หนังสือดาเนียล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พระธรรมดาเนียล (อังกฤษ: Book of Daniel ; ฮีบรู: דָּנִיֵּאל) เป็นหนังสือลำดับที่ 5 ในหนังสือผู้เผยพระวจนะ (Nevi'im) ของพระธรรมยูดาย (Tanakh) และเป็นหนังสือเล่มที่ 5 ในหมวดประกาศกใหญ่ ของพระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิม (Old Testament) ของศาสนาคริสต์

เขียนด้วยภาษาฮีบรูในช่วงที่ชาวยิวอยู่ภายใต้การยึดครองของอาณาจักรบาบิโลน เป็นระยะที่ชนชาติยิวได้ถูกเนรเทศ และถูกบังคับให้อพยพไปยังเมืองบาบิโลน พระธรรมนี้เป็นคำบรรยายของ ดาเนียล ชาวอิสราเอล โดยเฉพาะ ผู้เป็นโหร และที่ปรึกษาทางของ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ผู้ปกครองยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรบาบิโลน ประมาณ 605 ถึง 562 ก่อนคริสต์ศตวรรษ

พระธรรมนี้แบ่งเป็นสองภาค เริ่มด้วยบทที่หนึ่งถึงบทที่หก บอกเรื่องราวประวัติความเป็นมาของท่าน และ บทที่ 7-12 บรรยายถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ จากคำทำนาย ดาเนียลเขียนถึง ดาเนียลและเพื่อนที่ถูกปรักปรำลงโทษ เพราะไม่ละทิ้งความเชื่อในพระเจ้าของชนชาติอิสราเอล ต่อมา เป็นคำทำนายความฝัน และแปลความหมายของมโนภาพของกษัตริย์ เนบูคัดเนสซาร์ ในภาคที่สอง ของพระธรรม ดาเนียลกล่าวถึง ความหมาย คำพยากรณ์ และคำแปรความฝัน บรรยายนิมิต และสิ่งที่ทูตสวรรค์อธิบายความหมายให้ท่านโดยตรง ยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ระหว่างชาวยิวและคริสตชน ถึงระยะเวลาที่แน่นอนและผู้เขียนที่แท้จริงของพระธรรมดาเนียล เชื่อกันแต่โบราณว่า ผู้พยากรณ์นามว่าดาเนียลเป็นผู้เขียน ซึ่งมีชีวิตก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 6 แต่ในหมู่นักศึกษาคริสตธรรมคัมภีร์ยุคใหม่เชื่อว่า พระธรรมเล่มนี้ ได้บันทึกก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 2 และบันทึกหลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ปรากฏและผ่านไปแล้ว และความเห็นแย้งที่สามคือ พระธรรมบทนี้ เขียนเสร็จบริบูรณ์ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 4

ประวัติย่อของ ดาเนียล[แก้]

