ดมีตรี ชอสตโกวิช

ดมีตรี ชอสตโกวิช
ดมีตรี ชอสตโกวิช
	Дмитрий Шостакович
	ชอสตโกวิชในปี 1958
เกิด	25 กันยายน ค.ศ. 1906; เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก, จักรวรรดิรัสเซีย
เสียชีวิต	9 สิงหาคม ค.ศ. 1975 (68 ปี); มอสโก, สหภาพโซเวียต
อาชีพ	นักแต่งเพลง; นักเปียโน; ครู;
ผลงาน	ดูที่รายชื่อผลงาน
บุตร	กาลีนา และ แม็กซิม ชอสตโกวิช
ลายมือชื่อ

บทความนี้อ้างอิงคริสต์ศักราช/คริสต์ทศวรรษ/คริสต์ศตวรรษ ซึ่งเป็นสาระสำคัญของเนื้อหา

ดมีตรี ดมีตรีเยวิช ชอสตโกวิช (อังกฤษ: Dmitri Dmitrievich Shostakovich ; รัสเซีย: Дмитрий Дмитриевич Шостакович ; 25 กันยายน ค.ศ. 1906 - 9 สิงหาคม ค.ศ. 1975) เป็นคีตกวีชาวรัสเซีย ในยุสมัยสหภาพโซเวียตเรืองอำนาจ ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาส่วนใหญ่เป็นซิมโฟนี และสตริงควอร์เต็ต อย่างละ 15 บท หลังจากที่เขาเสียชีวิต ความเห็นของเขาที่มีต่อชีวิตในสหภาพโซเวียตได้กลายมาเป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง และความขัดแย้งทางดนตรี ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในภาษาเยอรมันว่า "Dmitri Schostakowitsch" อันเนื่องมาจากการที่เขาได้นำชุดตัวโน้ต DSCH (ซึ่งหมายถึง ตัว เร-มีแฟลต-โด-ที ในระบบตัวโน้ตของเยอรมัน และชื่อย่อของเขาในภาษาเยอรมัน) มาใช้เป็นเอกลักษณ์ทางดนตรีของตนเอง

ชอสตโกวิชมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับรัฐบาลโซเวียต ถูกทางการประณามบทเพลงของเขาถึงสองครั้ง ใน ค.ศ. 1936 และ ค.ศ. 1948 และห้ามแสดงผลงานของชอสตโกวิชเป็นช่วง ๆ และในเวลาเดียวกัน เขาได้รับรางวัลมากมาย และรางวัลสถานะ และใช้สำหรับในสภานิติบัญญัติของโซเวียต ทั้ง ๆ ที่การโต้เถียงเป็นทางการ เขายังคงประพันธ์ผลงานของเขาที่ประเทศโซเวียตที่ได้รับความนิยมส่วนมากในการอ้างอิงมิติของเขาที่ต้องการ

หลังจากอิทธิผลเกี่ยวกับระยะเวลาโดยมี เซียร์เกย์ โปรโคเฟียฟ และอีกอร์ สตราวินสกี (ซิมโฟนี่หมายเลข 1) ชอสตโกวิชได้เปลี่ยนรูปแบบทางดนตรีสู่สมัยใหม่ (ซิมโฟนี่หมายเลข 2) ก่อนการพัฒนาลักษณะลูกผสมกับอุปรากรเรื่อง "Lady Macbeth " และซิมโฟนีหมายเลข 4 ลักษณะลูกผสมแบบดนตรีแนว Neo-Classic (คลาสสิกใหม่) กับอิทธิพลของสตราวินสกี้ เพื่อวางแนวเพลงเกี่ยวกับเรื่องความรัก (กับลักษณะแบบมาเลอร์ที่มีต่ออิทธิพล) ของเขา ที่รวมถึงใช้อย่างมากเพราะเพลงแนวคลาสสิกใหม่นี้ จะทำให้กลมกลืนได้เช่นนี้หรือ? อย่างฮินเดมิธ (Hindemith) และ โปรโคเฟียฟ (Prokofiev) เพลงของเขารวมถึงความตรงกันข้ามกับความอัจฉริยะ และการประสานเสียงที่แปลกแหวกแนวบ่อย ๆ

ชอสตโกวิชมีความภูมิใจในการประพันธ์ ลักษณะล้ำไปกว่าผลงานของกุสตาฟ มาห์เลอร์ (Gustav Mahler) คีตกวีชาวออสเตรีย และนีโคไล ริมสกี-กอร์ซากอฟ (Nikolai Rimsky-Korsakov) ซึ่งผลงานงานยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาที่ถูกคิดว่าโดยทั่วไปคือซิมโฟนี่ชิ้นใหญ่ ผลงานสตริงควอร์เต็ทและอื่น ๆ รวมถึงอุปรากร คอนแชร์โต เพลงประกอบภาพยนตร์ ฯลฯ ความกดดันที่ขัดแย้งของความต้องการเป็นทางการ ที่ได้รับความทุกข์ของเพื่อน ๆ ของเขา และทางความคิดส่วนบุคคลของเขา จึงทำให้ชอสตโกวิชประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์ภาษาแห่งดนตรีของพลังอารมณ์ใหญ่ของเขาที่เกินความคาดหมาย

ประวัติ[แก้]

