เอ็ด ชีแรน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอ็ด เชอร์​รัน
เอ็ด ชีแรน ในปี 2018
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดเอ็ดเวิร์ด คริสโตเฟอร์ ชีแรน
เกิด (1991-02-17) 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 (33 ปี)
แฮลิแฟกซ์ เวสต์ยอร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ
ที่เกิดแฟรมลิงแฮม ซัฟฟอล์ก ประเทศอังกฤษ
แนวเพลง
อาชีพ
  • นักร้อง นักแต่งเพลง
  • นักแสดง
เครื่องดนตรี
  • ร้องนำ
  • กีตาร์
ช่วงปี2004–ปัจจุบัน
ค่ายเพลง
เว็บไซต์edsheeran.com

เอ็ดเวิร์ด คริสโตเฟอร์ "เอ็ด" ชีแรน (อังกฤษ: Edward Christopher "Ed" Sheeran) เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991[1] เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงชาวอังกฤษ[2][3] เขาเกิดในแฮลิแฟกซ์ เวสต์ยอร์กเชอร์ และเติบโตในแฟรมลิงแฮม ซัฟฟอล์ก เขาเข้าเรียนสถาบันดนตรีร่วมสมัย ในกิลฟอร์ด เซอร์รีย์ ในระดับปริญญาตรีตั้งแต่อายุ 18 ปีในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 2009[4][5] ในต้นปี ค.ศ. 2011 ชีแรนออกอีพีชุด นัมเบอร์ไฟฟ์คอลลาบอเรชันส์โปรเจกต์ โดยไม่มีสังกัด และกลายเป็นที่สนใจของเอลตัน จอห์น และเจมี ฟ็อกซ์ หลังจากเซ็นสัญญากับค่ายอะไซลัมเรเคิดส์ อัลบั้มแรกของเขา + (อ่านว่า "พลัส") ออกจำหน่ายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2011 และได้รับการรับรองระดับแพลตินัม 6 ครั้งในสหราชอาณาจักร อัลบั้มมีซิงเกิล "ดิเอทีม" ทำให้เขาได้รับรางวัลไอวอร์โนเวลโลอะวอร์ด สาขาเพลงยอดเยี่ยมด้านดนตรีและเนื้อเพลง[6] ในปี ค.ศ. 2012 ชีแรนได้รับรางวัลบริตอะวอดส์ สาขาศิลปินเดี่ยวชายชาวบริติชยอดเยี่ยม และศิลปินแจ้งเกิดชาวบริติช[7]

ชีแรนเริ่มมีชื่อเสียงในต่างประเทศในปี ค.ศ. 2012 ในสหรัฐอเมริกา เขาเป็นนักร้องรับเชิญในอัลบั้ม เรด สตูดิโออัลบั้มที่สี่ของเทย์เลอร์ สวิฟต์[8] เพลง "เอเวอรีทิงแฮสเชนด์" ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี ค.ศ. 2013 สาขาเพลงแห่งปี ซึ่งเขาเล่นเพลงนี้ร่วมกับเอลตัน จอห์น[9][10] ปี ค.ศ. 2013 เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ร่วมทัวร์คอนเสิร์ต เดอะเรดทัวร์ กับสวิฟต์ในอเมริกาเหนือ[11] ในปลายปี ค.ศ. 2013 เขาแสดงดนตรีในการแสดงที่ขายบัตรหมดถึง 3 การแสดงที่แมดิสันสแควร์การ์เดน ในนิวยอร์ก

สตูดิโออัลบั้มที่สอง x (อ่านว่า "มัลติพลาย") ออกจำหน่ายวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2014[12] อัลบั้มขึ้นอันดับหนึ่งในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 2015 อัลบั้ม x ได้รับรางวัลบริตอะวอร์ดสาขาอัลบั้มแห่งปี และเขาได้รับรางวัลไอวอร์โนเวลโลอะวอร์ดสาขานักแต่งเพลงแห่งปี[13][14] ซิงเกิลจากอัลบั้ม x "ทิงกิงเอาต์ลาวด์" ทำให้เขาได้รับรางวัลแกรมมีในงานประจำปี ค.ศ. 2016 สาขาเพลงแห่งปี และสาขาแสดงเดี่ยวชายยอดเยี่ยม ในทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกของเขา ชีแรนเล่นคอนเสิร์ตที่ขายบัตรหมดถึง 3 คอนเสิร์ตที่สนามกีฬาเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 เป็นการแสดงที่ใหญ่ที่สุดจนถึงปัจจุบัน[15]

