วัดธรรมิการามวรวิหาร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก วัดธรรมมิการามวรวิหาร)
วัดธรรมิการามวรวิหาร
แผนที่
ชื่อสามัญวัดธรรมิการามวรวิหาร, วัดเขาช่องกระจก
ที่ตั้งตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ประเภทพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร
นิกายธรรมยุติกนิกาย
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดธรรมิการามวรวิหาร หรือ วัดเขาช่องกระจก ตั้งอยู่บนเขาช่องกระจกเป็นภูเขาขนาดเล็กตั้งอยู่ด้านหลังศาลากลางจังหวัดติดต่อกับอ่าวประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะเด่นก็คือใกล้กับ ยอดเขาทางด้านทิศเหนือ จะเป็นช่องเขาขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากกระแสลมและกระแสน้ำตามธรรมชาติ และถ้ามองจากด้านล่างจะเห็นว่าตรงช่องเขาแห่งนี้ มีลักษณะคล้ายกับกระจกใสขนาดใหญ่ส่วนด้านบนยอดเขานั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรอยพระพุทธบาทจำลอง โดยรอยพระพุทธบาทจำลองแห่งนี้แรกเริ่มเดิมทีนั้นสร้างโดย หม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยญาติพี่น้องเพื่อเป็นที่สักการะของประชาชน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2473

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2496 คณะกรรมการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพันตำรวจเอก ตระกูลวิเศษศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ได้พร้อมใจกันมอบถวายรอยพระพุทธบาทและภูเขาช่องกระจก ตลอดจนบริเวณโดยรอบแก่วัดธรรมมิการามวรวิหาร และจากนั้นทางวัดได้จัดให้มีงานประจำปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 เป็นต้นมา สำหรับพระบรมสารีริกธาตุนั้นพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีราชศรัทธา พระราชทาน พระบรมมิการาม ณ วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2501

และเมื่อถึงวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2501 โปรดเกล้าให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพร้อมกับพระเจดีย์อันล้ำค่า ที่ทรงสร้างขึ้นจากกรุงเทพฯ มาพักไว้ ณ วังไกลกังวล หัวหิน รุ่งขึ้นวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2501 ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาถึงมณฑลพิธี เวลา 7.30 น. พระราชทานพระสารีริกธาตุแก่เจ้าอาวาส แล้วเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปยังพระเจดีย์บนยอดเขาและทรงประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุบนบุษบกในพระเจดีย์ ต่อจากนั้นทรงปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นหน่อของต้นพระศรีมหาโพธิ์เดิมจากพุทธคยา ที่ฐานพระโพธิ์บนยอดเขาเป็นอันเสร็จพระราชพิธีซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นล้นพ้น