โรงเรียนวิสุทธรังษี

พิกัด: 13°59′50″N 99°33′25″E / 13.997351°N 99.556947°E / 13.997351; 99.556947
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก วิสุทธรังษี)
โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
Visuttharangsi School
ที่ตั้ง
แผนที่
พิกัด13°59′50″N 99°33′25″E / 13.997351°N 99.556947°E / 13.997351; 99.556947
ข้อมูล
ชื่ออื่นว.ส. (V.S.)
ประเภทรัฐบาล
คำขวัญสามัคคี มีวินัย ตั้งใจเรียน เพียรทำดี
สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี
(ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะทำให้เกิดสุข)
สถาปนา1 มิถุนายน พ.ศ. 2447
ผู้ก่อตั้งพระวิสุทธิรังษี ชินศาสนโสภี สังฆปาโมกข์ (หลวงปู่เปลี่ยน อินฺทสโร) เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม
หน่วยงานกำกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 (ราชบุรี-กาญจนบุรี) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รหัส05710601
ผู้อำนวยการนายหงษ์ดี ศรีเสน
ระดับปีที่จัดการศึกษาม.1 – ม.6
จำนวนนักเรียน4,132 คน
(ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2566)
ภาษาที่ใช้เป็นสื่อการสอนภาษาที่มีการเรียนการสอน
ไทย ภาษาไทย
สหราชอาณาจักร ภาษาอังกฤษ
จีน ภาษาจีน
ญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่น
ฝรั่งเศส ภาษาฝรั่งเศส
ประเทศพม่า ภาษาพม่า
วิทยาเขตกาญจนบุรี
  1. โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี (พ.ศ. 2447 - ปัจจุบัน)
  2. โรงเรียนสตรีกาญจนานุเคราะห์ (พ.ศ. 2472 - พ.ศ. 2473)[1]
  3. โรงเรียนวิสุทธรังษี สาขาทองผาภูมิ
    (พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2518)
    [2][3][4]
สี███ ฟ้า
███ เหลือง
เพลงมาร์ชวิสุทธรังษี
เว็บไซต์www.visut.ac.th
สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน :
  1. "คันกระสุน"
  2. "ธงฟ้า - เหลือง"

ต้นไม้ประจำโรงเรียน :

  1. "ต้นโพธิ์"

โรงเรียนวิสุทธรังษี (อังกฤษ: Visuttharangsi School) (อักษรย่อ: ว.ส.) เป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ[5]: 1  และเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี[6] สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี (กาญจนบุรี) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2447 โดย พระวิสุทธิรังษี หรือ หลวงปู่เปลี่ยน อินฺทสโร เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ครบรอบการก่อตั้ง 100 ปี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ปัจจุบันมีอายุ 119 ปี

ปัจจุบัน โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันมีนักเรียน 4,132 คน[7] (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2566) ​​

ข้อมูลทั่วไปของโรงเรียน[แก้]

โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่เลขที่ 32 ถนนแสงชูโต อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี บนพื้นที่ทั้งหมด 56 ไร่ 3 งาน 47.1 ตารางวา[5]: 1  บริเวณโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นพื้นคอนกรีต และเป็นถนน มีประตูรั้ว 2 ประตูคือ ประตูรั้วทางเข้า - ออกบริเวณอาคารศูนย์ศึกษาศาลาศิลปวัฒนธรรม และประตูรั้วทางเข้า - ออกหลักบริเวณแฟลตป้อมยาม โรงเรียนวิสุทธรังษี มีอาณาเขตติดต่อดังต่อไปนี้ [8]

  • ทิศเหนือ (หลังโรงเรียน) : ติดกับพื้นที่การเกษตร (ถนนพัฒนากาญจน์)
  • ทิศตะวันออก (ประตู 2 อาคารศูนย์ศึกษาศาสนาและศิลปวัฒนธรรม) : ติดกับซอยร่วมใจ
  • ทิศตะวันตก (ประตู 1) : ติดกับซอยแสงชูโต ซอยควาย

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายการศึกษาไปตามหัวเมืองต่าง ๆ โดยในชั้นต้นให้ใช้วัดเป็นสถานที่เล่าเรียน โดยมีพระภิกษุเป็นครูผู้สอน ตามประกาศพระกระแสพระบรมราชโองการ"จัดการเล่าเรียนในหัวเมือง"[9] เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441 โดยทรงอาราธนาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (ขณะนั้นยังทรงดำรงพระอิสริยยศ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส) รับเป็นภาระจัดพระเถระผู้ใหญ่ที่สมควรเป็นผู้อำนวยการศึกษาตามมณฑลต่าง ๆ ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีในขณะนั้นขึ้นสังกัดมณฑลราชบุรี โดยมีพระอมรโมลี (ชม สุสมาจาโร) แห่งวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร เจ้าคณะมณฑลราชบุรีขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการการศึกษา วัดไชยชุมพลชนะสงครามเป็นวัดหนึ่งซึ่งได้รับการยกย่องว่าควรเป็นโรงเรียนได้ ปรากฏในรายงานตรวจการศึกษามณฑลราชบุรี ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๑๖ แผ่นที่ ๕๒ รัตนโกสินทรศก ๑๑๘ (พ.ศ. 2442)[10] ตอนหนึ่งว่า

วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) เป็นวัดท้ายเมืองอยู่ด้านทิศใต้ มีราษฎรนับถือมากเช่นเดียวกัน แลเป็นวัดเจ้าคณะจังหวัดตั้งอยู่ใกล้เคียงกับเมือง แลพระใบฎีกาเปลี่ยนเป็นผู้ช่วยในการสอน แลเป็นผู้กว้างขวางเต็มใจที่จะสอนตามแบบหลวงได้

พระวิสุทธิรังษี (เปลี่ยน อินฺทสโร) พระผู้สถาปนาโรงเรียน

ยุคที่ 1 โรงเรียนตัวอย่างประจำจังหวัด (พ.ศ. 2447 - พ.ศ. 2498)[แก้]

ศาลาการเปรียญวัดไชยชุมพลชนะสงคราม อาคารเรียนหลังแรกของโรงเรียนวิสุทธรังษี

1 มิถุนายน พ.ศ. 2447 ได้ประกาศตั้งโรงเรียนขึ้น ณ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้)[5]: 5  เปิดสอน 2 ขั้น คือขั้นเบื้องแรก เป็นชั้นมูลศึกษา กับขั้นเบื้องต้น เป็นชั้นประถมศึกษา โดยใช้ศาลาการเปรียญของวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) เป็นสถานที่สอน โดยนักเรียนปีแรกมีนักเรียนทั้งหมด 54 คน มีครูผู้สอน 1 คน คือ พระภิกษุเจียม สิทธิสร เป็นครูใหญ่และครูผู้สอน ต่อมาในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2449 พระภิกษุเจียม สิทธิสร ได้ลาออก พระวิสุทธิรังษี (เปลี่ยน อินฺทสโร) เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) จึงได้แต่งตั้งให้พระก้าน นาคะพันธ์ (ต่อมาได้เลื่อนเป็นเจ้าคุณ พระครูวัตตสารโสภณ) เป็นครูใหญ่และครูผู้สอนแทนพระภิกษุเจียม สิทธิสร[5]: 5 

ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2452 ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้ โดยมีพระก้าน นาคะพันธ์ ได้นำนักเรียนทั้งโรงเรียน ซึ่งในปีการศึกษานั้นมีทั้งสิ้น 66 คน เข้าเฝ้ารับเสด็จที่หน้าวัดไชยชุมพลฯ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานเงินให้แก่นักเรียนทุกคน คนละหนึ่งสลึง

พิธีเปิดอาคารเรียนหลังที่สองเมื่อปี พ.ศ. 2466 ในภาพ วงกลมสีแดงคือพระวิสุทธิรังษี วงกลมสีดำคือเด็กชายเจริญ คชวัตร หรือต่อมาคือสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
อาคารเรียนหลังที่สอง ของโรงเรียนวิสุทธรังษี เมื่อปีพ.ศ. 2466 โดยมีชื่อเรียกว่า ตึกขาว
อาคารเรียนหลังที่สาม เมื่อปีพ.ศ. 2480 โดยมีชื่อเรียกว่า ตึกเหลือง

โรงเรียนวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ได้ดำเนินการเรียนการสอน ก้าวหน้าด้วยดีเป็นลำดับ จึงได้ประกาศเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี มีชื่อว่า โรงเรียนตัวอย่างประจำจังหวัด คงใช้ศาลาวัดและกุฏิพระเป็นสถานที่สอน พระวิสุทธิรังษี (เปลี่ยน อินฺทสโร) ได้พิจารณาเห็นว่าเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เสนาบดีกระทรวงธรรมการได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. 2464 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2464 ให้เด็กทุกคนที่มีอายุย่างปีที่ 8 ถึงปีที่ 15 เข้าเรียนโดยไม่เสียค่าเล่าเรียน พระวิสุทธิรังษี (เปลี่ยน อินฺทสโร) เห็นว่าศาลาวัดที่ใช้เป็นสถานศึกษาเป็นที่คับแคบ ไม่เหมาะสม จึงได้ร่วมกับกรรมการศึกษาและชาวบ้าน สร้างอาคารเรียนถาวรขึ้นที่วัด 1 หลัง 7 ห้องเรียน ตัวอาคารเป็นตึกชั้นเดียวใต้ถุนสูง ฝาผนังก่ออิฐถือปูน เครื่องบนไม้จริง หลังคามุงกระเบื้อง ส่วนค่าก่อสร้างไม่ได้ใช้เงินงบประมาณ ล้วนแต่ได้รับการบริจาคจากผู้มีศรัทธาทั้งสิ้น งานก่อสร้างเริ่มขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2464 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2466 จึงได้ย้ายสถานที่เรียนจากกุฏิและศาลาวัดไปเรียนอาคารหลังใหม่แทน ทางราชการจึงได้ขนานนามโรงเรียนแห่งนี้ว่า โรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี วิสุทธิรังษี[5]: 5  เพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ท่านเจ้าคุณวิสุทธิรังษีฯ(เปลี่ยน) แต่ชื่อปัจจุบันนี้ชื่อโรงเรียนคำว่า วิสุทธิรังษี "ธิ" สระอิหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ชื่อปัจจุบันจึงเหลือเพียง วิสุทธรังษี เท่านั้น แต่นั้นมาโรงเรียนได้เปิดสอนขั้นเบื้องกลางถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