ช่วงแรกของชีวิต[แก้]

สถานที่เกิดของชอสตโกวิช ปัจจุบันเป็นโรงเรียนแห่งที่ 267 และแผ่นจารึกที่อยู่ของชอสตโกวิช

ชอสตโกวิชเกิดที่บ้านเลขที่ 2 ถนนปาโดสกายา ในกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก เป็นบุตรคนที่ 2 ในพี่น้อง 3 คน ของ Dmitri Boleslavovich Shostakovich และ Sofiya Vasilievna Shostakovich ครอบครัวของเขาเป็นคนใจกว้าง ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน (สิ่งหนึ่งของลุงของเขา คือพวกสังคมนิยมที่เข้าปกครองรัสเซีย แต่ครอบครัวยังปกป้องเกี่ยวกับพวกหัวรุนแรงด้านขวาไกล) เมื่อชอสตโกวิชยังวัยเยาว์นั้น ได้เป็นที่กล่าวขวัญเขาว่าเป็นเด็กอัจฉริยะเพราะเขาเล่นเปียโนได้ดีมาก โดยเชื่อว่าอาจจะเป็นพรสวรรค์ของเขาอย่างเด่นชัด หลังจากที่เขาเริ่มเรียนเปียโนเมื่ออายุ 9 ขวบ และใน ค.ศ. 1918 ชอสตโกวิชแต่งเพลง Funeral March (เพลงเกี่ยวกับการแห่ศพ) โดยมีความทรงจำของสองผู้นำในงานสังสรรค์ Kadet Party โจรกรรมโดยกะลาสีเรือพวกสังคมนิยมที่เข้าปกครองรัสเซีย ในปี ค.ศ. 1919 อย่างไรก็ตาม เขาได้รับความทุกข์สำหรับสังเกตของเขา ขาดแคลนความกระตือรือร้นเกินไปเกี่ยวกับการเมือง และล้มเหลวอย่างเริ่มต้นการสอบของเขาในมาร์คหลักการในปี ค.ศ. 1926 ความสำเร็จแห่งดนตรีหลักแรกของเขาคือ ซิมโฟนี่หมายเลข 1 เขียนเช่นเดียวกับชิ้นการสำเร็จเป็นบัณฑิตของเขาเมื่ออายุเพียง 20 ปี

หลังจากการสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตแล้ว เขาเริ่มงานด้วยการเป็นนักเปียโนและประพันธ์เพลง แต่สไตล์แห้ง ๆ ของเขานั้น (เขาลงความเห็นการยับยั้งอารมณ์ของเขา และ"หมุดย้ำเป็นจังหวะ") บ่อย ๆ เขาแต่ทว่า ชอสตโกวิชได้ชนะเลิศการแข่งขันเปียโนน่าเคารพนับถือกล่าวถึงที่ เมื่อปี ค.ศ. 1927 ที่กรุงวอร์ซอว์ชื่อเมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ในการแข่งขันเปียโนระหว่างประเทศ หลังจากการแข่งขันเปียโนแล้ว ชอสตาโกวิชได้พบกับวาทยกร บรูโน วาลเตอร์ (Bruno Walter) ซึ่งประทับใจซิมโฟนี่หมายเลข 1 อย่างมาก แต่ไม่รู้ว่า ผลงานนี้เป็นของใคร และใครเป็นผู้ประพันธ์ขึ้นมา? ที่ว่าเขาชักนำเมืองเบอร์ลินในเยอรมันแรกเริ่มปีนั้น ต่อจากนั้น ชอสตโกวิชที่สิ่งที่อัดแน่นบนการประกอบเป็นส่วนต่าง ๆ ทั้งหมด และการปฏิบัติข้อจำกัดอย่างสำคัญให้เหล่านั้นของงานด้วยตัวเองของเขาเอง ในปี ค.ศ. 1927 ชอสตโกวิชได้ประพันธ์ซิมโฟนีหมายเลข 2 หรือ "October" ขณะที่ชอสตาโกวิชกำลังประพันธ์อยู่นั้น เขายังเริ่มประพันธ์ Satirical และอุปรากรของเขา อาศัยเรื่องราวของนิโคไล โกกอล

ในปี ค.ศ. 1927 ยังทำเครื่องหมายการเริ่มของความสัมพันธ์ของผู้แต่ง กับ Ivan Sollertinsky ซึ่งยังคงเพื่อนใกล้ชิดที่สุดของเขา จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1944 Sollertinsky ได้แนะนำชอสตโกวิชเล่นเพลงของกุสตาฟ มาห์เลอร์ (Gustav Mahler) ซึ่งมีอิทธิพลในด้านเพลงของเขาจากซิมโฟนี่หมายเลข 4 ของเขาเอง ปี ค.ศ. 1932 ได้แต่งงานกับ Nina Varzar และต้องจบลงเพราะการใช้ชีวิตความลำบากเริ่มต้นทำให้การหย่าร้างกันไปในปี ค.ศ. 1935