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 ชีแรนออกสตูดิโออัลบั้มที่สาม ÷ (อ่านว่า "ดิไวด์")[16] มีซิงเกิลนำอย่าง "เชปออฟยู" และ "แคสเซิลออนเดอะฮิลล์" ที่ขึ้นสู่อันดับที่ 1 และอันดับที่ 6 ของบิลบอร์ดฮอต 100 ตามลำดับ[17] ต่อมาในวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ชีแรนประกาศว่าสตูดิโออัลบั้มที่สี่ นัมเบอร์ซิกซ์คอลลาบอเรชันส์โปรเจกต์ จะออกจำหน่ายในวันที่ 12 กรกฎาคม ปีเดียวกัน โดยมีซิงเกิลนำคือ "ไอดอนต์แคร์" (ร่วมกับ จัสติน บีเบอร์) และ "ครอสมี" (ร่วมกับ แชนซ์เดอะแรปเปอร์และพีแอนด์บีร็อก)[18]

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2021 ชีแรนเผยแพร่ซิงเกิล "แบดแฮบิตส์" ที่ขึ้นถึงอันดับที่ 1 ของชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร[19] และอันดับที่ 2 ของชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[20] ซิงเกิลนี้เป็นซิงเกิลนำของสตูดิโออัลบั้มที่ห้า = (อ่านว่า "อีควอลส์")[21] ซึ่งออกจำหน่ายในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2021[22] ต่อมาในปี ค.ศ. 2023 ชีแรนออกสตูดิโออัลบั้มที่หก (อ่านว่า "ซับแทรกต์") ในวันที่ 5 พฤษภาคม[23] และสตูดิโออัลบั้มที่เจ็ด ออทัมน์แวริเอชันส์ ในวันที่ 29 กันยายน[24]

ชีวิตช่วงแรก[แก้]

ชีแรนเกิดในแฮลิแฟกซ์ เวสต์ยอร์กเชอร์ และเคยอาศัยในเฮบเดนบริดจ์ เมืองค้าขายในคอลเดอร์เดล ประเทศอังกฤษ[25] ครอบครัวของเขาย้ายไปแฟรมลิงแฮมในซัฟฟอล์กเมื่อครั้งเขาเป็นเด็ก[26] เขามีพี่ชายชื่อแมตธิว เกิดวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1989[27] แมตธิวศึกษาดนตรีที่มหาวิทยาลัยและปัจจุบันเป็นนักประพันธ์เพลงคลาสสิก บิดามารดาของเขาคือ จอห์น และอิโมเกน เกิดที่ลอนดอน ปู่และย่าของเขาเป็นชาวไอริช[28][29][30] ชีแรนกล่าวว่า บิดาของเขาเติบโตในครอบครัวคาทอลิก[31] "ขนาดใหญ่มาก" ปู่ของเขา บิล เป็นโปรเตสแตนต์ และภรรยาของเขา แอน เป็นคาทอลิก บิลและแอนเกษียณในโกรีย์ เทศมณฑลเวกซ์ฟอร์ด[32]

