เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ออเรนจ์-นัสเซา
ประเภทเครื่องราชอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติ 6 ลำดับชั้น
วันสถาปนา4 เมษายน พ.ศ. 2435
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์
ผู้สมควรได้รับบุคคลทุกชนชั้น
มอบเพื่อประกาศเกียรติคุณความดีพิเศษยิ่งต่อสังคม
สถานะยังพระราชทานอยู่
ผู้สถาปนาสมเด็จพระราชินีเอ็มมาแห่งเนเธอร์แลนด์
ประธานพระมหากษัตริย์เนเธอร์แลนด์
สถิติการมอบ
ทั้งหมดประมาณ 3,500 คน
ลำดับเกียรติ
สูงกว่าเครื่องราชอิสริยาภรณ์สิงโตเนเธอร์แลนด์
รองมาเครื่องราชอิสริยาภรณ์สุวรรณราชสีห์แห่งราชวงศ์นัสเซา

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา (ดัตช์: Orde van Oranje-Nassau) เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์เนเธอร์แลนด์ สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2435 โดยสมเด็จพระราชินีเอ็มมาแห่งเนเธอร์แลนด์ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระราชินีนาถวิลเฮลมินาแห่งเนเธอร์แลนด์

พระมหากษัตริย์หรือพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์จะทรงเป็นองค์ประธานแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ประชาชน ทั้งชาวดัตช์และชาวต่างประเทศ

ประวัติ[แก้]

ในปี พ.ศ. 2384 พระเจ้าวิลเลิมที่ 2 แห่งเนเธอร์แลนด์ ซึ่งขณะนั้นดำรงพระยศเป็นแกรนด์ดยุกแห่งลักเซมเบิร์ก สถาปนาเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎโอ๊คขึ้นเพื่อพระราชทานแก่ประชาชนชาวดัตช์เป็นการทั่วไป แม้ว่าจะไม่ใช่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ทางการของเนเธอร์แลนด์ก็ตาม ต่อมาหลังจากพระเจ้าวิลเลิมที่ 3 แห่งเนเธอร์แลนด์เสด็จสวรรคต ได้มีการทำสนธิสัญญาแยกลักเซมเบิร์กไปอยู่ใต้การปกครองของราชวงศ์อื่น (ราชวงศ์สาขาของราชวงศ์นัสเซา) ส่งผลให้เนเธอแลนด์ไม่สามารถใช้เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎโอ๊คได้อีกต่อไป จึงมีความต้องการเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชุดที่สามมาทดแทน นอกเหนือไปจากเครื่องราชอิสริยาภณ์การทหารวิลเลิม (Military William Order) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ราชสีห์เนเธอร์แลนด์ (Order of the Netherlands Lion) ที่มีอยู่เดิม เอาไว้สำหรับการพระราชทานเชิดชูเป็นเกียรติยศแก่บรรดาทูตานุทูตต่างประเทศและประชาชนชั้นล่าง

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซาแก่สมาชิกกองทัพเนเธอร๋แลนด์และสมาชิกกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ช่วยปลดปล่อยเนเธอร์แลนด์ให้ได้รับอิสรภาพจากการยึดครองของนาซีเยอรมนี รวมไปถึงบุคคลที่ช่วยปลดปล่อยอาณานิคมของดัตช์ในอดีตบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกให้ได้รับเสรีภาพด้วยเช่นกัน ในสมัยปัจจุบัน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซายังคงเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของเนเธอร์แลนด์ที่ใช้เชิดชูเกียรติยศแก่ทั้งทหารและพลเรือนบ่อยครั้งที่สุดเป็นอับสองรองจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์สิงโตเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมักจะพระราชทานต่อเนื่องทุก ๆ ปีในโอกาศวันเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างเป็นทางการของพระมหากษัตริย์เนเธอร์แลนด์ (ตรงกับวันที่ 27 เมษายนในรัชกาลปัจจุบัน) ซึ่งได้มีการพระราชทานแก่บุคคลทั่วไปแล้วประมาณ 3,500 คน นอกจากนี้ยังใช้พระราชทานเชิดชูเกียรติแก่เจ้าชาย รัฐมนตรี ผู้ทรงเกียรติ และทูตานุทูตจากต่างประเทศอีกด้วย

