อาชญากรรมในประเทศไทย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ยาเสพติดและการฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นอาชญากรรมส่วนใหญ่ในประเทศไทย[1] นับตั้งแต่ปี 2546 อาชญากรรมมีแนวโน้มลดลงจาก 9.97 ครั้งต่อประชากร 1 แสนคน เหลือ 4.9 ในปี 2554[2] อย่างไรก็ดี การกระทำความผิดอาญาโดยเยาวชนกลับยังเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง[3][4]

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เดอะนิวยอร์กไทมส์รายงานว่ามีขโมย ลักทรัพย์ และปล้นทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยมีการลักขโมยและอาชญากรรมต่อทรัพย์สิน 75,557 ครั้งในปีงบประมาณ 2558 ซึ่งมากกว่าปีก่อนถึง 10.5% อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงยังเพิ่มขึ้นถึง 8.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน[5] ทว่าตำรวจและอมร วาณิชวิวัฒน์ นักอาชญาวิทยาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คัดค้านตัวเลขดังกล่าว เขายังกล่าวอีกว่าเขาไม่ได้รู้สึกถึงจำนวนอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่มีรัฐประหาร สถิติของอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่าอาชญากรรมเพิ่มขึ้น 1.9% ซึ่งไม่มีนัยสำคัญในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีการรายงานอาชญากรรมเพิ่มขึ้น 920 ครั้ง หลังจากที่ได้มีการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2552[6]

นอกจากความพยายามที่จะป้องกันอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ในประเทศไทยยังมีบริษัทรักษาความปลอดภัยประมาณ 3,000–4,000 บริษัท และมีพนักงานรักษาความปลอดภัยระหว่าง 400,000 ถึง 500,000 คน ทั่วประเทศ[7]

สถานที่[แก้]

อาชญากรรมจำนวนมากในประเทศไทยเกิดขึ้นในเมืองซึ่งเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวรวมตัวกันเป็นเป้า อีกทั้งยังเป็นที่ซึ่งการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์เกิดขึ้น แหล่งมั่วสุมยาเสพติดหลัก ๆ นั้นอยู่ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต และเมืองพัทยา และไม่ได้จำกัดอยู่ในเขตเหล่านี้เท่านั้น การลักลอบนำเข้ายาส่วนใหญ่มาจากทางเหนือของประเทศไทยผ่านทางสามเหลี่ยมทองคำ รวมไปถึงจากพื้นที่ซึ่งควบคุมโดยกบฏซึ่งถูกแบ่งในเขตของประเทศพม่า โดยเฉพาะรัฐฉาน ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของประเทศไทย เช่น เทศบาลนครแหลมฉบัง ใกล้เมืองพัทยา และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้พบชาวแอฟริกา[8] และกลุ่มอดีตเครือรัฐเอกราช และกลุ่มนานาชาติ คนขนยามีส่วนร่วมในการซื้อขายเหล่านี้

อาชญากรรมแบ่งตามประเภท[แก้]

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์[แก้]

ประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ คือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 แต่การบังคับใช้ส่วนใหญ่ยังพบว่าเป็นคดีเกี่ยวกับการเผยแพร่เนื้อหา ไม่ใช่กระทำต่อระบบคอมพิวเตอร์โดยตรง[9] ภายใต้กฎหมายดังกล่าวยังมีการนำไปเชื่อมโยงกับความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย โดยมีคำสั่งศาลให้ปิดกั้นเว็บไซต์ที่ถูกพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดอย่างต่อเนื่อง[9] ในช่วงที่ไม่มีคดีความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยในช่วงปี 2561–2563 พบว่าคดีความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นแทน[10]

ในปี 2562 มีการผ่านพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หลังจากมีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลหลายครั้ง[11]: 6 [12]

การเสพและค้ายาเสพติด[แก้]

ปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดและความรุนแรงที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยมีปริมาณมากขึ้น[13] ยาเสพติดมีตั้งแต่แบบพื้นบ้านอย่างกระท่อม[14] ไปจนถึงยาบ้า ฝิ่นจากประเทศพม่า และยาสมุนไพรท้องถิ่น ตั้งแต่ประมาณพ.ศ. 2548 มีการเพิ่มขึ้นของงานเลี้ยงสังสรรค์ยาเสพติดในเวลากลางคืนและความรุนแรงจากผู้ใช้[14] นอกจากนั้นประเทศไทยยังมีการทำสงครามระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและผู้ค้ายาที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่โดยมีผู้เสียชีวิตจากการปะทะจนถึงปัจจุบัน[15]การปะทะครั้งใหญ่เกิดที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ[16] รองลงมาเกิดที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ[17]

ก่อนหน้านี้มีความพยายามที่จะควบคุมการขายยาเสพติดโดยการประกาศสงครามยาเสพติด พ.ศ. 2546 ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

ใน พ.ศ. 2555 มีการคาดการณ์ว่ามีผู้ติดยาเมตแอมฟีตามีนประมาณ 1.2 ล้านคน[14] โดยตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้[14] นอกจากนี้เมตแอมฟีตามีนยังถูกใช้เป็นวงกว้างกับสัตว์ เช่น ชะนี ลอริส[18][19] และช้าง[20] โดยการบังคับให้กินเข้าไปเพื่อให้ทำงานนานได้ขึ้น อยู่นิ่งๆ ให้คนจับ และสร้างความบันเทิงให้นักท่องเที่ยว

ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2555 พบว่าซูโดอีเฟดรีนตามกฎหมายเกือบ 50 ล้านเม็ดถูกขโมยจากโรงพยาบาลในประเทศไทย และอีกสองพันล้านเม็ดถูกลักลอบนำเข้ามาจาก ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยมีการปลอมแปลงเอกสารซึ่งชี้ว่าสองบริษัทไทยได้นำเข้ามากว่าแปดพันล้านมากเม็ด[20]

แม้การมอมยานักท่องเที่ยวและคนถ้องถิ่นโดยผู้ค้าบริการทางเพศจะพบไม่มาก แต่ยังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่แล้วสิ่งเหล่านี้เกิดในสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ ๆ เช่น พัทยาหรือภูเก็ต องค์การสหประชาชาติรายงานสถานการณ์ในประเทศไทยว่า "ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ในคุกของประเทศไทยเป็นนักค้ายาและผู้ใช้ยาระดับล่าง ด้วยความที่มีโอกาสถูกจับได้มากกว่า แทนที่จะเป็นผู้ค้าขายขนาดใหญ่และอาชญากรที่มีการจัดการอย่างดี"[21]

ตั้งแต่ปี 2565 กัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดในประเทศไทย[22]

การทารุณกรรมสัตว์[แก้]

การทารุณกรรมสัตว์พบได้ทั่วไปในประเทศไทย รวมไปถึงการทรมานช้างเพื่อการท่องเที่ยว[23] การสังหารช้างเพื่องา[24] หรือการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศพม่า[25] การหาประโยชน์จากช้างในเมือง[26] และการค้าขายชิ้นส่วนของสัตว์[27]

การข่มขืนกระทำชำเรา[แก้]

ใน พ.ศ. 2556 ทุก ๆ วัน มีผู้หญิงประมาณ 87 รายเข้าแจ้งความว่าถูกข่มขืนหรือขอคำแนะนำหลังถูกข่มขืนกระทำชำเรา เหยื่อที่เด็กที่สุดมีอายุเพียง 1 ปี 9 เดือน และแก่ที่สุดมีอายุถึง 85 ปี ส่วนผู้กระทำความผิดมีอายุตั้งแต่ 10 ขวบซึ่งมีส่วนร่วมในการโทรมหญิง และชายอายุ 85 ปีที่ลวนลามเด็กสาว[28]

การหลอกลวง[แก้]

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยล้วนมีชื่อเสียงด้านกลลวงและการหลอกซื้อของ โดยที่ได้รับความนิยมมากได้แก่ กลลวงอัญมณี กลลวงช่างตัดเสื้อ ตัวแทนการท่องเที่ยวปลอม[29][30] และ กลลวงวกเวียน