จอห์นเป็นภัณฑารักษ์ดูแลพิพิธภัณฑ์ศิลปะและอาจารย์สอนศิลปะ และอิโมเกนเป็นอดีตนักประชาสัมพันธ์ที่ผันตัวมาเป็นนักออกแบบอัญมณี[29][33] บิดามารดาของเขาดำเนินกิจการชื่อ ชีแรนล็อก ที่ปรึกษาด้านศิลปะอิสระ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990-2010[34] งานของเขาทำให้พวกเขาต้องไปลอนดอน และใช้เวลาสุดสัปดาห์เดินทางกับบุตร และเล่นดนตรีไปด้วย ความทรงจำวัยเด็กของชีแรนคือการได้ฟังเพลงของบ็อบ ดิลลัน และอีริก แคลปตัน ชีแรนกล่าวว่า อัลบั้มแรกที่เขารู้จักคืออัลบั้ม ไอริชฮาร์ตบีต ของแวน มอร์ริสัน ในวัยเด็ก จอห์นพาเขาไปคอนเสิร์ตหลายครั้งจนเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์งานดนตรี คอนเสิร์ตดังกล่าวรวมถึงชมอีริก แคลปตันที่โรยัลอัลเบิร์ตฮอลล์ พอล แม็กคาร์ตนีย์ที่เบอร์มิงแฮม และบ็อบ ดิลลัน[35]

ชีแรนเคยร้องเพลงในคณะประสานเสียงในโบสถ์แถวบ้านตั้งแต่อายุ 4 ปี หัดเล่นกีตาร์ตั้งแต่อายุน้อย และเริ่มแต่งเพลงขณะเรียนที่โทมัสมิลส์ไฮสกูลในแฟรมลิงแฮม[36][37] เมื่อเขาอายุ 11 ปี เขาไปชมการแสดงของเดเมียน ไรซ์ กับบิดาในประเทศไอร์แลนด์ นอกจากไรซ์แล้ว เขายังยกให้เดอะบีเทิลส์ ดิลลัน นิซลอพี และเอ็มมิเน็ม เป็นอิทธิพลทางดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของเขาด้วย[38][39] เขาเป็นผู้อุดหนุนโรงละครยูทมิวสิกเธียเตอร์ยูเค[40] และแอกเซสทูมิวสิก ที่เขาเรียนวิชาพัฒนาศิลปิน[41][42] เขาได้รับคัดเลือกในองค์กรเนชันแนลยูทเธียเตอร์ในลอนดอนตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น[43][44]

สตูดิโออัลบั้ม[แก้]

