ลูนาซี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ลูน่า ซี)
ลูนาซี
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิดจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
แนวเพลงฮาร์ดร็อก,โปรเกสซีฟ ร็อก,เจ-ร็อก ,ป็อปร็อก
ช่วงปีพ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2543 ,พ.ศ. 2550 ,2551 (รียูเนียน) ,2553-ปัจจุบัน
ค่ายเพลงExtasy Records
Universal Japan
Avex Entertainment (ปัจจุบัน)
สมาชิกริวอิจิ
สึกิโซะ
อิโนรัน
เจ
ชินยะ
เว็บไซต์lunasea.co.jp

ลูนาซี (LUNA SEA) เป็น วงดนตรีร๊อกจากประเทศญี่ปุ่น เริ่มก่อตั้งวงเมื่อปี พ.ศ. 2532 โดยสมาชิกประกอบด้วย ริวอิจิ คาวามูระ ,สึกิโซะ (ยาสึฮิโระ สึงิฮาระ) , อิโนะรัน (คิโยโนบุ อิโนอุเอะ) , เจ (จุน โอโนเสะ) และ ชินยะ ยามาดะ โดยทั้งห้าได้ทำงานเพลงร่วมกันจนกระทั่งประกาศยุติกิจกรรมของวงในปี พ.ศ. 2543 กระทั่งในปี พ.ศ. 2553 พวกเขาประกาศกลับมารวมตัวและออกผลงานใหม่อีกครั้ง


สมาชิก[แก้]

  • ริวอิจิ (河村隆一, Kawamura Ryuichi) นักร้องนำ

เกิดวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ความสูง 171 เซนติเมตร น้ำหนัก 51 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า

  • สึกิโซะ (杉原悠 Sugihara Yasuhiro) กีตาร์ , ไวโอลิน

เกิดวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ความสูง 175 เซนติเมตร น้ำหนัก 60 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า

  • อิโนรัน (井上清信 Inoue Kiyonobu [1]) กีตาร์

เกิดวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2513 ความสูง 170 เซนติเมตร น้ำหนัก 65 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า

  • เจ (小野瀬潤 Onose Jun) เบส

เกิดวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2513 ความสูง 179 เซนติเมตรน้ำหนัก 58 กิโลกรัม บ้านเกิด โตเกียว

  • ชินยะ (山田真矢 Yamada Shinya) กลอง

เกิดวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2513 ความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 85 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า


ประวัติ[แก้]

พ.ศ. 2529[แก้]

จุดกำเนิดของลูนาซี เริ่มต้นขึ้น โดยเจ และอิโนรัน ซึ่งยังเรียนอยู่มัธยมปลาย ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า LUNACY เล่นเพลงอยู่ตามสถานีวิทยุและไลฟ์เฮาส์ต่างๆ โดยมีรุ่นพี่อีก 2-3 คนร่วมวงด้วยกัน

พ.ศ. 2532[แก้]

วันที่ 16 มกราคม หลังจากที่รุ่นพี่จบการศึกษาไปแล้ว LUNACY เหลือเจและอิโนรันแค่สองคน จึงไปชวนชินยะมือกลองวง PINOCCHIO มาร่วมวง ชินยะชวนสึกิโซะมาด้วยเพราะเป็นเพื่อนสนิทกันและพี่สาวของชินยะยังเป็นครูของสึกิโซะอีกด้วย แต่ตอนอยู่วง PINOCCHIO สึกิโซะเป็นมือเบสเหมือนกับเจ ทำให้หลังจากเข้าวงต้องเปลี่ยนจากเล่นเบสมารับตำแหน่งเป็นมือกีตาร์แทน 6 พฤษภาคม ริวอิจิ ตอบรับที่จะเข้าร่วมวงกับ LUNACY หลังจากโดนชักชวนอยู่นาน ซึ่งช่วงนั้นยังเป็นนักร้องนำวง SLAUGHTER อยู่ 29 พฤษภาคม เริ่มซ้อมดนตรีร่วมกันทั้งห้าคน และตระเวนหาที่แสดงสด สถานที่แรกที่ตอบรับคือ MACHIDA PLAYHOUSE ซึ่งจุผู้ชมได้ประมาณร้อยคน 9 สิงหาคม ทำเดโมเพลงชุดแรก ประกอบด้วยเพลง Time is dead และ Nightmare โดยทำออกมาร้อยชุด 24 สิงหาคม กลับไปแสดงที่ MACHIDA PLAYHOUSE อีกครั้ง โดยนำเดโมไปขายด้วย และขายได้หมดทั้งร้อยชุด 8 พฤศจิกายน ทำเดโมเพลงชุดที่สอง ประกอบด้วยเพลง SHADE , Search for reason และ Suspicious โดยในชุดนี้ ทำออกมาพันชุด และขายได้หมดทั้งพันชุด 17 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกที่ MACHIDA PLAYHOUSE โดยผู้เข้าชมต้องซื้อบัตรเข้าไปชมและบัตรทั้ง 150 ใบก็ขายได้หมด

พ.ศ. 2533[แก้]

