โตโยต้า พริอุส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โตโยต้า พริอุส
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตโตโยต้า
เริ่มผลิตเมื่อธันวาคม 2540–ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภท
รูปแบบตัวถัง
โครงสร้าง
  • เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ (อี-โฟร์)

โตโยต้า พริอุส (อังกฤษ: Toyota Prius) เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ของค่ายรถยนต์โตโยต้า เป็นรถรุ่นแรกของโลกที่นำระบบเครื่องยนต์ไฮบริดมาใช้ในเชิงพาณิชย์ (รถยนต์ไฮบริด คือ รถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าแบตเตอรี่มาช่วยในการขับเคลื่อนในบางสถานการณ์ ทำให้รถยนต์ที่ใช้ระบบไฮบริดประหยัดน้ำมันได้ประมาณ 30-50%) เริ่มการผลิตครั้งแรกใน พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน

Release timeline
1997XW10
1998–2002
2003XW20
2004–2008
2009XW30
2010
2011พริอุส วี
พริอุส ซี
2012XW30 ปลั๊กอิน
2013–2014
2015XW50
2016XW50 ปลั๊กอิน
2017–2021
2022XW60
2023XW60 ปลั๊กอิน

หลักการการตั้งชื่อ[แก้]

คำว่าพริอุส (Prius) ในภาษาละตินมีความหวายว่า "ที่หนึ่ง", "ดั้งเดิม", "สุดยอด" หรือ "ไปก่อนใคร"[1]

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 โตโยต้าสหรัฐอเมริกาได้มีการถามประชาชนชาวสหรัฐฯ ว่าควรเรียกพริอุสที่มีหลายคัน (พหูพจน์) ว่าอย่างไร ซึ่งตัวเลือกที่มีก็คือ Prien, Prii, Prium, Prius, หรือคำว่า Priuses[2][3] โดยโตโยต้าสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปและประกาศในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ว่าคำที่ได้คือคำว่า "Prii" ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ได้รับเลือกที่มากที่สุดและกำหนดให้เป็นพหูพจน์ใหม่อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา[4]

ในภาษาละติน คำว่า prius เป็นเอกพจน์เพศกลางของรูปแบบการเปรียบเทียบ (prior, prior, prius) ของคำคุณศัพท์ที่มีการเปรียบเทียบและการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด (การเปรียบเทียบขั้นสูงสุดเป็น primus, prima, primum) เช่นเดียวกับคำที่เป็นกลางทั้งหมด พหูพจน์ของภาษาละตินคือ priora แต่ชื่อนั้นได้ใช้ไปแล้วโดยรถยนต์รุ่นลาด้า พรีออร่า ใน พ.ศ. 2550 แต่ถึงแม้ว่าคำพหูพจน์อย่างเป็นทางการที่ใช้โดยโตโยต้าสหรัฐเป็นคำว่า "Prii" แต่คำว่า "Priuses" ก็ยังมีการใช้กันอย่างกว้างขวางอยู่[5]

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 โตโยต้าสหรัฐฯ เริ่มมีการขยายการใช้ชื่อพริอุสออกไปยังรถรุ่นอื่น ๆ นั่นคือ พริอุสรุ่นปกติจะเป็นพริอุส ลิฟต์แบ็ก, พริอุส วี (หรือในประเทศญี่ปุ่นจะใช้เป็นชื่อโตโยต้า พริอุส อัลฟา (อังกฤษ: Prius α), ในยุโรปจะใช้ชื่อว่าพริอุส พลัส (อังกฤษ: Prius +)) , พริอุส ปลั๊กอิน ไฮบริด และพริอุส ซี (ใช้ชื่อโตโยต้า อควาในประเทศญี่ปุ่น)[6][7]

โฉมที่ 1 (XW10; พ.ศ. 2540–2546)[แก้]

รุ่น NHW10
รุ่น NHW11

พริอุสรุ่นแรก เปิดตัวในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2540 มีตัวถังแบบเดียว คือ ซีดาน 4 ประตู ในช่วงก่อน พ.ศ. 2544 พริอุสใช้รหัส NHW10 มีขายเฉพาะในประเทศจีน เท่านั้น ยกเว้นบริษัทนำเข้าอิสระในประเทศต่างๆ จำนำรถมือหนึ่ง และ รถมือสองที่ถูกใช้แล้ว ส่งออกมายังประเทศตนเองบ้างเล็กน้อย หลังจากนั้น พริอุสเปลี่ยนไปใช้รหัสตัวถัง NHW11 โตโยต้าได้ส่งออกไปขายนอกประเทศจีนโดยตรง

พริอุสจะใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT เป็นมาตรฐาน มีอัตราการใช้น้ำมันที่ประหยัดมาก (17.5 - 17.9 กม./ลิตร ในการวิ่งปกติ) และได้รับการตัดสินจากองค์กร CARB (California Air Resources Board) ให้เป็นรถยนต์มลพิษต่ำพิเศษ (Super Ultra Low Emission Vehicle)

โฉมที่ 2 (XW20; พ.ศ. 2546–2552)[แก้]

พริอุสรุ่นที่ 2 ใช้รหัส NHW20 ได้เปลี่ยนมาผลิตตัวถังแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู (ท้ายกุด ไม่มีกระโปรงสั้น คล้าย ฮอนด้า แจ๊ซ, โตโยต้า ยาริส ฯลฯ) พริอุสได้รับออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น (19.2 - 20.4 กม./ลิตร ในการวิ่งปกติ)

ด้านความปลอดภัย มีองค์กรต่างๆ ได้ไปทำการทดสอบการชน กับรถพริอุส โดยมีผลการทดสอบอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีในรุ่นที่มีถุงลมนิรภัย Airbags รอบคัน แต่รุ่นที่ไม่มีถุงลมนิรภัย Airbags ในด้านข้าง มีผลการทดสอบที่ค่อนข้างไม่น่าพอใจ

โฉมที่ 3 (XW30; พ.ศ. 2552–2558)[แก้]

พรีอุส ไฮบริด

โตโยต้า พริอุสรุ่นที่ 3 ใช้รหัส ZVW30 ใช้ตัวถังแบบลิฟต์แบ็ก 5 ประตูเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า เปิดตัวที่งานแสดงรถยนต์อเมริกาเหนือเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 เป็นรุ่นปี 2010[8] ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ พ.ศ. 2552 มีการผลิตพรีอุสรุ่นนี้ไปแล้วกว่า 1,688,000 คันทั่วโลก[9]

โตโยต้า พริอุส รุ่นนี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของตัวรถเพียง 0.25 และมีครีบหลังใต้ท้องรถช่วยให้รถทรงตัวได้ที่ความเร็วสูง

ระบบขับเคลื่อน[แก้]

ZVW30[แก้]

รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เครื่องยนต์เบนซินสี่สูบเรียง (รุ่นก่อน 1.5 ลิตร) มีแรงม้า 73 kW; 99 PS (98 hp) รวมกับพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 20 kW; 27 PS (27 hp) ได้แรงม้ารวมเป็น 100 kW (134 hp) (รุ่นก่อน 110 hp) ซึ่งเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้นนี้ทำให้แรงบิดเพิ่มขึ้น รอบต่อนาที (rpm) ต่ำลง ทำให้ประหยัดน้ำมันเมื่อขับขี่บนทางหลวง นอกจากนี้ยังมีปั๊มน้ำไฟฟ้าทำให้เครื่องยนต์ของพรีอุสไม่จำเป็นต้องมีสายพานยิ่งทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น[10] ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ ของระบบไฮบริดก็เล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น[11] โตโยต้าประเมินว่าอินเวอร์เตอร์ มอเตอร์ และเพลาส่งกำลังแบบใหม่จะเบาลง 20 เปอร์เซ็นต์ และมีแบตเตอรีนิกเกิลไฮไดรด์ 1.3 กิโลวัตต์ติดตั้งที่ใต้ท้องรถ

ZVW35: รุ่นปลั๊กอิน[แก้]

พรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริด จัดแสดงที่งานแสดงรถยนต์แฟรงก์เฟิร์ตประจำปี ค.ศ. 2011
พรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริด

ตัวต้นแบบของโตโยต้า พรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริดได้ถูกแสดงในงานแสดงรถยนต์โตเกียวประจำปี 2009 งานแสดงรถยนต์แฟรงก์เฟิร์ตประจำปี 2009 และงานแสดงรถยนต์ลอสแอนเจลิสประจำปี 2009 ในจำนวนจำกัดสำหรับโปรแกรมสาธิตตัวต้นแบบนี้ ตัวต้นแบบนี้พัฒนามาจากตัวไฮบริดรุ่นที่สามและมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 5.2 กิโลวัตต์[12][13] สามารถขับด้วยระบบไฟฟ้าล้วนได้ 21 กิโลเมตร (13 ไมล์)[14] โปรแกรมสาธิตพรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริดได้ผลิตพรีอุสที่เป็นตัวทดลองกว่า 600 คันเริ่มผลิตตั้งแต่ พ.ศ. 2552 สำหรับการทดสอบในประเทศญี่ปุ่น ยุโรป แคนาดา จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา[15][16][17]