พ.ศ. 2478 ทางราชการได้ทำการจัดตั้งโรงเรียนประชาบาลขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ณ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ดังนั้นทาง โรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี วิสุทธรังษี ซึ่งขณะนั้นเปิดสอนชั้นประถมศึกษาด้วย จึงได้ลดชั้นประถมศึกษาให้เรียนที่โรงเรียนประชาบาลที่เปิดสอนใหม่แทน และตั้งแต่ปีพ.ศ. 2482 เป็นต้นมาโรงเรียนวิสุทธรังษีจึงเปิดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น

พ.ศ. 2480 พระวิสุทธิรังษี เห็นว่าผู้ปกครองนิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษามากขึ้น อาคารเรียนหลังเดิมเห็นจะไม่เพียงพอ จึงได้ร่วมมือกับคณะกรรมการสถานศึกษาและชาวบ้านช่วยกันสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ขึ้นอีกหนึ่งหลัง ใกล้กับบริเวณตึกหลังเก่า เป็นตึกคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น 12 ห้องเรียน มีมุขด้านหน้า รัฐบาลของพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาสนับสนุนงบประมาณให้ 6,000 บาท นอกนั้นเป็นเงินที่ได้รับบริจาคโดยมีพระวิสุทธิรังษีเป็นกำลังสำคัญช่วยเหลือจัดหาทุนสมทบเพิ่มเติมจนสำเร็จเรียบร้อย งานก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยใช้เป็นสถานที่เรียนได้เมื่อปี พ.ศ. 2482

ยุคที่ 2 ย้ายสถานที่ใหม่ (พ.ศ. 2498 - ปัจจุบัน)[แก้]

อาคารเรียนหลังแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2498

พ.ศ. 2490 เมื่อเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการ ได้มาตรวจเยี่ยม มีความเห็นว่าโรงเรียนประจำจังหวัดตั้งอยู่ในเขตวัด บริเวณคับแคบไม่เหมาะสมจึงควรขยายทันกับความเจริญ กระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการโรงเรียน จึงได้ทำการติดต่อเจรจาเรื่องที่ดินกับบริษัท กาญจนบุรีพานิชจังหวัด จำกัด ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ทางบริษัทได้มอบที่ดินจำนวน 63 ไร่ 2 งาน ที่ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ให้เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 นายวิรัช บุญญาลัย ผู้แทนบริษัทเป็นผู้มอบ นายทวี สุนทรวิภาค ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รับมอบ ณ ที่ว่าการอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี สมัยนาย ป อินทรัมพรรย์ เป็นนายอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

28 ตุลาคม พ.ศ. 2498 โรงเรียนได้ย้ายจากวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ไปยังสถานที่ใหม่ที่บริษัท กาญจนบุรีพานิชจังหวัด จำกัด ยกให้ โรงเรียนได้งบประมาณจากรัฐบาลสร้างอาคารแบบ 218 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น 28 ห้องเรียน หลังคามุงด้วยกระเบื้อง ค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 1,400,000 บาท งานก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2497 อาคารกว้าง 88.51 เมตร ยาว 106 เมตร และได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี[5]: 5  ส่วนอาคารหลังเดิมในวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ทางโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรีได้มอบให้เป็นโรงเรียนประถมศึกษา

พ.ศ. 2500 เปิดสอนถึงชั้นเตรียมอุดมศึกษา ในสมัยนั้นจึงมีชื่อเรียกโรงเรียนวิสุทธรังษีเพิ่มขึ้นมาอีกชื่อหนึ่งคือ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษากาญจนบุรี

พ.ศ. 2513 โรงเรียนเข้าโครงการปรับปรุงโรงเรียนมัธยมในส่วนภูมิภาค (คมภ 2)

พ.ศ. 2509 ได้งบประมาณสร้างอาคารแบบ 212 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น 12 ห้องเรียนงบประมาณ 1,000,000 บาทเสร็จเรียบร้อยในปี พ.ศ. 2511 (ปัจจุบันคืออาคาร 2)

พ.ศ. 2514 ได้งบประมาณสร้างอาคารแบบ 318 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น 18 ห้องเรียน ค่าก่อสร้าง 2,000,000 บาท แล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2515 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์ซึ่งเป็นอธิบดีกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการอยู่ในขณะนั้น ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารเรียนหลังนี้เมื่อปีพ.ศ. 2515 (ปัจจุบันคืออาคาร 3)

ในช่วงปี พ.ศ. 2509พ.ศ. 2517 โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับงบประมาณจากราชการเพื่อก่อสร้างอาคาร และพัฒนาบริเวณสถานที่ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 19,125,000 บาท และได้รับความอุปถัมภ์จากพระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญโญ) (ขณะนั้นเป็นพระเทพปัญญาสุธี) เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ได้สร้างอาคารคหกรรมคิดเป็นเงิน 200,000 บาท ประชาชนและหน่วยงานราชการได้ช่วยกันพัฒนาร่วมด้วย อาคารสถานที่คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 400,000 บาท

พ.ศ. 2522 ได้งบประมาณสร้างอาคารแบบ ค424 เป็นอาคารเรียน 4 ชั้น 24 ห้องเรียน (ปัจจุบันคืออาคาร 4)