ในปี 1930 ก่อนปี 1920 ชอสตโกวิชได้ทำงานที่รถราง โรงภาพยนตร์เยาวชนกรรมการ ถึงแม้ว่าเขาทำงานเล็กน้อยในไปรษณีย์นี้ก็จริง แต่มันป้องกันเขาเนื่องจากเกี่ยวกับความนึกคิดโจมตีกับการปฏิวัติสหภาพโซเวียตมาก ระยะเวลานี้ถูกใช้จนหมดกับการเขียนอุปรากรเรื่อง Lady Macbeth of the Mtsensk Distric ครั้งแรกที่ถูกปฏิบัติในปี 1934 และเสร็จสมบูรณ์ทันที และได้รับชื่อเสียงอย่างมากของนโยบายที่ถูกต้องของงานอันสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นั้นอุปรากร “ถูกเขียนเฉพาะโดยผู้แต่งประเทศโซเวียตที่แนะนำในธรรมเนียมที่ดีที่สุดของวัฒนธรรมประเทศโซเวียต"

ต้องข้อกล่าวหาครั้งแรก[แก้]

ภาพการ์ตูนล้อเลียนชอสตโกวิช ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของสตาลิน

ในปี ค.ศ. 1936 ชอสตโกวิช ต้องตกอยู่ในสภาพที่ถูกโจมตีอย่างหนัก และเป็นปีที่เริ่มการโจมตีชอสตโกวิชบนหนังสือพิมพ์ทางการของคอมมิวนิสต์และรายได้ของชอสตโกวิชตกมากเพียง 3 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด ซิมโฟนีหมายเลข 4 ชอสตโกวิชได้เริ่มการซ้อมซิมโฟนี่หมายเลข 4 ในเดือนธันวาคมนั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองที่ทำการปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ มันไม่ถูกปฏิบัติจนกระทั่งปี ค.ศ. 1961 แต่ชอสตโกวิชไม่บอกปัดงาน

ในปี 1936 ได้ริเริ่มทำเครื่องหมายความหวาดกลัว และซึ่งเพื่อนของชอสตโกวิชจำนวนมากมายต้องถูกจำคุกหรือไม่ก็ฆ่า และต้องการปลอบโยนปลอบขวัญชอสตโกวิช และในระยะเวลานี้คือวันเกิดของลูกสาวของเขา Galina ในปี 1936 แต่ชอสตโกวิชได้เขียนข้อความ ความจริงคือลูกชายของเขา การตอบสนองทางดนตรีนั้น ทำให้ชอสตโกวิชได้ประพันธ์เพลงซิมโฟนี่หมายเลข 5 และโดนประณามผลงานของชอสตโกวิช ในปี 1937 ซึ่งนักอนุรักษนิยมแห่งดนตรีเห็นความสำคัญมากกว่างานล่าสุดของชอสตโกวิชจนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก และยังคงมีสิ่งหนึ่งของงานที่ได้รับความนิยมส่วนมากของชอสตโกวิช เวลานี้ชอสตโกวิชได้ประพันธ์ผลงานสตริงควอร์เต็ท แล้วให้คนเล่นทดลองเล่นดูปรากฏว่า แสดงแนวความคิดสิ่งซึ่งจะรับไม่ได้ในสาธารณะมากกว่า และในเดือนกันยายนปี ค.ศ. 1937 เขาเริ่มสอนการประกอบส่วนต่าง ๆ ทั้งหมดที่ห้องกระจกสำหรับปลูกต้นไม้ ซึ่งอยู่ภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัยเรื่องการเงินจำนวนหนึ่งซึ่งไม่เป็นอุปสรรคต่องานในเชิงประดิษฐ์ด้วยตัวเขาเอง

สงคราม[แก้]

การระเบิดออกของสงครามระหว่างรัสเซียและเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1941 ชอสตโกวิชได้เริ่มลงมือแต่งเพลงซิมโฟนีหมายเลข 7 "เลนินกราด" ในระหว่างการปะทุระเบิดสงครามอยู่นั้น ชอสตโกวิชมิได้สนใจกับสงครามเลย ชอสตโกวิชลงมือประพันธ์เพลงอย่างเดียว ซิมโฟนี่หมายเลข 7 (Leningrad) ที่เขาแจกจ่ายให้แก่ความพยายามการโฆษณาท่ามกลางสหภาพโซเวียตเป็นวิกฤติยามการริเริ่มสงคราม และการส่งให้วิทยุเผยแพร่ที่ผู้คนประเทศโซเวียตฟังในเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 1941 ชอสตโกวิชและครอบครัวของเขาอพยพไปถึง Kuybishev และซิมโฟนีหมายเลข 7 ก็เสร็จสมบูรณ์ ต่อมา มันถูกรับเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านเกี่ยวกับรัสเซียผู้คนที่ทั้งสองในชื่อทางการของประเทศโซเวียตและในตะวันตก