ช่วงเดือนมกราคม พฤษภาคม ตระเวนออกแสดงสดตามที่ต่างๆ อย่างมากมาย และแสดงร่วมกับวงอื่นๆ ด้วย เช่น WOOD PECKER , DOOLS , Billy & the Sluts , JOOLY PICKELS และ TOKYO YANKEES เป็นต้น 3 เมษายน เข้าร่วมคอนเสิร์ต Bakunimono Bay Aria Shock ร่วมกับวง AION 29 พฤษภาคม ทำเดโมเพลงชุดที่สาม โดยนำเพลงเดโมสองชุดแรกมารวมกันและเพิ่มเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลง คือ LASTLY และใช้ชื่อชุดนี้ว่า LASTLY 10 มิถุนายน แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่สองที่ MACHIDA PLAYHOUSE และถือเป็นคอนเสิร์ตฉลองครบรอบหนึ่งปีของวงด้วย ซึ่งผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมจะได้รับเดโมเพลงชุดที่สามเป็นของแถม และคอนเสิร์ตครั้งนี้เอง ที่ทางวงได้เริ่มประเพณีการแต่งชุดดำเข้าชมการแสดงของพวกเค้า ซึ่งถ้าผู้ชมไม่แต่งชุดดำมา ก็จะไม่ได้เข้าชม 11 มิถุนายน สึกิโซะ ไปร่วมงาน Extasy Session ที่ Meguro Kagakan 14 สิงหาคม เข้าสังกัด Extasy Record (สังกัดของโยชิกิหัวหน้าวง X Japan) [2] 19 พฤศจิกายน แถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าจะออกอัลบั้มในสังกัด Extasy Record 24 พฤศจิกายน เปลี่ยนชื่อวง (จาก LUNACY) เป็น LUNA SEA (ลูนาซี) 18 ธันวาคม เข้าร่วมแสดงคอนเสิร์ต NEW AGE ATTACK '90 FINAL ร่วมกับวงดนตรีอื่นๆ ในค่ายเดียวกัน (ค่าย Extasy Record)

พ.ศ. 2534[แก้]

วันที่ 1 มกราคม ทำสัญญากับบริษัท SWEET CHILD 4-31 มกราคม เข้าห้องบันทึกเสียง อัดเสียงอัลบั้มแรก (อัลบั้ม LUNA SEA) 11 กุมภาพันธ์ แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่ Meguro Kagakan เป็นครั้งแรก ซึ่งที่นี่เป็นไลฟ์เฮาส์ที่มีขนาดใหญ่กว่า MACHIDA PLAYHOUSE โดยขายบัตรได้หมดทั้งสามร้อยสามสิบใบ 10-22 มีนาคม เข้าร่วมทัวร์คอนเสิร์ต Nuclear Fusion Tour กับเพื่อนร่วมค่าย Extasy Record อีกสองวง คือวง Signs of love posion และ Gilles de Rais โดยผู้ซื้อบัตรเข้าชมจะได้รับซีดีที่รวมเพลงตัวอย่างของทั้ง 3 วงเป็นของแถม (เพลงของลูนาซี ที่อยู่ในซีดีนี้คือเพลง Precious ที่มีความยาวสามสิบวินาที) 21 เมษายน วางจำหน่ายอัลบั้มแรก ที่มีชื่อว่า LUNA SEA 27 เมษายน แสดงคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่ Shinzuku Nissin Power Station บัตรแปดร้อยใบ จำหน่ายได้หมดในเวลาสามสิบนาที 18 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ตฉลองครบรอบสองปีของวงที่ MACHIDA PLAYHOUSE 13-27 มิถุนายน ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของวงภายใต้ชื่อ UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE I' โดยแสดงในไลฟ์เฮาส์ขนาดกลาง 8 แห่ง และสามารถขายบัตรได้หมดทุกรอบ

6 กรกฎาคม หลังจากหยุดพักหนึ่งสัปดาห์ จึงเริ่มการทัวร์คอนเสิร์ตอีกรอบ ครั้งนี้ใช้ชื่อว่า UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' โดยทัวร์ครั้งนี้มีตารางสิ้นสุดการแสดงในวันที่ 19 กันยายน 22-25 กรกฎาคม เป็นช่วงที่ไม่มีตารางแสดงคอนเสิร์ต จึงเริ่มแต่งเพลงและอัดเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่ 19 กันยายน แสดงคอนเสิร์ตรอบสุดท้ายของการทัวร์ UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' ที่ Nippon Seinenkan แต่ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม เกิดพายุฝนตกหนักมากเมื่อถึงเวลาแสดง ผู้ชมกว่าครึ่งของความจุ 1,250 ที่นั่ง ยังมาไม่ถึง ทางวงจึงได้ตัดสินใจเลื่อนการแสดงออกไปหนึ่งชั่วโมง เพื่อรอผู้ชมที่ติดพายุฝนให้มาทันการแสดง 1-6 ตุลาคม เก็บตัวเพื่อแต่งเพลงและอัดเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่ 13 ตุลาคม เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งในชื่อทัวร์ว่า UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE III' โดยจะสิ้นสุดการทัวร์ครั้งนี้วันที่สามสิบธันวาคม 29 ตุลาคม เข้าร่วมแสดงคอนเสิร์ต Extasy Summit ของทางค่าย Extasy Record ที่ Nippon Budokan ร่วมกับศิลปินร่วมค่ายวงอื่นๆ เช่น Virus , Gilles de Rais , Tokyo Yankees และ X JAPAN เป็นต้น ซึ่งในวันนั้น นับเป็นครั้งแรกที่ลูนาซี ได้แสดงในฮอลล์ขนาดใหญ่อย่าง Nippon Budokan ระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' ทางวงได้รับการติดต่อจากค่ายเพลงต่างๆ ประมาณ 16 แห่งและในที่สุดก็ได้เลือกที่จะเซ็นต์สัญญากับบริษัท MCA Victor ซึ่งตามเดิมนั้น ทาง MCA Victor ต้องการให้ลูนาซีเข้าห้องบันทึกเสียงทำอัลบั้มแรกทันทีที่การทัวร์ UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' เสร็จสิ้น แต่ทางวงเลือกที่จะทัวร์คอนเสิร์ต UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE III' อีกครั้ง ก่อนที่จะทำอัลบั้ม 29-30 ธันวาคม ทัวร์คอนเสิร์ต UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE III'สองรอบสุดท้ายที่ Nippon Seinenkan โดยจำหน่ายบัตรทั้ง 2,600 ใบได้หมดภายในวันเปิดจองวันแรก และระหว่างการแสดง ทางวงก็ได้ประกาศเรื่องการเซ็นต์สัญญากับบริษัท MCA Victor ให้ผู้ชมรับทราบ