ภาพวาดของมิเกลันเจโร

นาม "ดาเนียล" หรือ ดานิเอล แปลว่า พระเจ้าเป็นผู้พิพากษา (ของข้าพเจ้า) หรือ คำตัดสินของพระเจ้า ประมาณหนึ่งศตวรรษก่อนชนชาติอัสซีเรียได้ยึดอิสราเอลไว้ในกำมือ อาณาจักรอิสราเอลได้หมดอำนาจลงก่อนแล้วและในปี 605 กคศ. ดาเนียล และเพื่อนอีกสามคน เป็นกลุ่มเชื้อพระวงศ์ที่โดนกวาดต้อนให้ไปยังเมืองหลวงบาบิโลน โดยคำสั่งของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ และได้ถูกเกณฑ์ให้ทำงานเป็นที่ปรึกษาในราชวัง เพราะมีความรู้เหนือกว่าคนสามัญที่โดนใช้เป็นทาสแรงงาน ดาเนียล และเพื่อนทั้งสาม มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าของอิสราเอล และในขนบธรรมเนียมประเพณีของขนชาติยิว ในเวลาสามปี ดาเนียลได้ทำงานในราชวัง ฝึกฝนทางพยากรณ์และทำนายความฝัน ท่านมีความสามารถล้ำหน้ากว่าผู้อื่น จนเป็นที่เลื่องลือ โดยเฉพาะทำนายฝันของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ และได้เป็นโหรใกล้ชิดพระองค์ และได้รับตำแหน่งสูง ถึงระดับมนตรี เหล่าศัตรูในราชสำนักมีความริษยา จึงคาดโทษดาเนียลและเพื่อน ที่ยังปฏิบัติการเคารพตามประเพณีของยิว และไม่ปฏิบัติตามกฎของบาบิโลน ที่ต้องบูชาพระมหากษัตริย์เป็นพระเจ้า ดาเนียลจึงถูกส่งไปไว้ในถ้ำสิงโต ท่านได้ภาวนาให้พระเจ้าช่วยปกป้อง ด้วยความอัศจรรย์ สิงโตทั้งหลายไม่ได้เข้าใกล้และทำร้าย เมื่อกษัตริย์ได้ทราบเรื่อง จึงสั่งให้ปล่อยดานียลและทำโทษพวกที่ริษยาท่านแทน ตั้งแต่นั้นดาเนียลจึงได้รับใช้ใกล้ชิดในพระราชวัง จนถึงราชวงศ์ดาริอัส และไซรัสกษัตริย์เปอร์เซียที่สืบต่อมา (พระธรรมดาเนียล 6:26)

เมื่อดาเนียลอายุย่างเข้าปลายชีวิต ผลงานทางการทำนายของท่านได้บันทึกเป็นพระธรรม ไม่มีหลักฐานบันทึกถึงเวลาท่านเสียชีวิต ในสมัยของกษัตริย์ไซรัสครองราซปีที่สาม ยังปรากฏหลักฐานว่าดาเนียลยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งสันนิษฐานว่าอายุใกล้ร้อยปี และไม่สามารถบันทึกได้แน่นอนถึงสถานที่ฝังศพของท่าน บ้างว่าอยู่ที่ประเทศอียิปต์ เป็นต้น

การรับรองดาเนียลเป็นผู้เผยพระวจนะ[แก้]

คริสตชนยอมรับดาเนียลเป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า และพระธรรมจัดอยู่ในภาคพันธสัญญาเดิม แต่ศาสนายูดายไม่ได้รับรองว่าดาเนียลเป็นผู้เผยพระวจนะ และจัดให้ผลงานอยู่ใน งานเขียน โดยให้เหตุผลว่า พระเจ้าไม่ได้พูดโดยตรงกับดาเนียล ซึ่งตามหลักของคัมภีร์โตราห์ของชาวยิว พระเจ้าจะพูดกับผู้เผยพระวจนะ เท่านั้น แต่ในกรณีของดาเนียลทูตสวรรค์เป็นผู้พูดกับท่าน ผู้เผยพระวจนะของยูดายต้องทำนายให้กับบุคคลในยุคเดียวกัน ไม่ใช่พยากรณ์ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กับคนในยุคอนาคต ผู้เผยพระวจนะเช่นอิสยาห์และเอเสเคียลได้ทำนายให้กับผู้คนในยุคของท่าน แม้คำพยากรณ์พิงพาดไปถึงอนาคตก็ตาม จึงลงความเห็นว่า จากคำพยากรณ์ถึงอนาคตของดาเนียล จัดผลงานไว้ใน งานเขียน ได้เท่านั้นในหมู่ที่รับรองให้ดาเนียลเป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า ให้เหตุผลว่า

ตามหลักคริสตธรรมคัมภีร์ของฮีบรู Tulmud เชื่อว่าดาเนียลมีความสามารถเท่าเทียม ผู้เผยพระวจนะชาวยิวอื่น ๆ ความสามารถที่ได้รับคำอธิบายและภาพนิมิต และแปลความฝัน รวมทั้งคำบอกเล่าโดยตรงจากเทวดาหรือทูตสวรรค์ เหตุการณ์ที่ดาเนียลได้พยากรณ์ไว้ในยุคท่าน เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ รวมทั้งจำนวนเลขที่แน่นอน และคำพยากรณ์ถึงการเสด็จกลับมาของ "พระเมสสิยาห์ พระผู้ทรงมาโปรดของอิสราเอล" ณ นครเยรูซาเล็ม รวมทั้งคำพยากรณ์เหตุการ์ต่าง ๆ ที่เชื่อกันว่า ได้ปรากฏขึ้นแล้วตามลำดับในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ได้ตรงกับคำทำนายของดาเนียล จึงเป็นข้อพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดว่า ท่านเป็นผู้พยากรณ์ของพระเจ้าที่แท้จริง