ฤดูใบไม้ผลิในปี 1943 ครอบครัวของชอสตโกวิชได้ย้ายสู่กรุงมอสโคว์ ขณะที่ซิมโฟนีหมายเลข 7 ได้ประกาศชัยชนะอย่างกล้าหาญ ดิ้นรนต่อต้านภัยพิบัติ ต่อมา ชอสตโกวิชลงมือประพันธ์เพลงซิมโฟนีหมายเลข 8 อีกชิ้น ของปีนี้ ล่าสุด บางทีในการบอกล่วงละเมิดรุนแรงภายในผลลัพธ์ของชอสตโกวิช ส่งผลให้ชอสตโกวิชต้องถูกห้ามนำผลงานออกแสดงเป็นอันขาด จนกระทั่งปี ค.ศ. 1960 ในความตรงกันข้าม ถ้าลักษณะดนตรีแบบไฮเดิน เหน็บแนมการเขียนล้อเลียน ซึ่งไม่ทำให้ทำให้พอใจและต้องข้อเรียกร้อง "เพลงร้องแห่งชัยชนะ" ชอสตโกวิชก็ดำเนินต่อไปเพื่อประพันธ์เพลงจำพวกเชมเบอร์ คือเพลง Piano Trio No.2 ซึ่งประกอบด้วยนักเปียโน 1 คน นักไวโอลิน 1 คน และเชลโล่ 1 คน ชอสตโกวิชได้อุทิศให้ Sollertinsky เพื่อนของชอสตโกวิช ในความทรงจำครั้งก่อนของเขากับชีวิตอันขมขื่น

ต้องข้อกล่าวหาครั้งที่สอง[แก้]

เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์[แก้]

บั้นปลายของชีวิต[แก้]

เครื่องอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ[แก้]

วีรชนแรงงานแห่งสังคมนิยม (1966)
เครื่องอิสริยาภรณ์เลนิน (1946, 1956, 1966)
เครื่องอิสริยาภรณ์การปฏิวัติเดือนตุลาคม (1971)
เครื่องอิสริยาภรณ์ธงแดงแห่งแรงงาน (1940)
เครื่องอิสริยาภรณ์มิตรภาพประชาชน (1972)
ศิลปินประชาชนแห่งสหภาพโซเวียต (1954)
ศิลปินประชาชนแห่งรัสเซียโซเวียต (1948)
รางวัลเลนิน (1958 – จากผลงาน 11th symphony "1905")
รางวัลสตาลิน สำหรับศิลปิน (1941 – ชั้นที่ 1 จากผลงาน Piano Quintet; 1942 – ชั้นที่ 1 จากผลงาน the 7th ("Leningrad") Symphony; 1946 – ชั้นที่ 2 จากผลงาน Trio; 1950 – ชั้นที่ 1 จากผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ วสเตรชานาเอลเบ; 1952 – ชั้นที่ 2 จากผลงาน 10 poems for chorus)
รัฐรางวัลสหภาพโซเวียต (1968 – จากผลงาน "The Execution of Stepan Razin" for bass, chorus and orchestra)
Glinka State Prize of the RSFSR (1974 – จากผลงาน 14th string quartet and choral cycle "Fidelity")
National Prize of Ukraine Taras Shevchenko (ได้รับย้อนหลัง, 1976 )

ผลงาน[แก้]

เรียงตามโอปุส ผลงานตั้งแต่ช่วงแรกถึงวัยบั้นปลายชีวิตของชอสตโกวิช

Childhood and Youth (1906-1924)

Opus 1-9

Opus 1: Scherzo F sharp minor for orchestra]] (1919)
Opus 2: Eight Preludes for piano]] (1919-1920)
Opus 2B: Minuet, Prelude and Intermezzo for piano (1919-1920)
Opus 2C: Murzilka for piano (1920)
Opus 2D: Five Preludes for piano (1920-1921)
Opus 2E: Orchestration of "I Waited in the Grotto" by Rimsky-Korsakov for soprano and orchestra (1921)
Opus 3: Theme and Variations B flat major for orchestra (1921-1922)
Opus 3B: Transcription of Theme and Variations B flat major for solo piano (1921-1922)
Opus 4: "Two Fables of Krilov" for mezzo-soprano, female chorus and chamber-orchestra (1922)
Opus 4B: Transcription of "Two Fables of Krilov" for mezzo-soprano and piano (1922)
Opus 5: "Three Fantastic Dances" for piano (1922)
Opus 6: Suite F sharp minor for two pianos (1922)
Opus 7: Scherzo E flat major for orchestra (1923-1924)
Opus 7B: Transcription of Scherzo E flat major for solo piano (1923-1924)
Opus 8: Trio for violin, cello and piano No. 1 (1923)
Opus 9: Three pieces for cello and piano (1923-1924)

The Young Composer Established (1925-1935)