พ.ศ. 2535[แก้]

เดือนมกราคม ตั้งแฟนคลับอย่างเป็นทางการโดยใช้ชื่อว่า 'SLAVE' 13 มกราคม-14 กุมภาพันธ์ เข้าห้องบันทึกเสียงอัลบั้มแรกในสังกัด MCA Victor 13 มีนาคม-12 เมษายน ออกรายการทีวีต่างๆ (TV jacks tour) เพื่อโปรโมทอัลบั้มแรก 20-26 มีนาคม ทัวร์คอนเสิร์ตชื่อ 'Dear SLAVE Tour' แสดงทั้งหมด 3 รอบโดยวันที่ 20 แสดงที่ชิบูยะ มีผู้ชมประมาณ 2,250 คน วันที่ 25 แสดงที่นาโกย่าผู้ชมประมาณ 550 คน และวันที่ 26 แสดงที่โอซาก้า ผู้ชมประมาณ 700 คน 2 พฤษภาคม ถ่ายทำวิดีโอโปรโมท IMAGE OR REAL 20 พฤษภาคม กลับไปแสดงคอนเสิร์ตที่ MACHIDA PLAYHOUSE อีกครั้งในโอกาสครบรอบ 3 ปีของวงโดยในครั้งนี้ได้จัดประเพณีแต่งชุดดำเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ได้เข้มงวดถึงขนาดที่สื่อมวลชนที่ไปทำข่าวก็ต้องแต่งชุดดำด้วย ภายหลังมีข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ทำให้ MACHIDA PLAYHOUSE เสียหายเป็นอย่างมาก เพราะจำนวนคนที่เข้าไปชมมีมากเกินกว่าสถานที่จะรับได้ 21 พฤษภาคม อัลบั้มแรก 'IMAGE' ในสังกัด MCA Victor ออกวางจำหน่ายซึ่งถือเป็นการเดบิวต์อย่างเป็นทางการ และทำยอดขายสูงสุดได้อันดับ 9 ออริค่อน ชาร์ท (Oricon Chart) 28 พฤษภาคม-8 มิถุนายน ทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้มแรกในชื่อ 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1992 IMAGE OR REAL' ทั่วประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด 7 รอบ 18-26 กรกฎาคม ออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งชื่อ 'Image or real encore tour' 22 กรกฎาคม วิดีโอ IMAGE OR REAL ออกวางจำหน่ายและสามารถทำยอดขายขึ้นอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท (Oricon Chart) 27 กันยายน-24 ตุลาคม ทัวร์คอนเสิร์ตรอบสุดท้ายของอัลบั้ม IMAGE ใช้ชื่อทัวร์ว่า After The Image Tour และ 29 ตุลาคม กลับไปร่วมงานคอนเสิร์ต Extasy Summit 1992 กับสังกัดเดิม Extasy Record 31 ตุลาคม คอนเสิร์ต Extasy Summit 1992 รอบสุดท้ายที่ Nippon Budokan แต่ครั้งนี้แทนที่จะแต่งชุดดำเหมือนเคยตามปกติ พวกเขากลับแต่งชุดขาวกันทั้งวง

พ.ศ. 2536[แก้]

วันที่ 20 มกราคม เป็นช่วงพักวง สึกิโซะ เจ และอิโนรันจึงไปร่วมกันทำเพลงใช้ชื่ออัลบั้ม Dance 2 Noise 4 โดยในเพลง Revive~walts for reminiscence of mind สึกิโซะรับทำเองทั้งหมด นอกจากนี้ เจและอิโนรันไปร่วมงานกับฮิเดะ (HIDE) มือกีตาร์วงเอกซ์ ในชื่อเฉพาะกิจว่า MxAxSxS ร่วมทำเพลงชื่อ Frozen Bug ซึ่งเพลงนี้ ต่อมาได้อยู่ในอัลบั้ม HIDE YOUR FACE ของฮิเดะด้วย 24 กุมภาพันธ์ ซิงเกิลแรก 'BELIEVE' ออกวางจำหน่าย โดยในสัปดาห์แรกทำยอดขายได้ที่ 200,000 แผ่นอยู่ที่อันดับ 11 ออริค่อน ชาร์ท 1 เมษายน แสดงคอนเสิร์ตเฉพาะสมาชิกแฟนคลับ ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า '〜SPECIAL PRESENT FROM LUNA SEA〜' ที่ชิบูยะ ฮอลล์ 16 เมษายน ทัวร์คอนเสิร์ตในชื่อ 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1993 SEARCH FOR MY EDEN' เพื่อโปรโมทอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะวางขายโดยแสดงในไลฟ์เฮาส์ทั่วประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 14 แห่ง 21 เมษายน อัลบั้มที่สอง 'EDEN' ออกวางจำหน่าย ยอดขายของสัปดาห์แรกอยู่ที่อันดับ 5 ของออริค่อน ชาร์ท 21 กรกฎาคม ซิงเกิลที่สอง 'IN MY DREAM (WITH SHIVER) ' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายที่อันดับ 9 ของออริค่อน ชาร์ท 21 สิงหาคม ออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งในชื่อ 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1993 SEARCH FOR MY EDEN ENCORE' ครั้งนี้เล่นในฮอลล์ขนาดใหญ่ทั้ง 4 รอบ (Nagoya Shimin Kaiken, Ssaka Koseinenkin Kaiken และ Nippon Budokan-2 รอบ) 26 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ตรอบแรกที่ Nippon Budokan ท่ามกลางพายุเฮอร์ริเคนที่พัดกระหน่ำกรุงโตเกียวตั้งแต่วันที่ 25 27 สิงหาคม ตามกำหนดการคอนเสิร์ตรอบสองที่ Nippon Budokan แต่พายุที่รุนแรงทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่สามารถมาชมได้ ทางวงจึงเลื่อนการแสดงออกไป 30 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1993 SEARCH FOR MY EDEN ENCORE Final' ที่ Nippon Budokan โดยบันทึกภาพเป็นวิดีโอเพื่อวางจำหน่ายด้วย 16 ธันวาคม วิดีโอรวมภาพคอนเสิร์ตและคลิปต่างๆ ในชื่อ Sin After Sin ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายได้ที่อันดับสองออริค่อน ชาร์ท 18 ธันวาคม เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตชื่อ 'LUNA SEA Concert Tour '93-'94 The Garden of Sinners' ทั่วประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 19 แห่ง รวม 20 รอบ 26 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตที่ Shinjuku NISSIN POWER STATION ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า '月と海' (พระจันทร์และทะเล)