คริสตจักรรับรองว่าดาเนียลเป็น ผู้พยากรณ์แท้จริงของพระเจ้า ในคริสตธรรมคัมภีร์เล่มพระวรสารมัทธิว ได้กล่าวว่า พระเยซูเจ้า ทรงกล่าวนามถึงดาเนียลว่า "ดาเนียล ผู้พยากรณ์" (มัทธิว 24:15) ในคริสตธรรมคัมภีร์ "หนังสือม้วนพบในทะเลตาย" บันทึกถึงชาวคริสต์ในสมัยนั้นได้กล่าวถึงดาเนียล เป็น "หนึ่งในพยากรณ์หรือผู้ประกาศ ที่สำคัญยิ่งสี่ท่าน" ในคริสตธรรมคัมภีร์ของคริสเตียน พระธรรมดาเนียล จัดอยู่ในหมู่ ผู้เผยพระวจนะที่สำคัญ คืออิสยาห์ เยเรมีย์ และเอเสเคียล ซึ่งเป็นคำพยากรณ์มาจากพระเจ้า ในทางความฝัน ภาพนิมิต และ การเปิดเผยข้อความที่เดิมเป็นความลับ ในพระธรรมเอเสเคียล ท่านได้ยกย่องดาเนียลว่า ท่านเป็นแบบอย่างของผู้ชอบธรรม และมีปัญญาของพระเจ้า

เนื้อหาโดยย่อ[แก้]

ภาษาที่ใข้เขียนในพระธรรมนี้แบ่งออกเป็นสองภาษา บทที่ 1 และบทที่ 8-12 เขียนเป็นภาษาฮีบรู บทที่ 2-7 เขียนเป็นภาษา Aramaic (ภาษาชั้นสูงที่ใช้ในราชวัง และในพิธีกรรมทางศาสนา ของอาณาจักรเดิม) ใช้ตลอดทั่วไป ตะวันออกกลาง อีรัค อีหร่าน และอิสราเอล เป็นต้

บทที่ 1-2 ดาเนียลและเพื่อน ถูกนำตัวไปเป็นเชลย ที่บาบิโลน ทั้งสามตั้งใจจะซื่อสัตย์กับศาสนาและประเพณีของชนชาติยิว ปฏิเสธกินเนี้อที่เป็นมลทิน การทำงานในราชวัง และได้รับยกย่องว่า มีความเข้าใจและมีความสามารถกว่าโหรและผู้เผยพระวจนะของราชวังสิบเท่า ทำนายความฝันของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ถึงเทวรูปที่ทำด้วยโลหะสี่ชนิด มีเศียรเป็นทองคำ อกและแขนเป็นเงิน เท้าและโคนขาเป็นทองเหลือง ขาเป็นเหล็ก และเท้าเป็นเหล็กปนดิน มีหินก้อนหนึ่งมากระทบเทวรูปนั้นจนแตกเป็นชิ้นเป็นผง ๆ ลมพัดพาเศษผงไป และก้อนหินกลายเป็นภูเขาใหญ่ ดาเนียลอธบายความฝันว่า บาบิโลนคืออาณาจักรของโลกแห่งแรก ต่อมาจะมีการครอบครองต่อ ๆ ไป อาณาจักรที่สองคือมีเดียร์เปอร์เซีย อาณาจักรที่สามคือกรีก อาณาจักรที่สี่คือโรม อาณาจักรสุดท้ายคือพระเจ้า ซึ่งพระองค์จะตั้งอาณาจักรที่มั่นคงตลอดไป กษัตริย์เนคัดเนสซาร์ เลื่อมใสกราบนมัสการพระเจ้าของดาเนียล ประทานลาภยศให้ดาเนียล

