โซลาริส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก โอเพนโซลาริส)
ระบบปฏิบัติการโซลาริส
ผู้พัฒนาซัน ไมโครซิสเต็มส์
เขียนด้วยภาษาซี, ภาษาซีพลัสพลัส Edit this on Wikidata
ตระกูลยูนิกซ์
สถานะยังพัฒนาอยู่
รูปแบบ
รหัสต้นฉบับ
ผสม open source / closed source
รุ่นเสถียร11[1] / 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 (2011-11-09); 4545 วันก่อน
แพลตฟอร์ม
ที่รองรับ
SPARC, x86, x86-64
ชนิดเคอร์เนลMonolithic kernel
ส่วนติดต่อผู้ใช้ปริยายJava Desktop System หรือ CDE
สัญญาอนุญาตProprietary software
เว็บไซต์sun.com/solaris/

โซลาริส (อังกฤษ: Solaris) หรือในชื่อเต็ม The Solaris Operating Environment เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แบบยูนิกซ์ ที่พัฒนาโดย ซัน ไมโครซิสเต็มส์

ระบบปฏิบัติการโซลาริส ใช้ได้กับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์สองแบบ คือ แบบ สปาร์ค และแบบ x86 (แบบเดียวกับในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วไป)

รุ่นแรก ๆ ของโซลาริสนั้น ใช้ชื่อว่า ซันโอเอส (SunOS) โดยมีพื้นฐานมาจากยูนิกซ์ตระกูลบีเอสดี แต่ต่อมาในรุ่นที่ 5 ได้เปลี่ยนมาใช้โค้ดของ ซิสเต็มส์ไฟว์ (System V) แทน และเปลี่ยนชื่อมาเป็น โซลาริส ดังเช่นในปัจจุบัน โดยเรียกโซลาริสรุ่นแรกว่า โซลาริส 2 และเปลี่ยนชื่อเรียกของซันโอเอสรุ่นก่อน ๆ เป็น โซลาริส 1.x และหลังจากโซลาริสรุ่น 2.6 ก็ได้ตัด "2." ข้างหน้าออกไป และเรียกเป็น โซลาริส 7 แทน

รุ่นปัจจุบันของโซลาริสคือ โซลาริส 11

การพัฒนาบางส่วนของโซลาริสในอนาคต ขณะนี้ได้พัฒนาในโครงการ โอเพนโซลาริส (OpenSolaris) ซึ่งเป็นโครงการระบบปฏิบัติการแบบโอเพนซอร์ซ

ประวัติ[แก้]

ในปี 1987, AT&T และ SUN ได้ประกาศให้บุคคลทั่วไปทราบว่าได้ร่วมกันทำโปรเจกต์ที่มีความลงตัวและต่างจาก Unix อื่น ๆ ออกมาจำหน่ายในเวลานั้นคือ BSD, System V, and Xenix กลายเป็นที่มาของ Unix System V Release 4 (SVR4). วันที่ 4 กันยายน 1991 SUN ได้ประกาศให้มันเข้ามาแทนที่ BSD-derived Unix, SunOS 4 ซึ่งเป็นพื้นฐานของ SVR4 ที่มีอยู่, เป็นเอกลักษณ์ที่อยู่ภายใน SunOS 5, แต่เปลี่ยนชื่อทางการตลาดว่า Solaris, ในขณะที่ SunOS 4.1.x micro เปลี่ยนชื่อเป็น Solaris 1 จาก SUN, ชื่อ Solaris เกือบจะผูกขาดใช่เรียกทั้ง SVR4-derived SunOS 5.0 ในเวลาต่อมา โดยให้รวบรวมไว้ใน overbrand ใหม่ ยกเว้น SunOS แต่เช่นเดียวกันกับ OpenWindows graphical user interface และ Open Network Computing (ONC) ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง SunOS เวอร์ชันรองลงมาได้ใช้พื้นฐานจาก Solaris และออกสู่ตลาดภายใต้ชื่อ Solaris 2.4, รวบรวมเป็น SunOS 5.4 หลัง Solaris 2.6, โดย SUN ได้วางให้เป็นหมายเลข 2. ไปเรื่อย ๆ Solaris7 รวบรวมเป็น SunOS 5.7 จนถึง SunOS 5.10 จาก Solaris10.Solaris เป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่ออกแบบสำหรับงานด้านโปรแกรม E-commerce

สถาปัตยกรรมที่สนับสนุน[แก้]

