เต็ม กัณหา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เต็ม กัณหา
เกิดสุราษฎร์ธานี

นายเต็ม กัณหา เป็นน้องชายของนายคล่อง กัณหาซึ่งเคยติดตามผู้พี่ครั้งมาชกมวยที่สนามมวยสวนกุหลาบเต็ม กัณหา ชกต่อยดุเดือดยิ่งกว่าผู้พี่มาก

ครั้งแรกที่นายเต็ม กัณหา ขึ้นชกมวยที่สนามมวยสวนกุหลาบและเป็นที่ติดหูติดตาต้องใจคนทั่วไป ก็เพราะเหตุว่า วันที่นายคล่อง กัณหาได้ชกกับนักมวยฝีมือดี ชาวเพชรบุรี ชื่อ ฮิม เป็นไทยอิสลาม นายเต็ม กัณหา เพิ่งสึกออกมาจากเพศบรรพชิต และเดินทางตามพี่ชายเข้ามาพักที่บ้านไชยา ถนนสีลม ขณะที่นายเต็ม ดูพี่ชายชก ปรากฏว่าคนดูรอบตัวเขา เป็นแฟนของนายฮิม ทั้งนั้น เสียงหนุนฝ่ายนายฮิม ค่อนข้างจะหยาบคายและบางทีก็เกินเลยด่าพ่อล่อแม่เป็นเหตุให้นายเต็ม กัณหา เกิดโทสะ ด่าตอบโดยไม่หวั่นเกรง มีคนหนึ่งฝ่ายสนับสนุนนายฮิม แหวกเพื่อนเข้ามาหานายเต็ม พูดจาท้าทายชวนตี ฝ่ายนายเต็ม กัณหา เข้าใจว่าจะต้องชกกันเดี๋ยวนั้นแบบมีงานในชนบท จึงเตรียมตัวและร้องบอกกล่าว ว่าอย่ารุมกัน

บังเอิญมีบุคคลภายนอกประสบเหตุและชี้แจงว่า หากเกิดการชกต่อยแบบไม่มีกรรมการจะต้องตกเป็นผู้ต้องหา ก่อการวิวาท อาจถูกตำรวจจับเสียค่าปรับหรือติดคุกติดตะราง หากตกลงปลงใจที่จะชกต่อยกันจริง ก็ควรอดใจรอไว้ไปพบกันที่สนามเสือป่า ในวันเปรียบมวย นายเต็ม กับคู่อริ ซึ่งปรากฏว่าเป็นชาวมีนบุรี ได้ถูกจัดให้เข้ารายการ ในนัดต่อมา

นายเต็ม กัณหา นั้นมีความเคียดแค้นคู่ชกอยู่เป็นอย่างมาก จึงหมายมั่นปั้นมือที่จะล้างแค้นให้สมใจที่ถูกด่าพ่อล่อแม่ อีกประการหนึ่ง นายเต็ม กัณหา รู้ตัวว่าแม้จะมีฝีมือในเชิงมวยก็มิได้ฝึกซ้อมถึงขนาด เพราะไปบวชเป็นพระภิกษุเสีย ฉะนั้นทางที่ดีจำเป็นที่จะต้องเผด็จศึกภายในเวลาอันรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อกลองสัญญาณดังขึ้น คู่ต่อสู้ของนายเต็ม กัณหา มิได้แสดงท่าทางว่าถนัดหมัดมวยเลย ขณะเหยาะย่างปรากฏว่าขาสั่นไม่มั่นคง นายเต็ม กัณหา ไหว้ครูเสร็จแล้วยืนกัดกรามจ้องไปยังคู่ต่อสู้เพื่อเก็งฝีมือ ต่อจากนั้นนายเต็มก็มิได้รอช้า มุ่งมั่นหมายล้างแค้นที่คู่ปฏิปักษ์ด่าท้าทาย นายเต็ม กัณหา ย่างสามขุมเอียงตัวไปมา หลอกล่อทำทีให้หลงกล พอเข้าใกล้ได้จังหวะเหมาะก็เหวี่ยงด้วยตีนซ้ายให้คู่ต่อสู้งอแขนรับ พอตีนตกถึงพื้นหมัดขวาของเต็ม กัณหา ก็เหวี่ยงเข้าที่กกหู และตามด้วยหมัดซ้ายเข้าที่ใบหน้า คู่ต่อสู้ก้นกระแทกพื้น พอลุกขึ้นทั้งๆที่ยังมึนงง นายเต็ม กัณหาก็ไม่ปล่อยนาทีทองให้ผ่านไป เพราะเห็นได้ชัดว่า คู่ต่อสู้ไม่มีพิษชกต่อยโต้ตอบสะเปะสะปะ หลับหูหลับตา นายเต็ม กัณหา เข้าตะลุยชกทั้งหมัดซ้ายขวาจนคู่ต่อสู้เลือดกระฉูดเปรอะไปทั้งหน้า ต้องถอยร่นไปยืนเกาะเชือกไม่ยอมออกมากลางเวที ผู้ตัดสินจึงยุติการชกโดยให้นายเต็ม กัณหาเป็นฝ่ายชนะในการชกในครั้งนั้น