บทที่ 3-4 บรรยายถึงเพื่อนของดาเนียล ทั้งสามปฏิเสธไม่กราบเคารพปฏิมากรทองคำของบาบิโลน ถูกโทษโยนเข้าไปในเตาไฟ แต่ไฟไม่สามารถทำอันตรายแก่เขาได้ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์จึงให้อภัยและถวายเกียรติยศแก่พระเจ้าของยิว ความฝันของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เรื่องต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้เติบโตและแข็งแรง ยอดของมันขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และองค์บริสุทธิ์มาจากฟ้าสวรรค์ ตัดต้นไม้ลง และไล่สัตว์ทั้งหลายที่อาศัยบนต้นไม้หนีไปหมดสิ้น ให้เหลือแต่ตอราก มีปลอกเหล็กและทองเหลืองสวมไว้ ปล่อยให้อยู่ในป่า เจ็ดวาระ (พระธรรมดาเนียล 4:10-16) ดาเนียลอธิบายว่า ต้นไม้ใหญ่นั้นคือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ พระเจ้าจะลงโทษ โดยตัดสิทธิการเป็นกษัตริย์ชั่วคราว บันทึกว่ากษัตริย์ได้ต่อต้าน จึงเกิดเสียสติ ออกไปในกลางทุ่ง และกินหญ้าท่ามกลางวัวอยู่เจ็ดวัน หลังจากกษัตริย์กลับใจ นับถือพระเจ้าของดาเนียล ท่านจึงได้สติคืนมา

บทที่ 5 กษัตริย์สืบต่อมาชื่อ เบลชัสซาร์ โอรสของเนบูคัดเนสซาร์ ได้ดูหมิ่นพระเจ้าของดาเนียล มีลายอักษรปรากฏที่ผนังของพระราขวัง ไม่มีผู้ใดอ่านได้ ดาเนียลถูกเรียกตัวไปแปลความหมาย ว่าวาระของอาณาจักรบาบิโลนมาถึงที่จบ ความยุติรรมของกษัตริย์องค์ไม่เท่าเทียมกับราชบิดา อาณาจักรจะถูกแบ่งแยกตกเป็นของ ชนชาติมีเดีย และชนชาติเปอร์เชีย ต่อมาในคืนนั้น กษัตริย์เบลซัสซาร์ ถูกปลงพระชนม์

บทที่ 6 กษัตริย์ดาริอัสของเปอร์เชียขึ้นครอง เป็นอาณาจักรใหม่ แต่งตั้งให้ดาเนียลได้เป็น มนตรีที่มีอำนาจสูง ศัตรูที่อิจฉา ดาเนียล ออกกฎหมายห้ามอธิษฐานถึงพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระเจ้าของเปอร์เซียเท่านั้น ถูกโดนโทษจับไปไว้ให้สิงโตกินในถ้ำ ดาเนียลขอพระเจ้าช่วย สิงโตจึงไม่ทำอันตรายแก่ดาเนียล กษัตริย์ดาริอัสทราบเรื่องจึง ทำโทษพวกริษยา ยกเลิกกฎห้ามอธิษฐานและยกย่องพระเจ้าของยิว

บทที 7 นิมิตของดาเนียล ถึงอาณาจักรโลก จากสัตว์สี่ชนิดออกมาจากทะเล สิงโตมีปีก หมีคาบโครงกระดูก เสือดาวมีสี่หัว และสัตว์ปรักลาดมีเขาสิบเขา และมีผู้บริสุทธิ์ที่บอกแก่ดาเนียลว่า กษัตริย์สี่องค์ของโลกมนุษย์ จะทำศึกสงครามและตั้งอาณาจักรยิ่งใหญ่ของตน และกษัตริย์สุดท้ายจะมีอำนาจและโหดร้ายมากที่สุด และในสุดท้ายพระเจ้าจะเป็นผู้พิพากษา

บทที่ 8 นิมิตของดาเนียลเรื่องแกะและแพะ ทูตสวรรค์กล่าวกับดาเนียล แพะคือ มีเดียและเปอร์เซีย และแกะคือกรีก ที่ทำลายอาณาจักรของเปอร์เซีย