พ.ศ. 2528 เนื่องด้วยอาคารแบบ 218 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น 28 ห้องเรียน ซึ่งเป็นอาคารเรียนที่ใช้ทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2498 ได้มีการทรุดโทรมของไม้ไปตามสภาพ จึงได้มีการรื้อถอนอาคารเรียนหลังนี้ ต่อมาจึงได้สร้างอาคารแบบ ค418 โดยได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียน 4 ชั้น 25 ห้องเรียน เป็นเงินการก่อสร้าง 5,700,000 บาท (ปัจจุบันคืออาคาร 1)

พ.ศ. 2531 อาคารศูนย์ศึกษาศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ด้วยเงินบริจาคประมาณ 750,000 บาท

พ.ศ. 2534 อาคารหอประชุม 3,443,000 บาท

พ.ศ. 2536 อาคารศูนย์กีฬา 14,559,988 บาท

พ.ศ. 2537 ได้มีการปรับปรุงสนามกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนเนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนาโรงเรียนวิสุทธรังษีครบ 90 ปี โดยมีพิธีเปิด สนาม 90 ปีวิสุทธรังษี ในวันที่1 มิถุนายน พ.ศ. 2537 โดยสนาม 90 ปีวิสุทธรังษีได้รับงบประมาณการปรับปรุงจากสมาคมนักเรียนเก่าวิสุทธรังษี สมาคมผู้ปกครองและครูฯ และผู้มีจิตศรัทธารวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,400,000 บาท

พ.ศ. 2542 โรงเรียนได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน 7 ชั้น ด้วยงบประมาณ 37,500,000 บาท (ปัจจุบันคืออาคาร 5)

พ.ศ. 2547 เนื่องในโอกาสที่โรงเรียนวิสุทธรังษีมีอายุครบ 100 ปี เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบวันสถาปนาโรงเรียน 100 ปี วิสุทธรังษี คณะกรรมการสมาคมนักเรียนเก่าฯ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนวิสุทธรังษี และ ผู้มีจิตศรัทธา ผู้ปกครองนักเรียน คณะครูและนักเรียนโรงเรียนวิสุทธรังษี ได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อก่อสร้าง อาคาร ๑๐๐ ปี วิสุทธรังษี ด้วยวงเงินงบประมาณ 26,500,500 บาท โดยทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ในการนี้มีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประเวศ วะสี ศิษย์เก่าโรงเรียนวิสุทธรังษีเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ และต่อมาได้ทำพิธียกเสาเอกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2550 อาคารแล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2556 มีพิธีเปิดอาคารอย่างป็นทางการในงาน ๑๐๙ ปีวิสุทธรังษี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พ.ศ. 2558 โรงเรียนวิสุทธรังษี ได้รับการคัดเลือกเป็นโรงเรียนนำร่องระดับภาคกลางโครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ (Education Hub Classroom) และมีการรับนักเรียนเพิ่มขึ้น จึงได้ทำการจัดสร้างอาคารเรียน 4 ชั้น ห้องเรียนปรับอากาศ และดำเนินการสร้างโรงอาหารหลังที่ 2 ขึ้น โดยมี 2 ชั้น ประกอบไปด้วย ชั้นที่ 1 เป็นอาคารใต้ถุนโล่งเป็นโรงอาหาร ชั้นที่ 2 เป็นห้องประชุมปรับอากาศ และอาคารแห่งนี้เป็น 1 ใน อาคารที่รองรับการเสด็จของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

โรงเรียนสาขา[แก้]

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2472 ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนสตรีกาญจนานุเคราะห์ หรือปัจจุบันรู้จักกันในนามโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนสตรีได้มีโอกาสเล่าเรียนเทียบเท่ากับนักเรียนชาย ทางราชการจึงได้ให้มีการแยกสาขาจากโรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี วิสุทธิรังษี และให้มีการก่อตั้งโรงเรียนสตรีขึ้นโดยเป็นสาขาหนึ่งของโรงเรียนชายประจำจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายฮั้ว เวชวงษ์ เป็นผู้รักษาการแทนครูใหญ่ในขณะนั้น จนถึงปลายปี พ.ศ. 2472 ทางกระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือ กระทรวงศึกษาธิการ) ได้แต่งตั้งหม่อมหลวงเชื้อ พรหมเดชเป็นครูใหญ่แทน จึงได้ย้ายสถานที่ไปอาศัยเรียนบนชั้นสองของตึกสโมสรข้าราชการจังหวัดกาญจนบุรี (ปัจจุบันคือบริเวณหน้าสวนสาธารณะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ในการแยกสาขาโรงเรียนนี้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ กับ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภา พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ประทานเงินสมทบในการก่อสร้างโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดกาญจนบุรี องค์ละ ๒๐๐ บาท และเจ้าจอมสมบูรณ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริจาค ๕๐ บาท รวมเป็นเงิน ๔๕๐ บาท[11]

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2517 กรมสามัญศึกษาได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังอำเภอทองผาภูมิตามหนังสือของจังหวัด ที่ กจ.23/1021 เพื่ออนุญาตให้อำเภอทองผาภูมิก่อตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอขึ้น โดยเปิดชั้น ม.ศ. 1 เป็นสหศึกษา ในสาขาที่ 2 ของโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรีและให้คณะครูอาจารย์ดูแลกิจการของโรงเรียนแห่งนี้ด้วย โดยใช้ชื่อโรงเรียนว่า "โรงเรียนวิสุทธรังษี สาขาทองผาภูมิ"[2][3] โดยมีนายนพเกียรติ กองเกตุใหญ่รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2518 ทางโรงเรียนได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา" แทนชื่อเดิม