ส่วนพรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริดรุ่นผลิตจริงได้เปิดตัวที่งานแสดงรถยนต์แฟรงก์เฟิร์ตประจำปี 2011 จากการทดสอบด้วยโปรแกรมสาธิตได้ทำให้พรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริดมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วยขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กลงเป็น 4.4 กิโลวัตต์ แต่ได้ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าล้วนได้ 23 กิโลเมตร (14.3 ไมล์)[18] พรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริดเริ่มต้นจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 สหรัฐอเมริกาเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ และตลาดยุโรปเมื่อเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน[19][20][21]

การตลาดในประเทศไทย[แก้]

โตโยต้า พรีอุสรุ่นที่สามได้เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 โดยเป็นการนำเข้าสิ้นส่วนมาประกอบในประเทศ (CDK) เป็นรถโตโยต้าไฮบริดรุ่นที่สองหลังจากโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด โดยพรีอุสมีรุ่นย่อยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ Top Grade ราคา 1,260,000 บาท และ Standard Grade 1,190,000 บาท โดยทุกรุ่นมีระบบสัญญาณไฟเบรกกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และถุงลมนิรภัย 7 จุดในทุกรุ่นย่อย

ต่อมาในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 โตโยต้าได้เปิดตัวพรีอุสรุ่นปรับโฉมในประเทศไทย โดยมีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบด้านหน้าของตัวรถใหม่ มีรุ่นย่อยทั้งหมด 3 รุ่น คือรุ่น Standard 1,199,000 บาท, รุ่น Top 1,299,000 บาท และรุ่น Top Option 1,369,000 บาท โดยรุ่น Top Option จะมีระบบระบายอากาศอัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Ventilation System)

ประกาศยกเลิกผลิตพรีอุสประสบปัญหาเรื่องยอดขายและภาษีในประเทศไทย[แก้]

ในวันที่ 18 กันยายน 2558 โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยแจ้งหยุดผลิตโตโยต้า พรีอุสหลังจากที่มีปัญหาเกี่ยวกับยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้และปัญหาเกี่ยวกับภาษีนำเข้า โดยโตโยต้าได้เผชิญกับข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวกับการนำเข้าชิ้นส่วนประกอบพรีอุส ทางโตโยต้าเองได้ออกมาชี้แจงว่าบริษัทไม่ได้นำเข้ารถยนต์พริอุสเข้ามาทั้งคันตามที่ถูกพาดพิง และได้ชี้แจงอีกว่าการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ทุกชิ้นได้มีการแสดงเอกสารอย่างถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย รวมถึงได้รับอนุมัติการนำเข้าและตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย ต่อมาวันที่ 15 ก.ย.65 ศาลฎีกาภาษีอากรกลางนัดอ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา คดีข้อพิพาทการจัดเก็บภาษีนำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่พรีอุสโดยมีโจทก์ (ผู้ฟ้อง) คือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และมีจำเลย (ผู้ถูกฟ้อง) คือกรมศุลกากร โจทก์ร้องขอให้ศาลภาษีอากรเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน อ้างว่าตนเสียภาษีถูกต้องครบถ้วนแล้ว ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร ตุลาการในคดีมีเห็นว่า ชิ้นส่วนรถยนต์ที่โจทก์นำเข้าเมื่อประกอบเข้าด้วยกันแล้ว จะมีลักษณะอันเป็นสาระสำคัญของพรีอุสและสามารถนำไปประกอบเป็นรถยนต์โตโยต้า พรีอุสได้ทันที จึงต้องจัดให้อยู่ในประเภท “ชิ้นส่วนที่สมบูรณ์หรือสำเร็จแล้ว” พิกัด 8703.23.51 (ตามช่วงที่นำเข้า) ซึ่งต้องจ่ายภาษีในอัตรา 80% เช่นนี้จึงไม่เข้ากรณีที่จะได้รับการลดอัตราภาษีตาม JTEPA