Opus 10-42

Opus 10: Symphony No. 1 F minor (1924-1925)
Opus 11: Prelude and Scherzo for string octet (or stringorchestra) (1924-1925)
Opus 12: Piano Sonata No. 1 (1926)
Opus 13: "Aphorisms", ten pieces for piano (1927)
Opus 14: Symphony No. 2 B major "To October" with chorus (1927)
Opus 14B: Reduction of the choral score of Symphony No. 2 for voices and piano (1927)
Opus 15: "The Nose", opera in 3 acts after Gogol (1927-1928)
Opus 15A: Suite from "The Nose" for tenor, baritone and orchestra (1927-1928)
Opus 15B: Reduction of the accompaniment of "The Nose" for piano (1927-1928)
Opus 16: "Tahiti-Trot" for orchestra (1928)
Opus 17: Two Pieces by Scarlatti for windorchestra (1928)
Opus 18: Music to the Silent Film "New Babylon" for small orchestra (1928-1929)
Opus 18B: Suite from "New Babylon" for orchestra (1976)
Opus 19: Music to the Comedy "The Bedbug" by Mayakovsky (1929)
Opus 19B: Suite from "The Bedbug" for orchestra (1929)
Opus 19C: Arrangement of Music to "The Bedbug" for piano (1929)
Opus 20: Symphony No. 3 E flat major "The First of May" with chorus (1929)
Opus 20B: Reduction of Symphony No. 3 for solo piano including a vocal score of the final chorus (1929)
Opus 21: Six Romances on Words by Japanese Poets for tenor and orchestra (1928-1932)
Opus 21B: Six Romances on Words by Japanese Poets for tenor and piano (1928-1932)
Opus 22: "The Golden Age", ballet in 3 acts (1929-1930)
Opus 22A: Suite from "The Golden Age" for orchestra (1929-1930)
Opus 22B: Polka from "The Golden Age" for solo piano (1935)
Opus 22C: Polka from "The Golden Age" for piano four hands (1962)
Opus 23: Two Pieces for Erwin Dressel's Opera "Armer Columbus" for orchestra (1929)
Opus 24: Music to the Play "The Gunshot" by Bezymensky (1929)
Opus 25: Music to the Play "Virgin Soil" by Gorbenko and L'vov (1930)
Opus 25B: Transcription of "Symphony of Psalms" by Strawinsky for two pianos (1930)
Opus 26: Music to the Film "Alone" (1930-1931)
Opus 26B: Suite from "Alone" for orchestra (1930-1931)
Opus 27: "The Bolt", ballet in 3 acts (1930-1931)
Opus 27A: Suite from "The Bolt" for orchestra (1931)
Opus 28: Music to the Play "Rule, Britannia!" by Piotrovsky (1931)
Opus 29: "Lady Macbeth of the Mtsensk District", opera in 4 acts after Leskov (1930-1932)
Opus 29A: Suite from "Lady Macbeth of the Mtsensk District" for orchestra (1930-1932)
Opus 29B: Passacaglia from an Entr'acte to "Lady Macbeth of the Mtsensk District" for organ (1930-1932)
Opus 30: Music to the Film "Golden Mountains" (1931)
Opus 30A: Suite from "Golden Mountains" for orchestra (1931)
Opus 30B: Two Pieces for string quartet (1931)
Opus 30C: "The Green Company", overture (1931)
Opus 31: Music to the Stage Revue "Hypothetically Murdered" by Voyevodin and Riss (1931)
Opus 31A: Orchestration of "Hypothetically Murdered" (1992)
Opus 31B: Reduction of the Music to "Hypothetically Murdered" for piano (1931)
Opus 32: Music to the Play "Hamlet" by Shakespeare (1931-1932)
Opus 32A: Suite from "Hamlet" for small orchestra (1932)
Pieces from the Play "Hamlet", transcribed for piano
Opus 32B: "From Karl Marx to Our Own Days", symphonic poem for solo voices, chorus and orchestra (1932)
Opus 32C: "The Big Lightning", comic opera (1932)
Opus 33: Music to the Film "Counterplan" (1932)
Opus 33B: "Song about the Oncoming Train" and "My Heart's Aching and Moaning" from "Counterplan" for voice and piano (1956)
Opus 33C: "We meet this Morning (The Song of the Young Workers) " from "Counterplan" for voice and piano (1956)
Opus 34: Twenty-Four Preludes for piano (1932-1933)
Opus 34B: Transcription of "Twenty-Four Preludes" for violin and piano (1932-1933)
Opus 34C: Transcription of "Twenty-Four Preludes for orchestra (1932-1933)
Opus 34D: Transcription of Prelude opus 34 No. 14 for orchestra (1932-1933)
Opus 35: Concerto No. 1 C minor for piano, trumpet and orchestra (1933)
Opus 35B: Reduction of Piano Concerto No. 1 for two pianos (1933)
Opus 36: Music to the Trickfilm "The Tale of the Priest and His Worker Balda" for chamber orchestra (1933-1934)
Opus 36B: Suite from "The Tale of the Priest and his Worker Balda" (1935)
Opus 37: Music to the Play "The Human Comedy" after Balzac for small orchestra (1933-1934)
Opus 38: Music to the Film "Love and Hate" (1934)
Opus 38B: Suite for jazz orchestra No. 1 (1934)
Opus 39: "The Limpid Stream", ballet in 3 acts (1934-1935)
Opus 39B: Suite from "The Limpid Stream" for orchestra (1934-1935)
Opus 39C: Moderato from "The Limpid Stream" for cello and piano (1934-1935)
Opus 40: Sonata D minor for cello and piano (1934)
Opus 40B: Moderato for cello and piano (1934)
Opus 41: Music to the Film "The Youth of Maxim" (1934-1935)
Opus 41A: Music to the Film "Girl Friends" (1934-1935)
Opus 42: Five Fragments for small orchestra (1935)

Criticism and the Response to Criticism (1936-1940)