พ.ศ. 2537[แก้]

12 กุมภาพันธ์ คอนเสิร์ตรอบสุดท้ายของทัวร์ The garden of sinners tour ที่ Yogohama Arena ในครั้งนี้เกิดพายุหิมะที่ตกหนักมากที่สุดในรอบ 25 ปีของโตเกียว ทำให้ทางการต้องปิดถนนหลายสายเนื่องจากโดนหิมะท่วมถนนจนมิด ทำให้การเดินทางทุลักทุเลทั้งทางวงเองและผู้ชม จนต้องเลื่อนการแสดงออกไปอีกหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากลูนาซี ถูกภัยธรรมชาติเล่นงานในทัวร์คอนเสิร์ตรอบสุดท้ายถึงสามครั้ง (1.UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' final เจอพายุฝนกระหน่ำ 2.Search for my EDEN encore tour final เจอพายุเฮอร์ริเคน 3.The garden of sinners tour final เจอพายุหิมะ) ทำให้สื่อมวลชนญี่ปุ่นขนานนามว่า ลูนาซี เป็นวงที่ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติ 24 มีนาคม ซิงเกิล Tell me ของฮิเดะ ออกวางจำหน่าย โดยมีเพลงแถมเป็น Scanner ซึ่งริวอิจิไปร่วมร้องด้วย เมษายน เริ่มเข้าห้องอัดเสียงเพื่อทำเพลงอัลบั้มที่สาม 21 กรกฎาคม ซิงเกิลที่สาม 'ROSIER' ออกวางจำหน่ายและสามารถขึ้นสู่อันดับ 3 ออริค่อน ชาร์ทได้ทันทีที่วางขายและในสัปดาห์แรกทำยอดขายได้กว่า 400,000 แผ่น 30 กรกฎาคม ร่วมแสดงในคอนเสิร์ต L.S.B. (ชื่อคอนเสิร์ตนำมาจากอักษรตัวแรกของแต่ละวง) ร่วมกับวง Soft Ballet และ Buck-Tick ซึ่งช่วงที่ลูนาซีกำลังแสดงก็เกิดฝนตกกระหน่ำลงมา 11-12 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต SLAVES only GIG เป็นคอนเสิร์ตสำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกแฟนคลับเท่านั้น จัดที่ Shibuya Gogaido โดยในรอบสอง (วันที่ 12) เพื่อนๆ จัดงานฉลองวันเกิดแบบเซอร์ไพร์สให้กับเจ-มือเบสในช่วง encore ของการแสดง 21 กันยายน ซิงเกิลที่สี่ 'TRUE BLUE' ออกวางจำหน่าย โดยในซิงเกิลนี้สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ทได้ทันทีที่วางขายและยอดขายสัปดาห์แรกอยู่ที่ 450,000 แผ่น 26 ตุลาคม อัลบั้มที่สาม 'MOTHER' ออกวางจำหน่าย ในสัปดาห์แรกยอดขายอยู่ที่ 700,000 แผ่น อยู่ที่อันดับสองออริค่อน อัลบั้มชาร์ท 16-17 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตสองรอบที่ Nippon Budokan โดยสามารถจำหน่ายบัตรได้หมดภายใน 15 นาทีที่เปิดจำหน่าย 24 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตที่ Osaka Jo Hall 27 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตที่ Nippon Budokan อีกหนึ่งรอบ ในครั้งนี้ใช้เวลาจำหน่ายบัตร 20 นาที 31 ธันวาคม รับรางวัลมิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยมจากเพลง ROSIER ในงาน Nippon Award Taisho (Japan's record award)

พ.ศ. 2538[แก้]