Solaris ใช้ร่วมกับ code base เช่น SPARC และ i86pc (ซึ่งรวมถึง x86 and x64) , Solaris มีชื่อเสียงพอสมควรใน symmetric multiprocessing, และ รองรับ CPU ได้อย่างมากมาย และการกำหนดการใช้งานอย่างเข้มงวดจากฮาร์ดแวร์ Sun's SPARC (รวมถึงสนับสนุนจาก 64-bit SPARC ตั้งแต่ Solaris7) ซึ่งทำเป็นแพ็กเกจร่วมกันออกวางตลาด เป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือ, แต่ราคาธรรมเนียมจะมากกว่าราคาสินค้าของฮาร์ดแวร์ PC, อย่างไรก็ตามมันสนับสนุนระบบ x86 ตั้งแต่ Solaris 2.4 จนถึงเวอร์ชันล่าสุด Solaris10 รวมถึงสนับสนุนจาก 64-bit x86 แอฟฟิเคชั่น Solaris7, SUN ยอมให้ CPU 64- bit เป็นสถาปัตยกรรมจาก x86 64, SUN ได้ประโยชน์จาก Solaris อย่างมากจากผู้ใช้ซึ่งเป็นเจ้าของ x64 ซึ่งเป็นพื้นฐานของ AMD Opteron and Intel Xeon รวมทั้งระบบ x86 ที่โรงงานผลิตของ Dell, Hewlett-Packard, and IBM. ในปี 2007 ผู้ขายทั้งหลายดังที่กล่าวมาได้สนับสนุน Solaris สำหรับระบบเครื่องแม่ข่าย x86

  • Dell ได้ทดสอบและยอมรับว่าเหมาะสมและกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ปรากฏบนเมนูของ Dell
  • IBM ยังเลือก Solaris x86 เป็นระบบพื้นฐานของระบบเครื่องแม่ขาย
  • Intel
  • Hewlett Packard

การสนับสนุนแพลต์ฟอร์มอื่น ๆ[แก้]

โซลาลิสเวอร์ชัน 2.5.1 รองรับแพลต์ฟอร์ม PowerPC แต่คุณลักษณะนี้ถูกยกเลิกจากโซลาลิสก่อนเวอร์ชัน 2.6 จะออกสู่ตลาด

ในเดือนมกราคม 2006 นักพัฒนาจากเว็บไซต์ Blastwave เริ่มที่จะทำการพอร์ทโซลาริสให้สนับสนุนแพลต์ฟอร์ม PowerPC อีกครั้งโดยใช้ชื่อว่า Polaris

ในปี 1997 มีการประกาศว่า Solaris จะรองรับสถาปัตยกรรม Itanium ของ Inter แต่ Solaris เวอร์ชันนี้ไม่เคยออกสู่ตลาด

ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2007 IBM, Sun และ Sine Nomine Associated เผยบางส่วน OpenSolaris ที่รองรับ System z ที่รันบน System z เมนเฟรมของ IBM โดยใช้ชื่อว่า Sirius

วันที่ 17 ตุลาคม 2008 Sirius ตัวต้นแบบถูกเข็นออกสู่ตลาด

และ Solaris สามารถที่จะรันไบนารี่ของ Linux บนแพลต์ฟอร์ม x86 โดยคุณลักษณะนี้มีชื่อว่า Solaris Containers for Linux Applications หรือ SCLA

ภาพรวมของเดสค์ทอป[แก้]

Solarisรุ่นล่าสุดที่ใช้ OpenWindows เป็นเดสค์ทอป ใน Solaris ที่ 2.0 ถึง2.2, OpenWindows ที่สนับสนุนทั้งข่าว และ applications, และภายใต้เงื่อนไข backward compatibility สำหรับ SunView จากdesktop environment. SUN ได้สนับสนุนข่าวและ SunView applications: OpenWindows 3. 3 (ซึ่งติดมาด้วยกับ Solaris 2.3) คือพอร์ตของ X11 สมาชิกของCOSE, เป็น Open Software ที่เกี่ยวกับการริเริ่มที่ SUN พัฒนาจาก Desktop ธรรมดา CDE มาเป็น Unix desktop ผู้ขายแต่ละอันจะสนับสนุนส่วนประกอบแตกต่างกันโดย Hewlett- Packard จะจัดการส่วน window manager, IBMจัดการส่วน file manager Sun จะจัดการส่วน e- mail และปฏิทินและสนับสนุนการลากและวาง (ToolTalk ). Solaris 2.5 สนับสนุนCDE, และ OpenWindows ถูกวางบน Solaris 9 Solaris 98/ 03 ยังแนะนำ GNOME 2.0 เป็นทางเลือกของCDE Solaris 10 สนับสนุนระบบเดสค์ทอปภาษาจาวา (Java Desktop System) , สิ่งซึ่งอาศัยพื้นฐานบน GNOME และที่มา กับ applicationsรวมถึงStarOffice SUN บรรยาย JDSว่าเป็น"ส่วนประกอบหลัก"ของ Solaris 10 .

