โลตัส เอ็กซิจ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โลตัส เอ็กซิจ
โลตัส เอ็กซิจ โฉมที่ 3
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตโลตัส
เริ่มผลิตเมื่อค.ศ. 2000 – 2021 (10,497 คัน; ทั่วโลก)
แหล่งผลิตเฮเทล, นอร์ฟอล์ก, สหราชอาณาจักร
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง (Sports car)
รูปแบบตัวถัง2 ประตู คูเป
2 ประตู Targa top โรดเสตอร์
โครงสร้างเครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR)
แพลตฟอร์มโลตัส อีริส
จำนวนประตู2 แบบบานเปิดธรรมดา
รุ่นที่คล้ายกันโลตัส อีลิส
Vauxhall VX220
รินสปีด เอสคิวบา
เทสลา โรดสเตอร์
เฮนเนสซี เวนอม จีที
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์1.8L I4 / 1.8L ซูเปอร์ชาร์จ I4 / 3.5L ซูเปอร์ชาร์จ V6
ระบบเกียร์เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
มิติ
ความยาว149.5 นิ้ว (3,800 มิลลิเมตร)
ความกว้าง68.0 นิ้ว (1,730 มิลลิเมตร)
ความสูง45.6 นิ้ว (1,160 มิลลิเมตร)
น้ำหนัก2,015 ปอนด์ (914 กิโลกรัม)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นต่อไปโลตัส เอมิรา

โลตัส เอ็กซิจ (อังกฤษ: Lotus Exige) เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัท โลตัสจากอังกฤษ เริม่สายการผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เอ็กซิจ กับ อีลิสมีความคล้ายคลึงเกือบทุกประการ โดย เอ็กซิจ เป็นเวอร์ชัน คูเป ส่วน อีลิส เป็นรุ่นโรดสเตอร์เปิดประทุน ที่เริ่มสายการผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996

โฉมที่ 1[แก้]

โลตัส เอ็กซิจ โฉมที่ 1

เอ็กซิจโฉมแรก เปิดตัวในปี ค.ศ. 2000 โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร จากบริษัท Rover K-series engine บริษัทลูกของเครือเอ็มจี สามารถทำกำลังสูงสุดได้ที่ 177 แรงม้า (132 kW; 179 PS) ที่ 7,800 รอบ/นาที[1] รถใช้ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ช่วยให้รถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 219 กม./ชม. (136 ไมล์/ชม.) และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ที่ 4.9 วินาที

โฉมที่ 1 ได้ผลิตมาจนถึงปี ค.ศ. 2002 ก็ยุติไว้ที่ 604 คัน และตามมาด้วยโฉมที่ 2 ในปี ค.ศ. 2004[2]

โฉมที่ 2[แก้]

โลตัส เอ็กซิจ โฉมที่ 2
รุ่น ปีที่ผลิต เครื่องยนต์ กำลัง 0–100 km/h (62 mph) ความเร็วสูงสุด
Exige 2004-2006 1.8 L 16-valve DOHC Toyota/Yamaha 190 bhp (142 kW; 193 PS) 4.7 วินาที 147 mph (237 km/h)
Exige S 2006–2007 1.8L Toyota supercharged I4 220 bhp (163 kW; 221 PS) 4.1 วินาที 148 mph (238 km/h)
Exige 265E - 1.8L Toyota supercharged I4 264 hp (197 kW) at 8,000 rpm 3.88 วินาที 158 mph (254 km/h)
Exige GT3 prototype 2007 1.8L Toyota supercharged I4 271 hp (202 kW; 275 PS) 3.9 วินาที 160 mph (260 km/h)

โฉมที่ 3[แก้]

เอ็กซิจ เอส วี6 โฉมที่ 3

Exige S V6 (2012–2015), Exige S V6 Roadster (2013-2016)[แก้]

Lotus Exige V6 Roadster

เปิดตัวในงานแฟรงเฟิร์ตออโตโชว์ 2011 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์ท 3.5 ลิตร V6 เครื่องจากรุ่นอีโวลา เอส สามารถให้กำลังได้ถึง 345 แรงม้า (257 kW; 350 PS)[3][4][5][6] และแรงบิดที่ 400 นิวตัน·เมตร (295 lb·ft) น้ำหนัก 1,080 kg (2,381 lb) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ที่ 3.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 270 กม./ชม. (168 ไมล์/ชม.)[7]

