เผ่าอาเชอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เผ่าอาเชอร์ เป็น 1 ในบรรดา 12 เผ่าของอิสราเอล ตามบันทึกในพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ในหมวดพระธรรมเบญจบรรณ และตามพระคัมภีร์โตราห์ในศาสนายูดาย กาด เป็นชื่อของบุตรชายคนที่ 8 ของยาโคบ หรือ อิสราเอล ซึ่งเกิดกับ นางศิลปาห์ สาวใช้ของนางเลอาห์

กำเนิดอาเชอร์[แก้]

เมื่อยาโคบไปอยู่กับลาบัน ลุงของตน ลาบันให้ยาโคบทำงาน 7 ปี เพื่อแลกกับนางราเชล บุตรสาวคนเล็กของตน แต่เมื่อครบ 7 ปีตามกำหนด ลาบันกลับให้ยาโคบแต่งงานกับนางเลอาห์ บุตรีคนโต ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นธรรมเนียมที่คนพี่จะต้องแต่งก่อนคนน้อง ยาโคบจึงต้องทำงานอีก 7 ปีเพื่อให้ได้นางราเชล เมื่ออยู่กินกันนั้น ยาโคบรักนางราเชล และชังนางเลอาห์ พระเจ้าจึงทรงเบิกครรภ์ของนางให้มีบุตรชายแก่ยาโคบ ถึง 4 คนติดต่อกัน ต่อมาเมื่อนางราเชลเห็นว่าตนไม่มีบุตร และพี่สาวมีบุตรชายถึง 4 คน จึงได้ยกสาวใช้ของตนให้นอนกับยาโคบ นางเลอาห์จึงได้ยกนางศิลปาห์ สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบด้วยเช่นกัน และนางศิลปาห์ก็มีบุตรชาย 2 คน ได้แก่ กาด และอาเชอร์

เหตุที่ได้ชื่อว่า อาเชอร์ เนื่องด้วยเมื่อนางศิลปาห์ตั้งครรภ์และมีบุตรชายคนที่สอง ให้แก่ยาโคบ นางเลอาห์จึงกล่าวว่า "ข้าพเจ้ามีความสุข พวกสตรีจะเรียกข้าพเจ้าว่า เป็นสุข"[1] อาเชอร์ จึงมาจากคำภาษาฮีบรู ที่แปลว่า สุข[2]

คำพยากรณ์ของยาโคบที่มีต่ออาเชอร์[แก้]

ก่อนยาโคบจะสิ้นใจ ท่านได้เรียกบรรดาบุตรของท่านมา เพื่อบอกเหตุอันจะเกิดภายหน้าแก่บุตรของท่าน คำพยากรณ์ของยาโคบที่มีต่ออาเชอร์ มีดังนี้

"...อาหารของอาเชอร์จะบริบูรณ์ และเขาจะผลิตเครื่องเสวยสำหรับกษัตริย์..."[3]

คำอวยพรของโมเสสแก่เผ่าอาเชอร์[แก้]

ก่อนโมเสสจะสิ้นชีวิต พระเจ้าได้ทรงเรียกท่านขึ้นไปยังภูเขาอาบาริม แผ่นดินโมอับ ตรงข้ามเมืองเยรีโค นั้น ที่นั่น โมเสสได้กล่าวอวยพระแก่ชนเผ่าต่าง ๆ ของอิสราเอล โดยบทอวยพรแก่เผ่าอาเชอร์ เป็นดังนี้

"...ขอให้อาเชอร์ได้รับพระพรเหนือบุตรทั้งหลาย ให้เขาเป็นที่โปรดปรานในพี่น้องของเขา และให้เขาจุ่มเท้าเขาลงในน้ำมัน ดาลประตูของท่านจะเป็นเหล็กและทองเหลือง ขอให้กำลังของท่านคงอยู่ตลอดวันคืนของท่าน"[4]

ดินแดนของเผ่าอาเชอร์ในอิสราเอล[แก้]

เมื่ออิสราเอลได้เข้าไปยังแผ่นดินคานาอัน ได้ขับไล่ชาวเมืองนั้น และยึดครองแผ่นดินได้ทั้งหมดแล้ว จึงได้จับฉลากแบ่งดินแดนกัน ตามที่พระเจ้าทรงบัญชาผ่านโมเสสไว้ โดยเผ่ารูเบน และเผ่ากาด ได้ที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน เผ่ายูดาห์ ได้รับมรดกที่ดินด้วยคาเลบผู้นำเผ่านั้นได้รับการอวยพระพรจากพระเจ้า[5] และพงศ์พันธุ์ของยาโคบนั้น ได้รับมรดกในฐานะบุตรหัวปี จึงเหลืออีก 7 เผ่าที่ยังไม่ได้รับมรดก จึงได้นำดินแดนที่เหลือนั้น มีแบ่งเป็น 7 ส่วนและจับฉลากกัน โดยเผ่าอาเชอร์นั้นจับได้ฉลากที่ห้า รวมมรดกที่ดินที่ได้นั้นเป็น 22 หัวเมืองกับชนบทของหัวเมืองนั้น ๆ ด้วย [6]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. พระธรรมปฐมกาล บทที่ 30 ข้อที่ 12-13
  2. พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิม ฉบับเรียงพิมพ์ใหม่ ปี พ.ศ. 2541 (สมาคมพระคริสตธรรมไทย)
  3. หนังสือปฐมกาล บทที่ 49 ข้อที่ 20
  4. หนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 33 ข้อที่ 24-25
  5. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในพระธรรมกันดารวิถี
  6. หนังสือโยชูวา บทที่ 19
บุตรของยาโคบ ตามชื่อภรรยา (ญ = บุตรสาว)
(ตัวเลขในวงเล็บคือลำดับของการเกิด)
เลอาห์ รูเบน (Reuben) (1) สิเมโอน (Simeon) (2) เลวี (Levi) (3) ดีนาห์ (Dinah) (ญ)
ยูดาห์ (Judah) (4) อิสสาคาร์ (Issachar) (9) เศบูลุน (Zebulun) (10)
ราเชล โยเซฟ (Joseph) (11) เบนยามิน (Benjamin) (12)
เอฟราอิม บุตรโยเซฟ (11.1) มนัสเสห์ บุตรโยเซฟ (11.2)
บิลลาห์
(สาวใช้นางราเชล)
ดาน (Dan) (5) นัฟทาลี (Naphtali) (6)
ศิลปาห์
(สาวใช้นางเลอาห์)
กาด (Gad) (7) อาเชอร์ (Asher) (8)