ความหมายและที่มาของชื่อโรงเรียนวิสุทธรังษี[แก้]

กองลูกเสือมณฑลราชบุรีที่ ๒ (วิสุทธรังษี)

เดิมโรงเรียนมีชื่อตามสถานที่ตั้งว่า โรงเรียนไชยชุมพลชนะสงคราม ต่อมาทางราชการได้ขนานนามโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นที่วัดไชยชุมพลชนะสงครามว่า โรงเรียนตัวอย่างประจำจังหวัด และ โรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี วิสุทธิรังษี(เตรียมอุดมศึกษา กาญจนบุรี) ตามลำดับ โดยนำชื่อพระสมณศักดิ์ วิสุทธิรังษี มาตั้งเป็นชื่อโรงเรียนเพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิรังษี(เปลี่ยน) โดยหลวงปู่เปลี่ยนได้รับพระราชทานตั้งพระสมณศักดิ์ที่ พระวิสุทธิรังษี ชินศาสนโสภี สังฆปาโมกข์ ดำรงพระสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เมื่อ พ.ศ. 2460 โดยได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เนื่องเหตุใดไม่ปรากฏสระอิของคำว่า ธิ ได้หายไป ชื่อโรงเรียนจึงเหลือเพียงคำว่าวิสุทธรังษีเท่านั้น ปัจจุบันโรงเรียนมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี โดยชื่อปัจจุบันนี้ใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ส่วนคำว่าวิสุทธรังษีจากหลักฐานในราชกิจจานุเบกษา ประกาศสภากรรมการกลางจัดการลูกเสือแห่งสยาม เปลี่ยนนามกองลูกเสือ มณฑลราชบุรีที่ ๒ และที่ ๔ เล่มที่ ๔๑ หน้าที่ ๒๑๖๑[12] ประกาศเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2467 โดยประกาศราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้ได้ระบุถึงการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนจากโรงเรียนไชยชุมพลชะนะสงคราม มาเป็น โรงเรียนวิสุทธรังษี ดังนั้นจึงปรากฏคำว่าวิสุทธรังษีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว

"วิสุทธรังษี" อ่านว่า วิ - สุด - ทะ - รัง - สี สามารถแยกออกได้ดังนี้

  • วิสุทธ หมายถึง ความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ความผ่องใส ความสะอาดไร้มลทิล
  • รังษี หมายถึง รังสี แสงสว่าง

"วิสุทธรังษี" จึงมีความหมายว่า "รังสีแห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง"

สัญลักษณ์ของโรงเรียนวิสุทธรังษี[แก้]

  • คติพจน์ : "สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี" อ่านว่า "สุขา สังฆัสสะ สามัคคี" แปลว่า ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะทำให้เกิดสุข[5]: 1 
  • คติประจำใจ : "พ่อกูชื่อเปลี่ยน เลือดกูฟ้า - เหลือง ลูกหลานเต็มเมือง วิสุทธรังษี" เดิมคติพจน์นี้ได้ปรากฏไว้ที่ด้านหลังอาคาร 1 (อาคาร 3 ชั้นด้านหน้า) แต่ปัจจุบันได้ถูกทำการลบออกไป
  • คำขวัญ : สามัคคี มีวินัย ตั้งใจเรียน เพียรทำดี
  • สีประจำโรงเรียน : "ฟ้า - เหลือง"
    • ███ สีฟ้า แสดงถึง ความสดใส เจริญรุ่งเรือง
    • ███ สีเหลือง แสดงถึง ความเจริญรุ่งเรือง
  • ตราประจำโรงเรียน : คันกระสุน เป็นคันกระสุนของหลวงปู่เปลี่ยน ซึ่งท่านได้ใช้คันกระสุนทำโทษกับนักเรียนที่หนีเรียน คันกระสุนมีความหมายว่า มุ่งตรงไปข้างหน้าสู่เป้าหมาย
  • ต้นไม้ประจำโรงเรียน : ต้นโพธิ์ เป็นต้นไม้เก่าแก่อายุเกือบ 100 ปีที่อยู่บนที่ดินของโรงเรียนมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการสร้างอาคารสถานที่ของโรงเรียนวิสุทธรังษี (ตำบลท่าล้อ) ปัจจุบันเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขา ผลัดใบทุก ๆ ปลายฤดูหนาว(มีนาคม) บ่งบอกเป็นสัญญาณว่าลูกศิษย์วิสุทธรังษีจำนวนหนึ่งจะมีการสำเร็จการศึกษาออกไปจากโรงเรียนวิสุทธรังษีแห่งนี้ และจะมีการผลิใบสีเขียวขจีเต็มต้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน(เดือนพฤษภาคม) เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีนักเรียนใหม่อีกรุ่นหนึ่งที่จะได้เข้ามาเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เปลี่ยน
  • เนื่องในโอกาส วันครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งโรงเรียนวิสุทธรังษี คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ สาขาย่อยกวีนิพนธ์ จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เจ้าของผลงาน เพียงความเคลื่อนไหว รางวัลกวีนิพนธ์รางวัลซีไรต์ พ.ศ. 2523 ศิษย์เก่าวิสุทธรังษีที่มีชื่อเสียงระดับชาติได้ประพันธ์บทกลอนแก่โรงเรียนไว้ว่า[13]
ภูมิใจเถิด ภูมิใจ ในชีวิต
ได้เป็นศิษย์ วิสุทธรังษี
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
คือคนดี ในตน คนเมืองกาญจน์


