รัมมี่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

รัมมี่ (rummy) เป็นเกมไพ่จับคู่ ในการเล่นอาศัยการอ่านใจและอ่านไพ่บนมือคู่ต่อสู้ มากกว่าดวง นักคณิตศาสตร์หรือนักสถิติจะได้เปรียบในการแข่งรัมมี่ (หรือแม้แต่เกม โปเกอร์) การเล่นรัมมี่จะใช้เวลาค่อนข้างนาน แล้วแต่จำนวนผู้เล่น ดังนั้น ในความเป็นจริง นักพนันทั่วไปจึงไม่นิยมเล่นเกมนี้ เพราะได้เสียกันช้ากว่าเกมอื่นเช่น ป๊อกเด้ง ที่มีรอบการได้เสียหมุนเร็ว สิ่งที่สนุกในเกมไพ่รัมมี่ นอกจากการแข่งขันในเกมปกติคือ การกินมืด หรือ น็อกมืด ซึ่งสิ่งนี้มีผลทางจิตวิทยาในแข่งอีกด้วย

เกมรัมมี่มีหลายแบบ แบบที่นิยมในประเทศไทยคือดัมมี่ รัมมี่ หรือคนไทยเรียกว่า "ดัมมี่"[ต้องการอ้างอิง]

จำนวนผู้เล่น[แก้]

2–4 คน

การแจกไพ่[แก้]

ผู้เล่น 2 คนแจกคนละ 11 ใบ ผู้เล่น 3 คนแจกคนละ 9 ใบ ผู้เล่น 4 คนแจกคนละ 7 ใบ

(ในบางกติกา สำหรับผู้เล่น 2 คน หลังจากแจกไพ่แล้ว จะคัดไพ่ 5 ใบจากก้นกองออกแยกไว้ เพื่อให้เป็นการยากแก่การนับไพ่ทำให้เกมท้าทายยิ่งขึ้น)

กติกา[แก้]

หลังจากแจกไพ่แล้ว ไพ่ที่เหลือคือกองจั่ว ผู้แจกเปิดไพ่ใบบนสุดและวางไว้ข้าง ๆ กองจั่ว ไพ่ใบนั้นถือเป็นกองกลางสำหรับทิ้งไพ่

ผู้เล่นคนแรกเริ่มโดยการจั่วไพ่หนึ่งใบจากกองจั่ว หรือเก็บไพ่จากกองกลางก็ได้ (อ่านเรื่อง "การเก็บไพ่" ด้านล่าง) หลังจากนั้นจึงทิ้งไพ่ลงมาหนึ่งใบโดยวางเรียงต่อจากไพ่กองกลางสำหรับผู้เล่นคนถัดมา เวลาทิ้งไพ่ลงบนกองกลาง ให้จัดเรียงเป็นแถวเพื่อให้สามารถเห็นไพ่แต่ละใบที่ทิ้งลงมาตามลำดับ

เมื่อถึงตาผู้เล่นคนถัดมา ผู้เล่นเลือกว่าจะจั่วจากกองจั่วหรือเก็บไพ่จากกองกลาง จากนั้นจึงทิ้งไพ่หนึ่งใบโดยวางเรียงต่อจากไพ่กองกลางสำหรับผู้เล่นคนถัดมา และวนไปจนกระทั่งผู้เล่นคนหนึ่งคนใด "น็อก" หรือจบเกม

เป้าหมายคือ ผู้เล่นแต่ละคนจะพยายามเรียงไพ่เป็นชุด ๆ ชุดละอย่างน้อยสามใบ คือ จัดตอง (เช่น 7♣ 7♦ 7♥ หรือ J♥ J♦ J♠ J♣) หรือเรียงไพ่ในดอกเดียวกัน (เช่น 4♦ 5♦ 6♦ หรือ 10♥ J♥ Q♥ K♥) ในเกมรัมมี่นี้ลำดับไพ่คือ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 J Q K A และไม่มีการวนรอบ เช่น A 2 3

การเก็บไพ่[แก้]