ต่อมานายเต็มได้ชกกับครูพลศึกษาศิษย์เอกของปรมาจารย์หลวงพิพัฒน์พลกาย(กระจ่าง วิโรจน์เพชร) และเป็นฝ่ายชนะคะแนนเหนือศิษย์เอกหลวงพิพัฒน์พลกาย ครั้งนั้นเป็นเหตุให้มีการล้างแค้นกันอีกในหลายปีต่อมา

เมื่อพวกนักมวยพุมเรียง ไชยา เดินทางกลับบ้านเดิมแล้ว นายเต็ม กัณหา ยังอยู่กรุงเทพฯต่อไปอีก ได้มีโอกาสชกมวยตามสนามต่างๆ เช่น สนามท่าช้างวังหน้า และสนามสวนสนุก มีชื่อเสียงและมีเงินติดกระเป๋าใช้สอย แต่เงินทองกับการใช้สอยไม่ยั้งคิด ทำให้นายเต็ม กัณหาเปลี่ยนจากชาวพุมเรียงธรรมดา มาเป็นนักมวยเร่ร่อนที่มีความสุขจอมปลอมในพระนคร และยังคงกรีดกรายอยู่ในกรุงเทพฯปล่อยตัวและหลงเพลิดเพลินกับสิ่งแวดล้อมเย้ายวนจนร่างกายและสุขภาพทรุดโทรม นัยน์ตาข้างหนึ่งได้รับเชื้อจากโรคร้ายจนเกือบจะบอด นึกขยาดหวาดเกรงไม่กล้าโผล่หน้าไปที่บ้านไชยา ถนนสีลม ซึ่งเป็นที่พึ่งพำนักของชาวปักษ์ใต้โดยมาก นายเต็ม กัณหา ต้องทรมานจนเหลือทนจึงจำต้องหันหน้าเข้าพึ่งพาอาศัย นายเติม มีบุญ ผู้เป็นภูมิชาวใต้ด้วยกันด้วยความจำเป็นบังคับจนไม่มีทางหลีกเลี่ยง นายเต็ม กัณหา จึงถูกพาตัวที่เหี่ยวย่น ร่วงโรยซีดเซียวจนเห็นได้ ขึ้นพบกับทองอยู่ นิลสุวรรณ ฉายา “ซ้ายฟ้าผ่า”อีกครั้งหนึ่งที่สนามมวยสวนสนุก

ทองอยู่ นิลสุวรรณ ขณะนั้นโด่งดังเหมือนพลุมองดูเต็ม กัณหาเหมือนฟ้ามองดิน ที่ร่วงโรยจนไม่เหลือแม้แต่เงาเต็มคนเดิม พอระฆังเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น และต่างฝ่ายต่างไหว้ครูตามระเบียบแล้ว ทองอยู่ นิลสุวรรณ ก็เริ่มบุกเข้าใช้ซ้ายฟ้าผ่าอย่างไม่ปราณี ประชาชนที่มองดูเต็ม กัณหา นักมวยมีชื่อแห่งเมืองไชยา เหมือนกระสอบขี้เลื่อยให้ทองอยู่ ต่อยด้วยหมัดซ้ายมหาประลัย ต่อย ต่อย ต่อยจนเต็ม กัณหา เซ เซ เซ งงอย่างที่เรียกว่าล้มไม่ลง เพราะมีหัวใจอย่างเดียวที่ครองความเป็นเสือ การชกที่ดุเดือดและลวดลายที่น่าตื่นเต้นชื่นชมไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว แม้ความทรหดจะมีอยู่บ้างแต่จะทนไปได้สักกี่น้ำ เต็ม กัณหา ต้องหมุนคว้างเป็นลูกข่างใหญ่ บรรดาประชาชนที่เคยดูเคยนิยมชมชอบ ต่างพากันสมเพชเวทนา