สงครามครูเสดครั้งที่ 3

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สงครามครูเสดครั้งที่ 3
ส่วนหนึ่งของ สงครามครูเสด

พระเจ้าริชาร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษเดินทางไปเยรูซาเลม. James William Glass (1850).
วันที่11 พฤษภาคม ค.ศ.1189 – 2 กันยายน ค.ศ.1192
สถานที่
ส่วนใหญ่เกิดที่ลิแวนต์และอานาโตเลีย
ผล

Treaty of Jaffa

  • ทหารครูเสดชนะ สงบศึกเป็นเวลา 3 ปี
  • จัดสรรบริเวณที่มีสถานะ status quo ซึ่งรวมไปถึงให้ชาวมุสลิมครองเยรูซาเลมต่อ และรื้อฟื้นรัฐนักรบครูเสดแห่งลิแวนต์.
  • ผู้แสวงบุญทั้งชาวคริสต์และชาวมุสลิมสามารถเดินทางผ่านลิแวนต์โดยปราศจากอาวุธ
  • จักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สวรรคต
ดินแดน
เปลี่ยนแปลง
  • พวกครูเสดยึดไซปรัส และก่อตั้งราชอาณาจักรไซปรัส
  • พวกครูเสดสามารถยึดชายฝั่งลิแวนต์ ตั้งแต่ไทร์ถึงญัฟฟาคืนมาได้
  • พวกครูเสดยึดTiberias และที่ดอนบางส่วนคืนจากพวกมุสลิม
  • คู่สงคราม

    ครูเสด:

    รัฐนักรบครูเสดแห่งลิแวนต์:

    นักรบครูเสด:

    พันธมิตรแห่งคริสเตียนตะวันออก:

    กองทัพมุสลิม:


    ศัตรูแห่งคริสเตียนตะวันออก:

    ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ

    ครูเสด:

    รัฐนักรบครูเสดแห่งลิแวนต์:

    นักรบครูเสด:

    พันธมิตรแห่งคริสเตียนตะวันออก:

    กองทัพมุสลิม:

    ศัตรูแห่งคริสเตียนตะวันออก:

    กำลัง

    ทหาร 80,000–85,000 นาย (โดยประมาณ)

    • 32,000 นาย มาจากรัฐนักรบครูเสดและยุโรป[1]
    • 17,000 นาย เป็นชาวอังกฤษ/นอร์มัน/เวลส์[2]
    • 17,000+ นาย เป็นชาวฝรั่งเศส[1][3]
    • 12,000–15,000 นาย มาจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์[4]
    • 2,000 นาย เป็นชาวฮังการี[5]
    อัยยูบิด: 40,000 นาย (ทหารของเศาะลาฮุดดีนมีแค่ 1189 นาย (โดยประมาณ) เท่านั้น)[6]
    ซัลจูค: 22,000+ (ทหารของ Qutb al-Din มีแค่ 1190 นายเท่านั้น)[7][8]
    การล้อมเมืองเอเคอร์” ระหว่างปี ค.ศ. 1189 ถึงปี ค.ศ. 1191

    สงครามครูเสดครั้งที่ 3 หรือ สงครามครูเสดกษัตริย์(อังกฤษ: Third Crusade หรือ Kings' Crusade) (ค.ศ. 1189-ค.ศ. 1192) เป็นสงครามครูเสด[9][10]ที่ฝ่ายผู้นำยุโรปพยายามกู้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากศอลาฮุดดีน (Salāh al-Dīn Yūsuf ibn Ayyūb).

    หลังจากความล้มเหลวของสงครามครูเสดครั้งที่ 2 ราชวงศ์เซนกิด (Zengid dynasty) ก็เข้าครอบครองซีเรียและสร้างความขัดแย้งกับฟาติมียะห์ผู้ปกครองอียิปต์ที่เป็นผลที่ทำให้อียิปต์และซีเรียรวมตัวกันภายใต้การนำของศอลาฮุดดีนผู้ใช้อำนาจในการลดอำนาจของรัฐคริสเตียนและยึดเยรูซาเลมในปี ค.ศ. 1187 ด้วยความมุ่งมั่นในความเป็นคริสเตียนที่ดีสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ และ พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งฝรั่งเศสก็ทรงยุติความบาดหมางกัน เพื่อจะร่วมกันนำสงครามครูเสดครั้งใหม่ (แม้ว่าการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ในปี ค.ศ. 1189 จะต้องทำให้ผู้นำฝ่ายอังกฤษต้องเปลี่ยนไปเป็นสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษแทนที่) สมเด็จพระจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ผู้มีพระชนมายุสูงแล้วก็ทรงรวบรวมกำลังพลและนำกองทัพอันใหญ่โตเดินทางไปยังอานาโตเลียแต่ไปทรงจมน้ำตายเสียก่อนที่จะถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทหารเป็นจำนวนมากที่หมดกำลังใจก็พากันเดินทางกลับ

    หลังจากที่ได้รับชัยชนะหลายครั้งฝ่ายคริสเตียนก็ทะเลาะกันเรื่องทรัพย์สินที่ได้จากสงคราม เลโอโปลด์ที่ 5 ดยุคแห่งออสเตรีย (Leopold V, Duke of Austria) และพระเจ้าฟิลิปหมดความอดทนกับพระเจ้าริชาร์ดก็เดินทางต่อไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1191 เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1192 พระเจ้าริชาร์ดและศอลาฮุดดีนก็ตกลงในสนธิสัญญาที่มีผลทำให้เยรูซาเลมอยู่ภายใต้การครอบครองของมุสลิมแต่นักแสวงบุญคริสเตียนผู้ไม่ถืออาวุธสามารถเดินทางเข้าไปในเมืองเพื่อทำการสักการะได้ พระเจ้าริชาร์ดเสด็จออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ความล้มเหลวในการยึดเยรูซาเลมคืนนำมาซึ่งสงครามครูเสดครั้งที่ 4 หกปีต่อมา

    อ้างอิง[แก้]

    1. 1.0 1.1 Hosler 2018, p. 72.
    2. Tyerman, page 436
    3. Frank McLynn. "Richard and John: Kings at War." Page 219.
    4. Loud 2010, p. 19.
    5. Hunyadi, Zsolt (2011), A keresztes háborúk világa, p. 41.
    6. Hosler 2018, p. 54.
    7. Tyerman p.422: "After desperate fighting involving the Emperor himself, the Turks outside the city were defeated [by the Imperial and Hungarian army], apparently against numerical odds."
    8. Loud 2010, p. 104: the Seljuks lost 5,000+ men per their own bodycount estimates on May 7, 1190, soon before the Battle of Iconium.
    9. CATHOLIC ENCYCLOPEDIA: Crusades[1]
    10. The Crusades[2] เก็บถาวร 2009-02-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน

    ดูเพิ่ม[แก้]

    แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

    วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สงครามครูเสดครั้งที่ 3