ทัวร์คอนเสิร์ต[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. O'Brien, Jon. "Ed Sheeran Biography". AllMusic.com. สืบค้นเมื่อ 10 December 2015.
  2. "The 10 best Ed Sheeran songs". axs. 25 July 2014. สืบค้นเมื่อ 25 November 2015.
  3. "Ed Sheeran Has Revealed His Very Good Reason For Becoming A Musician". BuzzFeed. 1 October 2015. สืบค้นเมื่อ 25 November 2015.
  4. "Featured Alumni: Ed Sheeran - Musician/Songwriter". 6 October 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 8 November 2016.
  5. "Ed Sheeran reveals embarrassing moment Elton John emailed him dodgy VIDEOS while he was at US customs". Daily Mirror. 21 May 2015. สืบค้นเมื่อ 8 November 2016.
  6. "Ed Sheeran on The A Team's Ivor Novello success". MusicRadar. 23 May 2012. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  7. "Brit Awards 2012: List of Winners". BBC News. 21 February 2012. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  8. "New Video: Taylor Swift featuring Ed Sheeran, 'Everything Has Changed'". MTV News. 6 June 2013. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  9. "2013 Grammy Nominations: The Full List". MTV News. 6 December 2012. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  10. "Check Out The Full List Of 2013 Grammy Performers (And Mark Your Calendar!)". Teen Vogue. 24 January 2013. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  11. "Ed Sheeran Calls Taylor Swift Opening Gig 'Mind-blowing'". MTV News. 31 October 2012. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  12. "Ed Sheeran confirms new album title and release date". NME News. 6 April 2014. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  13. "Winners". Brits. สืบค้นเมื่อ 25 November 2015.
  14. Denham, Jess (21 May 2015). "Ivor Novello Awards 2015 winners list: Ed Sheeran, Clean Bandit and Hozier triumph". The Independent. สืบค้นเมื่อ 15 November 2015.
  15. "mtv review: ed sheeran absolutely smashes wembley stadium show". MTV. 12 July 2015. สืบค้นเมื่อ 24 November 2015.
  16. "When are Ed Sheeran's 2017 UK tour dates, when was his new album 'Divide' released and what songs are on it?". The Sun. สืบค้นเมื่อ April 13, 2017.
  17. "Ed Sheeran - Chart history". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 13, 2017.
  18. Rossignol, Derrick (23 May 2019). "Ed Sheeran Teased A New Collaboration With Chance The Rapper And PnB Rock". Uproxx. สืบค้นเมื่อ 23 May 2019.
  19. "Bad Habits". Official Chart History. สืบค้นเมื่อ October 30, 2021.
  20. "Ed Sheeran". Billboard. สืบค้นเมื่อ October 30, 2021.
  21. Beaumont-Thomas, Ben (19 August 2021). "Ed Sheeran announces new album, =". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 19 August 2021.
  22. Curto, Justin (19 August 2021). "Ed Sheeran to Complete the Equation With New Album =". Vulture. สืบค้นเมื่อ 19 August 2021.
  23. Beaumont-Thomas, Ben (1 March 2023). "New Ed Sheeran album, Subtract, informed by 'fear, depression and anxiety'". The Guardian.
  24. Willman, Chris (24 August 2023). "Ed Sheeran Announces Second Album of 2023, 'Autumn Variations,' Reteaming With Aaron Dessner". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 August 2023. สืบค้นเมื่อ 24 August 2023.
  25. "Ed Sheeran on Chris Moyles Show on Radio X". Radio X. 9 January 2017. สืบค้นเมื่อ 15 January 2017.[ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้]
  26. Walsh, John (6 December 2014). "Ed Sheeran: Boy next door who made it very big". The Independent. สืบค้นเมื่อ 8 November 2015.
  27. "Ed Sheeran Talks with Bex". YouTube. 6 July 2014. สืบค้นเมื่อ 29 January 2016.
  28. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-02. สืบค้นเมื่อ 2017-01-22.
  29. 29.0 29.1 Nolan 2012, pp. 1–6.
  30. Welch, Andy (10 June 2011). "Ed Sheeran: Irish blood, English heart". Irish Independent. สืบค้นเมื่อ 8 November 2015.
  31. Roman, Tyler (6 August 2013). "Q&A With Ed Sheeran At The Acoustic Café". Cbslocal.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-19. สืบค้นเมื่อ 8 November 2015.
  32. Power, Ed (7 October 2011). "Q&A: Ed Sheeran". Irish Independent. สืบค้นเมื่อ 8 November 2015.
  33. Sage, Sarky (31 March 2011). "Framlingham: Pop star Ed Sheeran's mum has success with jewellery range – News – East Anglian Daily Times". East Anglian Daily Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 8 November 2015.
  34. Larner, Catherine (20 May 2014). "The man who loves art". Suffolkmag.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-17. สืบค้นเมื่อ 9 November 2015.
  35. Ed sheeran : a visual journey. [S.l.]: Running Press. 2014. p. 27. ISBN 9780762456963.
  36. Rock and Pop Features (3 August 2011). "Ed Sheeran: 'I haven't got used to the screams'". The Daily Telegraph. London. สืบค้นเมื่อ 8 June 2013.
  37. "Introducing – Ed Sheeran". BBC Suffolk. April 2008. สืบค้นเมื่อ 11 August 2011.
  38. "Ed Sheeran – The Interview". MTV. Retrieved 29 November 2014
  39. "Interview with UK Pop Sensation Ed Sheeran", axs. Retrieved 29 November 2014
  40. "Sheeran penned 26 new album tracks". MSN Music. MSN. 28 January 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-30. สืบค้นเมื่อ 12 February 2013.
  41. "Patron Ed Sheeran". Access to Music. Access to Music. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-03. สืบค้นเมื่อ 12 August 2015.
  42. "Student Success Stories". Access to Music. Access to Music. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-01. สืบค้นเมื่อ 12 August 2015.
  43. Haugh, Richard (22 April 2008). "Suffolk – Entertainment – Ed Sheeran". BBC. สืบค้นเมื่อ 8 June 2013.
  44. "Ed Sheeran: 'I want a couple of months off' | Scout London > Music". Scout London. 1 February 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-25. สืบค้นเมื่อ 8 June 2013.