Exige V6 Cup, Exige V6 Cup R (2013–2016)[แก้]

Lotus Exige V6 Cup-R

เอ็กซิจ วี6 คัพ เป็นรุ่นปรับแต่งของ เอ็กซิจ เอส สามารถขับได้บนถนนและบนสนามแข่งได้ ส่วนเอ็กซิจ วี6 คัพอาร์ จะเป็นรุ่นใช้เฉพาะสนามแข่งเพียงอย่างเดียว

รถทั้ง 2 เปิดตัวในปี ค.ศ. 2013 ที่งานออโตสปอร์ตอินเตอร์เนชันแนลโชว์ (Autosport International show)

Lotus Exige 360 Cup (2015-ปัจจุบัน)[แก้]

Lotus Exige 360 Cup สปอร์ตตัวแสบจากเกาะอังกฤษ

แม้รถจะมาด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด แต่พละกำลังไม่ได้เล็กน้อยไปตามขนาดมิติตัวรถเลย Lotus คือผู้ผลิตบนเกาะอังกฤษที่พิศมัยการสร้างยานยนต์ที่อุดมไปด้วยพละกำลังรวมทั้งความเร็วอีกด้วย นอกจากนั้นชื่อเสียงของ Lotus ก็โด่งดังมากๆ ซึ่งมีการส่งออกข้ามทะเลไปดังทั่วทั้งในกลุ่มประเทศยุโรป รวมถึงประเทศอื่นๆ อีกด้วย ครั้งนี้เลยอยากจะหยิบเอาตัวแสบรุ่นล่าสุดอย่าง Exige 360 Cup มาเสนอ แน่นอนว่าด้วยความขนาดเล็กของรถ จึงทำให้การใส่เครื่องยนต์อย่างพวก 6 หรือ 7 ลิตร ดูจะเป็นการยากเกินไป วิศวะกรจึงออกแบบเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร ออกมาให้ “แต่” มันเด็ดดวงไปกว่านั้นด้วยการออกแบบเรื่องของลูกสูบ ซึ่งมาด้วยกันถึง 6 สูบ ชนิด V-6 และใช้การจุดระเบิดแบบ 4 จังหวะ ทำความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง เพียง 3.7 วินาที เท่านั้น!

Lotus Exige Sport 380 (2016-ปัจจุบัน)[แก้]

Lotus Exige Sport 380 ยกระดับความโหดยิ่งกว่าเดิม

หากใครที่คิดว่าเอ็กซ์ซีจ สปอร์ต 350 ยังแรงไม่พอ โลตัสกลับมาอีกครั้งด้วยการนำเสนอเอ็กซ์ซีจ สปอร์ต 380 ที่เบาะกว่าเดิม และทรงพลังยิ่งขึ้น ตอบสนองคนเท้าขวาหนักแบบฮาร์ดคอร์ เริ่มกันจากเครื่องยนต์ เอ็กซ์ซีจ สปอร์ต 380 มาพร้อมขุมพลังวี6 ซูเปอร์ชาร์จ ความจุกระบอกสูบ 3.5 ลิตรซึ่งเป็นเทคโนโลยีของโตโยต้า ได้รับการปรับจูนใหม่ทั้งพูลเลย์ ปั๊มเชื้อเพลิงและระบบการจัดการเครื่องยนต์ รวมถึงระบบระบายไอเสียทำให้มีพละกำลังสูงสุด 375 แรงม้า แรงบิด 410 นิวตันเมตร

ด้วยน้ำหนักตัวถังที่เบาเพียง 1,110 กก. น้อยกว่ารุ่นเอ็กซ์ซีจ สปอร์ต 350 เกือบ 30 กก. ทำให้อัตราเร่งของเอ็กซ์ซีจ สปอร์ต 380 สามารถทะยานจาก 0-96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 3.5 วินาทีหรือ 0-100 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 3.7 วินาทีซึ่งแรงระดับซูเปอร์คาร์

