วัดท่าไชยศิริ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดท่าไชยศิริ
แผนที่
ชื่อสามัญวัดท่าไชยศิริ
ที่ตั้งถนนเพชรเกษม สมอพลือ บ้านลาด เพชรบุรี
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายเถรวาท
เจ้าอาวาสพระครูเกษมวัชรดิตถ์ (เกษม ฐิติสมฺปนฺโน)
กิจกรรมศาสนสถานในพระพุทธศาสนาที่มีกิจกรรมเชิงพุทธตลอดปี/ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ /บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนปีละไม่ต่ำกว่า 50 รูป/พิธีอาบน้ำคืนวันเพ็ญ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12)
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดท่าไชยศิริ เป็นวัดในพระพุทธศาสนาเถรวาท สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา บ้านสมอพลือ ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 1 ตำบลสมอพลือ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี

ที่ตั้ง[แก้]

วัดท่าไชยศิริ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ถนนเพชรเกษม ตำบลสมอพลือ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี มีเนื้อที่ 21 ไร่ 18 ตารางวา ที่ธรณีสงฆ์ 8 ไร่ 3 งาน 46 ตารางวา รวม 29 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา อาณาเขต

  • ทิศเหนือจดแม่น้ำเพชรบุรี
  • ทิศใต้ และทิศตะวันตกติดที่ดินเอกชน
  • ทิศตะวันออกติดถนนเพชรเกษม

ประวัติ[แก้]

วัดท่าไชยศิริ (วัดใต้) สร้างในปีใดไม่ปรากฏปีที่สร้างแต่ตามทะเบียนวัดสำนักงานศึกษาธิการอำเภอบ้านลาดจังหวัดเพชรบุรี มีวิสุงคามสีมา15 หน้า510 บันทึกไว้ว่าได้รับพระราชวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 1910 ตรงกับรัชสมัยแผ่นดินของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย และได้รับวิสุงคามสีมาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2225 สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกรุงศรีอยุธยา และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาอีกครั้งหนึ่งพ.ศ. 2445ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 10

เจ้าอาวาส[แก้]

นามเจ้าอาวาสวัดท่าไชยศิริเท่าที่สืบได้

  • พระอธิการเชียง -
  • พระอธิการบุญมา -
  • พระอธิการน้อย -
  • พระอธิการต่าย -
  • พระอธิการทอง -
  • พระอธิการพุ่ม -
  • พระอธิการมุ้ย -
  • พระครูญาณสิริ (เหลื่อม อินฺทสิริ) (พ.ศ. 2453 - 2505)
  • พระครูสิริวชิรธรรม (เทียบ จารุวณฺโณ) (พ.ศ. 2505 - 2532)
  • พระสมุห์ชื่น รตนปญฺโญ (พ.ศ. 2532 - 2539)
  • พระครูธรรมธรสิรภพ ปุญฺญโชโต (พ.ศ. 2539 - 2551)
  • พระครูเกษมวัชรดิตถ์ (เกษม ฐิติสมฺปนฺโน) (พ.ศ. 2551 - ปัจจุบัน)

ศาสนสถาน-เสนาสนะ[แก้]

อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย

  • อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2225
  • ศาลาการเปรียญ กว้าง 9 เมตร ยาว 13 เมตร เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ทรงไทย 2 ชั้น
  • หอสวดมนต์ เป็นอาคารไม้ทรงไทย
  • กุฏิสงฆ์ เป็นอาคารไม้เรือนแถว ล้อมรอบหอฉันทั้งสี่ด้าน
  • ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน 1หลัง สร้างด้วยไม้

ปูชนียวัตถุ[แก้]

