ร่ม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ร่มหลากสี

ร่ม เป็นเครื่องใช้สำหรับกันแดดกันฝน มีด้ามยาวสำหรับถือ และส่วนบนเป็นแผ่นโค้ง ขอบกลมเหมือนดอกเห็ด ทำจากกระดาษหรือผ้า ลักษณะเฉพาะที่สำคัญของร่มคือ สามารถหุบเก็บได้ จึงพกพาได้สะดวก ลักษณนามว่า คัน

ประวัติ[แก้]

ร่มที่เรียกว่า Umbrella มีรากศัพท์มาจากคำว่า Umbra ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลว่า "บังแดด" เกิดขึ้น เมื่อราว 3,400 ปีก่อน ในดินแดนเมโสโปเตเมีย ซึ่งเป็นดินแดนที่ร้อนระอุตลอดทั้งปี จึงมีการใช้ร่มบังแดด

ชาวกรีกได้รับเอาวัฒนธรรมการกางร่มมาจากอียิปต์ ซึ่งเชื่อกันว่า ท้องฟ้าคือร่างกายของเทพธิดานามว่า "นัต" ซึ่งปกคลุมโลกดุจร่มอันมหึมา มนุษย์จึงได้คิดสร้างร่มขึ้นไว้เป็นตัวแทนของเทพธิดานัต เพื่อใช้ปกป้องคุ้มครองผู้ที่อยู่ใต้ร่มเงา ผู้ที่จะกางร่มได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น

จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้ที่กางร่มส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นผู้หญิง เพราะเนื่องจากว่าผู้ชายกลัวที่จะโดนสบประมาทว่าอ่อนแอ จึงไม่ค่อยมีใครนิยมกางร่มเท่าใดนัก จนในปี ค.ศ.1750 โจนาส แฮนเวย์ ชายชาวอังกฤษ เป็นชายคนแรกที่ลุกขึ้นมาพกร่ม ท่ามกลางเสียงเย้ยหยันของคนรอบข้าง แต่เขาไม่สนใจ และยังยืนยันว่าจะพกร่มต่อไป จนกระทั่งการพกร่มเป็นที่ยอมรับของคนอังกฤษไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

[1]

ได้มีการจดบันทึกทางประวัติศาสตร์ไว้ว่า ร่มขนาดใหญ่ที่ใช้บังแดด (sun protecting Parasol) มีต้นกำเนิดมาจากชาวอียิปต์โบราณ เมื่อประมาณ 3,500 ปีมาแล้ว โดยเริ่มแรกนั้นจะใช้ใบปาล์มติดกับแกนถือและใช้กันเฉพาะในกลุ่มขุนนางสังคมชั้นสูง กลุ่มผู้นำศาสนา และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวร่มถูกมองเป็นสัญลักษณ์และกลุ่มขุนนางสังคมชั้นสูงจะมีวัฒนธรรมความเชื่อว่าต้องมีผิวสีขาวซีด ไม่โดนแดด[2]

ลักษณะของร่ม[แก้]

ร่มประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คึอ ส่วนด้าม ส่วนตัวร่ม และส่วนซี่ร่ม

  • ด้ามร่ม ทำจากวัสดุยาว สำหรับยึดตัวร่ม และเป็นด้ามจับ ส่วนปลายจึงมักทำให้มีขนาดใหญ่ หรืองอโค้ง เพื่อจับได้สะดวก มีทั้งที่ทำจากโลหะ และไม้
  • ตัวร่ม ทำจากกระดาษอาบน้ำยากันฝน และผ้าชนิดที่กันฝนได้ (เรียกทั่วไปว่า ผ้าร่ม) แผ่เป็นวงกลม ยึดวางอยู่บนซี่ร่ม หรือโครงร่ม
  • ซี่ร่ม ซี่ร่มเป็นส่วนสำคัญของร่ม ที่ทำให้ร่มพับเก็บได้ มีขนาดเล็กยึดต่อกันเป็นท่อนๆ พับเข้าออกได้ บ้างก็ เป็นแบบท่อนเดียว หุบร่มได้อย่างเดียว บ้างก็เป็นแบบสองท่อน หุบร่มแล้ว ยังพับซ้อนลงไปได้อีก ทำให้เมื่อพับแล้วมีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก

ร่มชนิดต่างๆ[แก้]

ร่มที่ใช้กันโดยทั่วไป เป็นร่มกันแดดกันฝน สำหรับใช้คนเดียว หรือสองคนเป็นอย่างมาก สามารถกันแดด และกันฝนได้ แต่นอกจากนี้ ยังมีร่มสำหรับใช้ประโยชน์อื่นๆ เช่น

  • ร่มชายหาด : เป็นร่มขนาดใหญ่ มีด้ามยาวและใหญ่ ปักไว้ตามชายหาด สำหรับกันแดดให้นักท่องเที่ยวขณะนอนบนชายหาด
  • ร่มแม่ค้า : เป็นร่มขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับร่มชายหาด มักใช้กันแดดกันฝนตามแผงขายของในตลาดนัด ริมทางเท้า หรือในที่ต่างๆ ใช้ปักในแท่นที่หนัก เพื่อกันล้ม
  • ร่มสนามกอล์ฟ เป็นร่มสำหรับใช้ถือ มีขนาดใหญ่และด้ามยาวกว่าร่มปกติเล็กน้อย มีระบบลู่ลมเพื่อให้ ก้านร่มไม่หักเมื่อต้องเจอกับลมแรงที่สนามกอล์ฟ
  • ร่มพับ เป็นร่มที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย สามารถพับเก็บได้ มักใช้สำหรับการพกพาเพื่อกันแดดและฝน[3]

การใช้งานอื่นๆ[แก้]

ปัจจุบันมีการใช้ร่มเพื่อประโยชน์อื่นๆ นอกเหนือจากการใช้กันแดดกันฝน เช่น ใช้ประดับในสวน ตกแต่งบ้าน ร่มขนาดเล็กสำหรับแปรอักษร ร่มติดข้อความโฆษณาสินค้า

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]