กบฏอาหรับ
กบฏอาหรับ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ เขตสงครามตะวันออกกลางในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
แม่แบบ:Country data Arab Revolt ราชอาณาจักรฮิญาซ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส |
จักรวรรดิออตโตมัน เยอรมนี Jabal Shammar | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
แม่แบบ:Country data Arab Revolt ฮุซัยน์ บิน อาลี แม่แบบ:Country data Arab Revolt ฟัยศ็อล บิน ฮุซัยน์ แม่แบบ:Country data Arab Revolt Abdullah bin Hussein แม่แบบ:Country data Arab Revolt Ali bin Hussein Edmund Allenby ที. อี. ลอว์เรนซ์ Édouard Brémond |
สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 5 Djemal Pasha Fakhri Pasha Muhittin Akyüz Otto Liman von Sanders Saud bin Abdulaziz | ||||||||
กำลัง | |||||||||
30,000 (June 1916)[1] 50,000+ (1918)[2] |
May 1916: 6,500–7,000 troops[3] September 1918: 25,000 troops 340 guns[1] | ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
Unknown |
47,000+ 5000 killed 10,000 wounded[4] 22,000+ captured[5][6][7] ~10,000 disease deaths |
กบฏอาหรับ (อาหรับ: الثورة العربية, al-Thawra al-‘Arabiyya; ตุรกี: Arap İsyanı) หรือ กบฏมหาอาหรับ (الثورة العربية الكبرى, al-Thawra al-‘Arabiyya al-Kubrá) เป็นการก่อการกำเริบทางทหารของกองกำลังอาหรับต่อต้านจักรวรรดิออตโตมันในเขตสงครามตะวันออกกลางในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มีเบื้องหลังมาจากจดหมายแม็กแมน–ฮุซัยน์ คือข้อตกลงระหว่างรัฐบาลบริติซและฮุซัยน์ บิน อาลี, ชารีฟแห่งแมคคา การก่อกบฏได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการที่แมคคา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1916 เป้าหมายของกลุ่มกบฏคือการก่อตั้งรัฐอาหรับที่เป็นเอกราชและรวมเป็นปึกแผ่นเพียงหนึ่งเดียวที่ทอดยาวจากเมืองอะเลปโปในซีเรียไปจนถึงเอเดนในเยเมน ซึ่งบริติชได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้การยอมรับ
กองทัพชาริเฟียนภายใต้การนำโดยฮุสเซนและตระกูลฮัชไมต์ กับการสนับสนุนทางทหารจากกองกำลังรบนอกประเทศอียิปตป์ของบริติซ การต่อสู้รบที่ประสบความสำเร็จและขับไล่ทหารออตโตมันออกจากฮิญาซและทรานส์จอร์แดน ในท้ายที่สุด กลุ่มกบฏสามารถเข้ายึดครองเมืองดามัสกัสและก่อตั้งราชวงศ์ที่มีอายุสั้นภายใต้การนำโดยฟัยศ็อล โอรสของฮุซัยน์
ภายหลังความตกลงไซก์-ปิโกต์ ตะวันออกกลางในเวลาต่อมาก็ถูกบริติชและฝรั่งเศสแบ่งออกเป็นดินแดนในอาณัติแทนที่จะเป็นรัฐอาหรับที่เป็นเอกภาพและบริติชก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนรัฐอาหรับที่เป็นเอกราชและรวมรวมเป็นปึกแผ่นเพียงหนึ่งเดียว
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Murphy, p. 26.
- ↑ Mehmet Bahadir Dördüncü, Mecca-Medina: the Yıldız albums of Sultan Abdülhamid II, Tughra Books, 2006, ISBN 1-59784-054-8, page 29. Number refers only to those laying siege to Medina by the time it surrendered and does not account for Arab insurgents elsewhere.
- ↑ Military Intelligence and the Arab Revolt: The first modern intelligence war, Polly a. Mohs, ISBN 1-134-19254-1, Routledge, p. 41.
- ↑ Erickson 2001, p. 238, Appendix F.
- ↑ War Office (1922). Statistics of the military effort of the British Empire during the Great War, 1914-1920. London H.M. Stationery Office. p. 633.: 8000 prisoners taken by the Arab insurgents in Syria-Palestine in 1918, joining 98,600 taken by the British.
- ↑ Parnell, p. 75: 6,000 prisoners taken by the end of 1916
- ↑ Süleyman Beyoğlu, The end broken point of Turkish-Arabian relations: The evacuation of Medine, Atatürk Atatürk Research Centre Journal (Number 78, Edition: XXVI, November 2010) (Turkish). 8000 Ottoman troops surrendered at the end of the Siege of Medina and were evacuated to Egypt afterwards.