ในปี พ.ศ. 2537 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติของเนเธอร์แลนด์ หลังจากที่เป็นที่ถกเถียงมากว่า 30 ปี โดยมีการผ่านกฎหมายให้ระบบพระราชทานมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ลดทอนการพิจารณาที่ยึดโยงกับยศฐาบรรดาศักดิ์และสถานภาพทางสังคมลง ตามหลักการแล้วชาวดัตช์ทุกคนในสังคมมีสิทธิ์ที่จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ แต่ในทางปฏิบัติจะพระราชทานแก่ชาวดัตช์ที่มีคุณความดีส่วนบุคคลหรือคุณความดีพิเศษยิ่งต่อสังคมเท่านั้น ก่อนหน้านี้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซาประกอบได้ด้วย 5 ลำดับชั้น บวกกับเหรียญเชิดชูเกียรติ 3 ลำดับชั้น (ทอง เงิน และทองแดง) ทั้งนี้เหรียญเชิดชูเกียรติมีไว้พระราชทานร่วมกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เท่านั้น ไม่ได้แปลว่าผู้รับเหรียญจะมีสถานะเป็นผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 ได้มีการยกเลิกเหรียญเชิดชูเกียรตินี้ไป และถูกแทนที่ด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ 6 คือชั้นสมาชิก ซึ่งจำกัดไว้พระราชทานแก่ประชาชนชาวดัตช์เท่านั้น

ลำดับชั้น[แก้]

ซ้าย : ดาราและสายสะพายของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา ชั้นอัศวินมหากางเขน (ส่วนพลเรือน)
ขวา : เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา ชั้นเจ้าพนักงาน (ส่วนพลเรือน)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซาแบ่งแยกเป็นสองส่วนคือ ส่วนพลเรือน ซึ่งสังเกตได้จากพวงใบกระวานบนเหรียญตรา และ ส่วนทหาร ซึ่งสังเกตได้จากดาบไขว้ทั้งบนเหรียญตราและดารา ทั้งนี้สมเด็จพระราชาธิบดีหรือสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเนเธอร์แลนด์ทรงเป็นประธานสูงสุดของเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้

ตั้งแต่ พ.ศ. 2539[แก้]

นอกจากจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซายังถูกแบ่งออกเป็น 6 ลำดับชั้น ดังนี้

  1. ชั้นอัศวินมหากางเขน (Ridder Grootkruis) - ประดับดาราไว้บนสายสะพายบริเวณไหล่ขวา และดารา 8 แฉกไว้บนหน้าอกซ้าย
  2. ชั้นนายทัพ (Grootofficier) - สำหรับผู้ชายประดับดาราไว้บนสร้อยคอ สำหรับผู้หญิงประดับดาราไว้บนปมริบบิ้นเสมือนเป็นโบ พร้อมกับดารา 4 แฉกไว้บนหน้าอกซ้าย
  3. ชั้นนายกอง (Commandeur) - สำหรับผู้ชายประดับดาราไว้บนสร้อยคอ สำหรับผู้หญิงประดับดาราไว้บนปมริบบิ้น เสมือนเป็นโบไว้บนหน้าอกซ้าย
  4. ชั้นเจ้าพนักงาน (Officier) - ประดับดาราบนริบบิ้นพร้อมกับเครื่องประดับกลีบกุหลาบไว้บนหน้าอกซ้าย
  5. ชั้นอัศวิน (Ridder) - ประดับดาราบนริบบิ้นไว้บนหน้าอกซ้าย
  6. ชั้นสมาชิก (Lid) - ประดับดาราขนาดเล็กบนริบบิ้นไว้บนหน้าอกซ้าย
แพรแถบย่อของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซาตั้งแต่ พ.ศ. 2539

ชั้นอัศวินมหากางเขน

ชั้นนายทัพ

ชั้นนายกอง

ชั้นเจ้าพนักงาน

ชั้นอัศวิน

ชั้นสมาชิก
  • สำหรับชั้นอัศวินและชั้นสมาชิก ดาราทำมาจากโลหะเงิน ส่วนชั้นอื่น ๆ ดาราทำจากโลหะเงินชุบทอง
  • สำหรับชั้นอัศวินมหากางเขน ชั้นนายทัพ และชั้นนายกอง ดารามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 60 มิลลิเมตร
  • สำหรับชั้นเจ้าพนักงานและชั้นอัศวิน ดารามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 46 มิลลิเมตร
  • สำหรับชั้นสมาชิก ดารามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตร

ก่อน พ.ศ. 2539[แก้]

ในอดีตก่อนปี พ.ศ. 2539 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซาถูกแบ่งไว้เพียง 5 ชั้น แต่มีเหรียญเชิดชูเกียรติประกอบไว้สามชั้นคือทอง เงิน และทองแดง ซึ่งเหรียญเหล่านี้ใช้งานร่วมกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้รับเหรียญคือสมาชิกผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปัจจุบันเหรียญเชิดชูเกียรติพ้นสมัยพระราชทานไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ 6 หรือชั้นสมาชิก อนึ่ง ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญเชิดชูเกียรติจะประดับเหรียญไว้บนริบบิ้นบนหน้าอกซ้าย

แพรแถบย่อ

ชั้นอัศวินมหากางเขน

ชั้นนายทัพ

ชั้นนายกอง

ชั้นเจ้าพนักงาน

ชั้นอัศวิน

เหรียญทอง

เหรียญเงิน

เหรียญทองแดง