  • พระพุทธรูปสำคัญของวัดท่าไชยศิริ คือ พระประธานในอุโบสถ เป็นพระยืนปางห้ามพยาธิ (ห้ามโรคภัย) หรือปางประทานพร ศิลปะสมัยลพบุรี อายุ 700 กว่าปี ขนาดสูง 2.75 เมตร ซึ่งเป็นของแปลกไม่เหมือนวัดทั่วไปเพราะตามปกติพระประธานในอุโบสถ หรือวิหารจะเป็นพระอิริยาบถ นั่งปางที่นิยมมาก คือ ปางมารวิชัย พระประธานยืนนี้ พบว่ามีเพียง 3 แห่ง คือ 1.พระประธานในอุโบสถวัดท่าไชยศิริ จังหวัดเพชรบุรี ศิลปะสมัยลพบุรี 2.พระประธานในอุโบสถวัดเสาธงทอง จังหวัดลพบุริศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น 3.พระประธานในอุโบสถวัดเครือวัลย์วรวิหาร กรุงเทพมหานคร ศิลปะสมัยสุโขทัย พระประธานในอุโบสถวัดท่าไชยศิริ “ เป็นพระยืนสวมชฎาเทริดพระกรรณแบบพระพุทธรูปยอดป้านแบบพระลพบุรีทั่วไป เป็นพระยืนปางห้ามพยาธิ คลุมแบบพระร่วง ไม่มีสังฆาฎิเข้าใจว่าจะเป็นสมัยลพบุรีรุ่นหลัง (ปางห้ามญาติ มีลักษณะของพระพุทธรูปยกพระหัตถ์ 2 ข้าง ทรงเครื่อง,ปางห้ามสมุทร มีลักษณะของพระพุทธรูปยกพระหัตถ์ 2 ข้าง ไม่ทรงเครื่องห่ม) ด้านหลังพระประธานยืนนี้มีพระพุทธรูป สมัยลพบุรี ทำด้วยหินประทับบนฐานเตี้ย ๆ อยู่ติดผนัง ใบเสมาของวัดเป็นหินทรายแดงขนาดเล็ก มีแนวสันกลางไม่มีลวดลายอะไร ขนาด 46 x 29 x 7 ซม. เป็นเสมาคู่พระพักตร์ของพระประธานองค์นี้แป้น และโอษฐ์สวยมาก พระขนงไม่โก่งมากนัก เป็นพระโลหะเป็นซุ้มเรือนแก้วอยู่เบื้องหลัง ตำนานของวัดนี้จะมีความจริงประการใด ยากที่จะค้นหลักฐานได้ เพราะตรวจดูโบราณวัตถุของวัด เห็นพระเป็นแบบลพบุรีรุ่นหลังอยู่ในอุโบสถถึงสององค์ใบเสมาก็เป็นของเก่า ชื่อนี้อาจจะมีก่อนพม่ารุกรานก็ได้”

วัดท่าไชยศิริมีเจดีย์โบราณสมัยอยุธยา และพระพุทธรูปอื่นๆ

  • พระประธานในอุโบสถ
    ท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ 2 ประการ คือ เป็นที่ตักน้ำใช้ในพิธีบรมราชาภิเษก และเป็นที่ตักน้ำสรง น้ำเสวย 3 รัชกาล (รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6)

การใช้น้ำเพชรในพระราชพิธีต่าง ๆ นั้น คงจะใช้กันมานาน แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อใด แต่ตามธรรมเนียมพระราชพิธีของไทยนั้น นิยมใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระทั้ง 4 และแม่น้ำทั้ง 5 นั้น รวมแม่น้ำเพชรอยู่ด้วย คือ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำเพชรบุรี สำหรับแม่น้ำเพชรบุรีนั้น จะเจาะจงตักที่ท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ และนำไปประกอบ พิธีที่วัดมหาธาตุก่อนส่งเข้าไปประกอบพิธีที่กรุงเทพฯ ต่อไป (สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง 4 อยู่ในเขตตำบลสระแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสระศักดิ์สิทธิ์ที่ตำบลนี้ จึงเป็นเหตุให้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น “บ้านท่าเสด็จ” สระศักดิ์สิทธิ์เดิมพบเพียง 4 สระ คือ สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกษ ต่อมาพบอีก 2 สระ คือ สระอมฤต และสระอมฤต และทรงพระราชหัตถเลขาไว้ว่า “แต่เหตุไฉนที่สระนี้ขลังนักไม่ปรากฏ คงจะมีตัวครูบาที่สำคัญเป็นอันมาก น้ำในสระก็ไม่ใช้ ปลาในสระก็ไม่กิน สระมีหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมดมีจระเข้อาศัยอยู่ทั้งสี่สระน้ำสระคา สระยมนาไม่สู้สะอาดมีสีแดง แต่น้ำสระเกษ สระแก้วใสสะอาด”)

