มาร์ค ลิงคัส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาร์ค ลิงคัส
ลิงคัสแสดงคอนเสิร์ท ณ เมือง Richmond, Virginia เดือนเมษายน ค.ศ.1992
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดFrederick Mark Linkous
เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ.1962
Arlington, Virginia
เสียชีวิตวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.2010 (aged 47)
Knoxville, Tennessee
แนวเพลงLo-fi, indie rock, alt-country, bluegrass, folk, psychedelic
อาชีพนักดนตรี,นักร้อง-นักแต่งเพลง,อัลบั้มโปรดิวเซอร์
เครื่องดนตรีร้อง,กีตาร์,เปียโน
ช่วงปีค.ศ.1985–2010
ค่ายเพลงCapitol/EMI
Astralwerks/Caroline/Virgin/EMI
Konkurrent
Combat
Relativity
Anti-/Epitaph
เว็บไซต์sparklehorse.com

มาร์ค ลิงคัส (Mark Linkous) เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ.1962 เสียชีวิต 6 มีนาคม ค.ศ.2010 เคยเป็นนักร้อง,นักเขียนเพลง,นักดนตรีและเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในบทบาทของวงสปาร์กเกิลฮอร์ส ทั้งนี้มาร์คยังเป็นที่รู้จักจากการร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายๆคน อาทิเช่น ทอม เวทส์,แดเนียล จอนสตัน,เรดิโอเฮด,แบล็ค ฟรานซิส,จูเลียน คาซาบลังกา,นินา เพอร์ซัน,เดวิด ลินช์,เดนเจอรัสเมาส์,เซจ ฟรานซิส ลิงคัสเคยเป็นสมาชิคของวงแดนซิง ฮูดส์ วงอินดี้ยุค80 พวกเขาได้ย้ายจากเวอร์จิเนีย เมืองบ้านเกิดไปสู่นิวยอร์กซิตี้และต่อมา เมืองลอสแอนเจลิสด้วยความหวังว่าจะประสพความสำเร็จในวงกว้าง ในปีค.ศ.1988 วงของเขาไม่ประสพความสำเร็จในการทำสัญญากับค่ายใหญ่ พวกเขายุบวงและมาร์คเดินทางกลับเวอร์จิเนีย ที่ที่เขาเริ่มต้นเขียนเพลงภาพใต้ชื่อวงต่างๆกันไป ในปี 1995 ลิงคัสได้ก่อตั้งวง สปาร์คเกิลฮอร์ส Sparklehorse วงที่เขาเป็นสมาชิคถาวรเพียงผู้เดียว วงนี้ได้ออกอัลบั้มเพียงสี่อัลบั้ม แต่ทุกๆอัลบั้มของเขาได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดีจากผู้ฟังและนักวิจารณ์ อัลบั้มที่ออกกับค่าย Capital Records ได้แก่ Vivadixiesubmarinetransmissionplot, Good Morning Spider,It's a Wonderful Life และจากค่าย Astralwerks records อัลบั้ม Dreamt for Light Years in the Belly of a Mountain ในช่วงสุดท้ายของเขา ลิงคัสใช้ชีวิตอยู่ใน Hayesville,North Carolina ที่ที่เขาก่อตั้ง Static Kingstudio ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.2010 เขาฆ่าตัวตายในเมือง Knoxville, Tennessee

ในช่วงต้นของชีวิต[แก้]

เฟรเดอริค มาร์ค ลิงคัส เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ.1962 ใน Arlington, Virginia กับ กลอเรีย ฮิวจ์แทคเกอร์ กับเฟรเดอริค ลิงคัส เขามีพี่ชายสามคน: แมตต์, พอลและแดเนียล ลิงคัส สมาชิกหลายคนในครอบครัวของเขาหาเลี้ยงชีพจากการเป็นคนงานเหมืองถ่านหิน และลิงคัสเลือกเป็นนักดนตรีเพราะไม่ต้องการที่จะทำงานในเหมือง พ่อแม่ของเขาหย่ากัน ก่อนที่เขาจะอายุ 13 ในเวลาต่อมา ลิงคัสได้บรรยายถึงลักษณะตัวเขาเองในวัยรุ่นว่าเป็น "juvenile delinquent" (เด็กและวัยรุ่นที่ทำตัวผิดระเบียบ) ทั้งยังใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนแก๊งมอเตอร์ไซค์ของเขา ในช่วงวัยรุ่น เขาถูกส่งไปอยู่กับปู่ย่าใน Charlottesville, Virginia ลิงคัส เข้าเรียนมัธยมในโรงเรียน แอลบามาร์ลไฮสกูล ที่ที่เขา"ไปโรงเรียนเพื่อจะเจอเพื่อนๆ - นี่เป็นแค่เหตุผลเดียวที่ฉันไม่เลิกเรียนกลางคัน" ระหว่างนั้นเขาเริ่มที่จะใช้สุราและกัญชาอย่างหนัก