ทำเนียบผู้บริหารโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี[แก้]

ตารางแสดงทำเนียบผู้บริหารโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี[13]

ภาพครูใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี ตั้งแต่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2447 - ปัจจุบัน
ลำดับ รายนาม ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง
1 พระภิกษุเจียม สิทธิสร 1 มิ.ย. 2447 - 7 ต.ค. 2449
2 พระครูวัตตสารโสภณ (ก้าน นาคะพันธ์) 8 ต.ค. 2449 - 31 พ.ค. 2469
3 นายไจ๊ อนุมาน 1 มิ.ย. 2469 - 14 ธ.ค. 2471
4 นายสุจินต์ หิรัญรัศ 15 ธ.ค. 2471 - 4 ม.ค. 2478
5 นายเนียม นิลวัฒน์ 17 มี.ค. 2479 - 29 เม.ย. 2484
6 นายสุวัฒน์ กาญจนวสิต 30 เม.ย. 2484 - 18 มิ.ย. 2489
7 นายเวียน โสมกุล 19 มิ.ย. 2489 - 5 มิ.ย. 2493
8 นายมงคลชัย เหมริด 6 มิ.ย. 2493 - 1 ส.ค. 2495
9 นายสง่า ดีมาก 13 ส.ค. 2495 - 20 ม.ค. 2497
10 นายเสริม กลีบจันทร์ 17 พ.ค. 2497 - 26 มี.ค. 2498
11 นายจรัญ เศรษฐบุตร 1 มิ.ย. 2498 - 1 เม.ย. 2505
12 นายสมพงษ์ จิวนนท์ 1 พ.ค. 2505 - 9 ส.ค. 2506
13 นายบุญเชาวน์ เชียงทอง 9 ต.ค. 2506 - 31 พ.ค. 2525
14 นายจิตต์ ศรีสุโร 1 มิ.ย. 2525 - 27 ก.ย. 2527
15 นายบรรเจิด ประสมทรัพย์ 27 ก.ย. 2527 - 30 ก.ย. 2535
16 นายภราดร สุวรรณมิสสระ 1 ต.ค. 2535 - 30 ก.ย. 2537
17 นายสมจิต คำชื่น 1 ต.ค. 2537 - 30 ก.ย. 2541
18 นายรังสรรค์ จุลศรีไกวัล 15 ธ.ค. 2541 - 30 ก.ย. 2544
19 นายวันชัย เศรษฐกร 1 ต.ค. 2544 - 30 ก.ย. 2546
20 นายศักรินทร์ จริงจิตร 1 ต.ค. 2546 - 30 ก.ย. 2552
21 นายภิเษก ประกอบ 30 ธ.ค. 2552 - 30 ก.ย. 2553
22 นายสมหมาย ปราบสุธา 27 ม.ค. 2554 - 30 ก.ย. 2556
23 นายวิรัช รัตนพันธ์ 14 พ.ย. 2556 - 30 ก.ย. 2558
24 นายหงษ์ดี ศรีเสน 14 ธ.ค. 2558 - ปัจจุบัน

อาคารและสถานที่ภายในโรงเรียน[แก้]

