ออร์แกนเมโลเดียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เมโลเดียน สามารถแบ่งแบบคร่าวๆได้ทั้งหมด 4 ชนิด คือ

  1. เมโลเดียนเสียงอัลโต Alto เป็นเมโลเดียนในระดับเสียงกลาง ซึ่งโดยปกติแล้วจะมี จำนวนคีย์ อยู่ที่ 25 , 27 และ 32 คีย์

(วิธีดูว่า เมโลเดียนตัวนั้น มีจำนวนกี่คีย์ ให้นับจำนวนคีย์กด ทั้งตัวขาวและตัวดำทั้งหมด ตัวเลขที่รวมได้ ก็หมายถึงจำนวนคีย์ของเมโลเดียนตัวนั้นๆ)

  1. เมโลเดียนเสียงโซปราโน Soprano เป็นเมโลเดียนในระดับเสียงสูง
  2. เมโลเดียนเสียงเทนเนอร์ Tenor เป็นเมโลเดียนในระดับเสียงต่ำ
  3. เมโลเดียนเสียงเบส Bass เป็นเมโลเดียนในระดับเสียงต่ำสุด

เมโลเดียนเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องใช้ลมเป่า เข้าไปในตัวเครื่อง พร้อมกับการกดคีย์เพื่อให้เกิดเสียง หน้าตาของคีย์กด ก็เหมือนกับคีย์กดของเปียโน คือมีทั้งคีย์กด ตัวขาว และตัวดำ เพียงแต่จำนวนคีย์จะน้อยและสั้นกว่า การเกิดเสียงของเมโลเดียน นั้น จุดสำคัญจะอยู่ที่ลิ้นเสียง

ลิ้นเสียง ซึ่งเป็นโลหะ ชิ้นเล็ก ขนาดต่างๆกัน ซึ่งอยู่ภายใต้คีย์กดแต่ละตัวของเมโลเดียน หากจะเปรียบเทียบคุณภาพเสียงของเมโลเดียนแต่ละตัว และอัตราในการใช้ลม ที่มากหรือน้อยนั้น หรือจะพูดให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่ากินลมในการเป่ามากหรือน้อย จึงควรที่จะพิจารณาในส่วนของคุณภาพของลิ้นเสียง อย่างเลี่ยงไม่ได้

เมโลเดียน เป็นเครื่องดนตรีที่อาจจะมีอาการเสียขึ้นได้ อาการคือเป่าแล้วเสียงไม่ออก หรือเสียงที่ออกมาไม่ปกติเหมือนที่เคยเป็น จริงแล้ว อาการเสียข้างต้นสามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องมาจากวัสดุที่ใช้ทำลิ้นเสียง ที่อยู่ภายในตัวเมโลเดียน ซึ่งเป็น แผ่นโลหะขนาดเล็ก เมื่อเวลาเราเป่าเมโลเดียน หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะมีน้ำลาย ค้างอยู่ในตัวเครื่อง ถึงแม้เมโลเดียน หลายๆยี่ห้อ จะมีปุ่มกดสำหรับไล่น้ำลายที่ค้างในตัวเครื่อง หลังจากเล่นเสร็จ อาจเกิดจากการหลงลืม หรือไม่เอาใจใส่ในบางครั้ง เมื่อน้ำลายไปเกาะติดอยู่กับแผ่นลิ้นโลหะ นานเข้า ก็อาจจะเป็นสนิมและเปราะหักในที่สุด ผลก็คือ เป่าแล้วเสียงไม่ออก

*ลักษณะของเมโลเดียนคือเป็นเปียโนแบบเป่า