กลลวงห้องต้มตุ๋น (กลซื้อขายหุ้นปลอม) เป็นอาชญากรรมเสื้อคอปกขาวที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทย[31][32][33][34]

ผู้คนไร้สัญชาติตกเป็นเป้าหมายของสิทธิในการทำงานปลอมจากสหประชาชาติ[35]

หลังการหายไปของมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 370 การปลอมแปลงหนังสือเดินทางและการปลอมแปลงตัวตนได้รับความสนใจจากสหรัฐอเมริกา ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 วีซ่าที่ถูกขโมยมาถึง 259 อันหายไปจากสถานกงสุลไทยในประเทศมาเลเซีย[36] โดยถูกนำไปใช้เพื่อข้ามชายแดนไทยอย่างผิดกฎหมาย ชาวอิหร่าน 35 คน ชาวคาเมรูน 1 คน ชาวไนจีเรีย 20 คน ชาวปากีสถาน 4 คน ชาวอินเดีย 4 คน และชาวเอเชียอื่นๆ ทำการข้ามชายแดนแล้ว[37]

การค้ามนุษย์และการค้าประเวณี[แก้]

ในพ.ศ. 2556 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาบัญญัติว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับต่ำที่สุดของการค้ามนุษย์ในรายงานบุคคล[38] รายงานพ.ศ. 2556 กล่าวว่าตำรวจไทยและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง "รีดไถเงินหรือกขอมีเพศสัมพันธ์" กับนักโทษ หรือ "ขายผู้อพยพชาวพม่าที่ไม่สามารถจ่ายเงินให้นายหน้าค้ามนุษย์หรือนายหน้าค้าประเวณีได้"[38] เจ้าหน้าที่จากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) กล่าวว่า รัฐบาลไทยเป็นรัฐบาลเดียวที่โหวดเพื่อต่อต้านข้อตกลงแรงงานบังคับของสหประชาชาติในการประชุมประจำปีซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557[39][40]

ร้านค้าปลีกอย่างวอลมาร์ตและคอสท์โกในสหรัฐอเมริกาเลิกรับอาหารทะเลจากเครือเจริญโภคภัณฑ์เพราะ "เป็นเจ้าของ จัดการ หรือซื้อผลิตผลจากเรือประมงที่มีการใช้ทาส"[41] ต่อมาในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557 รัฐบาลไทยตกอยู่ภายใต้สภาวะกดดัน และกล่าวถึงความต้องการเพิกถอนโหวด ILO ที่เคยออกความเห็นไป[42]

ความรุนแรงในครอบครัว[แก้]

ความรุนแรงต่อสตรีมีจำนวนมากขึ้นในประเทศไทย ระหว่าง พ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2555 ผู้เคราะห์ร้ายประมาณ 27,000 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล[43] ในพ.ศ. 2549 กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่ามีคดีเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวต่อเด็กและสตรีถึง 13,550 คดี[44]นอกจากนั้นยังพบว่ามีผู้ปกครองจำนวนหนึ่งฆ่าลูกที่เป็นออทิสติก[45]

พลวัตของอาชญากรรม[แก้]

ความรุนแรงในโรงเรียนและการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน[แก้]

กลุ่มนักศึกษาเทคนิคปะทะและยิงกันตามแยกต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครและพื้นที่เมืองอื่น[46] คดีที่โด่งดังได้แก่ การยิงกันที่เริ่มจากการแข่งเต้นเพลงคังนัมสไตล์[47] นักเรียนคนหนึ่งจากโรงเรียนเทคนิคกล่าวว่า "ปืนเป็นเหมือนสิ่งที่ต้องนำติดตัวไปโรงเรียน พวกเราอาจใช้ปืนในการป้องกันตัวเองจากรุ่นพี่ที่ชอบใช้ความรุนแรง ส่วนข้างนอกโรงเรียน พวกเรามีโรงเรียนคู่แข่ง..."[48]