บทที่ 9-12 พยากรณ์เรื่องการเป็นเชลยของอิสราเอลเป็นเวลา 70 ปี ดาเนียลอธิษฐานแทนชนชาติอิสราเอล นิมิตของดาเนียล ริมแม่น้ำไทกริส เหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดกับโลกในตอนสุดท้าย ทูตสวรรค์อธิบายให้ดาเนียลบันทึกไว้ พยากรณ์ถึงเหตุการณ์ ในสมัยกษัตริย์ดาริอัสของเปอร์เซีย สงคราม อาณาจักรกรีกอิยิปต์ ความวิบัติ ความทุกข์ในวาระสุดท้าย และ การกลับมาของคำพิพากษา

พยากรณ์ถึงวาระสุดท้ายของโลก[แก้]

ศาสนายิว และศาสนาคริสเตียน มีบันทึกในคริสตธรรมคัมภีร์เกี่ยวกับการทำนายถึงเหตุการณ์ในอนาคต โดยเฉพาะเหตุการณ์ในระยะสุดท้ายของโลก Apocalyptic Ideology ในคริสตธรรมคัมภีร์ฮีบรูของชนชาติยูดาย นับถือผู้พยากรณ์ของพระเจ้า เช่นเยเรมีย์ เอเสเคียล เป็นต้น เป็นผู้ที่พระเจ้าได้สั่งโดยตรงกับท่านเหล่านั้น ให้บันทึกข้อความที่มีจำเพาะ สำหรับชาวอิสราเอล และผู้ที่ศาสนายิวทั่วโลก และสำหรับศาสนาคริสเตียน ได้ยอมรับผู้พยากรณ์ของพระเจ้าของคริสตธรรมคัมภีร์ฮีบรู บันทึกไว้ในภาคพระพันธสัญญาเดิมของคริสตธรรมคัมภีร์ของคริสเตียน ข้อความที่บันทึกในลักษณะพยากรณ์เช่นนี้ ทำนายถึงวาระสุดท้ายของโลก เกี่ยวข้องถึงผู้ที่ยอมรับพระเจ้า และผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้า ในคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ของคริสเตียนในพระธรรมวิวรณ์ ได้เปิดเผยให้ทุกคนได้ทราบถึงบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับรางวัลและโทษของมวลมนุษย์ที่จะได้รับ และเหตุการณ์ของวาระสุดท้ายของโลก

ในบทที่ 6-12 เป็นการบันทึกคำทำนายถึงอนาคตของดาเนียล ที่ทูตสวรรค์ได้อธิบายความหมายคำทำนาย โดยแปลความฝันของดาเนียล และให้บันทึกไว้เป็นคริสตธรรมคัมภีร์ ดาเนียลได้เขียนลงไว้เป็นสองภาษา บทที่ 7 เป็นภาษาAramaicและบทที่ 8-12 เป็นภาษาฮีบรู

1. นิมิตที่ดาเนียลเห็นครั้งแรก ในสมัยของกษัตริย์เบลชัสซาร์ครองราชปีแรก อาณาจักรบาบิโลน ดาเนียลฝันถึงสัตว์สี่ชนิดผุดขึ้นมาจากทะเล ตัวแรกเหมือนสิงโต มีปีกเป็นนกอินทรี ตัวที่สองเหมือนหมี มีปากคาบกระดูกซี่โครงสามซี่ ตัวที่สามเหมือนเสือดาว มีปีกสี่ปีกและหัวสี่หัว ตัวที่สี่ มีเขาสิบเขา ฟันเหล็ก มีตาและมีปาก คำอธิบายของดาเนียลจากทูตสวรรค์ว่า จะมีอาณาจักรยิ่งใหญ่ของโลกสี่อาณาจักร และอาณาจักรสุดท้ายจะทำลายโลก " ... จะเหยียบพิภพลง และหักพิภพนั้นให้แตกเป็นชี้นๆ" (พระธรรมดาเนียล 7:23) กษัตริย์สุดท้ายจะโค่นกษัตริย์อื่น จะพูดจาดูหมิ่นพระเจ้า และทำร้ายผู้ชอบธรรม จะเปลี่ยนแปลงกฎหมาย และกาลวาระ ทุกคนจะอยู่ใต้อำนาจในมือของเขา ... พระเจ้าจะมาพิพากษา และทำลายเสียสิ้น(7:26)