ลิขสิทธิ์[แก้]

Solaris ซอสโค้ดกับ Exception เล็กน้อย ถูกเผยแพร่ภายใต้ลิขสิทธิ์แบบ Common Development and Distribution License (CDDL) โดยใช้ชื่อว่า OpenSolaris ซึ่ง CDDL เป็นลิขสิทธิ์ที่รับรองโดย OSI (Opensource Initative)

Free Software foundation ถือว่าโซลาลิสเป็นซอร์ฟแวร์ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ไม่สามารถเข้าได้กับลิขสิทธิ์แบบ GPL

โครงการ OpenSolaris เริ่มต้นในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2005 โดยพัฒนามาจากโค้ดของ Solaris โดยสามารถที่จะโหลดโค้ดต้นฉบับหรือไบนารี่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ปรับคุณลักษณะใหม่ เช่น การรองรับ Xen จะกลายเป็นคุณลักษณะพื้นฐาน Opensolaris ในเวอร์ชันต่อ ๆ ไป Sun ยังกล่าวอีกว่า Solaris ในเวอร์ชันต่อ ๆ ไปจะได้รับแรงผลักดันจากโครงการ OpenSolaris เป็นหลัก

เวอร์ชัน[แก้]

ความสามารถที่โดดเด่นของ Solaris ประกอบไปด้วย DTrace, Doors, Service Management Facility, Solaris Containers, Solaris Multiplexed I/O, Solaris Volume Manager, ZFS, and Solaris Trusted Extensions.เวอร์ชันต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้

Solaris version SunOS version Release date Major New Features
Solaris 10 SunOS 5.10 31January 2005 ส่วนที่สนับสนุนประกอบด้วยx64 (AMD64/EM64T) , DTrace (Dynamic Tracing) , Solaris Containers, Service Management Facility (SMF) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสคริป, NFSv4. Least privilege เป็นโมเดลรักษาความปลอดภัย. สนับสนุน sun4m และ UltraSPARC. สนับสนุนเอา EISA-based PCs removed ออก. เพิ่ม Java Desktop System (บนพื้นฐาน GNOME) default desktop.

•Solaris 10 1/06 เพิ่ม GRUB bootloader สำหรับระบบx86 และสนับสนุน iSCSI.

•Solaris 10 6/06 เพิ่ม filesystem ZFS.

•Solaris 10 11/06 เพิ่มชนิด Solaris และLogical Domains.

Solaris 10 8/07 เพิ่ม Samba ที่สนับสนุนการแอคทีฟของไดเรคทอรี, ตัวอย่างIP, สนับสนุนเป้าหมายของiSCSI และเก็บข้อมูล Solaris สำหรับ Linux Applications (บนพื้นฐาน branded zones).

Solaris 9 SunOS 5.9 28พฤษภาคม 2002 (SPARC)

10 มกราคม 2003 (x86)

ใช้iPlanet เป็นไดเรคทอรีเครื่อง Server, จัดการทรัพยากร, Solaris Volume Manager, ขยายลักษณะไฟล์, IKE IPsec, และเพิ่มความเข้ากันได้ของ Linux; ทั้งการวางOpenWindows, เอา sun4dออก. จะอัปเดตให้ Solaris 9 9/05เป็นปัจจุบัน.
Solaris 8 SunOS 5.8 กุมภาพันธ์ 2000 รวบรวม Multipath I/O, IPMP, สนับสนุน IPv6 และIPsec (แมนนวลทั้งหมด) เป็นครั้งแรก, ใช้โมดูล mdb ในการแก้ไข. แนะนำ Role-Based Access Control (RBAC) ; ยกเลิกสนับสนุน sun4c. อัปเดตล่าสุดใน Solaris 8 2/04.
Solaris 7 SunOS 5.7 พฤศจิกายน 1998 ออก 64-bit UltraSPARC เป็นรุ่นแรก. เพิ่มการสนับสนุน file system meta-data logging (UFS logging).

วาง MCA สนับสนุนบนรูปแบบ x86 . อัปเดตล่าสุดใน Solaris 7 11/99.

Solaris 2.6 SunOS 5.6 กรกฎาคม 1997 รวบรวม Kerberos 5, PAM, ตัวอักษรTrueType, WebNFS, สนับสนุนไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ เพิ่ม procfs.

