สุด แสงวิเชียร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สุด แสงวิเชียร

เกิด29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450
อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
เสียชีวิต8 มิถุนายน พ.ศ. 2538 (88 ปี)
สัญชาติไทย ไทย
อาชีพนายแพทย์, นักกายวิภาคศาสตร์, นักวิทยาศาสตร์, นักโบราณคดี, อาจารย์
มีชื่อเสียงจากหนึ่งในแพทย์ผู้ชันสูตรพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
คู่สมรสนางผจงจีบ แสงวิเชียร (จีบ บุตรานนท์)
บุตร5 คน
บิดามารดาขุนแสงสุรพาณิชย์ (จันทร์ แสงวิเชียร)
นางแสงสุรพาณิชย์ (ทรัพย์ แสงวิเชียร)

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ สุด แสงวิเชียร (29 พฤศจิกายน พ.ศ. 24508 มิถุนายน พ.ศ. 2538) แพทย์ชาวไทย นักกายวิภาคศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี ราชบัณฑิต และ ผู้ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่น บุคคลดีเด่นแห่งชาติ และนักอนุรักษ์ดีเด่น

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุด แสงวิเชียร มีผลงานโดดเด่นในเรื่องวิทยาเอ็มบริโอ ด้านจุลกายวิภาคศาสตร์ ด้านมหกายวิภาคศาสตร์ หนึ่งในแพทย์ผู้ชันสูตรพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

ประวัติ[แก้]

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ สุด แสงวิเชียร เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นบุตรของขุนแสงสุรพาณิชย์ (จันทร์ แสงวิเชียร) และนางทรัพย์ แสงสุรพาณิชย์ (ทรัพย์ แสงวิเชียร*2413 - 2512: 99 ปี) เป็นบุตรคนที่ 6 ของพี่น้อง 7 คน พี่ชาย 4 คน พี่สาว 1 คน น้องชาย 1 คน ท่านถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2538 เมื่ออายุได้ 88 ปี ท่านเป็นอาจารย์แพทย์ผู้สร้างความเจริญให้กายวิภาคศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายแพทย์ ผู้ชันสูตรพระบรมศพ ผู้เขียนบันทึก เรื่อง "เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต : หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ที่ยืนยันว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์"

ท่านสมรสกับนางผจงจีบ แสงวิเชียร (จีบ บุตรานนท์ *2455 - 2542:87 ปี) บุตรี นายนาวาตรี หลวงเจียรเจนสมุทร์ (เจียร บุตรานนท์) และนางยิ้ม เจียรเจนสมุทร์ มีบุตรธิดารวมทั้งสิ้น 5 คน เป็นแพทย์ 3 คน ทันตแพทย์ 1 คน คือ ผศ.พญ.คุณหญิง แสงจันทร์ แสงวิเชียร, ศ.นพ.สรรใจ แสงวิเชียร, นายสายสุด แสงวิเชียร, ผศ.ทพญ.จุติศรี แสงวิเชียร, และรศ.พญ.จีระสุข จงกลวัฒนา

การศึกษา[แก้]

การศึกษาเบื้องต้นกับบิดาของตน ศึกษาชั้นประถมปีที่ 1-3 มัธยมปีที่ 3 ที่โรงเรียนประจำจังหวัดสมุทรปราการ มัธยมปีที่ 4-8 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จากนั้น ในปี พ.ศ. 2469 เป็นนิสิตเตรียมแพทย์ปริญญารุ่น 2 (นิสิตแพทย์) ที่ปัจจุบันคือคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนสำเร็จเมื่อ พ.ศ. 2473 ผลการเรียนยอดเยี่ยม จนได้รับทุนเรียนดีของพระยาอุเทนเทพโกสินทร (ประสาร บุรณศิริ) พ.ศ. 2473 ได้รับพระราชทานปริญญาเวชชบัณฑิตชั้นตรี หรือแพทยศาสตร์บัณฑิต เป็นแพทย์ศิริราช รุ่นที่ 36 (แพทย์ปริญญารุ่น 3) ได้รับรางวัลเหรียญเงินรองเยี่ยมตลอดหลักสูตร 4 ปี เหรียญทองแดงที่ 1 ในแผนกศัลยศาสตร์ และเหรียญทองแดงที่ 1 ในแผนกอายุรศาสตร์ นอกจากนี้ระหว่างเข้ารับราชการเป็นอาจารย์แผนกกายวิภาคศาสตร์ จุฬาฯ และได้รับทุนมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ไปศึกษาต่อทางกายภาคศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน และมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเซิร์ฟ สหรัฐอเมริกา ได้รับเงินทุนจากกองทุนพระมรดกของสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ และใน พ.ศ. 2506 ได้รับทุน WHO ไปศึกษาวิชามนุษยพันธุศาสตร์และวิจัยโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ที่ขุดพบในประเทศไทย ที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

การทำงาน[แก้]

