อีออน ฟลักซ์ สวยเพชฌฆาต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อีออน ฟลักซ์ สวยเพชฌฆาต
กำกับคาริน คูซามา
เขียนบทพิล เฮย์
แม็ตแมนเฟรดี้
อำนวยการสร้างเดวิด เกล
เกรกรอรี่ กู๊ดแมน
เกล แอน เฮิร์ด
แกรี่ ลูคเซสซี่
นักแสดงนำชาร์ลิส โตรน
โซฟี โอโคเนโด
มาร์ตัน โคซ์คัส
จอห์นนี่ ลี มิลเลอร์

ราล์ฟ เฮอร์ฟอร์ด
ฟรานเซส แม็คดอร์แมนด์
กำกับภาพสจ๊วตส์ ดรายเบิร์ก
ตัดต่อปีเตอร์ ฮอเนส
พลัมมี่ ทัคเคอร์
เจฟ กุลโลว์
ดนตรีประกอบกรีม รีเวล
ผู้จัดจำหน่ายพาราเมาท์ พิคเจอร์
เลคชอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
วันฉายสหรัฐ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2548
ความยาว93 นาที
ประเทศสหรัฐ สหรัฐอเมริกา
ภาษาภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง$62,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ทำเงิน$52,304,001 ดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลจาก All Movie Guide
ข้อมูลจาก IMDb

อีออน ฟลักซ์ สวยเพชฌฆาต (อังกฤษ: Æon Flux) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนว ผจญภัย แอคชั่นเชิงวิทยาศาสตร์ ออกฉายในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงมาจากการ์ตูนแอนิเมชั่นทางโทรทัศน์เรื่อง อีออน ฟลักซ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างให้มีชีวิตชีวาโดย ปีเตอร์ ชาน ที่ร่วมรับบทเป็นนักแสดงตัวรองในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ส่วนนักแสดงนำก็คือ ชาร์ลิส โตรน เป็นตัวละครเอกของเรื่อง

เนื้อเรื่อง[แก้]