สนับสนุน SPARCserver 600MP

Solaris 2.5.1 SunOS 5.5.1 พฤษภาคม 1996 สนับสนุนเฉพาะรูปแบบ PowerPC เท่านั้น; เพิ่มการสนับสนุนUltra Enterprise; user และ group IDs (uid_t, gid_t) ขยายเป็น 32 bits, ยังรวมถึงการเซทโปรเซสเซอร์ และสนับสนุนทรัพยากรเทคโนโลยีตั้งแต่เนิ่น ๆ
Solaris 2.5 SunOS 5.5 พฤศจิกายน 1995 สนับสนุน UltraSPARC เป็นครั้งแรก และรวมไปถึง CDE, NFSv3 และ NFS/TCP. สนับสนุน sun4 (VMEbus) .

POSIX.1c-1995 เพิ่ม pthreads . เพิ่มทางเข้าแต่ไม่เพิ่ม document

Solaris 2.4 SunOS 5.4 พฤศจิกายน 1994 ออกวาง SPARC/x86 เป็นครั้งแรก. รวมถึงสนับสนุน runtime OSF/Motif.
Solaris 2.3 SunOS 5.3 พฤศจิกายน 1993 SPARC-only release. OpenWindows 3.3 เปลี่ยนจาก NeWS เป็น Display PostScript และสนับสนุนSunView

สนับสนุนและเพิ่มสำหรับ autofs และ cachefs filesystems.

Solaris 2.2 SunOS 5.2 พฤษภาคม 1993 ออกวางเฉพาะ SPARC เท่านั้น. สนับสนุนสถาปัตยกรรม sun4d เป็นครั้งแรก. สนับสนุน multithreading libraries

(UI threads API in libthread)

Solaris 2.1 SunOS 5.1 ธันวาคม 1992 (SPARC)

พฤษภาคม 1993 (x86)

สนับสนุน sun4 และเพิ่มสถาปัตยกรรม sun4m; ออกวางSolaris x86 เป็นครั้งแรก. Solaris 2 สนับสนุน SMP เป็นครั้งแรก.
Solaris 2.0 SunOS 5.0 มิถุนายน 1992 ออกวางตลาดครั้งแรก, สนับสนุนสถาปัตยกรรม sun4c เท่านั้น. NIS+ ปรากฏตัวป็นครั้งแรก.
Solaris 1.x SunOS 4.1.x 1991 - 1994 SunOS 4 เปลี่ยนเป็น Solaris 1 สำหรับออกวางตลาด.

การพัฒนา[แก้]

Solaris ที่อยู่ภายใต้ Code Base ได้มีการพัฒนาต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1980 ได้นำเสนอ Solaris 2.0 จนกระทั่งถึง Solaris 10 ได้พัฒนาโดยการ “train” ซึ่งพัฒนาในแต่ละช่วงเวลาของมัน สืบทอดมาจากโปรเจกต์แต่ละโปรเจกต์และได้ปรับปรุงเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งรุ่นล่าสุดที่ออกมา

เวอร์ชันของ Solaris ภายใต้การพัฒนาของ SUN ก็คือ codenamed Nevada, ในปี 2003 การเพิ่มกระบวนการพัฒนาของ Solaris ถูกแนะนำภายใต้ชื่อ Solaris Express Developer Edition (SXDE) , การพัฒนาที่ได้จาก “train” ถูกนำมามาให้ดาวน์โหลดและตีพิมพ์ทุก ๆ 3 เดือนและยอมให้บุคคลทั่วไปทดสอบความสามารถและคุณภาพและความเสถียรต่อระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับความก้าวหน้าของ Solaris รุ่นถัดไป

ในปี 2007 SUN ได้ประกาศความเป็นหนึ่งของ Project Indiana รวมถึงการ open source binary ของ OpenSolaris เพื่อปรับปรุงการติดตั้ง Solaris อีกทั้งแจก packaging โมเดลและเทคโนโลยีเพื่อแทนที่รุ่น SXDE ซึ่งเป็นรุ่นแรก โดยวาแผนเป็นผู้นำในปี 2008 เพราะว่า Solaris ได้เปิดตัวล่วงหน้าสำหรับ Solaris codebase ให้เป็นโปรแกรมไบนารีเท่านั้น แต่ Solaris ได้แสดง Community Release สำหรับผู้พัฒนา OpenSolaris หลังจากนั้นสัปดาห์ต่อมามันก็จะถูกปรับปรุงไว้สำหรับประเมินผลถึงแม้ว่าการดาวน์โหลดจะถูกจำกัดการอนุญาตให้ดาวน์โหลดได้ส่วนบุคคลแต่ก็มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาและประเมินผล

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Oracle Releases Oracle Solaris 11, the First Cloud OS". 9 November 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-25. สืบค้นเมื่อ 9 November 2011.