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการฆาตกรรมด้วยอาวุธปืนในโรงเรียนเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา[49]โดยเหตุในวันที่ 6 มิถุนายน 2546 ที่โรงเรียนปากพนังเหตุยิงกันในโรงเรียนปากพนังมีผู้เสียชีวิต 2 ราย[50] ต่อมาเป็นที่ โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ จังหวัดนนทบุรีในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายได้แก่ ด.ช.ชลสิทธิ์ บุญจันทร์ อายุ 13 ปี ถูก ด.ช.ฐปนยศ นุชเนตร อายุ 14 ปี ใช้ปืน 7.65 วอลเตอร์ แบบแม็กกาซีนยิงถึงแก่ความตาย[51]

ระหว่างปี 2546 ถึง 2550 พบอาชญากรรมโดยเยาวชนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70[52]

ปัญหาการรับน้องรุนแรงตามระบบโซตัสยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นเหตุให้มีเยาวชนเสียชีวิต[53]

โครงสร้างพื้นฐานของเรือนจำและคอร์รัปชัน[แก้]

ประเทศไทยมีจำนวนเรือนจำที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ และยังขาดแรงผลักดันทางการเมืองที่จะต่อสู้กับปัญหาอาชญากรรมในเรือนจำกลางระยองที่ถูกออกแบบให้คุมนักโทษ 3,000 คน กลับมีนักโทษอาศัยอยู่ถึง 6,000 คน[54] มีการใช้กล่องเพื่อขนวัตถุจากนอกเรือนจำข้ามกำแพงเข้าสู้เรือนจำ พัสดุถึงนักโทษมีวัตถุ เช่น โทรศัพท์มือถือซึ่งมักใช้ติดต่อและวางแผนก่ออาชญากรรมนอกเรือนจำ[55] สถานการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นในเรือนจำกลางระยองเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วไปในประเทศไทย[56]

คอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ในเรือนจำเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นปัญหาในการจัดการกับอาชญากรรม[56] ในคดีหนึ่ง พยาบาลในเรือนจำถูกจับเนื่องจากค้ายาเสพติด[57] หลังการล่อซื้อพบว่าพัศดีเรือนจำกว่า 28 คนลักลอบขนยาเสพติด[58][59] รัฐบาลไทยตอบโต้ด้วยการติดตั้งตัวตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทว่าเครื่องมือเหล่านี้ถูกพิสูจว่าไม่ได้ผล ด้วยความที่รอยแตกในกำแพงถูกใช้เป็นที่เก็บโทรศัพท์ซึ่งเครื่องตัดสัญญาณไม่สามารถเข้าถึง[60] ความพยายามอื่นได้แก่ เครื่องสแกนเอกซเรย์[54] และการติดตั้งกล้องวงจรปิด และมีการวางแผนจัดทำเรือนจำแบบใหม่ที่มีความเข้มงวด[61]

พระสงฆ์[แก้]

อาชญากรรมซึมซับเข้าสู่ทุกองค์ประกอบในประเทศไทย รวมไปถึงสถาบันพุทธศาสนา การเป็นพระภิกษุสงฆ์สามารถปกปิดองค์กรอาชญากรรมได้เป็นอย่างดี ในปีที่ผ่านมี มีหลายคดีที่พระสงฆ์รวมไปถึงพระภิกษุสงฆ์อาวุโสถูกจับเพราะเกี่ยวข้องกับการครอบครองเมตแอมฟีตามีน การขายยาเสพติด[62] การค้าประเวณี สื่อลามก และอาวุธปืน[63]