มกราคม ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง MOTHER ที่ประเทศไอร์แลนด์ 22 กุมภาพันธ์ ซิงเกิลที่ห้า 'MOTHER' ออกวางจำหน่าย อยู่อันดับสองออริค่อน ชาร์ทด้วยยอดขาย 300,000 แผ่น 17 มีนาคม เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตโดยใช้ชื่อทัวร์ว่า Mother of Love,Mother of Hate ใช้เวลาทัวร์ทั้งสิ้น 3 เดือน 3 วัน แสดงใน 27 เมืองทั่วประเทศญี่ปุ่น 21 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ต Mother of Love,Mother of Hate ทัวร์รอบสุดท้ายที่ Nagoya Kokusaikaigojyo Century Hall 24 พฤษภาคม วิดีโอ 'ECLIPSE I' ออกวางจำหน่าย ซึ่งเป็นการรวมมิวสิกวิดีโอของลูนาซีตั้งแต่เพลง Dejavu ตอนโปรโมทอัลบั้ม IMAGE จนถึงเพลง MOTHER ซิงเกิลล่าสุด และทำยอดขายอยู่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท 1 สิงหาคม สึกิโซะไปช่วยเล่นไวโอลินโซโล่ให้กับวง Media Youth เพื่อนร่วมค่าย Extasy Record ในเพลง Climax อัลบั้ม Spirit 21 สิงหาคม สึกิโซะไปร่วมทำงานในอัลบั้ม Flower in the dark เพลง Smell และอัลบั้ม Tribute to auto-mod เพลง Deathtopia 13 พฤศจิกายน ซิงเกิลที่หก 'DESIRE' ออกวางจำหน่าย และขึ้นอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ทได้ทันทีที่วางขาย 23 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ต LUNATIC TOKYO ที่โตเกียวโดม (Tokyo Dome) ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จุคนได้ 55,000 คน โดยบัตรกว่า 50,000 ใบ จำหน่ายหมดภายใน 4 ชั่วโมง 51 นาที

พ.ศ. 2539[แก้]

25 มีนาคม ซิงเกิลที่เจ็ด 'END OF SORROW' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

22 พฤษภาคม อัลบั้มที่สี่ 'STYLE' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

มิถุนายน ตระเวนออกรายการทีวีและวิทยุเพื่อโปรโมทอัลบั้ม STYLE

16-18 มิถุนายน แสดงคอนเสิร์ต SLAVE only GIG ที่ NHK Hall จำนวนสองรอบ ซึ่งจัดสำหรับสมาชิกแฟนคลับ 'SLAVE' เท่านั้น

15 กรกฎาคม ซิงเกิลที่แปด 'IN SILENCE' และวิดีโอบันทึกการแสดงสด 'LUNATIC TOKYO Tokyo Dome' ออกวางจำหน่ายพร้อมกัน และสามารถขึ้นอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท ทั้งซิงเกิลชาร์ท และวิดีโอชาร์ท

16 กรกฎาคม -สามสิบสิงหาคม ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อทัวร์ว่า UNENDING STYLE TOUR แสดงทั้งหมด 16 รอบ ในฮอลล์ขนาดใหญ่ 9 แห่ง ซึ่งรอบแรกคือวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ Yogohama Arena และรอบสุดท้ายแสดงวันที่สามสิบสิงหาคม ที่ Nippon Budokan

4 กันยายน ริวอิจิ และสึกิโซะไปร่วมทำอัลบั้ม Life in Tokyo โดยริวอิจิร่วมทำสองเพลงคือ Ain't that pecular ซึ่งทำร่วมกับ Hiroki (วง Media Youth) และ D-KIKU โดยใช้ชื่อร่วมกันว่า R.H.D. ส่วนอีกเพลงคือ Sons Of Pioneers ซึ่งริวอิจิได้เปลี่ยนเนื้อเพลงและร้องเป็นภาษาญี่ปุ่น (จากต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ) ด้านสึกิโซะทำเพลงในอัลบั้มนี้สองเพลงคือ The Experience Of Swimming ร่วมงานกับ D-KIKU และ Noriko (Dream Dolphin) ใช้ชื่อร่วมกันว่า Le Fou และอีกเพลงคือ Quiet Life ซึ่งสึกิโซะทำเองทั้งหมดรวมไปถึงเสียงร้องด้วย

20 ตุลาคม ทัวร์คอนเสิร์ต UNENDING STYLE encore TOUR 1996~ to RISE~ แสดงทั้งหมด 28 แห่ง รอบแรกแสดงที่ Green Hall Saganiohno ในโตเกียว และรอบสุดท้ายแสดงวันที่ 19 ธันวาคม ที่อาโอโมริ

23 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ต UNENDING STYLE TOUR Final Christmas Stadium ~ Mafuyu No Yagai ~ ที่ Yogohama Stadium ในคอนเสิร์ตครั้งนี้พวกเขาได้ประกาศถึงแผนที่จะพักกิจกรรมต่างๆ ของวงไว้เป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อแยกย้ายกันไปทำงานเดี่ยว คอนเสิร์ตครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการพักวง


พ.ศ. 2540[แก้]

21 พฤษภาคม วิดีโอรวมภาพคอนเสิร์ตตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน 'REW' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

17 ธันวาคม อัลบั้มรวมเพลงซิงเกิลและเพลงแถม 'SINGLES' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท และจัดงานแถลงข่าวการกลับมารวมตัวอีกครั้งของวงพร้อมทั้งแสดงคอนเสิร์ตที่ Akasaka Blitz


พ.ศ. 2541[แก้]

15 เมษายน ซิงเกิลที่เก้า 'STORM' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

3 มิถุนายน ซิงเกิลที่สิบ 'SHINE' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

1 กรกฎาคม ซิงเกิลที่สิบเอ็ด 'I for You' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับสองออริค่อน ชาร์ท ซึ่งเพลง I for You นี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง 神様 もう少しだけ (คามิซะมะ โมสุโคะชิดาเคะ) ของบริษัทฟูจิ เทเลแคสติ้งจำกัด โดยมีนักแสดงนำคือทาเคชิ คาเนชิโร่ และเคียวโกะ ฟูคาดะ