อาคาร 1
  • อาคาร 1 (อาคารเรียนตึก 4 ชั้น ด้านหน้า)
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
    • ห้องธุรการ วิชาการ
    • ห้องแผนงานและสารสนเทศโรงเรียน
    • ห้องทะเบียนและวัดผลนักเรียน
    • ห้องกลุ่มบริหารงานทั่วไป
    • ห้องประชุมวิชาการ
  • อาคาร 2 (อาคารเรียนตึก 2 ชั้น)
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
    • ห้องพระพุทธศาสนา
      อาคาร 2
    • ห้องแนะแนว
    • ห้องโสตทัศนศึกษา
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
    • ห้องสมุดกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
    • ห้องเรียนทั่วไป
    • ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
อาคาร 3
  • อาคาร 3 (อาคารเรียนตึก 3 ชั้น)
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
    • ห้องนาฏศิลป์ และทัศนศิลป์
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
    • ห้องวงโยธวาทิตโรงเรียนวิสุทธรังษี
    • ห้องเรียนทั่วไป
อาคาร 4
  • อาคาร 4 (อาคารเรียนตึก 4 ชั้น ด้านข้างศูนย์กีฬา)
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
    • ห้องปฏิบัติการชีววิทยา
    • ห้องปฏิบัติการเคมี
    • ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์
    • ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
    • ศูนย์คอมพิวเตอร์ พระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญโญ)
    • ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
    • ห้องเรียนทั่วไป
    • ห้องสมุดกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาขาคอมพิวเตอร์
อาคาร 5
  • อาคาร 5 (อาคารเรียนตึก 7 ชั้น)
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
    • ศูนย์โรงเรียนสองภาษา English Program
    • ศูนย์ห้องเรียน Education Hub
    • ห้องโสตทัศนศึกษา
    • ห้องเซียร์ S.E.A.R (Self-English Access Room)
    • ห้องอีริค E.R.I.C (English Room Intensive Care)
    • ห้อง I.C.T. (Information and Communication Technology)
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างประเทศ
    • ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก โรงเรียนวิสุทธรังษี
    • ห้องสมุดสารสนเทศและห้องค้นคว้าด้วยตัวเอง (ชั้น 2)
    • ห้องเรียนทั่วไป
    • ลิฟท์ 2 ตำแหน่ง
  • อาคาร 6 (อาคารเรียนตึก 4 ชั้น เปิดใช้งานเมื่อภาคเรียนที่ 2/2559)
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
    • กลุ่มสาระการเรียนสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
  • อาคาร 7 (อาคารเรียนตึก 4 ชั้น ตรงข้ามอาคาร 6)
  • อาคารศูนย์ศึกษาศาลาศิลปวัฒนธรรม
อาคาร ๑๐๐ ปี วิสุทธรังษี
ห้องประดิษฐานรูปหล่อพระวิสุทธิรังษี (เปลี่ยน อินฺทสโร) ภายในอาคาร ๑๐๐ ปีวิสุทธรังษี
  • อาคาร 100 ปี โรงเรียนวิสุทธรังษี พ.ศ. ๒๕๔๗
    • ห้องประดิษฐานรูปหล่อพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน อินฺทสโร)
    • ห้องประชุมอัจฉริยะเจ้าคุณปัญญาฯ (พระราชวิสุทธิเมธี)
    • หอประวัติโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
    • ห้องศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียนศึกษา)
    • สำนักงานสมาคมนักเรียนเก่าวิสุทธรังษี
    • โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม SMTE (Science Math Technology and Environment)
    • ห้องเรียนส่งเสริมความสามารถวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ I.P. (Intensive Program)
    • ห้องเรียนส่งเสริมความสามารถวิทยาศาสตร์ – เทคโนโลยี I.P. (Intensive Program)
  • อาคารศูนย์กีฬา
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
    • ห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
    • สนามอเนกประสงค์ ชั้น G
    • สนามฟุตซอล
    • เวทีมวย
    • ร้านบริการถ่ายเอกสาร ชั้น G
    • ร้านค้าสวัสดิการ
  • อาคารประกอบ
    • อาคารเรือนดนตรีไทยเจ้าคุณไพบูลย์อนุสรณ์ ๗๒ ปี
    • อาคารคหกรรม (กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี)
    • โรงอาหารโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี หลังที่ 1 (หน้าห้องพยาบาล)
    • โรงอาหารโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี หลังที่ 2
ไฟล์:ต้นโพธิ์ วิสุทธรังษี.jpg
บริเวณลานโพธิ์ โรงเรียนวิสุทธรังษี
ลำดับ ชื่ออาคารสถานที่ จำนวน
1 อาคารเรียนตึก 2 ชั้น 1 หลัง
2 อาคารเรียนตึก 3 ชั้น 1 หลัง
3 อาคารเรียนตึก 4 ชั้น 4 หลัง
4 อาคารเรียนตึก 7 ชั้น 1 หลัง
5 อาคารศูนย์ศึกษาศาสนาและศิลปวัฒนธรรม 1 หลัง
6 อาคารประกอบ และอาคารชั่วคราว 3 หลัง
7 โรงฝึกงาน (อาคารคหกรรม) 5 หลัง
8 โรงอาหาร 2 หลัง
9 หอประชุมอเนกประสงค์ 2 หลัง
10 อาคารศูนย์กีฬา 1 หลัง
11 ห้องประชาสัมพันธ์ 1 หลัง
12 บ้านพักครู 14 หลัง
13 บ้านพักภารโรง 3 หลัง
14 แฟล็ตป้อมยาม 1 หลัง
15 อาคาร 100 ปี วิสุทธรังษี 1 หลัง
16 ห้องน้ำและห้องส้วม 5 หลัง
17 สนามฟุตบอล 90 ปี วิสุทธรังษี 1 สนาม
18 สนามเทนนิส 2 สนาม (คู่)
19 สนามวอลเลย์บอล 2 สนาม (คู่)
20 ศาลาหลวงปู่เปลี่ยน 1 หลัง
21 ลานอเนกประสงค์ (บริเวณโดม ศาลาร่วมใจ '49) 1 ลาน
22 สถานที่จอดรถ 2 ที่

โครงการส่งเสริมความสามารถพิเศษ และแผนการเรียนที่ทำการเปิดสอน[แก้]

ระดับชั้น ม.1 – ม.3[แก้]

โครงการส่งเสริมความสามารถพิเศษ
  • โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม SMTE (Science Math Technology and Environment)
  • โครงการส่งเสริมความสามารถวิทยาศาสตร์ – เทคโนโลยี I.P. (Intensive Program)
  • โครงการพัฒนาศักยภาพวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
  • โครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ SMBP (Education Hub Classroom : Science and Math Bilingual Program)
  • โครงการโรงเรียนสองภาษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น E.P. (English Program)
  • โครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์พลังสิบ
  • โครงการ VSA (Visut Sport Academy)