ในคดีหนึ่ง พระภิกษุสงฆ์สองรูปพยายามทิ้งยาบ้าที่ด่านตำรวจ[64][65] อีกคดีหนึ่งเกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์อาวุโสที่กล่าวว่าต้องการเงินเพื่อ "บำรุงรักษาวัด" ทว่ากลับนำเงินไปซื้อยาเสพติดและบริการทางเพศ[13] รายงานการฆาตกรรมโดยนักบวชมีการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ[66] นอกจากนี้ การคุกคามทางเพศโดยพระไทยเกิดขึ้นทั่วไป และเริ่มได้รับความสนใจจากสื่อ อาทิ การข่มขืนกระทำชำเราสามเณรในวัด เด็กชาย ฆราวาสหญิง แม่ชี กรณีที่มีชื่อเสียงได้แก่ พระวิสุทธิศาสนวิเทศ (กวีศิลป์ วิ สุทธิกุโล)[67]

มีข่าวพระสงฆ์ฆ่าคน[68][69] และปลุกระดมความรุนแรงต่อมุสลิม[70]

การตายของชาวต่างชาติ[แก้]

คดีฆ่าคนที่เกาะเต่าเมื่อปี 2557 เป็นตัวอย่างหนึ่งของคดีฆ่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในประเทศไทย การฆ่านักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนมีนักเขียนคนหนึ่งเขียนหนังสือที่ชื่อว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกฆาตกรรมในประเทศไทย ผู้เขียนกล่าวถึงคดีการฆาตกรรมชาวอเมริกันที่ชื่อว่า ทรอย พิลคิงตัน รวมถึงบันทึกเกี่ยวกับอันตรายของคนขับแท็กซี่และรถสาธารณะ หลายครั้งที่การตายมีสาเหตุที่ไม่ชัดเจน ทว่าประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยว

พฤติกรรมข่มขู่[แก้]

