เปรม มาลากุล ณ อยุธยา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เปรม มาลากุล ณ อยุธยา
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด2 สิงหาคม พ.ศ. 2480
อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
เสียชีวิต9 มกราคม พ.ศ. 2556 (75 ปี)
คู่สมรสสันทนา มาลากุล ณ อยุธยา

นายเปรม มาลากุล ณ อยุธยา (2 สิงหาคม พ.ศ. 2480 - 9 มกราคม พ.ศ. 2556) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์ 5 สมัย

ประวัติ[แก้]

นายเปรม มาลากุล ณ อยุธยา เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2480 เป็นบุตรของนายประวัติ และ นางบุญมา มาลากุล ณ อยุธยา[1] สำเร็จการศึกษา นิติศาสตรบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมรมกับ นางสันทนา มาลากุล ณ อยุธยา มีบุตร-ธิดา 4 คน คือ ทันตแพทย์หญิง ปฏิมารังสรรค์ มาลากุล ณ อยุธยา, นายปรม มาลากุล ณ อยุธยา, นายปิญช์ มาลากุล ณ อยุธยา และ นางสาวนรจันทร์ มาลากุล ณ อยุธยา

งานการเมือง[แก้]

เปรม ได้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ใน พ.ศ. 2518 สังกัดพรรคสยามใหม่ (พ.ศ. 2518) และได้รับเลือกติดต่อกันจนถึง พ.ศ. 2529 รวม 5 สมัย[2]

พ.ศ. 2544 เปรม ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เขต 1 จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนที่จะไม่ได้รับเลือกตั้ง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร[แก้]

เปรม มาลากุล ณ อยุธยา ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 5 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2518 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคสยามใหม่ (พ.ศ. 2518)
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2519 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคสยามใหม่ (พ.ศ. 2518)
  3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2522 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคสยามปฏิรูป
  4. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคชาติไทย
  5. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2529 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคสหประชาธิปไตย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. ประวัติผู้สมัคร ส.ส.[ลิงก์เสีย] กรมการปกครอง
  2. ศูนย์ข้อมูลนักการเมือง
  3. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-05-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๐ ตอนที่ ๒๐๗ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔๘, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๖
  4. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙๘ ตอนที่ ๒๐๖ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๕๓, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๔