23 กรกฎาคม อัลบั้มที่ห้า 'SHINE' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท ซึ่งเพลง BREATHE ที่อยู่ในอัลบั้มนี้เป็นหนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องมู่หลาน (MULAN) ของวอลต์ ดิสนีย์

1-5 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต 'SLAVE GIG'98' โดยจำกัดเฉพาะสมาชิกแฟนคลับของพวกเขาเท่านั้น จัดแสดงทั้งหมด 3 รอบในฮอลล์ขนาดใหญ่ วันที่หนึ่งสิงหาคม แสดงที่ Shibuya Public Hall วันที่ 4 สิงหาคม แสดงที่ Aichi Public Hall และรอบสุดท้ายวันที่ 5 สิงหาคม แสดงที่ The Osaka Public Hall

9-10 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต 'WALT DiSNEY PICTURES PRESENTS MULAN MEETS LUNA SEA 1998 REVIVE 真夏の野外' ที่ Yogohama Stadium โดยมีผู้ชมรวมทั้งสองวันที่ 80,000 คน

24 กันยายน เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้ใช้ชื่อทัวร์ว่า 'WALT DiSNEY PICTURES PRESENTS MULAN MEETS LUNA SEA CONCERT TOUR 1998 SHINING BRIGHYLY' โดยแสดงทั้งหมด 33 รอบในฮอลล์ 26 แห่งทั่วประเทศ

23-24 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่โตเกียวโดม ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า 'IDO PRESENTS LUNA SEA CONCERT TOUR 1998 SHINING BRIGHYLY FINAL END OF PERIOD in TOKYO DOME'


พ.ศ. 2542[แก้]

มกราคม ทัวร์คอนเสิร์ต 'LUNA SEA FIRST ASIAN TOUR 1999' ทั้งหมด 3 แห่ง วันที่ 9 มกราคม แสดงที่ไต้หวัน วันที่ 14 มกราคม แสดงที่ฮ่องกง และรอบสุดท้ายแสดงที่เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 17 มกราคม

29 พฤษภาคม อัลบั้มรวมเพลงคอนเสิร์ต 'NEVER SOLD OUT' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับ 5 ออริค่อน ชาร์ท

30 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ต 'LUNA SEA 10TH ANNIVERSARY GIG [ NEVER SOLD OUT ] CAPACITY ∞' ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตฉลองครบ 10 ปีที่ก่อตั้งวง โดยจัดแสดงบนเวทีกลางแจ้งในโตเกียวซึ่งสามารถจุผู้ชมได้หนึ่งแสนคน

29 กันยายน วิดีโอคอนเสิร์ต '10TH ANNIVERSARY GIG [NEVER SOLD OUT] CAPACITY ∞ LIVE !' และวิดีโอประมวลภาพคอนเสิร์ต '10TH ANNIVERSARY GIG [NEVER SOLD OUT] CAPACITY ∞ DOCUMENT!' ออกวางจำหน่าย โดยทำยอดขายสุงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งและสองของออริค่อน ชาร์ท ตามลำดับ

23 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ต 'The Millennium Eve' ที่โตเกียวโดมร่วมกับวงเกลย์ (GLAY) มีผู้เข้าชมประมาณ 55,000 คน


พ.ศ. 2543[แก้]

1 มกราคม แสดงคอนเสิร์ตแรกของปี 2000 ที่ Zepp Tokyo ผู้เข้าชมประมาณ 3,000 คน

19 มกราคม อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน The world is not enough ออกวางจำหน่าย โดยมีเพลง Sweetest Coma Again เป็นหนึ่งในเพลงประกอบ

29 มีนาคม ซิงเกิลที่สิบสอง 'gravity' ออกวางจำหน่าย ซึ่งระยะเวลาห่างจากอัลบั้มล่าสุด (SHINE) ที่วางจำหน่ายประมาณหนึ่งปี 8 เดือน โดยซิงเกิลนี้มียอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท โดยเพลง gravity และ My Lover ซึ่งเป็นเพลงแถมในซิงเกิล ได้รับเลือกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ANOTHER HEAVEN นำแสดงโดย โยสุเกะ อิกุจิ และมิวาโกะ อิชิคาว่า

17 พฤษภาคม ซิงเกิลที่สิบสาม 'TONIGHT' ออกวางจำหน่าย สัปดาห์แรกอยู่ที่อันดับ 4 ออริค่อน ชาร์ท

23 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ต 'PREMIERE OF LUNACY 2000' ที่ Nippon Budokan

12 กรกฎาคม อัลบั้มที่หก 'LUNACY' ออกวางจำหน่าย อันดับสูงสุดในออริค่อน ชาร์ทคือ อันดับ 3

15 กรกฎาคม ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อทัวร์ว่า 'LUNA SEA CONCERT TOUR 2000 BRAND NEW CHAOS' แสดงในฮอลล์ทั่วประเทศ 6 แห่ง ทั้งหมด 12 รอบ

9 ตุลาคม ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อทัวร์ว่า 'LUNA SEA CONCERT TOUR 2000 BRAND NEW CHAOS ACT II' แสดงในฮอลล์ทั่วประเทศ 10 แห่ง ทั้งหมด 20 รอบ

8 พฤศจิกายน ซิงเกิลที่สิบสี่ 'LOVE SONG' ออกวางจำหน่าย

10-11 พฤศจิกายน แสดงคอนเสิร์ตที่ฮ่องกง ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า 'LUNA SEA CONCERT TOUR 2000 BRAND NEW CHAOS IN HONG KONG'

