เออเฌนี เดอ มอนตีโค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เออเฌนี เดอ มอนตีโค
สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส
ครองราชย์30 มกราคม พ.ศ. 2396 - 11 มกราคม พ.ศ. 2414
รัชกาลก่อนหน้าสมเด็จพระราชินีมาเรีย อเมเรีย แห่งทูซิชิลี
รัชกาลถัดไปไม่มี (สิ้นสุดระบอบกษัตริย์)
ประสูติ5 พฤษภาคม พ.ศ. 2369
สวรรคต11 กรกฎาคม พ.ศ. 2463 (94 พรรษา)
พระราชสวามีสมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส
พระราชบุตรมกุฎราชกุมารนโปเลียน ยูเจนีแห่งฝรั่งเศส
เออเฌนี เดอ มอนตีโค สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส
ราชวงศ์ราชวงศ์โบนาปาร์ต
พระราชบิดาคาร์เปียโน เดอ พาลาฟอก ยี ปอร์โตคาเรโร
พระราชมารดามาเรีย มานูเอลา เคิร์กเพทริค
ลายพระอภิไธย

สมเด็จพระจักรพรรดินีเออเฌนี เดอ มอนตีโค (ยูเจนีแห่งฝรั่งเศส) (5 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 - 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2463) (ฝรั่งเศส: Eugénie de Montijo ออกเสียง) ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศสพระองค์สุดท้าย และเป็นพระชายาในสมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ประสูติ ณ แคว้นเกรนาดา, สเปน พระองค์จึงทรงเป็นชาวสเปนโดยกำเนิด มีพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวคือมกุฎราชกุมารนโปเลียน ยูเจนีแห่งฝรั่งเศส รัชสมัยของพระองค์สิ้นสุดลงในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2414 จากการปฏิวัติ ทำให้ระบอบกษัตริย์ในฝรั่งเศสสิ้นสุดลงเป็นครั้งที่ 3 หลังจากประเทศต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงมากมายในการปกครองระหว่างระบบสาธารณรัฐกับระบอบกษัตริย์จากการปฏิวัติฝรั่งเศส

สมเด็จพระจักรพรรดินี[แก้]

สมเด็จพระจักรพรรดินีเออเชนีเดอมองติโคประสูติในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 ที่แคว้นเกรนาดา ประเทศสเปน เป็นบุตรีของคาร์เปียโน เดอ พาลาฟอก ยี ปอร์โตคาเรโร เคานท์แห่งมอนติโจ กับมาเรีย มานูเอลา เคิร์กเพทริค เคานท์เตสแห่งมอนติโจ

พระเชษฐภคินีของพระนางคือ มาเรีย ฟรานซิสกา เดอ ซาเลส ปอร์โตคาเรโร เดอ พาลาฟอก เคิร์กเพทริค เป็นที่รู้จักกันในนาม พาคา (Paca) ผู้ซึ่งสืบต่อมรดกของตระกูลและเป็นดัสเซสแห่งพานาเรนดา แกรนด์ดีแห่งสเปนและเคานท์เตสแห่งมอนติโจ ในพิธีอภิเษกสมรสของพระนางยูเจนีทรงใช้พระยศ เคานท์เตสแห่งเทบาหรือเคานท์เตสแห่งมอนติโจ แต่ยังเป็นที่ถกเถียงว่าตำแหน่งเคานท์เตสแห่งมอนติโจนั้นเป็นตำแหน่งของพระเชษฐภคินีของพระนาง ส่วนตำแหน่งเคานท์เตสแห่งเทบานั้นพระนางทรงได้รับมาหลังจากพระบิดาของพระนางสิ้นพระชนม์

พระนางยูเจนี เดอ มอนติโจ กลายเป็นที่รู้จักในฝรั่งเศส พระนางได้ศึกษาในปารีส ณ สำนักชีที่ล้ำสมัยในสมัยนั้นคือ บาซิลิกาแห่งซาแคร์ โคอูล (Sacré Cœur) ที่ซึ่งพระนางได้รับการศึกษาในแบบคาทอลิก เมื่อเจ้าชายนโปเลียน หลุยส์แห่งฝรั่งเศสกลายเป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 2 พระนางและพระชนนีได้ไปแสดงความยินดีที่พระราชวังอีลีซี ที่นั่นที่พระนางได้พบกับจักรพรรดิในอนาคต ผู้ซึ่งพระนางได้สมรสด้วยในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2396 เจ้าชายนโปเลียนปฏิเสธแผนการที่จะสมรสกับเจ้าหญิงคาโรลาแห่งวาซาซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระราชินีแห่งแซกโซนีและเป็นพระนัดดาในพระเจ้ากุสตาฟที่ 4 อดอล์ฟแห่งสวีเดน และทรงปฏิเสธเจ้าหญิงอเดลเฮดแห่งโฮเฮนโลเฮ-ลานเกนเบิร์ก พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร

การอภิเษกสมรสที่ทำให้เกิดข้อโต้แย้ง[แก้]