เนื้อเรื่องดำเนินไปบนโลกในอีก 408 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกพึ่งได้ผ่านช่วงเวลาที่เชื้อไวรัสได้ล้างผลาญ 99% ของประชากรโลกทั้งหมดในปี 2011 ส่วนผู้ที่เหลือรอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็พากันไปอาศัยที่นครเบรกน่า ซึ่งปกครองเมืองแบบนครรัฐ นครเบรกน่านี้ถูกกันจากโลกภายนอกโดยกำแพงสูงและกระจกใสคลุมอยู่ด้านบนซึ่งบางคนเปรียบเทียบกับมันว่าเป็น "กรงทอง" ส่วนอำนาจสูงสุดของนครรัฐนี้ตกอยู่ที่ "รัฐสภาภายใต้การนำของเหล่านักวิทยาศาสตร์" ส่วนอีออน ฟลักซ์ เป็นหนึ่งในประชากรของเบรกน่าและเป็นสมาชิกของกลุ่มต่อต้านใต้ดินที่ชื่อว่า "โมนิกัน" โดยติดต่อสื่อสารระหว่างกันโดยใช้กระแสจิตจากการทานยาชนิดหนึ่ง และหัวหน้ากลุ่มมีชื่อว่า แฮนเลอร์ ภายหลังจากแผนของกลุ่มที่ทำลายสถานีควบคุมตรวจตราความปลอดภัยของเมืองเบรกน่า และเมื่ออีออนกลับมาถึงบ้านเธอได้พบว่า อูน่า ฟลักซ์ น้องสาวของเธอถูกฆ่าโดยตำรวจวึ่งคิดว่าอูน่าเป็นสมาชิกของกลุ่มโมนิกันทำให้อีออนแค้นมาก เธอจึงส่งคำขอให้เธอทำแผนปฏิบัติการฆาตกรรมหัวหน้าของรัฐบาลที่มีชื่อว่า เทรเวอร์ กู๊ดไชล์ (รับบทโดย:มาร์ตัน โครคัส) แต่เมื่อเธอเริ่มปฏิบัติการ เธอก็ได้ค้นพบกับแผนรัฐประหารลับโดยไม่เจตนา และจากการค้นพบนี้เองที่ทำให้เธอสงสัยเกี่ยวกับพันธุกรรมและโชคชะตาของทุกๆคนในเบรกน่า และความผิดปกติที่อีออนสามารถเชื่อมต่อและมีสายสัมพันธ์ปริศนากับชายผู้ที่เธอจะทำการฆาตกรรม ในท้ายที่สุดเธอก็ได้รูว่าเธอเป็นมนุษย์ที่มาจากการโคลนนิ่งโดยเธอถูกโครนนิ่งมาจากอดีตภรรยาของเทรเวอร์ ที่มีชื่อว่า แคเธอริน และเธอก็ยังพบความจริงอีกว่าเทรเวอร์กำลังพยายามที่จะรักษาเผ่าผันะมนุษย์ให้คงอยู่ต่อไปด้วยการเยียวยารักษามนุษย์จากเชื้อโรค แต่ผลกระทบข้างเคียงจากการรักษานี้ทำให้ทุกๆช่วงเวลาที่ผ่านไปมนุษย์แต่ละคนจะเริ่มเป็นหมัน ซึ่งแท้จริงแล้วเด็กทุกคนที่เกิดขึ้นในเบรกน่าล้วนเกิดมาจากการรีไซเคิลของดีเอ็นเอ โดยนำดีเอ็นเอของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วนำกลับมาโคลนนิ่งใหม่ และจากการตายแล้วเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้แต่ละที่เกิดมาใหม่นั้นมีควาทรงจำของคนเก่าติดกลับมาด้วยรวมถึงยังสามารถจำช่วงเวลาในอดีตได้อย่างเลือนลางเช่นเดียวกับอีออน ต่อมาหนึ่งในผู้ทดสอบการเยียวยาที่จะทำให้มนุษย์ตั้งครรภ์ได้ของเทรเวอร์ประสบผลสำเร็จ แต่ทว่าน้องชายของเทรเวอร์ โอเร็น กู๊ดไชล์ (รับบทโดย:จอห์นนี่ ลี มิลเลอร์) ได้ทำลายการวิจัยที่พยายามจะดำรงไว้ซึ่งการอยู่ในอำนาจและการดำรงเผ่าพันธ์ไปตลอดกาลของมนุษย์ อย่างไรก็ตามการเผชิญหน้าระหว่างเทรเวอร์กับอีออนทำให้โอเร็นเปิดเผยว่ามนุษยชาติตัวมันเองเหมาะที่จะมีชีวิตอยู่และบางคนสามารถมีบุตรธิดาได้ด้วยตัวเอง ท้ายสุดอีออนก็ถูกกดดันให้ต่อต้านกับสมาชิกทั้ง 2 คนของโมนิกันที่เป็นเพื่อนเธอรวมทั้งโอเร็น เธอได้ตั้งใจที่จะทำเพื่อโมนิกันโดยที่ไม่ฟังแฮนเลอร์และใช้พรรคพวกของเธอให้ฆ่าโอเร็นกับคนของเขา ในท้ายที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะทำลายสถานที่ที่ดีเอ็นเอสำหรับโคลนนิ่งถูกเก็บไว้ซึ่งเป็นบอลลูนยักษ์ที่สามารถบังคับทิศทางได้ลอยอยู่บนน่านฟ้าของเบรกน่า เมื่อเธอขึ้นไปยังบอลลูนยักษ์ได้เธอได้พบกับชายชราผู้หนึ่งซึ่งเป็นผู้ดูแลดีเอ็นเอทั้งหมดและเป็นอดีตนายแพทย์ที่ช่วยเก็บรักษาดีเอ็นเอของเธอไว้จากคำสั่งทำลายดีเอ็นเอทั้งหมดของเธอทิ้งเมื่อหลายร้อยปีก่อนและสั่งการโดยโอเร็น และเมื่อเธอทำลายบอลลูนลงได้แล้ว บอลลูนก็ได้ตกเข้าใส่ชนกับกำแพงจนถล่มลงมานั้นทำให้ผู้คนสามารถที่จะออกไปยังโลกภายนอกได้ในรอบหลายร้อยปี