23 ธันวาคม อัลบั้มรวมเพลง 'PERIOD' ออกวางจำหน่าย

26-27 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตอำลาของวงลูนาซี ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า 'LUNA SEA THE FINAL ACT TOKYO DOME' รวมสองวันผู้ชมประมาณ 93,000 คน และในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ลูนาซี ได้ประกาศแยกวงอย่างเป็นทางการ

พ.ศ. 2550[แก้]

ทางวงได้ประกาศการกลับมารวมตัวกันใหม่ เพื่อเล่นคอนเสิร์ต One Night : Dejavu ที่สนามโตเกียว โดม เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ต่อหน้าผู้ชมกว่า 55,000 คนที่รอคอยการกลับมาของวง ริวอิจิยังกล่าวในคอนเสิร์ตให้กำลังใจแฟนๆว่า Luna Sea อาจจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งพร้อมสร้างสรรค์ผลงานใหม่ออกมาด้วย

พ.ศ. 2551[แก้]

Luna Sea เล่นคอนเสิร์ตรายการ "hide memorial summit" เพื่อเป็นการรำลึกถึงฮิเดะโตะ_มัทซึโมะโตะ อดีตมือกีตาร์วงเอ็กซ์ เจแปน ในวันที่ 4 พฤษภาคม ณ สนาม อายิโนะโมโตะ สเตเดี้ยมกับบรรดาวงร็อกอีกจำนวนมากอาทิ เอ็กซ์ เจแปน ,T.M. Revolution ,MUCC ,Oblivion Dust ,Dir en Grey

พ.ศ. 2553[แก้]

Luna Sea ส่งสัญญาณหวนคืนสู่วงการเพลงอีกครั้งผ่านเว็บออฟฟิเชียลโดยขึ้นวิดีโอ "Luna Sea Reboot" ที่ค่อยๆเผยรายละเอียดและโฉมหน้าสมาชิกแต่ละคนโดยจะมีคลิปใหม่อัปโหลดผ่านแชนแนล YouTube ตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวง กระทั่ง Luna Sea ประกาศแถลงข่าวที่ประเทศฮ่องกงในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งสมาชิกของวงเปิดเผยว่าที่เลือกแถลงข่าวที่ฮ่องกงเนื่องจากเป็นสถานที่ที่เคยใช้แถลงข่าวยุติกิจกรรมของวงเมื่อปี พ.ศ. 2543 ระหว่างงานแถลงข่าว Luna Sea ประกาศรวมตัวฉลองครบรอบ 20 ปีของวงพร้อมจัดคอนเสิร์ต "20th Anniversary World Tour Reboot" ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมในทวีปยุโรปและเอเชีย ได้แก่ เยอรมัน อเมริกา ฮ่องกง ไต้หวัน ไทเป ก่อนจะกลับมาแสดงที่โตเกียว โดมระหว่างวันที่ 23-25 ธันวาคม และปิดด้วยโชว์สุดท้ายที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นในคืนวันสิ้นปีโดยในคอนเสิร์ตที่โตเกียว โดม Luna Sea ได้เล่นเพลงใหม่ที่ยังไม่ได้บันทึกด้วยกัน 3 เพลงคือ "Days of Repetition" ,"Maria" และ "Promised Night"

พ.ศ. 2554: เปิดตัวภาพยนตร์คอนเสิร์ตสามมิติ /คอนเสิร์ตการกุศลช่วยเหลือเหยื่อสึนามิ[แก้]

16 มีนาคม Luna Sea ออกผลงานใหม่เป็นดีวีดีและบลูเรย์คอนเสิร์ตใหญ่ที่โตเกียว โดมเมื่อวันที่ 24-25 ธันวาคมพร้อมอัลบั้ม "LUNA SEA" ซึ่งเป็นงานคัฟเวอร์จากอัลบั้มชุดแรกเมื่อปี 1991 หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และคลื่นสึนามิพัดถล่มใจกลางประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม Luna Sea ตัดสินใจประกาศปล่อยซิงเกื้ลใหม่ในรอบ 11 ปี ใช้ชื่อว่า "Promise" ซึ่งเป็นเพลงใหม่ที่พวกเขาแสดงในคอนเสิร์ตเมื่อปีที่แล้ว โดยปล่อยให้ดาวโหลดผ่าน Amazon.com เมื่อวันที่ 9 เมษายนซึ่งรายได้ทั้งหมดได้นำไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อมา Luna Sea เปิดตัว "LUNA SEA 3D in Los Angeles" ภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องแรกซึ่งเป็นการแสดงคอนเสิร์ตที่ลอสแอนเจลิสเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมาโดยมีการบันทึกไว้ด้วยกล้องสามมิติคุณภาพสูง ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายรอบปฐมทัศน์ที่โรงภาพยนตร์ Toho Cinemas Roppongi Hills ในกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ซึ่งก่อนการฉาย ทางวงให้สัมภาษณ์กับสื่อในโรงภาพยนตร์ซึ่งมีการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทั่วโลกผ่านเว็บ Ustream.tv ด้วย Luna Sea จัดคอนเสิร์ตการกุศลที่สนามไซตามะ ซุเปอร์ อรีน่า เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมใช้ชื่อคอนเสิร์ต "Luna Sea for Japan: A Promise to the Brave" โดยรายได้ทั้งหมดนำไปบริจาคให้กับสภากาชาดญี่ปุ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุการณ์แผ่นดินไหว