โลตัสชี้ว่า น้ำหนักตัวถังที่ลดลงทำให้ศูนย์ถ่วงรถต่ำลงด้วย สมรรถนะการควบคุมจึงมีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น แรงกดของตัวรถจะมากถึง 140 กก. ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุด 286 กม.ต่อชม. ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็มีอ็อปชั่นเสริมคือเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดที่เปลี่ยนได้ด้วยแป้นอะลูมิเนียมฟอร์จ ช่วงล่างเป็นแบบปรับได้ และเสริมเหล็กกันโคลงของไอบัค

Lotus Exige Cup 430 (2017-ปัจจุบัน)[แก้]

โลตัส เอ็กซิจ คัพ 430

โลตัสยังคงพัฒนารถรุ่นพิเศษอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเผยโฉมเอ็กซ์ซีจ คัพ 430 (Lotus Exige Cup 430) พร้อมกับประกาศว่านี่คือรถสปอร์ตที่เร็วที่สุดของแบรนด์

เอ็กซ์ซีจ คัพ 430 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังวี6 ซูเปอร์ชาร์จที่หยิบยืมมาจากรุ่นอีโวร่า จีที430 รีดพละกำลังระดับ 430 แรงม้าซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่นนั่นเอง ถือว่ามากกว่าเอ็กซ์ซีจ คัพ 380 ที่มีพละกำลัง 375 แรงม้าอยู่ถึง 55 แรงม้า น้ำหนักตัวถังรถของเอ็กซ์ซีจ คัพ 430 อยู่ที่เพียง 2,410 ปอนด์หรือประมาณ 1,090 กก. จึงสามารถทำเวลารอบสนามทดสอบเฮเธล เซอร์กิตได้เร็วที่สุดเท่าที่โลตัสเคยทดสอบมา แถมยังเร็วกว่ารุ่น 3 เอเลเว่นอยู่ 1.2 วินาที

โลตัสระบุว่า เอ็กซ์ซีจ คัพ 430 ทำอัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 290 กม.ต่อชม.

ชิ้นส่วนตัวถังส่วนใหญ่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนัก พร้อมแอโรพาร์ทคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งสปอยเลอร์หน้า แผงรีดอากาศดิฟฟิวเซอร์ และสปอยเลอร์หลัง สามารถสร้างแรงกดได้ถึง 220 กก. เลยทีเดียว

Lotus Exige Sport 410 (2018-ปัจจุบัน)[แก้]

ในโอกาสที่ Exige มีอายุครบ 20 ปี ทาง Lotus จึงตัดสินใจทำ Exige รุ่นพิเศษชื่อ Exige Sport 410 20th Anniversary ออกมา โดยที่มีทั้งภายนอกและภายในของรถซึ่งย้อนไปถึง Exige Series 1 เมื่อปี 2000 ไม่ว่าจะเป็นสีของตัวรถ ช่องดักอากาศด้านข้าง สปอยเลอร์หลัง รวมไปถึงแผ่นป้องกันหินกระเด็นที่บริเวณล้อหลังของรถ

Lotus Exige รุ่นพิเศษครบ 20 ปีนอกจากจะมาพร้อมกับสัญลักษณ์ 20 เพื่อบ่งบอกความพิเศษที่ภายนอกของรถแล้ว ยังมาพร้อมกับสีคลาสสิกภายนอกดั้งเดิมของ Exige ให้เลือกทั้งสีส้ม Chrome Orange, สีแดง Calypso Red และสีฟ้า Laser Blue รวมไปถึงยังมีสีเหลือง Saffron Yellow เพื่อเป็นการระลึกกถึงสีเหลือง Norfolk Mustard เดิม สีเงิน Arctic Silver และสีดำ Motorsport Black

Lotus Exige Sport 390, Sport 420, Cup 430 Final Edition (2021-ปัจจุบัน)[แก้]

ทาง Lotus ได้ประกาศอย่างเป็นทางการออกมาว่าปีนี้จะมีการผลิตรถสปอร์ต 3 รุ่นของตนคือ Elise, Exige และ Evora เป็นปีสุดท้าย ทางผู้ผลิตรถสปอร์ตจากสหราชอาณาจักรจึงเตรียมบอกลา Elise และ Exige ด้วยรุ่นพิเศษในชื่อ Final Edition ก่อนที่จะเตรียมเปิดทางให้กับการผลิตรถสปอร์ตรุ่นใหม่ในช่วงปลายปีนี้

3 รุ่นของ Lotus Exige Final Edition มี Sport 390, Sport 420 และ Cup 430 ซึ่งรุ่นแรกใช้เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ซุเปอร์ชาร์จ 397 แรงม้า โดยทางผู้ผลิตระบุว่ารถสปอร์ตรุ่นนี้ของตนมีน้ำหนักเพียง 1,138 กิโลกรัม และใช้เวลา 3.7 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ในขณะที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 276 กม./ชม.