Dancing Hoods[แก้]

ไม่นานหลังจากที่จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในปี 1980 ลิงคัสย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ก ที่ที่เขาร่วมก่อตั้งวงดนตรีแดนซิงฮูด เขาทำหน้าที่ร้องและเล่นกีตาร์ Bob Bortnick ร้องและเล่นกีตาร์ Don Short ทำหน้าที่เล่นกลองชุด และ Eric Williams เล่นเบส ในปี 1984 พวกเขาได้ออก อีพีในชื่อเดียวกันกับชื่อวง ในปีต่อมาพวกเขาได้ออกอัลบั้ม 12 Jealous Roses กับ Relativity Records ซึ่งอัลบั้มนี้ค่อนข้างได้รับคำวิจารณ์ไปในทางที่ดี ในปี1988 วงแดนซิลฮูดส์ ออกอัลบั้มที่สอง Hallelujah Anyway กับ Combat Records ซิงเกิลจากอัลบั้มนี้ "Baby's Got Rockets" เป็นที่นิยมอย่างปานกลางในวิทยุมหาลัย และมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ถูกเลือกโดย เอ็มทีวี ในช่วง 120 Minutes ในปีเดียวกันพวกเขาได้ย้ายไปอยู่เมือง ลอสแอนเจลิสด้วยความหวังว่าจะประสพความสำเร็จในระดับสากล แต่กลับวงแตกในช่วงสั้นๆหลังจากนั้น

Sparklehorse[แก้]

หลังจากการแยกย้ายของวงแดนซิงฮูดส์ ลิงคัสย้ายกลับมาอยู่ที่เมืองเวอร์จิเนียที่ที่เขาเขียนเพลงต่อไป ในช่วงนั้นเขาได้เขียนเพลงเพลงหนึ่งกับ David Lowery "Sick of Goodbyes" มันถูกนำไปใช้และบันทึกเสียงโดยวง Cracker เพลงนี้ได้ออกมาในปี 1993 กับอัลบั้ม Kerosene Hat ระหว่างนั้นเขาก็แสดงคอนเสิร์ทภายใต้ชื่อวง The Johnson Family และวง Salt Chunk Mary และในท้ายที่สุดลิงคัสได้ตัดสินใจใช้ชื่อ Sparklehorse และในปีค.ศ.1995 เขาได้ปล่อยอัลบั้ม Vivadixiesubmarinetransmissionplot กับ Capitol Records ลิงคัสเป็นสมาชิคประจำเพียงคนเดียวตลอดการมีอยู่ของวง ในปี ค.ศ.1996 ระหว่างที่ลิงคัสออกทัวร์ในนามของวงสปาร์คเกิลฮอร์สโดยการเป็นวงเปิดให้กับวงเรดิโอเฮด เขาได้เสพ สุรา,แวเลียม และยาต้านโรคซึมเศร้าเกินขนาดในโรงแรมที่ลอนดอนเป็นเหตุทำให้เขาหมดสติล้มทับขาของตัวเอง ในท่าท่านั้นค้างอยู่เป็นเวลาเกือบสิบสี่ชั่วโมง ลิงคัสได้รับการรักษาในโรงพยาบาล St. Mary's Hospital กรุงลอนดอน แพทย์สามารถรักษาขาทั้งสองข้างของเขา แต่ลิงคัสต้องนั่งรถเข็นเป็นเวลาหกเดือน ขาของเขาไม่สามารถใช้การได้อย่างเดิม ในปี ค.ศ.1998 เขาได้ออกอัลบั้ม Good Morning Spider บางเพลงในอัลบั้มนี้ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากอุบัติเหตุที่ลอนดอนและการเลิกยาของเขา อาทิเช่น เพลง St. Mary อัลบั้มต่อมาของ ลิงคัส ถูกปล่อยออกมาในปีค.ศ.2001 ในนาม It's a Wonderful Life อัลบั้มซึ่งเขาร่วมงานกับ Tom Waits, PJ Harvey, John Parish, Nina Persson, Vic Chesnutt และ Dave Fridmann ในปี 2003 เพลง Sea of Teeth ถูกใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ของเรื่อง All the Real Girls นำแสดงโดย Zooey Deschanel กำกับโดย David Gordon Green ในปี 2009 ลิงคัส ได้ร่วมงานกับนักดนตรีแนวอิเล็กโทรนิคแอมเบียนท์ Christian Fennesz ทำอัลบั้ม In The Fishtank 15 พวกเขาได้สร้างอัลบั้มอีพีที่ เพ้อฝัน ล่องลอยและเต็มไปด้วยการทดลอง พวกเขาได้ออกทัวร์ด้วยกันใน ยุโรปซึ่งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปี ค.ศ.2009 ช่วงที่ลิงคัสเสียชีวิต ผู้จัดการของเขาได้ยืนยันว่าลิงคัสได้ ทำอัลบั้มใหม่ของเขาเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว และเขากำลังอยู่ในกระบวนการที่จะย้ายไปเมือง Knoxville Tennessee และเขากำลังอยู่ในช่วงของการจัดและเตรียมการสตูดิโอใหม่ที่ซึ่งลิงคัสวางแผนที่จะปิดอัลบั้มของเขา