เดือนธันวาคม 2566 มีเหตุการณ์ข่มขู่อาสากู้ภัยร่วมกตัญญูที่ช่วยคนบาดเจ็บชาวต่างชาติไปส่งโรงพยาบาลแต่ถูกโรงพยาบาลปฏิเสธรับคนไข้ จนทำให้คนไข้เสียชีวิตระหว่างนำไปส่งโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นกู้ภัยออกมาโพสต์เรื่องราวจนเป็นข่าว การข่มขู่กระทำผ่านข้อความในไลน์ ซึ่งในข้อความมีชื่อโรงพยาบาลด้วย[71]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Crime in Thailand". www.numbeo.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-03-08.
  2. "Thailand Crime Rate & Statistics 1990-2022". macrotrends.net. สืบค้นเมื่อ 27 August 2022.
  3. "Intergenerational transmission of religious belief... [J Adolesc. 2013] - PubMed - NCBI". Ncbi.nlm.nih.gov. 2014-01-24. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  4. Takaaki Nishiyama. "For Thailand, learning the Japanese way of reforming delinquents pays dividends - AJW by The Asahi Shimbun". Ajw.asahi.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-22. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  5. Fuller, Thomas (2015-11-29). "Thai Economy and Spirits Are Sagging". New York Times. สืบค้นเมื่อ 30 November 2015.
  6. Charuvastra, Teeranai; Ruiz, Todd (2015-12-09). "Data Contradicts New York Times on Crime Increase Under Junta". Khaosod English. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-04. สืบค้นเมื่อ 9 December 2015.
  7. Sukyingcharoenwong, Mayuree (5 March 2017). "Security guards, firms fret over cost from new law". Sunday Nation. p. 2. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (Print edition only)เมื่อ 2018-09-10. สืบค้นเมื่อ 18 March 2017.
  8. Ngamkham, Wassayos (2011-02-14). "Love, marriage and drug mules: Thai women are being tricked into drug trafficking". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2015-01-24.
  9. 9.0 9.1 งานวิจัยเผย พ.ร.บ.คอมฯไทย มุ่งเอาผิดเนื้อหามากเกินไป เสนอแก้กฎหมาย ตั้งศาลคอมพิวเตอร์
  10. Changes in Thailand’s lèse majesté prosecutions in 2018
  11. สานักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2562). รู้จัก พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เก็บถาวร 2022-08-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. สืบค้นเมื่อ 10-5-63
  12. "อนุทินยอมรับฐานข้อมูลคนไข้ สธ. ถูกแฮก สั่งเร่งปรับปรุงความปลอดภัยระบบ". BBC ไทย. 7 September 2021. สืบค้นเมื่อ 7 September 2021.
  13. 13.0 13.1 Winn, Patrick (2012-10-18). "Thailand: monks on meth". globalpost. สืบค้นเมื่อ 7 Mar 2015.
  14. 14.0 14.1 14.2 14.3 Leaf for Drug Cocktail Adds to Thailand’s Woes
  15. ปะทะแก๊งขนยาบ้า ทหารเด็ดชีพ1ศพ
  16. สรุปตาย 9 ศพ ยึด 7 แสนเม็ด ปะทะคาราวานยาบ้า ชี้แก๊งอาข่ารับจ้างว้าขน
  17. ปะทะเดือด!จับตาย8ศพแก๊งยาบ้าเชียงราย
  18. "Phuket wildlife officers warn of Bangla slow loris raids to come". Phuketgazette.net. 2014-03-20. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-19. สืบค้นเมื่อ 2018-09-29.
  19. "Police arrest Slow Loris owners in South Pattaya | Pattaya One – Pattaya News, Thailand News, World News, updated 24 hours a day". Pattayaone.net. 2012-03-15. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  20. 20.0 20.1 "Massive Drug Smuggling in Thailand". Asia Sentinel. 2012-05-04. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-21. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  21. Amidst deep concern for Thailand's drug policies, some space for open debate Transnational Institute, 2012
  22. Paddock, Richard C. (26 December 2018). "Thailand to Allow Medical Marijuana, a First in Southeast Asia". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 26 December 2018.
  23. Campbell, Charlie (2014-07-08). "Elephants Are Tortured and Trafficked to Entertain Tourists in Thailand". Time. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  24. "Thailand accused of fueling ivory trade". Bangkok Post. 2014-07-02. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  25. "Thailand asked to combat 'rise' in elephant smuggling - Health & Environment - Worldbulletin News". World Bulletin.
  26. Fuller, Thomas (2008-01-13). "In Bangkok, it's a tough life for elephants". New York Times. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  27. Pakkawan, Assawin (2014-07-08). "Tiger parts found on highway". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  28. "About 80 sex-abuse cases reported daily in Thailand". The Nation. Asia News Network. 2014-03-21. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-13. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  29. "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-30. สืบค้นเมื่อ November 18, 2012.
  30. "Crook part of £4.5 million scam ordered to pay back £66,000". Derby Telegraph. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-07. สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