Opus 43-59

Opus 43: Symphony No. 4 C minor (1935-1936)
Opus 43B: Reduction of Symphony No. 4 for two pianos (1935-1936)
Opus 44: Music to the Play "Hail, Spain" by Afinogenov (1936)
Opus 44A: Music to the Play "Hail, Spain" by Afinogenov, arranged for piano (1936)
Opus 45: Music to the Film "The Return of Maxim" (1936-1937)
Opus 46: Four Romances on Verses by Pushkin for bass and piano (1936-1937)
Opus 46B: Orchestration of "Four Romances on Verses by Pushkin for bass and orchestra (1936-1937)
Opus 46C: Arrangement of Nos. 1, 2 and 3 of Four Romances on Verses by Pushkin for bass and stringorchestra (1936-1937)
Opus 47: Symphony No. 5 D minor (1937)
Opus 47B: Reduction of Scherzo (Allegretto) of Symphony No. 5 for solo piano (1937)
Opus 48: Music to the Film "Volochayev Days" (1936-1937)
Opus 48B: Orchestration of "Internationale" by Degeyter (1937)
Opus 48C: "The Twelve Chairs", operetta (1937-1938)
Opus 49: String Quartet No. 1 C major (1938)
Opus 49A: Transcription of String Quartet No. 1 for orchestra (1938)
Opus 50: Music to the Film "The Vyborg District" (1938)
Opus 50A: Suite from "The Maxim Film-Trilogy" for orchestra and chorus (1938)
Opus 50B: Suite for jazz orchestra No. 2 (1938)
Opus 51: Music to the Film "Friends" (1938)
Opus 51B: "Vocalise" from "Friends" for unaccompanied chorus (1938)
Opus 52: Music to the Film "The Great Citizen", first part (1938)
Opus 53: Music to the Film "The Man with a Gun" (1938)
Opus 53B: Lenin Symphony for soli, chorus and orchestra (1938-1939)
Opus 54: Symphony No. 6 B minor (1939)
Opus 55: Music to the Film "The Great Citizen", second part (1939)
Opus 56: Music to the Trickfilm "The Silly Little Mouse" (1939)
Opus 56A: Seven Finnish Folk Songs for soprano, tenor and small orchestra (1939)
Opus 57: Piano Quintet G minor (1940)
Opus 58: Orchestration of the Opera "Boris Godunov" by Mussorgsky (1939-1940)
Opus 58A: Music to the Play "King Lear" by Shakespeare (1940)
Opus 58B: Reduction of "King Lear" for piano (1940)
Opus 58C: "Songs of the Fool" and "Ballad of Cordelia" from "King Lear" for voice and piano (1940)
Opus 58D: Orchestration of "Wiener Blut" by Strauss (1940)
Opus 58E: Orchestration of "The Excursion Train Polka" by Strauss (1940)
Opus 58F: Orchestration of 27 Romances and Songs Arrangements (1941)
Opus 58G: "The Oath to the People's Commissar" for bass, chorus and piano (1941)
Opus 58H: "The Fearless Regiments Are On the Move", marching song with simple accompaniment for bayan or piano (1941)
Opus 58I: Polka for harp duet F sharp minor (1941)
Opus 59: Music to the Film "The Adventures of Korzinkina" (1940)
Opus 59B: Suite from "The Adventures of Korzinkina" (1940)
Opus 59C: Three Pieces for solo violin (1940)
Opus 59D: "Katyusha Maslova", opera after Tolsty's novel "Resurrection" (1940)

The War Years - A Respite (1941-1945)

Opus 60-72

Opus 60: Symphony No. 7 C major "Leningrad" (1941)
Opus 61: Piano Sonata No. 2 B minor (1942)
Opus 62: Six Romances on Verses by English Poets for bass and piano (1942)
Opus 62A: Six Romances on Verses by English Poets for bass and orchestra (1943)
Opus 63: Music to the Spectacle "Native Country", suite "Native Leningrad" (1942)
Opus 63B: Piece of the Opera "The Gamblers" after Gogol (1941-1942)
Opus 63C: Solemn March for military band/wind orchestra (1942)
Opus 63D: "Patriotic Song" after Dolmatovsky for voice (s) (1943)
Opus 63E: "Song About the Red Army" after Golodny (1943)
Opus 63F: Orchestration of Eight British and American Folk Songs for voice (s) and orchestra (1943)
Opus 63G: Russian Folk Songs for chorus (1943)
Opus 63H: Three Russian Folk Songs for two soloists and chorus with piano accompaniment (1943)
Opus 64: Music to the Film "Zoya" (1944)
Opus 64A: Suite from "Zoya" for chorus and orchestra (1944)
Opus 64B: "She Was Born a Brave Girl in Her Homeland" from "Zoya" for voice and piano (1944)
Opus 65: Symphony No. 8 C minor (1943)
Opus 66: Music to the Spectacle "Russian River" for soloists, choir and orchestra (1944)
Opus 66A: "Football" from the Spectacle "Russian River", reduction for piano
Opus 66B: Orchestration of Fleishman's Chamber-Opera "Rothschild's violin" after Chekhov (1944)
Opus 67: Trio for violin, cello and piano No. 2 E minor (1944)
Opus 68: String Quartet No. 2 A major (1944)
Opus 69: "Children's Notebook", six pieces for piano (1944-1945)
Opus 70: Symphony No. 9 E flat major (1945)
Opus 70B: Reduction of Symphony No. 9 for piano four hands (1945)
Opus 71: Music to the Film "Simple People" (1945)
Opus 72: Two Songs to the Spectacle "Victorious Spring" after Svetlov for voices and orchestra (1945)
Opus 72B: Accompaniment of Nos. 1 and 2 of "Victorious Spring", arranged for piano (1945)