ระดับชั้น ม.4 – ม.6[แก้]

โครงการส่งเสริมความสามารถพิเศษ
  • โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม SMTE (Science Math Technology and Environment)
  • โครงการพัฒนาศักยภาพวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
  • โครงการโรงเรียนสองภาษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปลาย E.P. (English Program)
  • โครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ
  • โครงการ VSA (Visut Sport Academy)
แผนการเรียนปกติ
  • แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์
  • แผนการเรียนคณิตศาสตร์ – ภาษาอังกฤษ (ศิลป์ – คำนวณ)
  • แผนการเรียนภาษาต่างประเทศ (ศิลป์ – ภาษา)
  • ภาษาอังกฤษ – ภาษาจีน
  • ภาษาอังกฤษ – ภาษาญี่ปุ่น
  • ภาษาอังกฤษ – ภาษาฝรั่งเศส
  • ภาษาอังกฤษ – ภาษาพม่า
  • แผนการเรียนภาษาไทย – สังคมศึกษา (ปิดแผนการเรียน)
  • แผนการเรียนสังคมศาสตร์ – มนุษยศาสตร์ (ปิดแผนการเรียน)
  • แผนการเรียนภาษาไทย – นิเทศ (ปิดแผนการเรียน พ.ศ. 2557)
  • แผนการเรียน การจัดการธุรกิจ (ปิดแผนการเรียน พ.ศ. 2557)

หน่วยงานภายในโรงเรียน[แก้]

  • สมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
  • สมาคมผู้ปกครองและครูฯ เครือข่ายผู้ปกครอง โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
  • ชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
  • ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
  • ศูนย์ครอบครัวพอเพียง โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
  • ธนาคารโรงเรียน (ธนาคารออมสิน)

วันสำคัญของโรงเรียน[แก้]

รายนามศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง[แก้]

อ้างอิง[แก้]

เชิงอรรถ
  1. วิดีทัศน์ ๘๔ ปีโรงเรียนสตรีกาญจนานุเคราะห์
  2. 2.0 2.1 วีดิทัศน์ประวัติโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา
  3. 3.0 3.1 โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา
  4. หนังสือจังหวัด ที่ กจ.23/14668 ลงวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2514
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 คณะกรรมการจัดทำหนังสือคู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง. (2565). คู่มือครู นักเรียนและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี. กาญจนบุรี: [ม.ป.ท.]. 100 หน้า.
  6. แท้ ประกาศวุฒิสาร. สุภาพบุรุษเสือแท้. กรุงเทพฯ : มูลนิธิหนังไทย, 2544. 366 หน้า. หน้า 29.
  7. "ข้อมูลพื้นฐาน โรงเรียนวิสุทธรังษี" เก็บถาวร 2023-03-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ระบบสารสนเทศเพื่อบริหารการศึกษา,(10 มิถุนายน 2566) สืบค้นเมื่อ 21 มิถุนายน 2563
  8. เว็บไซต์โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี
  9. พระบรมราชโองการ ประกาศ จัดการเล่าเรียนในหัวเมือง เล่มที่ ๑๕ ตอนที่ ๓๓ หน้าที่ ๓๓๓ ประกาศ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2441/033/333.PDF
  10. รายงานพระสงฆ์จัดการศึกษามณฑลราชบุรี รัตนโกสินทรศก ๑๑๗ เล่มที่ ๑๖ ตอนที่ ๒๘ หน้าที่ ๑ ประกาศ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/028/1.PDF
  11. แจ้งความกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสามัญศึกษา เรื่อง มีผู้ประทานและบริจาคเงินสมทบในการสร้างโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดกาญจนบุรี http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2474/D/4243.PDF
  12. ประกาศสภากรรมการกลางจัดการลูกเสือแห่งสยาม เปลี่ยนนามกองลูกเสือ มณฑลราชบุรีที่ ๒ และที่ ๔ เล่มที่ ๔๑ หน้าที่ ๒๑๖๑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2467/D/2161.PDF
  13. 13.0 13.1 หนังสือ 100 ปี วิสุทธรังษี 1 มิถุนายน 2547
  14. กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ประวัตินักเขียนไทย เล่ม 1 เก็บถาวร 2022-10-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา, 2520. 300 หน้า. หน้า 112.
  15. ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต. วรรณลลิต: รวมบทความวิจัย วรรณคดีและคําประพันธ์ไทย. กรุงเทพฯ : โครงการเผยแพร่ผลงานวิชาการ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546. 229 หน้า. หน้า 27. ISBN 974-132-691-2
  16. รัษฎา สะวิคามิน และคณะ. อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลตำรวจโท จำรัส มังคลารัตน์ (เครื่องราชฯ) ม.ป.ป., ม.ว.ม., ท.จ.ว. ณ ฌาปนกิจสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร วันอาทิตย์ที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๑. กรุงเทพฯ : ม.ป.พ., 2541. 315 หน้า. หน้า 31.
บรรณานุกรม
  • เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
  • เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

13°59′50″N 99°33′25″E / 13.997351°N 99.556947°E / 13.997351; 99.556947{{#coordinates:}}: ไม่สามารถมีป้ายกำกับหลักมากกว่าหนึ่งป้ายต่อหน้าได้