  31. Farrell, James Austin (Mar 2011). "The Boiler Room Boys". Citylife Chiang Mai. No. Vol. 20 No. 3. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-22. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  32. "Thailand". Couchsurfing. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-14. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  33. Lowe, Greg (2011-04-12). "Greg Lowe: How to deal with Bangkok's illegal financial advisors | CNN Travel". Travel.cnn.com. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  34. Nearly 600 Arrested in Asian Swindling Ring
  35. "Cards stacked against migrants sucked into scam &#124". Bangkok Post. 2012-11-18. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  36. วีซ่าที่ถูกขโมยมาถึง 259 อันหายไปจากสถานกงสุลไทยในประเทศมาเลเซียเก็บถาวร 2014-03-22 ที่ archive.today
  37. โดยถูกนำไปใช้เพื่อข้ามชายแดนไทยอย่างผิดกฎหมายเก็บถาวร 2014-03-22 ที่ archive.today
  38. 38.0 38.1 "Thailand's anti-trafficking effort loses steam". Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-01. สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
  39. Thomson Reuters Foundation. "Pact to halt forced labour snubbed by Thailand, Gulf - ILO". trust.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-01. สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
  40. "Africa: UN Agency Adopts Treaty Advancing Global Efforts to Tackle Forced Labour". allAfrica.com.
  41. "Shrimp slaves: Walmart, Costco act against forced labor". USA TODAY. 10 June 2014.
  42. "Thailand reverses earlier decision, backs ILO protocol on forced labour". The Nation. 15 June 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
  43. "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-02. สืบค้นเมื่อ December 7, 2012.
  44. "IRIN Asia - Thailand: Fighting domestic violence - Thailand - Gender Issues". IRINnews.
  45. สลด! แม่ฆ่าลูกเป็นออทิสติก อ้างสามีตาย-รักษาจนหมดตัว
  46. "2 students held in fatal bus shooting."
  47. Boehler, Patrick."'
  48. Sukpanich, Tunya (2012-11-18). "Easy guns bring Wild West mentality". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 7 Mar 2015.
  49. โรงเรียนปากพนังกรมสุขภาพจิต
  50. "กรณีศึกษาเรื่องการประเมินผู้กระทำผิดและผลกระทบต่อผู้สูญเสียเหตุการณ์นักเรียนยิงกันตาย วันที่ 6 มิถุนายน 2546 อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช – ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ". suicide.dmh.go.th.
  51. "นักเรียน ม.1 ถูกเพื่อนรังแกทนไม่ไหว ขโมยปืนพ่อมายิงหัวเพื่อนดับคาโรงเรียน". khaochad.co.th.
  52. Narkvichetr, Korakod (n.d.). "JUVENILE CRIME AND TREATMENT OF SERIOUS AND VIOLENT JUVENILE DELINQUENTS IN THAILAND" (PDF). United Nations Asia and Far East Institute for the Prevention of Crime and the Treatment of Offenders. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-12-05. สืบค้นเมื่อ 5 March 2017.
  53. รับน้อง: เมื่อนักศึกษารุ่นใหม่กล้าปฏิเสธระบบโซตัส และกิจกรรมไม่เหมาะสม
  54. 54.0 54.1 "Overwhelming odds get better of efforts to stamp out prison drug trade". Bangkok Post. Thai Prison Life. 2012-09-09. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  55. "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-13. สืบค้นเมื่อ November 18, 2012.
  56. 56.0 56.1 "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-08. สืบค้นเมื่อ November 18, 2012.
  57. "Prison nurse caught selling drugs to inmates". Thai Prison Life. Bangkok Post. 2012-09-24. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  58. Laohong, King-Oua; Rakrun, Nucharee (2012-04-28). "Prison officials sacked after contraband blitz". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  59. "Inmates at Rayong Central Prison have Assistance with Smuggling Contraband and Drugs". pattayadailynews.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-29. สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
  60. "Search of Khao Bin Prison turns up more illegal objects". The Nation. Thai Prison Life. 2012-02-11. สืบค้นเมื่อ 6 Mar 2015.
  61. Super maximum security prison planned
  62. "Three Monks accused of drug dealing, caught in Sattahip". Pattayaone.net. 2012-09-24. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  63. "Sex in the monastery". Bangkok Post. 2009-01-30. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  64. "Monks arrested with meth pills". Bangkok Post. 2012-10-17. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  65. "Two monks caught using drugs at Temple in Sattahip District". Pattayaone.net. 2012-03-21. สืบค้นเมื่อ 2014-04-12.
  66. Thompson, Geoff (2011-11-05). "Scandals follow Thailand's monks". Down the Crooked Path. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-24. สืบค้นเมื่อ 7 Mar 2015.
  67. จับสึก'เจ้าคุณปิง'เสพสังวาสไม้ป่าเดียวกัน!
  68. พระลูกวัดโหด! กดลูกซองปลิดชีพ ด.ญ.15 ดับคาที่
  69. จับพระแค้นทวงพนัน ฆ่าฝังดินเซียนไก่อุดร เผยสั่งเณร-ลูกศิษย์ช่วยอำพรางคดี เจ้าอาวาสผวา! เคยถูกขู่ฆ่า
  70. พระมหาอภิชาติลั่นหมดเวลาปรานีชายแดนใต้ ผุดไอเดียพระตาย1 เผา1มัสยิด
  71. กู้ภัยผวา ! แฉ รพ.ปัดรักษาคนไข้จนเสียชีวิต กลับถูกขู่ฆ่า

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]