The Final Years of Stalinism (1946-1952)

Opus 73-92

Opus 73: String Quartet No. 3 F major (1946)
Opus 73A: Transcription of String Quartet No. 3 for strings and woodwinds (1946)
Opus 73B: Reduction of String Quartet No. 3 for two pianos (1946)
Opus 74: "Poem of the Motherland", cantata for mezzosoprano, tenor, two baritones, chorus and orchestra (1947)
Opus 75: Music to the Film "The Young Guards" after Fadeyev's novel (1947-1948)
Opus 75A: Suite from "The Young Guards" (1951)
Opus 76: Music to the Film "Pirogov" after German (1947)
Opus 76A: Suite from "Pirogov" for orchestra (1947)
Opus 76B: Three Pieces for orchestra (1947-1948)
Opus 77: Violin Concerto No. 1 A minor (1947-1948)
Opus 77B: Reduction of Violin Concerto No. 1 for violin and piano (1947-1948)
Opus 78: Music to the Film "Michurin" (1948)
Opus 78A: Suite from "Michurin" for chorus and orchestra (1964)
Opus 78B: "Rayok" (Little Paradise) for four voices, chorus and piano (1948)
Opus 79: "From Jewish Folk Poetry", song cycle for soprano, contralto, tenor and piano (1948)
Opus 79A: "From Jewish Folk Poetry", song cycle for soprano, contralto, tenor and small orchestra (1948)
Opus 80: Music to the Film "Meeting on the Elbe" for voices and piano (1948)
Opus 80A: Suite from "Meeting on the Elbe" for voices and orchestra (1948)
Opus 80B: Three Songs from "Meeting on the Elbe" for voice and piano (1956)
Opus 81: "Song of the Forests", oratorio after Dolmatovsky for tenor, basssoli, mixed & boys' chorus and orchestra (1949)
Opus 81B: "In the Fields Stand the Collective Farms" from "Song of the Forests" for children's chorus and mixed chorus (1960)
Opus 81C: "A Walk into the Future" from "Song of the Forests" for voice and piano (1962)
Opus 82: Music to the Film "The Fall of Berlin" (1949)
Opus 82A: Suite from "The Fall of Berlin" for chorus and orchestra (1950)
Opus 82B: "Beautiful Day" from "The Fall of Berlin", song for two-part children's chorus and piano (1950)
Opus 82C: "Vocalise" from "The Fall of Berlin", song for s.a.t.b. chorus a cappella (1950)
Opus 83: String Quartet No. 4 D major (1949)
Opus 83A: Transcription of String Quartet No. 4 for orchestra (1949)
Opus 83B: Reduction of String Quartet No. 4 for two pianos four hands (1949)
Opus 84: Two Romances on Verses by Lermontov for male voice and piano (1950)
Opus 84B: Ballet Suite No. 1 for orchestra (1949)
Opus 84C: Merry March for two pianos (1949)
Opus 84D: Tarantella for two pianos (1949)
Opus 85: Music to the Film "Byelinsky" for orchestra and chorus (1950)
Opus 85A: Suite from "Byelinsky" for chorus and orchestra (1960)
Opus 85B: Four Choruses from the Music to "Byelinsky" for s.a.t.b. chorus a cappella (1950)
Opus 86: Four Songs to Words by Dolmatovsky for voice and piano (1951)
Opus 86B: "The Homeland Hears" for chorus and tenor soloist with wordless chorus (1951)
Opus 86C: "Ten Russian Folk Song Arrangements" for soprano, alto, tenor, bass, mixed chorus and piano (1951)
Opus 87: Twenty-Four Preludes and Fugues for piano (1950-1951)
Opus 87B: Arrangement of No. 15 of "Twenty-Four Preludes and Fugues" for two pianos (1963)
Opus 87C: Arrangement of No. 8 of "Twenty-Four Preludes and Fugues" for orchestra (1990)
Opus 87D: Transcription of "Twenty-Four Preludes and Fugues" for violin and piano (1990)
Opus 88: Ten Poems on Texts by Revolutionary Poets for chorus and boys' chorus a cappella (1951)
Opus 89: Music to the Film "The Unforgettable Year 1919" (1951)
Opus 89A: Suite from "The Unforgettable Year 1919" for orchestra (1953)
Opus 89B: Ballet Suite No. 2 for orchestra (1951)
Opus 89C: Two Pieces from "Ballet Suite No. 2" for cello and piano (1951)
Opus 90: "The Sun Shines on Our Motherland", cantata after Dolmatovsky for mixed & boys' chorus and orchestra (1952)
Opus 90B: Reduction of the Accompaniment of "The Sun Shines on Our Motherland" for piano (1952)
Opus 91: Four Monologues on Verses by Pushkin for bass and piano (1952)
Opus 91B: Orchestration of "Four Monologues on Verses by Pushkin" for bass and orchestra (1952)
Opus 91C: "Seven Doll's Dances" for piano (1952)
Opus 91D: Ballet Suite No. 3 for orchestra (1952)
Opus 91E: Greek Songs for voice and piano (1952-1953)
Opus 91F: Ballet Suite No. 4 for orchestra (1953)
Opus 92: String Quartet No. 5 B flat major (1952)

The Thaw (1953-1961)

