เพชรโคอินัวร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เพชรโคอินัวร์
Koh-i-Noor
แบบจำลองเหมือนจริงของโคอินัวร์ ในพิพิธภัณฑ์คริสตัลที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี
น้ำหนัก186 1/16 กะรัต (37.21 กรัม)
สถานที่ค้นพบธงของประเทศอินเดีย อินเดีย
แหล่งกำเนิดเหมืองกอลลูร์ อำเภอกุนตูร์ รัฐอานธรประเทศ
ผู้ครอบครองส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักร

โคห์อินัวร์ (อังกฤษ: Koh-i-Noor, เปอร์เซีย: کوہ نور อ่านออกเสียง: koh iː nuːɾ|pron, "ภูเขาแห่งแสง"; บางครั้งสะกดเป็น Kuh-e Nur หรือ Koh-i-Nur) คือเพชรที่มีขนาด 105.6 กะรัต มีน้ำหนัก 21.6 กรัม ในสภาพที่เจียระไนครั้งล่าสุด (ก่อนหน้านี้มีขนาด 186.6 กะรัต หนัก 37.21 กรัม) และยังเคยเป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตามหลักฐานนั้นค้นพบในรัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดีย พร้อมกันกับเพชรคู่แฝดที่มีชื่อว่า ดารยา-เย-นัวร์ (แปลว่า​ "ทะเลแห่งแสง") โคห์อินัวร์นั้นมีประวัติอันยาวนาน โดยตกเป็นเพชรของหลายราชวงศ์ในอดีต รวมถึง ราชปุตแห่งอินเดีย, ราชวงศ์โมกุล, ราชวงศ์อัฟชาริด, ราชวงศ์ดูร์รานี, ราชวงศ์ซิกข์ และล่าสุดนั้นตกเป็นของจักรวรรดิอังกฤษ[1]

โคห์อินัวร์ได้ถูกริบจากผู้ครอบครองคือ ดูลิป สิงห์ ในปีค.ศ. 1850 โดยบริษัทอินเดียตะวันออก และต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักรเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งอินเดียในปีค.ศ. 1877 โคห์อินัวร์เคยถูกเรียกว่า "ศิยมันทกามณี" และต่อมา "มณยัก" หรือ "ราชาแห่งอัญมณี" ก่อนจะถูกเรียกเป็น "โคห์อินัวร์" ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยชาห์นาเดอร์ ภายหลังจากการยึดครองอินเดียของพระองค์ ในปัจจุบันโคห์อินัวร์ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงที่หอคอยแห่งลอนดอน


เครื่องราชกกุธภัณฑ์[แก้]

สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา ทรงเครื่องประดับที่มีโคห์อินัวร์อยู่บนมงกุฏ
แบบจำลองหลังเจียระไนครั้งใหม่ของโคห์อินัวร์

ในปีค.ศ. 1852กรุงอัมสเตอร์ดัม[2] ภายใต้การกำกับของเจ้าชายอัลเบิร์ต และผู้เชี่ยวชาญทางอัญมณี เจมส์ เทนแนนท์ ได้ทำการเจียระไนโคห์อินูร์จากขนาดดั้งเดิมที่ 186 1/6 กะรัต (หนัก 37.21 กรัม) ให้เหลือเพียงขนาดปัจจุบันที่ 105.602 กะรัต (21.61 กรัม) เพื่อเพิ่มการสะท้อนแสง ซึ่งพระองค์ได้ทรงตัดสินพระทัยอย่างกล้ำกลืนภายหลังจากทรงหารือกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ด้วยมูลค่าการเจียระไนประมาณ 8,000 ปอนด์ ซึ่งได้ลดขนาดของเพชรนี้ลงถึง 42 เปอร์เซนต์ แต่ถึงกระนั้นทรงไม่พอพระทัยผลงานที่ได้ จากนั้นได้นำโคห์อินัวร์ไปประดับบนมงกุฎที่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียมักทรงอยู่บ่อยๆ ซึ่งขณะนั้นได้เก็บรักษาไว้ที่พระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งปกติแล้วเครื่องราชกกุธภัณฑ์จะต้องเก็บรักษาที่หอคอยแห่งลอนดอนเท่านั้น[3]

ภายหลังจากที่ทรงเสด็จสวรรคตแล้ว ในรัชกาลถัดมา สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดราทรงให้ย้ายโคห์อินูร์มาประดับบนมงกุฏองค์ใหม่ของพระองค์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 พระสวามี ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดราทรงเป็นพระราชินี (ฐานะพระอัครมเหสี) พระองค์แรกที่ทรงมงกุฏประดับเพชร ซึ่งได้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อมาในรัชกาลของสมเด็จพระราชินีแมรี และต่อมาสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี

การทวงสิทธิ์ในโคห์อินัวร์[แก้]

อินเดียได้มีการทวงสิทธิ์ในโคห์อินัวร์ เนื่องจากถือว่าถูกริบไปอย่างผิดกฎหมาย และควรที่จะถูกส่งมอบคืนให้แก่อินเดีย[4] เมื่อสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบ็ธที่ 2 ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในรัฐพิธีเฉลิมฉลองอิสรภาพครบ 50 ปีของอินเดียในปีค.ศ. 1997 ชาวอินเดียในประเทศอินเดีย และในสหราชอาณาจักรได้เรียกร้องให้มีการส่งคืนโคห์อินัวร์ให้กับอินเดีย ซึ่งต่อมาในปีค.ศ. 2013 ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษเยือนประเทศอินเดียนั้น ได้กล่าวว่า โคห์อินัวร์จะไม่ถูกมอบคืน และไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องส่งคืนให้กับอินเดีย[5]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Iradj Amini, บ.ก. (July 20, 2002). "KOH-I-NOOR". United States: Encyclopædia Iranica - Online Version. สืบค้นเมื่อ 2012-08-22.
  2. Dunton, Larkin (1896). The World and Its People. Silver, Burdett. p. 144.
  3. Dunton, Larkin (1896). The World and Its People. Silver, Burdett. p. 27.
  4. "Indian MPs demand Kohinoor's return". BBC News. 2000-04-26. สืบค้นเมื่อ 2009-08-10.
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-12. สืบค้นเมื่อ 2013-04-12.