วันที่ 19 กันยายน 2565 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามที่ศาลมีคำพิพากษาให้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ต้องชำระค่าภาษีอากรต่อกรมศุลกากรราว 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 1 เดือน หลังจากวันที่มีคำพิพากษานั้น ล่าสุด ทางบริษัทได้ประสานงานเข้ามาแล้ว ซึ่งตามคำพิพากษาบริษัทต้องจ่ายทั้งหมดนั้น เป็นการรวมทั้งภาษีส่วนที่ขาด พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ส่วนกรณีหากเอกชนไม่สามารถจ่ายได้ในคราวเดียวนั้น ก็ต้องทำเรื่องขอผ่อนชำระเข้ามา แต่ทางกรมไม่สามารถไปผ่อนปรนให้ก่อนได้

โฉมที่ 4 (XW50; พ.ศ. 2558–2565) [แก้]

โตโยต้า พริอุส รุ่นที่ 4 ด้านหน้า
โตโยต้า พริอุส รุ่นที่ 4 ด้านหลัง
โตโยต้า พริอุส รุ่นที่ 4 Facelift (Taiwan)

โตโยต้า พริอุส รุ่นที่ 4 ได้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจำหน่ายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 ตามด้วยประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2559 และเดือนกุมภาพันธ์ในยุโรป โดยโตโยต้าคาดหวังไว้ว่าจะขายโตโยต้า พริอุส รุ่นที่ 4 นี้ได้ 12,000 คันต่อเดือนและ 300,000 ถึง 350,000 คันต่อปีในประเทศญี่ปุ่น

โตโยต้า พริอุส รุ่นที่ 4 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ที่มีชื่อว่า Toyota New Global Architecture (TNGA) ซึ่งออกแบบให้มีจุดศุนย์ถ่วงต่ำลงกว่าเดิมและทำให้โครงสร้างของรถแข็งแกร่งขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงช่วงล่างใหม่ ทำให้โตโยต้า พริอุส รุ่นนี้มีการขับขี่ที่คล่องตัวมากขึ้น ส่วนภายนอกนั้นมีการออกแบบใหม่เพื่อปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการทำการตกแต่งภายในให้มีพื้นที่กว้างขวางมากขึ้น โดยตัวถังภายนอกมีความยาวเพิ่มขึ้น 61 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 15 มิลลิเมตร ขณะที่ความสูงลดลง 20 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับโฉมที่ 3

โฉมที่ 5 (XW60; พ.ศ. 2566–ปัจจุบัน) [แก้]

โฉมที่ห้า (XW60)
โตโยต้า พริอุส รุ่น Limited AWD (สหรัฐฯ) รุ่นปี 2023
ภาพรวม
เริ่มผลิตเมื่อธันวาคม พ.ศ. 2565 – ปัจจุบัน
รุ่นปี2023–ปัจจุบัน (อเมริกาเหนือ)
แหล่งผลิตประเทศญี่ปุ่น: จังหวัดไอจิ (โรงงานซึซึมิ)
ผู้ออกแบบ
  • ยูจิ ฟูจิวาระ (หัวหน้าผู้ออกแบบ)[22]
  • มานาบุ ฮิโรคาวะ, ฮิเดอากิ อิอิดะ และมาริโอ้ มาแดนซิก (ภายนอก)[22]
  • ซึโยชิ โอบะ และยูตะ โนซากิ (ภายใน)[22]
ตัวถังและช่วงล่าง
โครงสร้าง
  • เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ (อี-โฟร์)
แพลตฟอร์มTNGA: GA-C[23]
รุ่นที่คล้ายกัน
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์
  • เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด:
  • 1.8 L 2ZR-FXE I4 (ZVW60/65)
  • 2.0 L M20A-FXS I4 (MXWH60/65)
มอเตอร์ไฟฟ้า
กำลัง
  • 72 kW (97 hp; 98 PS) (2ZR-FXE, เฉพาะเครื่องยนต์); 103 kW (138 hp; 140 PS) (2ZR-FXE, รวมมอเตอร์และแบตฯ)
  • 112 kW (150 hp; 152 PS) (M20A-FXS, เฉพาะเครื่องยนต์); 144–146 kW (193–196 hp; 196–199 PS) (M20A-FXS, รวมมอเตอร์และแบตฯ)
  • 70–83 kW (94–111 hp; 95–113 PS) (1VM motor)
  • 30 kW (40 hp; 41 PS) (1WM motor)
ระบบเกียร์eCVT
ระบบขับเคลื่อนรถไฮบริดPower-split
แบตเตอรี่4.08 Ah ลิเธียมไอออน
มิติ
ระยะฐานล้อ2,750 mm (108.3 in)
ความยาว4,600 mm (181.1 in)
ความกว้าง1,780 mm (70.1 in)
ความสูง1,420–1,430 mm (55.9–56.3 in)
น้ำหนัก1,350–1,480 kg (2,976–3,263 lb)