สำหรับ Exige Sport 420 Final Edition มีกำลัง 420 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 427 นิวตัน-เมตร และเป็นรุ่นที่เร็วที่สุดของ Exige ด้วยการมีความเร็วสูงสุด 289 กม./ชม. และใช้เวลา 3.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโช๊กปรับได้ 3-way ล้อฟอร์จน้ำหนักเบา เบรก AP Racing และรวมทั้งอุปกรร์มาตรฐานอื่นๆ กันโคลงหน้า-หลังปรับได้ Eibach ล้ออัลลอยฟอร์จน้ำหนักเบา 10 ก้านขนาด 17 นิ้วที่ด้านหน้าและ 18 นิ้วที่ด้านหลัง

ในขณะที่ Exige Cup 430 Final Edition ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดมาพร้อมกับกำลัง 430 แรงม้าจากเครื่องยนต์ V6 ซุเปอร์ชาร์จ พร้อมกับชุดแอโรคิตที่ดุดันขึ้นสร้างแรงกดได้สูงสุดถึง 171 กิโลกรัม ใช้เวลา 3.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 280 กม./ชม. นอกจากนี้ Exige Cup 430 Final Edition ทุกคันจะมาพร้อมกับการคาร์บอนไฟเบอร์เกรดมอเตอร์สปอร์ตทั้งที่ Splitter หน้า แผงด้านหน้ารถ หลังคา บริเวณรอบ Diffuser หลัง ช่องดักอากาศที่ใหญ่ขึ้น ประตูท้ายแบบชิ้นเดียว และสปอยเลอร์หลังจากรถแข่ง รวมไปถึงมีอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ของรถเหมือนกับ Exige Cup 420 Final Edition อย่างโช๊ก Nitron กันโคลงหน้าและหลังปรับได้จาก Eibach ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ระบบเบรก AP Racing 4 ลูกสูบ พร้อมด้วยระบบท่อไอเสียไทเทเนียมที่ช่วยให้การระบายไอเสียดีขึ้น

เฮนเนสซี เวนอม จีที[แก้]

เฮนเนสซีเพอร์ฟอร์แมนซ์เอนจีเนียริง บริษัททำเครื่องยนตร์สัญชาติอเมริกา ได้ใช้โครงถังของรถไปผลิตเป็นรถสปอร์ตใช้ชื่อว่า "เฮนเนสซี เวนอม จีที" โดยมีการปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มกว่าตัวโครงถังเดิม เช่น เพิ่มความยาวรถและช่วงฐาน เป็นต้น

อ้างอิง[แก้]

  1. Nötzli, Max, บ.ก. (March 7, 2002). Automobil Revue 2002 (ภาษาเยอรมัน และ ฝรั่งเศส). Vol. 97. Berne, Switzerland: Büchler Grafino AG. p. 369. ISBN 3-905-386-02-X.
  2. Ringma, Ronald. "Genealogy: Lotus Exige". Lotus Drivers Guide.
  3. "Top Gear drives the Lotus Exige V6". topgear.com. January 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-09. สืบค้นเมื่อ 5 April 2012.
  4. "2012 Lotus Exige S". topspeed.com. 01.6.2012. สืบค้นเมื่อ 5 April 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  5. "Lotus Exige V6". evo.co.uk. 12 September 2011. สืบค้นเมื่อ 5 April 2012.
  6. "2011 Frankfurt Auto Show: Lotus Exige S Reborn With Supercharged V6". autoguide.com. 13 September 2011. สืบค้นเมื่อ 5 April 2012.
  7. "2012 Lotus Exige S gets 3.5 V6, unveiled at Frankfurt Motor Show". caradvice.com.au. September 14, 2011. สืบค้นเมื่อ 5 April 2012.