สมเด็จพระจักรพรรดินียูเจนีและพระโอรส

การกล่าวปราศรัยบนราชบัลลังก์ในวันที่ 22 มกราคม จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ได้ทรงประกาศการหมั้นอย่างเป็นทางการ พระองค์ได้ดำรัสว่า "ข้าชอบผู้หญิงคนนี้คนที่ข้ารักและเคารพ ที่ไม่มีใครรู้และเป็นผู้ซึ่งเป็นมิตรไมตรีและเป็นผู้เสียสละ" คู่รักที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายนี้ได้ถูกวิพากย์วิจารณ์เสียดสีจากสหราชอาณาจักร หนังสือพิมพ์ เดอะ ไทม์ได้เขียนว่า "เราได้รู้บางสิ่งที่น่าขบขันคือเหตุการณ์ความรักในจักรวรรดิฝรั่งเศสซึ่งเรียกว่าคู่แข่งด้านหน้าของอังกฤษและกระตุ้นให้สร้างความขุ่นเคืองมากที่สุด พระราชวงศ์ รัฐบาล ประชากรในเขตพระราชวังและเขตรอบนอก และการกระทบกระเทือนการสมรสครั้งนี้ทั้งหมดเป็นความอัปยศอดสูของฝรั่งเศสที่วิเศษที่สุด" เคานท์เตสชาวสเปนวัย 26 ชันษาผู้ซึ่งมีเชื้อสายตระกูลเก่า หนังสือพิมพ์อังกฤษได้บรรยายด้วยการปกปิดข้อเท็จจริง ทำให้ไม่มีคำอธิบายที่ดีพอสำหรับราชวงศ์โบนาปาร์ต

ในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2399 พระนางได้ให้กำเนิดพระโอรสคือมกุฎราชกุมารนโปเลียน ยูเจนีแห่งฝรั่งเศส ซึ่งได้รับพระยศเป็น Prince Impérial

ด้วยพระสิริโฉม พระจริยาวัตรที่งดงาม และสติปัญญาของพระนางมีส่วนช่วยทำให้การปกครองดำเนินไปด้วยความรุ่งโรจน์ พระนางมีพระสหายสนิทมาก คือ เจ้าหญิงพอลีน ฟาน แม็ตเตอร์นิก ภริยาในเอกอัครราชทูตออสเตรียในปารีส ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในสังคมและพระราชวงศ์ พระนางทรงสนพระทัยเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระนางมารี อองตัวเนต ได้จุดประกายให้พระองค์สนพระทัยในเครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ และการตกแต่งภายในแบบศิลปะนีโอคลาสสิกในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส

ด้วยพระนางทรงมีความรู้และเฉลียวฉลาด พระสวามีจึงปรึกษาพระนางอยู่เสมอเมื่อทรงมีปัญหาทางการเมืองการปกครอง พระนางทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในช่วงที่พระสวามีเสด็จเยือนต่างประเทศในปี พ.ศ. 2405, พ.ศ. 2408 และ พ.ศ. 2413

หลังสงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซีย[แก้]

เออเฌนี เดอ มอนตีโค จักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส, 1856
สมเด็จพระจักรพรรดินีเออเฌนีขณะทรงไว้ทุกข์แก่พระโอรสในปี พ.ศ. 2423

เมื่อจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 ล่มสลาย หลังจากฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซีย (the Franco-Prussian War) พระจักรพรรดินีและพระสวามีของพระนางได้เสด็จลี้ภัยไปอังกฤษ ได้ตั้งรกรากที่คริสเลเฮิร์ท เคนต์ หลังจากพระสวามีสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 2416 และตามด้วยพระโอรสในปี พ.ศ. 2422 พระนางได้ทรงย้ายไปที่ฟรานเบิร์ก แฮมเชียร์ ในปี พ.ศ. 2428 ที่ในชนบท "Cyrnos" ทรงอยู่อย่างสันโดษและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระสวามีและพระโอรสทำให้สุขภาพของพระนางทรุดโทรมลง แพทย์ได้แนะนำให้พระนางเสด็จเยือนบอร์นมัธ ที่ซึ่งมีที่พักเพื่อสุขภาพ แต่อดีตพระจักรพรรดินีเออเฌนีได้สิ้นพระชนม์ในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2463 พระชนมายุ 94 พรรษา ในระหว่างเสด็จเยี่ยมพระญาติที่ มาดริด พระนางเป็นพระมารดาทูนหัวในเจ้าหญิงวิกตอเรีย ยูจีนีแห่งแบ็ตเต็นเบิร์ก พระธิดาในเจ้าฟ้าหญิงเบียทริซแห่งสหราชอาณาจักร ผู้ซึ่งหลังจากนั้นเป็นพระมเหสีในพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 แห่งสเปน

พระอิสริยยศตั้งแต่ประสูติจนถึงสวรรคต[แก้]

  • เจ้าฟ้าหญิงยูเจเนีย อิกนาเซีย ออกุสตินา พาลาฟอก เดอ กุซมัน ปอร์โตคาเรโร ยี เคิร์กแพทริก
  • เจ้าฟ้าหญิงยูเจเนีย อิกนาเซีย ออกุสตินา พาลาฟอก เดอ กุซมัน ปอร์โตคาเรโร ยี เคิร์กแพทริก เคานท์เตสที่ 9 แห่งเทบา
  • สมเด็จพระจักรพรรดินีเออเฌนีแห่งฝรั่งเศส ( พ.ศ. 2396 - พ.ศ. 2414)
  • พระจักรพรรดินีเออเฌนีแห่งฝรั่งเศส (พ.ศ. 2414 - พ.ศ. 2463)

อ้างอิง[แก้]


ก่อนหน้า เออเฌนี เดอ มอนตีโค ถัดไป
สมเด็จพระราชินีมาเรีย อเมเรีย แห่งทูซิชิลี
คำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินี

สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส
(ราชวงศ์โบนาปาร์ต)

(พ.ศ. 2396 - พ.ศ. 2414)
ไม่มี (ระบอบราชาธิปไตยล่มสลาย)