โตโยต้า พริอุส รุ่นที่ห้าเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565[24] สำหรับตลาดในประเทศญี่ปุ่นมีเครื่องยนต์สองตัวเลือก ตัวเลือกแรกเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร (2ZR-FXE) และ 2.0 ลิตร (M20A-FXS) ซึ่งมีกำลัง 103 kW (138 hp; 140 PS) และ 144 หรือ 146 kW (193 หรือ 196 hp; 196 หรือ 199 PS) ตามลำดับ พริอุสที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออี-โฟร์ ตัวเลือกเครื่องยนต์ที่สองเป็นเครื่องยนต์ M20A-FXS ขนาด 2.0 ลิตรที่มีมอเตอร์และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทำงานร่วมกันซึ่งสามารถผลิตกำลังรวมกันได้ 164 kW (220 hp; 223 PS)[25]

การออกแบบพริอุสรุ่นใหม่นี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานมากกว่ารุ่นเก่าเป็น 0.27 โดยออกแบบพื้นที่ด้านหน้าของตัวรถให้ต่ำลงและเพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสารให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม[26]

ในทวีปยุโรปเริ่มมีการส่งมอบพริอุสในช่วงไตรมาสแรกของ พ.ศ. 2566[27] โดยมีเพียงเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเท่านั้น[28]

พริอุสรุ่นนี้จะไม่ทำการตลาดในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักรเหมือนรุ่นที่แล้วเพราะว่ายอดขายของรุ่นที่แล้วนั้นตกต่ำ แต่จะมีโตโยต้า โคโรลล่า แฮทช์แบ็ก ไฮบริดมาทำตลาดแทน[29]

การตลาด[แก้]

ประเทศญี่ปุ่น[แก้]

ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีการขายเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2566 มีรุ่นย่อยทั้งหมดคือรุ่น X, U, G, และ Z;[30] โดยสองรุ่นแรกใช้เครื่องยนต์ 2ZR-FXE และสองรุ่นหลังใช้เครื่องยนต์ M20A-FXS [31]

ประเทศสหรัฐอเมริกา[แก้]

ในสหรัฐอเมริกา โตโยต้า พริอุสมีสามรุ่นย่อยให้เลือก: LE, XLE, และรุ่ย Limited โดยรุ่นย่อยทั้งหมดมาพร้อมกับเครื่องยนต์ M20A-FXS ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นตัวเลือกที่สามารถเลือกติดตั้งได้[32]

ประเทศแคนาดา[แก้]

ตลาดแคนาดาจะมีพริอุสให้เลือกเพียงสองรุ่นย่อย นั่นคือรุ่น XLE และรุ่น Limited ซึ่งทั้งคู่มาพร้องกับเครื่องยนต์ M20A-FXS และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อติดตั้งพร้อมไว้แล้ว[33]

ประเทศไทย[แก้]

ในไทย โตโยต้า พริอุส ประกาศพร้อมจำหน่ายโดย Sakura Auto ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระในประเทศไทย กับรุ่น HEV Fastback ไฮบริดใหม่ล่าสุด ที่มีการออกแบบใหม่ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น พร้อมราคาจำหน่าย 2,190,000 บาท

รายการอ้างอิง[แก้]