2. นิมิตที่ดาเนียลเห็นครั้งที่สอง ในสมัยกษัตริย์เบลชัสซาร์ ครองราชในปีที่สาม ดาเนียลฝันถึงแพะและแกะ อาณาจักรใหม่ เมอร์โด เปอร์เชียคือแพะ จะถูกทำลายโดยอาณาจักรยิ่งใหญ่ คือแพะ ผู้มีอำนาจมากกว่าคือ อาณาจักรกรีก แต่อาณาจักรของกรีกจะถูกทำลาย โดยสี่อาณาจักรต่อมาจนถึงกาลอวสาร "จงเข้าใจเถิดว่า นิมิตนั้นเป็นเรื่องถึงกาลอวสาร"(8:17) ดาเนียลบรรยายถึง กษัตริย์สุดท้ายที่จะครองโลก มีความฉลาดและความร้ายกาจ ต่อต้านคนของพระเจ้า และล่อลวงผู้คนให้ยอมรับเขาได้ทั่วโลก เขาจะทำร้ายสังหารคนมากมาย"... จะกระทำให้เกิดความพินาศอย่างน่ากลัว เขาจะเจริญยิ่งขึ้น และปฏิบัติงานมาก จะทำลายผู้มีกำลังมากและผู้บริสุทธิ์ (8:24)

3. นิมิตของดาเนียลครั้งที่สาม เกิดในต้นรัชกาลของกษัตริย์ดาริอัสของเปอร์เชีย เกี่ยวข้องกับชาวยิวอิสราเอลโดยเฉพาะ และนครเยรูซาเล็มที่จะร้างเป็นเวลา 70 ปี ตรงกับคำพยากรณ์ของเยเรมีห์ที่ได้รับจากพระเจ้า ทูตสวรรค์ได้กล่าวกับดาเนียลว่า ระยะเวลากรุงเยรูซาเล็มจะได้สร้างขึ้นใหม่และพระผู้มาโปรดกับชาติอิสราเอล ... "พระเมสไซยาห์เป็นประมุขอยู่เจ็ดสัปดาห์ และเป็นเวลาหกสิบสองสัปดาห์... หลังจากหกสิบสองสัปดาห์แล้ว พระเมสไซยาห์จะถูกตัดออก ประชาชนจะทำลายกรุงเยรูซาเล็ม ในที่สุดปลายของโลกจะมาถึง ... น้ำท่วมและสงคราม จนสิ้นสุดการรกร้างที่กำหนดไว้” (9:26)

4. นิมิตของดาเนียลครั้งที่สี่ เกิดขึ้นในสมัยกษัตริย์ไซรัสของเปอร์เชียครองราชเป็นปีที่สาม เกี่ยวข้องถึงกษัตริย์ทางเหนือ และกษัตริย์ทางใต้ มีสงครามต่อกัน กษัตริย์สองประเทศจะร่วมมือกันทำอุบาย จะเกิดความทุกข์เวทนาของประชาชาติ การคืนชีพของผู้ชอบธรรมและผู้อธรรม วาระสุดท้ายของมวลมนุษย์ โดยกล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดในยุคของดาเนียล แต่จะเกิดในอวสานของโลก "เพราะถ้อยคำเหล่านี้ถูกบิดไว้ และถูกประทับตราไว้จนถึงวาระสุดท้าย" (12:9)

อ้างอิง[แก้]

  • James B. Jordan(1995) Daniel:Historical&Chronnological Comments II.
  • Francis E Gigot (1889) Daniel:Cathoric Encyclopedia on CD-Rom.
  • David CronKlin (2004) Evidences Relating to the Book of Daniel.
  • Soc. Culture Jewish Newsgroups: Question and Answer.
  • Klaus Beyer (1986. The Aramaic language.
  • คริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม พระธรรมดาเนียล.
  • Achtemeier,P. J. Harper's Bible Dictionary. "eschatology"