น้ำในสระทั้งหมดนี้ใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและพระราช พิธีสระน้ำมูรธาภิเษกตามลัทธิพราหมณ์ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนจัดตั้งสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นโบราณสถานไว้แต่น้ำที่ใช้ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่หาหลักฐานได้ เป็นสารตราของทางราชการสั่งให้เจ้าเมืองเพชรบุรี ตักน้ำเพชรไปใช้ในพิธีบรมราชาภิเษก มีตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้นมาจนถึงรัชกาลปัจจุบันก็ใช้น้ำเพชร และประกอบพิธีตักที่ท่าน้ำวัดท่าไชยศิริทั้งสิ้น โดยเฉพาะ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5,6,7รอบ (14ต.ค.2554) และพระราชพิธีครองราชย์ 60 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้มีพิธีทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ผู้เขียนได้ เข้าร่วมเป็น เจ้าหน้าที่ทำพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ท่าน้ำวัดท่าไชยด้วย โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีขบวนแห่น้ำเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพื่อนำเข้าสู่พิธีต่อไป

  • ข้อสำคัญประการที่สอง แม่น้ำเพชรบุรี เป็นน้ำสรง น้ำเสวยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และมาเลิกใช้ในรัชกาลที่ 6 โดยเฉพาะรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดแม่น้ำเพชรมาก เพราะเป็นน้ำใสมีรสจืดสนิทดี มีรับสั่งให้พระยาเพชรบุรี จัดส่งน้ำเพชรไปถวายทุกเดือนและจะมาตักน้ำที่ท่าวัดท่าไชยศิริทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญในรัชกาลสมัยนั้น ใช้น้ำเพชรที่วัดท่าไชยศิริเป็นประจำอีก 2 ท่าน คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) อีกท่านหนึ่ง คือ เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุญนาค) และยังใช้รับรองคณะทูตานุทูตจากต่างประเทศด้วย

แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์[แก้]

  • พระพุทธศิริโรจน์ไชยมงคล (พระร่วงวัดท่าไชยฯ) พระประธานในอุโบสถ อายุ 700 กว่าปี มีพระพุทธลัษณะสวยงามมากที่สุดเป็นพระพุทธรูปปางห้ามพยาธิ (ห้ามโรคภัยไข้เจ็บ) และเป็นอุโบสถมหาอุต
  • ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดท่าไชยศิริ เป็นแม่น้ำสำคัญของเพชรบุรี และของประเทศ
  • พระบรมราชนุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาคุมสอบ Entrance นิสิตที่มหาวิทยาลัยรัชกาลที่ 5
  • “หมู่บ้านด่านสิงขร” สันนิษฐานว่าหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นโดยคนไทยและทหารไทยที่หนีทัพพม่ามาจากด่านสิงขรณ์ จังหวัดประจวบฯ เมื่อต่อสู้กับพม่าจนได้รับชัยชนะบางส่วนก็ลงหลักปักฐานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัด
  • พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จสังฆราชประทานให้แก่วัดท่าไชยศิริ ปลายปี 2549 ตั้งอยู่บนหอสวดมนต์เรือนไทยในวัด
  • รูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาส 2 องค์ พระครูญาณศิริ (เหลื่อม อินฺทสิริ) และพระครูสิริวัชรธรรม (เทียบ จารุวณฺโณ)

อ้างอิง[แก้]

  • หนังสือ กรมการศาสนา, ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 12,กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์กรมการศาสนา 2527 หน้า 189.