  1. "Toyota Reveals All-New Prius" (Press release). US: Toyota. 2009-01-12. สืบค้นเมื่อ 2016-11-19.
  2. "Toyota Prius Family". Toyota Motor Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 February 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-02-05.
  3. Prius Goes Plural - When One Becomes More ที่ยูทูบ
  4. Woodyard, Chris (2011-02-20). "Voters decide Toyota Prii is now official plural for Prius". USA Today. สืบค้นเมื่อ 2012-02-08.
  5. Vieira da Rosa, Aldo. Fundamentals of Renewable Energy Processes. Academic Press, 2012. p.431.
  6. Loveday, Eric (2011-09-16). "Toyota revises 2012 Prius with minor tweaks inside and out". AutoblogGreen. สืบค้นเมื่อ 2011-09-17.
  7. "Toyota Introduces 2012 Prius Plug-in Hybrid" (Press release). Toyota. 2011-09-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 October 2014. สืบค้นเมื่อ 2011-09-17.
  8. "2010 Toyota Prius Revealed - Specs, Images, and more". Automoblog.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-25. สืบค้นเมื่อ 2010-10-03.
  9. Toyota Europe News (2013-07-03). "Worldwide Prius sales top 3-million mark; Prius family sales at 3.4 million". Green Car Congress. สืบค้นเมื่อ 2013-07-05.
  10. "Official Toyota Specifications (Flash Site includes link to informative press release)". Toyota.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-03. สืบค้นเมื่อ 2010-10-03.
  11. Garrett, Jerry (2009-03-26). "Hybrid Superstar Shines Brighter". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2011-01-01.
  12. Abuelsamid, Sam (2009-12-14). "Toyota officially launches plug-in Prius program, retail sales in 2011". Autoblog Green. สืบค้นเมื่อ 2009-12-22.
  13. "2010 Prius Plug-in Hybrid Makes North American Debut at Los Angeles Auto Show; First Li-ion Battery Traction Battery Developed by Toyota and PEVE". Green Car Congress. 2009-12-02. สืบค้นเมื่อ 2010-02-03.
  14. John Stewart (2010-04-21). "2010 Toyota Prius Plug-In Hybrid First Drive". Edmunds.com. สืบค้นเมื่อ 2010-04-26.
  15. "Toyota Prius Plug-in Hybrid Demo Program". Toyota. สืบค้นเมื่อ 2010-04-09.
  16. "TMC Introduces 'Prius Plug-in Hybrid' into Key Markets". Toyota News release. 2009-12-14. สืบค้นเมื่อ 2010-04-09.
  17. "Toyota to Start Trials of Plug-in Prius in China". Green Car Congress. 2010-04-25. สืบค้นเมื่อ 2010-04-26.
  18. Sebastian Blanco (2011-09-14). "2012 Toyota Prius Plug-In Hybrid now offers 111 MPGe". AutoblogGreen. สืบค้นเมื่อ 2011-09-16. See details in Toyota Press Release
  19. Takeshi Narabe (2012-05-10). "Toyota rolls out rechargeable Prius plug-in hybrid". Asahi Shimbun. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-01. สืบค้นเมื่อ 2012-05-13.
  20. John Voelcker (2012-04-03). "Plug-In Car Sales Soar in March, Led By Chevrolet Volt". Green Car Reports. สืบค้นเมื่อ 2012-04-03.
  21. Toyota Motor Europe (2012-07-13). "Solid 13% Q2 sales increase for Toyota and Lexus vehicles in Europe". Toyota Media Press Release. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-16. สืบค้นเมื่อ 2012-08-07.
  22. 22.0 22.1 22.2 "Prius Design Sketches". Toyota Motor Corporation Official Global Website. Toyota. 2022-12-19. สืบค้นเมื่อ 2023-01-11.
  23. "World premiere for fifth-generation Toyota Prius, 100% Plug-in Hybrid for Europe" (Press release). Toyota Europe. 2022-11-16. สืบค้นเมื่อ 2022-11-16.
  24. "World Premiere of All-New Prius in Japan" (Press release). Toyota Global. 2022-11-16. สืบค้นเมื่อ 2022-11-16.
  25. "2023 Toyota Prius Makes The Iconic Plug-In Hybrid Better In All Areas". Carscoops. 16 November 2022.
  26. Visnic, Bill (19 December 2022). "2023 Toyota Prius punches it up" (ภาษาอังกฤษ). Society of Automotive Engineers. สืบค้นเมื่อ 7 August 2023.
  27. "2023 Toyota Prius Unveiled In Europe As A Plug-In Hybrid Only". InsideEVs.
  28. "2023 Toyota Prius Coming To Europe Solely As A 220 HP PHEV". Carscoops. 16 November 2022.
  29. Costello, Mike (2022-05-11). "Toyota Prius axed from Australia". CarExpert (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-12-13.
  30. "Which is better, 1.8L or 2L? If you are aiming for a new Prius, this is the recommended grade!". Best Car Web (ภาษาญี่ปุ่น). 16 November 2022. สืบค้นเมื่อ 22 December 2022.
  31. "Test drive the new Prius ahead of its time!! It's fun to drive!". Best Car Web (ภาษาญี่ปุ่น). 22 December 2022. สืบค้นเมื่อ 22 December 2022.
  32. "Hybrid Reborn: 2023 Toyota Prius Revealed" (Press release). US: Toyota. 2022-11-16. สืบค้นเมื่อ 2022-12-04.
  33. "A Stunner is Born: All-New 2023 Toyota Prius Arrives This Winter" (Press release). Canada: Toyota. 2022-12-13. สืบค้นเมื่อ 2023-06-18.