เมื่อจบการศึกษาแล้ว พ.ศ. 2474 ท่านเข้ารับราชการเป็นอาจารย์แผนกกายวิภาคศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับทุนมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ไปศึกษาต่อทางกายวิภาคศาสตร์ที่สหรัฐอเมริกา และได้กลับมาเป็นอาจารย์ที่แผนกกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ระหว่าง พ.ศ. 2476-2513 ในระหว่างเหตุการณ์กรณีสวรรคต นั้น ศ.นพ.สุด แสงวิเชียร ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกกายวิภาคศาสตร์ และได้เข้าร่วมเป็นแพทย์ผู้ชันสูตรพระบรมศพ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช

ท่านได้ดำรงตำแหน่งคณบดีคนที่ 9 ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระหว่างปี พ.ศ. 2511 - 2512 เมื่อเกษียณอายุแล้วก็ยังช่วยสอนที่นี่ทุกวันจนถึง พ.ศ. 2536 จนไปทำงานเฉพาะวันพุธ วันละ 4 ชั่วโมง จากปัญหาสุขภาพ จนเสียชีวิต และได้สั่งครอบครัวไว้ให้มอบร่างกายของท่านแก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ภายหลังบำเพ็ญกุศลแล้ว ปัจจุบันได้แขวนโครงกระดูกไว้ให้นิสิตนักศึกษาแพทย์ใช้ประกอบการศึกษาที่ตึกกายวิภาคศาสตร์

ท่านมีผลงานโดดเด่นทางด้านวิทยาเอ็มบริโอ ด้านจุลกายวิภาคศาสตร์ ด้านมหกายวิภาคศาสตร์ (การดองศพ) ท่านมีผลงานวิจัยมากกว่า 250 เรื่อง เป็นหัวหน้าแผนกที่สามารถทำให้แผนกกายวิภาคศาสตร์เจริญก้าวหน้า โดยเฉพาะงานด้านพิพิธภัณฑ์ เป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์คองดอน(เป็นเกียรติแก่ ศ.คองดอน) เมื่อ พ.ศ. 2491 ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในโลก ที่มีระบบประสาทและระบบหลอดเลือดแดงทั้งตัว

ศ.นพ.สุด เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2516[1]

ผลงาน[แก้]

ศ.นพ.สุด แสงวิเชียร มีผลงานทางวิชามากมาย ได้แก่

  • หนังสือกว่า 20 เล่ม เช่น เมื่อข้าพเจ้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต, กายวิภาคศาสตร์ (ภาษาไทย), The Prehistoric Thai Skeleton from Ban-Kao Karnchanaburi Archiological Excavation in Thailand Vol. lll, ศาสตราจารย์ อีดี คองดอน กับประวัติวิชากายวิภาคศาสตร์ของประเทศไทย, ประวัติพิพิธภัณฑ์และห้องปฏิบัติการเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์, ศิริราชที่ผมรู้จัก, ดร.ไฮเซอร์ กับความช่วยเหลือของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ต่อรัฐบาลไทย, พิพิธภัณฑ์ศิริราช, ตามรอยพระยุคลบาท, Studies on physical anthropology in Thai subjects (E.D. Congdon Ph.D., Sood Sangvichien M.B., M.D., Puket Vachananda M.B.,Ph.D.), กายวิภาคศาสตร์ ทรวงอก (บทที่ 1 กายวิภาคศาสตร์ของทรวงอกและอวัยวะภายใน)
  • บทความวิชาการ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษกว่า 150 บทความ
  • บทความประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ กว่า 100 บทความ
  • บทความทางโบราณคดี กว่า 40 บทความ

เกียรติคุณ[แก้]

ศ.นพ.สุด แสงวิเชียร ได้รับการเชิดชู ทั้งระดับประเทศ และนานาชาติ ที่สำคัญได้แก่

เกียรติที่ได้รับทางวิชาการ[แก้]

  1. ราชบัณฑิต ประเภทวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาวิชาแพทยศาสตร์ ราชบัณฑิตยสถาน เมื่อ พ.ศ. 2485
  2. แพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พ.ศ. 2492
  3. F.I.C.S. กิตติมศักดิ์ พ.ศ. 2504
  4. วิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2517
  5. ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (โบราณคดี) กิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2517
  6. สังคมวิทยาและมานุษยวิทยาดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2524
  7. แพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2526

เกียรติที่ได้รับจากสังคม[แก้]

  1. แพทย์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2526
  2. คนไทยตัวอย่างของมูลนิธิธารน้ำใจ พ.ศ. 2530
  3. บุคคลดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ด้านกายวิภาคศาสตร์) ของคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2531
  4. นักอนุรักษ์มรดกไทยดีเด่น พ.ศ. 2533

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "พระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-27. สืบค้นเมื่อ 2014-07-08.
  2. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙๙ ตอนที่ ๑๘๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๙, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๕
  3. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๑๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๔, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๐๘
  4. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙๐ ตอนที่ ๕๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๓, ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๑๖
  5. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๘๓ ง หน้า ๓๐๑๕, ๒๗ กันยายน ๒๕๐๙
  6. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2021-07-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๗๕ ตอนที่ ๑๐๙ ง หน้า ๓๓๔๑, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๐๑

บรรณานุกรม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]