อโดนิรัม จัดสัน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อโดนิแรม จัดสัน
เกิด9 สิงหาคม ค.ศ. 1788
เมือง Malden รัฐ Massachusetts สหรัฐอเมริกา
เสียชีวิต12 เมษายน ค.ศ. 1850
ที่ทะเล
สัญชาติอเมริกัน
อาชีพมิชชันนารีที่ประเทศพม่า
ลายมือชื่อ

อโดนิรัม จัดสัน (อังกฤษ: Adoniram Judson) และแนนซี จัดสัน เป็นมิชชันนารีโปรเตสแตนต์ชาวอเมริกันกลุ่มแรมที่ไปรับใช้ต่างแดงถึงแม้จะพบอุปสรรคแต่พวกเขาไม่เคยยกเลิกงานที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

ประวัติ[แก้]

อโดนิรัมจัดสันเกิดที่รัฐแมสซาซูเซตส์ในปี 1788 เขาเป็นบุตรชายของศิษยาภิบาลคณะคองกริเกชันนัล ได้เข้าศึกษาในอีกสามปีต่อมาเมื่อจบการศึกษา จัดสันกลับไปยังบ้านเกิด และได้เปิดสถาบันการศึกษาและผลิดตำราสองเล่ม แต่เขาก็ไม่มีความสุข ได้เดินทางไปท่องโลกมุ่งสู่เมืองนิวยอร์กเพื่อเป็นนักเขียน

แต่เขาก็ไปได้ไม่นานก็กลับมายังบ้าน เดือน กันยายน ปี1808 เขารู้สึกตื่นเต้นกับเมืองพลิมัธและได้ถวายตัวเรียนพระคริสตธรรมในนิวอิงแลนด์ ไม่นานจัดสันได้แต่งงานกับคุณแอนน์ แฮสเซสทีน และเขาทั้งสองได้เริ่มทำงานในการร่วมงานกับแบปทิสต์ถึงงานมิชชันในประเทศอินเดีย

พันธกิจที่พม่า[แก้]

เมื่อการเดินทางไปถึงอินเดียกลับพบกับอุปสรรคหลายอย่างทั้งสองจึงได้มุ่งไปสู่ประเทศพม่า และได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ขององค์การแบปทิสต์ ในย่างกุ้งตามลำพัง อุปสรรค์ที่ทั้งสองต้องพบเจอคือภาษาเขียนและเครืองหมายวรรค การแบ่บช่องไฟระหว่างคำ พม่าไม่มีทัศนะเกี่ยวกับเรื่องของพระคริสต์ แต่ไม่นานมากทั้งสองได้ย้ายที่อยู่ไปอยู่กับคุณฮาวพร้อมลูก ๆ แต่เป็นสิ่งที่ดีเมื่อไปอาศัยอยู่ที่นั้นไม่นาน อโดนิแรมก็ได้พิมพ์พระคัมภีร์ที่ได้แปลทีละเล็กที่ละน้อย ในเวลาเพียงสองปี ไม่นานทั้งไรทั้งสองก็ได้ย้ายที่เพื่อความสะดวกในการพบปะกับชาวพม่าในที่ใจกลางเมือง แต่ทั้งสองก็ขาดเงินทุน การขาดเงินทุนไม่ได้ทำให้ทั้งสองหยุดในการรับใช้พระเจ้า ไม่นานเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1819 หม่องเนาก็รับเชื่อพระคริสต์และสิ่งที่อโดนิแรมได้ทำก็เริ่มโตขึ้นช้า ๆ ถึงกระนั้นการเข้าไปอยู่ตรงนั้นถึงจากมีอุปสรรค์ ก็ตาม

ปลายชีวิตของอโดนิแรมกับครอบครัว[แก้]

การข่มขู่จากเจ้าหน้าที่รัฐบาลและคุณแนนซี (เป็นชื่อเล่นของคุณแอนน์) ป่วยเป็นไข้และต้องเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อโดนิแรมเลิกแปลพระคัมภีร์ แต่กลับแปลพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่จนจบเล่มภายในเวลาไม่ถึงปี แต่อย่างไรก็ตามไม่นานก็เกิดสงคราม อโดนิแรมกับมิชชันนารีไพรซ์ถูกจับข้อหาเป็นสายลับ ถูกคุมขังคุกแดนประหาร ต้องเจอกับความยากลำบากในคุกหายปี จนเดือนพฤศจิกายน 1815 ก็ได้รับการปล่อยตัวเพื่อเป็นล่ามในการเจรจาสงบศึกกับอังกฤษ แต่ก็น่าเสียใจที่ภรรยาและลูกก็ต้องจากอโดนิแรมไป แต่อโดนิแรมก็ได้ใช้โอกาศในการแปลพระคัมภีร์ภาษาพม่าและพิมพ์ในปี 1840 และแต่งงานใหม่กับซาราห์และทั้งสองก็มีลูก 8 คนและซาราห์เสียชีวิต เมื่ออโดนิแรม ได้กลับถึงบ้านเกิด อโดนิแรมก็ได้ไปเทศน์ที่ต่าง ๆ ก็ได้รู้จักกับเอมิลี ชับบ็อก นักเขียนนิยายและทั้งสองก็ได้แต่งงานกันและได้ไปรับใช้ด้วยกันที่ประเทศพม่า 3 ปี ในฤดูใบไม้ผลิของปี 1850 ขณะที่ เอมิลีมิลี ใกล้จะให้กำเนิดลูก อโดนิแรมป่วยหนักได้ลงเรื่อออกเดินทางหวังว่าเขาจะได้รับการรักษาให้หาย ต่อมาไม่ถึงสัปดาห์ อโดนิแรมก็เสียชีวิตและถูกฝังในทะเลและภรรยาของเขาได้พาลูก ๆ ไปอยู่ในสหรัฐแต่ไม่นานเธอก็เสียชีวิตลงเมื่ออายุ 33 ปี

อ้างอิง[แก้]

  • รูธ เอ. ทัคเกอร์ "จากเยรูซาเล็มสู่ปลายแผ่นดินโลก" สำนักพิมพ์ กนกบรรณสาร พิมพ์ครั้งที่1 สิงหาคม 1999