกับผิวหนังให้มากที่สุดเพื่อหายใจ ปอดมีขนาดเล็กกว่ากบวงศ์อื่น ๆ ถึง 4 เท่า และมีปริมาณแมตาบอลิสซึมต่ำมากที่สุดชนิดหนึ่งของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั้งหมด [2]

กบหนังห้อยจะอาศัยเฉพาะอยู่แต่ในน้ำชั่วชีวิต นิ้วตีนทั้ง 4 ข้างมีพังผืดขนาดใหญ่มากเชื่อมต่อกัน จึงเป็นกบที่กระโดดไม่ได้ โดยปกติจะหลบซ่อนตัวอยู่ในกอพืชน้ำและสาหร่าย มีขนาดโตเต็มที่ราว 25-30 เซนติเมตร กบตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้หลายเท่า ซึ่งขนาดที่ใหญ่ที่สุด ถูกบันทึกไว้ในปี ค.ศ. 1973 โดย ฌาคส์ คุสโต นักสำรวจชาวฝรั่งเศสว่ายาวได้ถึง 2 ฟุต น้ำหนัก 2 ปอนด์ เมื่อยืดขาหลังออกเต็มที่ นับเป็นกบชนิดหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก กบหนังห้อยเป็นสัตว์ที่ชาวอินคา ชนพื้นเมืองของทวีปอเมริกาใต้ใช้ปรุงเป็นยามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน [2]

ปัจจุบัน สถานะของกบหนังห้อยอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์เต็มที่ ซึ่งเป็นผลมาจากการประมงที่มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่รังสีอัลตราไวโอเลตที่สาดส่องมายังผิวน้ำทะเลสาบตีตีกากามากขึ้น ที่ทำให้กบตายได้เนื่องจากมีผิวหนังที่บอบบาง[3] [2]

กบขนาดเล็ก ซึ่งหนังยังไม่ย่น

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 จาก IUCN
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 Saggy-Skinned Frog, "Weird Creatures with Nick Baker" สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต. ทางทรูวิชั่นส์: อังคารที่ 22 มกราคม 2556
  3. 3.0 3.1 หน้า 327, วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก โดย วีรยุทธ์ เลาหะจินดา (ธันวาคม, 2552) ISBN 978-616-556-016-0

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Telmatobius culeus ที่วิกิสปีชีส์