ต่อมา Luna Sea ปล่อยดีวีดีชุด "Ichiya Kagiri no Fukkatsu Live LUNA SEA Chinmoku no 7 Nen wo Koete" เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม โดยเป็นดีวีดีสารคดีรวบรวมฉากเบื้องหลังและการแสดงสดของวงเมื่อปี 2007 และรายการทีวีทางสถานี NHK ในช่วงปี 90

พ.ศ. 2555: ซิงเกิลใหม่ในรอบ 12 ปี /ประกาศทัวร์คอนเสิร์ต 2012-2013[แก้]

เวลาที่ 21 มีนาคม 2555 ทางวงได้ปล่อยซิงเกิลใหม่อย่างเป็นทางการในรอบ 12 ปี ใช้ชื่อ "The One -crash to create-" ซึ่งมีความยาวกว่า 22 นาที โดยซิงเกิลดังกล่าวติดอันดับ 5 ใน Oricon Chart ของญี่ปุ่นพร้อมยอดขายแตะ 24,000 ก๊อปปี้ในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย

29 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 22 ปีของวง Luna Sea ได้ประกาศจัดทัวร์คอนเสิร์ต 7 รอบใช้ชื่อว่า "The End of the Dream 2012-2013" โดยทางวงจะแสดงที่ Osaka-jo Hall ในวันที่ 23 ธันวาคม และ Nippon Budokan อีกจำนวน 6 รอบในวันที่ 11-13 มกราคม และ 18-20 มกราคม 2556 โดยเป็นการคืนเวทีที่ทางวงร้างการจัดคอนเสิร์ตนานถึง 13 ปี ทั้งนี้ Luna Sea ได้แจ้งผ่านเว็บไซต์ออฟฟิเชียลยืนยันว่าบัตรการแสดงทั้ง 7 รอบขายหมด และได้เพิ่มทัวร์คอนเสิร์ตทั่วญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม อีกจำนวนทั้งสิ้น 13 รอบโดยเป็นการแสดงที่โอซาก้า นาโงย่า ฟุกุโอกะ และโตเกียวตามลำดับ นอกจากนี้ในวันที่ 24 ธันวาคม Luna Sea ได้ประกาศจัดคอนเสิร์ต "The Promise to the Brave 2012 in Sendai" ที่ Sendai Sunplaza Hall เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของวงที่ต้องการหารายได้การกุศลเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวและเหยื่อสึนามิถล่มเมื่อปีที่แล้ว

วันที่ 8 กรกฎาคม เทปการแสดงสดของ Luna Sea ถูกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ WOWOW ของญี่ปุ่น โดยเป็นการเล่นมินิคอนเสิร์ตจำนวน 8 เพลงบนเวทีภายในห้องส่งของสถานีซึ่งไม่มีผู้ชม โดย Luna Sea ได้เล่นเพลงซิงเกิลล่าสุด "The One -crash to create" ครั้งแรกปิดท้ายรายการด้วย

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 7 กันยายน Luna Sea ได้แจ้งผ่านเว็บไซต์ของวงเพิ่มรอบการแสดงทัวร์ "The End of the Dream" ในทวีปเอเชียปี 2556 โดยในประเทศไทยจะทำการแสดงในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 ณ อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี

ผลงาน[แก้]

อัลบั้ม (Albums)[แก้]

LUNA SEA 21 เมษายน พ.ศ. 2534
IMAGE 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2535
EDEN 21 เมษายน 2536
MOTHER 26 ตุลาคม พ.ศ. 2537
STYLE 22 เมษายน พ.ศ. 2539
SHINE 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2541
LUNACY 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2543
LUNA SEA (คัฟเวอร์ชุดแรก) 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

ซิงเกิล (Singles)[แก้]

BELIEVE c/w Claustrophobia 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536
IN MY DREAM (WITH SHIVER) c/w SLAVE 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2536
ROSIER c/w RAIN 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2537
TRUE BLUE  c/w FALLOUT 21 กันยายน พ.ศ. 2537
MOTHER (Single Version)   c/w Dejavu  (Live Version) 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538
DESIRE  c/w LUV U 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538
END OF SORROW  c/w TWICE 25 มีนาคม พ.ศ. 2539
IN SILENCE  c/w Ray 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2539
STORM  c/w この世界の果てで (โคโนะเซไก ฮาเทเด) 15 เมษายน พ.ศ. 2541
SHINE  c/w Looper 3 มิถุนายน พ.ศ. 2541
I for You  c/w WITH 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2541
gravity  c/w inside you , My Lover 29 มีนาคม พ.ศ. 2543
TONIGHT  c/w be gone , be in agony 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2543
LOVE SONG  c/w INTO THE SUN , UNTIL THE DAY I DIE 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
PROMISE 9 เมษายน พ.ศ. 2554
THE ONE -crash to create- 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

ผลงานอื่นๆ (Compilations)[แก้]

SINGLES 17 ธันวาคม พ.ศ. 2540
NEVER SOLD OUT  29 พฤษภาคม พ.ศ. 2542
PERIOD ~THE BEST SELECTION~ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2543
Guitar Solo Instruments 1&2  19 ธันวาคม พ.ศ. 2544
Piano Solo Instruments 1-4  19 ธันวาคม 2001
another side of SINGLES II  6 มีนาคม พ.ศ. 2545
SLOW  23 มีนาคม พ.ศ. 2548
THE COMPLETE BEST 26 มีนาคม พ.ศ. 2551

อ้างอิง[แก้]

  1. INORAN วิกิพีเดีย (ญี่ปุ่น)
  2. "Extasy Records company history". extasyrecords.co.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-28. สืบค้นเมื่อ 2007-06-02.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]