โดยภาพยนตร์ทั้งหมดนี้ได้รวมเอาตอนต่างๆทั้งหมดของภาคการ์ตูนมารวมไว้ในฉบับเดียว ซึ่งภาคการ์ตูนก็เป็นต้นฉบับของภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งหมด

นักแสดง[แก้]

  • ชาร์ลิส โตรน รับบท อีออน ฟลักซ์
  • โซฟี โอโคเนโด รับบท ซิธันดรา
  • มาร์ตัน โคซ์คัส รับบท เทรเวอร์ กู๊ดไชล์
  • จอห์นนี่ ลี มิลเลอร์ รับบท โอเร็น กู๊ดไชล์
  • ราล์ฟ เฮอร์ฟอร์ด รับบท การ์เดนนาร์
  • ฟรานเซส แม็คดอร์แมนด์ รับบท แฮนเลอร์
  • อเมเลีย วอร์เนอร์ รับบท อูน่า ฟลักซ์
  • แคโรไลน์ ชิเคซี่ รับบท เฟรย่า

การตอบรับ[แก้]

พาราเมาท์ พิคเจอร์ ตัดสินใจที่จะไม่ติดโฆษณาเกี่ยวกับคำวิจารณ์ที่มีต่อภาพยนตร์ ซึ่งภาพยนตร์ก็กวาดรายได้ตอนเปิดตัวในสุดสัปดาห์ไป 13.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 และก็มีหลายคนบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นก็ถือว่าถ่ายทำได้สมบูรณ์เช่นเดียวกับภาคการ์ตูน รวมรายได้ภายในสหรัฐอเมริกาได้ 25,874,337 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 52,304,001 ดอลลาร์สหรัฐ[1]และคำวิจารณ์ส่วนใหญ่ก็ผสมปนเปไปในทางลบ และเรตติ้งของภาพยนตร์อยู่ที่ 11% ในเว็บไซต์ Rottentomatoes.com[2] และได้คะแนน 36 ใน 100 คะแนนของเว็บไซต์ Metacritic.com[3]

ถึงแม้ปีเตอร์ ชาน ยังมองภาพยนตร์ในแง่ดีและภูมิใจที่ได้ควบคุมการผลิตทั้งหมด แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ออกมาบอกว่า "มันช่างเป็นการล้อเลียนที่น่าขยะแขยง" "ผมรู้สึกไม่มีความสุขเลยเมื่อผมอ่านต้นฉบับของภาพยนตร์เมื่อ 4 ปีก่อน และผู้คนในโรงภาพยนตร์ทำให้ผมรู้สึกไร้ประโยชน์ น่าละอายและเสียใจ" แล้วคณะผู้สร้างก็ออกมาอ้างว่าพวกเขาต้องการฉบับดั้งเดิมมากกว่าอีกทั้งพวกเขาก็ไม่ได้ชี้แจ้งเกี่ยวกับต้นฉบับให้สาธารณชน ท้ายที่สุดทางคณะผู้ถ่ายทำได้ตักสินใจตัดต่อภาพยนตร์ใหม่โดยเพิ่มช่วงของภาพยนตร์ต้นฉบับเกือบ 30 นาที

อ้างอิง[แก้]

  1. "Box Office Mojo - Theatrical information". สืบค้นเมื่อ 2008-07-09.
  2. Æon Flux reviews Rotten Tomatoes
  3. Æon Flux reviews เก็บถาวร 2010-07-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Metacritic