งานอื่นๆ[แก้]

นอกเหนือไปจากงานเพลงของเขาแล้ว ลิงคัสได้กลายเป็นโปรดิวเซอร์ที่ศิลปินหลายคนต้องการจะร่วมงานด้วย อย่างเช่น อัลบั้มเดี่ยวของ Nina Persson "A Camp" และอัลบั้ม Fear Yourself ของ Daniel Johnston ลิงคัสยังเป็นหนึ่งในเป็นผู้สนับสนุนที่กระตือรือล้นของจอนสตั้น ศิลปินวงนอกผู้ที่ต้องต่อสู้อย่างยาวนานกับอาการป่วยทางจิต ในปีค.ศ.2004 ลิงคัสได้ทำการคัดเลือกและผลิตอัลบั้ม The Late Great Daniel Johnston : Discovered Covered ทริบิวท์อัลบั้มให้จอนสต้นด้วยศิลปินอาทิเช่น Beck,Death Cab for Cutie,Vic Chesnutt,Tom Waits และBright Eyes และยังรวมไปถึงเพลง Go ที่เขาได้ร่วมทำกับ The Flaming Lips ลิงคัสยังให้เพลง Love the Lie ในอัลบั้ม Life กับนักร้องแร็พ Sage Francis อัลบั้มนี้ออกมาหลังจากการเสียขีวิตของเขา

การเสียชีวิต[แก้]

ลิงคัสเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายโดยการยิงเข้าที่หัวใจขณะที่ออกไปเดินเล่นแถวบ้านเพื่อนในเมือง Knoxville ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.2010 เวลาบ่ายโมงยี่สิบนาที ตามคำบอกเล่าของโฆษกกรมตำรวจ ลิงคัสอยู่กับเพื่อนสองคน เพื่อนของเขากล่าวว่าลิงคัสขึ้นไปชั้นบน หลังจากนั้นไม่นานเขาบอกว่าจะออกไปเดินเล่นและออกไปทางประตูหลังบ้าน พยานเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่าลิงคัสนั่งอยู่ในตรอกไกล้กับถนนเออร์วิน ชักปืนไรเฟิลออกมาแล้วยิงเข้าที่หน้าอกตัวเอง เขาเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ตำรวจไม่พบจดหมายลาตายแต่ได้บอกกับนักข่าวว่า ลิงคัสมีปัญหาส่วนตัว ตัวแทนของเขาได้ยืนยันการเสียชีวิตกับสื่อต่างๆในวันเดียวกัน


แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

แม่แบบ:Sparklehorse

[[วิกิพีเดีย:|ข้อมูลบุคคล]]
ชื่อ Linkous, Mark}
ชื่ออื่น
รายละเอียดโดยย่อ
วันเกิด September 9, 1962
สถานที่เกิด Arlington, Virginia
วันตาย March 6, 2010
สถานที่ตาย Knoxville, Tennessee