Opus 93-112

Opus 93: Symphony No. 10 E minor (1953)
Opus 93B: Reduction of Symphony No. 10 for piano four hands (1953)
Opus 94: Concertino for two pianos A minor (1953)
Opus 95: Music to the Film "Song of the Great Rivers" (1954)
Opus 95B: "Poem of Labour" from "Unity", arranged for mixed chorus and orchestra (1954)
Opus 95C: Two Songs from "Unity" ("A Song of Unity" and "Peaceful Labour"), arranged for voice and piano (1954)
Opus 95D: Waltz from "Unity" for orchestra (1954)
Opus 95E: Music to the Play "Hamlet" by Shakespeare (1954)
Opus 95F: "Pendozalis", Greek Song for voice and piano (1954)
Opus 95G: "October Dawn", song for soloists and chorus (1954)
Opus 96: Festive Overture A major for orchestra (1954)
Opus 97: Music to the Film "The Gadfly", based on the novel by Voynich (1955)
Opus 97A: Suite from "The Gadfly" for orchestra (1955)
Opus 97B: "Tarantella" from "The Gadfly" for two pianos (1955)
Pieces from "The Gadfly" for organ
Opus 97C: Four Waltzes for flute, clarinet and piano (1955)
Opus 97D: Three Violin Duets for two violins with piano accompaniment (1955)
Opus 98: Five Romances on Verses by Dolmatovsky for bass and piano (1954)
Opus 98B: "There Were Kisses", song after Dolmatovsky for voice and piano (1954)
Opus 99: Music to the Film "The First Echelon" (1955-1956)
Opus 99A: Suite from "The First Echelon" for chorus and orchestra (1956)
Opus 99B: Two Songs from the Music to "The First Echelon" for voice and piano (1956)
Opus 99C: Eight Waltzes from Film Music, suite for orchestra (1959)
Opus 100: "Spanish Songs" for (mezzo) soprano and piano (1956)
Opus 101: String Quartet No. 6 G major (1956)
Opus 102: Piano Concerto No. 2 F major (1957)
Opus 102B: Reduction of Piano Concerto No. 2 for two pianos (1957)
Opus 103: Symphony No. 11 G minor "The Year 1905" (1957)
Opus 103B: Reduction of Symphony No. 11 for piano four hands (1957)
Opus 104: Cultivation: Two Russian Folk Song Arrangements for chorus a cappella (1957)
Opus 104B: Eleven Variations on a Theme by Glinka for piano (1957)
Opus 105: "Moscow-Cheryomushki", operetta in 3 acts (1958)
Opus 105A: Music to the Film "Cheryomushki" (1962)
Opus 106: Re-orchestration of Mussorgsky's Opera "Khovanshchina" (1959)
Opus 107: Cello Concerto No. 1 E flat major (1959)
Opus 107B: Reduction of Cello Concerto No. 1 for cello and piano (1959)
Opus 108: String Quartet No. 7 F sharp minor (1960)
Opus 109: "Satires (Pictures of the Past) ", Five Romances on Verses by Chorny for soprano and piano (1960)
Opus 109B: Orchestration of "Satires", Five Romances on Verses by Chorny for soprano and orchestra (1960)
Opus 110: String Quartet No. 8 C minor (1960)
Opus 110A: Chamber Symphony C minor (1960)
Opus 111: Music to the Film "Five Days - Five Nights" (1960)
Opus 111A: Suite from "Five Days - Five Nights" for orchestra (1961)
Opus 111B: "Novorossiisk Chimes, the Flame of Eternal Glory" for orchestra (1960)
Opus 112: Symphony No. 12 D minor "The Year 1917" (1961)
Opus 112B: Reduction of Symphony No. 12 for piano four hands (1961)

อ้างอิง[แก้]

Ardov, Michael (2004). Memories of Shostakovich. Short Books. ISBN 1-904095-64-X.
MacDonald, Ian (1990). The New Shostakovich. Northeastern University Press. ISBN 1-55553-089-3.
Shostakovich, Dmitri and Glikman, Isaak (2001). Story of a Friendship: The Letters of Dmitry Shostakovich to Isaak Glikman. Cornell Univ Press. ISBN 0-8014-3979-5.
Shostakovich, Dmitri and Volkov, Solomon (2000). Testimony (7th edition). Proscenium. ISBN 0-87910-021-4.
Volkov, Solomon (2004). Shostakovich and Stalin: The Extraordinary Relationship Between the Great Composer and the Brutal Dictator. Knopf. ISBN 0-375-41082-1.
Wilson, Elizabeth (1994). Shostakovich: A Life Remembered. Princeton University Press. ISBN 0-691-04465-1.
Fay, Laurel (1999). Shostakovich: A Life. Oxford University Press. ISBN 0-19-513438-9.
Ho, Allan and Feofanov, Dmitry (1998). Shostakovich Reconsidered. Toccata Press. ISBN 0-907689-56-6.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

Onno van Rijen's Opus by Shostakovich เก็บถาวร 2011-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน รายชื่อผลงาน
Jon Luebke's Shostakovich Page รายชื่อเพลงและชีวประวัติ
Shostakovichiana รวบรวมงานของชอสตโกวิช
Shostakovich Myths Debunked บทวิจารณ์
Shostakovichiana รวบรวมงานของชอสตโกวิช