ผู้เล่นจะเก็บไพ่จากกองกลางได้ก็ต่อเมื่อสามารถนำไพ่จากกองกลางนั้นมาจัดเข้าชุดได้ทันทีเท่านั้น (ชุดเรียงหรือชุดตองอย่างน้อยสามใบ) และผู้เล่นจะต้องมีไพ่อยู่ในมือแล้วอย่างน้อยหนึ่งใบที่จะนำมารวมให้เข้าชุดกับใบที่เก็บได้ ผู้เล่นเก็บโดยเริ่มจากใบที่จะนำมาจัดเข้าชุดและรวบลงมาจนถึงใบสุดท้าย และจะต้องวางไพ่ชุดนั้นหงายขึ้นบนโต๊ะทันที ชุดอื่น ๆ ที่สามารถจัดได้หรือใบฝาก (อ่านเรื่อง "การฝาก" ด้านล่าง) ที่เก็บมาได้นั้นผู้เล่นจะวางลงด้วยก็ได้

เช่นในกองกลางมีไพ่ 7♥ K♦ 3♠ 8♣ J♦ 10♠ ตามลำดับ ผู้เล่น ข มีไพ่ Q♦ อยู่ในมือ จึงรวบเก็บไพ่จาก K♦ ลงมาถึง 10♠ และต้องเปิดไพ่ชุด J♦ Q♦ K♦ ลงบนโต๊ะทันที ไพ่ใบอื่น ๆ ที่เก็บมานั้นต้องเก็บขึ้นในมือด้วย และหากมีชุดไพ่อื่นหรือใบฝากในมือ จะสามารถวางลงด้วยก็ได้ก่อนจะทิ้งไพ่ลงบนกองกลางหนึ่งใบ

การกิน[แก้]

เมื่อผู้เล่นคนใดเก็บไพ่จากกองกลางเป็นครั้งแรกและเปิดไพ่ชุดนั้นลงบนโต๊ะ ถือว่าผู้เล่นผู้นั้น "เกิด" แล้ว ผู้เล่นที่เกิดแล้วจะสามารถวางไพ่ที่จัดเข้าชุดแล้วในมือ หรือวางใบฝาก (อ่านเรื่อง "การฝาก" ด้านล่าง) ลงบนโต๊ะได้ทั้งในตานั้นและในตาถัด ๆ มา ไพ่ที่ถูกเปิดออกแล้วไม่ว่าจะเป็นชุดหรือใบฝาก จะไม่สามารถสลับสับเปลี่ยนชุดหรือเก็บกลับขึ้นมาในมือได้อีก

ผู้เล่นจะไม่สามารถเปิดไพ่ที่จัดเข้าชุดแล้วหรือใบฝากลงจากมือได้ จนกว่าจะผู้เล่นคนนั้นจะ "เกิด" แล้วเท่านั้น

การเกิดมีประโยชน์คือ ผู้เล่นจะไม่ถูก "ลบมืด" (อ่านเรื่อง "การลบมืด" ด้านล่าง) และชุดไพ่และใบฝากที่วางลงแล้วจะถือเป็นคะแนน และไม่ต้องถูกหักลบแต้มเมื่อจบเกม

การฝาก[แก้]

การฝากคือการต่อไพ่อย่างน้อยหนึ่งใบ (ใบฝาก) จากชุดที่วางออกบนโต๊ะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชุดของผู้เล่นคนอื่น หรือของตัวเองก็ตาม เช่น ถ้าผู้เล่น ก. วางไพ่ชุด 8♣ 9♣ 10♣ J♣ ลงบนโต๊ะ ผู้เล่น ค. จะมีสิทธิฝาก Q♣ (หรือ 6♣ 7♣ ด้วยก็ได้) โดยการวางไพ่เหล่านั้นลงเมื่อถึงตาของผู้เล่น ค. ซึ่งหากผู้เล่น ค. ฝากด้วยการวาง 7♣ ลง ผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็จะสามารถฝาก 6♣ ต่อได้เช่นกัน แต่หากเมื่อใดก็ตามที่เกิดไพ่ Q K A จะไม่สามารถฝากไพ่ 2 หรือ 3 ได้

อีกตัวอย่าง หากผู้เล่น ก. วางชุดตอง 9 9 9 ลงบนโต๊ะ ผู้เล่นใดที่มีเบอร์ 9 ใบที่เหลือก็สามารถฝากได้เช่นกันเมื่อถึงตาของตน

การฝากนั้นจะวางไพ่ลงได้ก็ต่อเมื่อเป็นตาของผู้เล่นที่มีใบฝากและหากผู้เล่นได้ "เกิด" แล้ว หรือจะถือใบฝากไว้ในมือจนกระทั่งจบเกมก็ได้

หากใบฝากที่จะวางสามารถฝากได้จากสองชุด จะต้องแจกแจงว่าจะฝากจากชุดใด เช่น ถ้ามีการเกิดไพ่ชุดเรียง 6♣ 7♣ 8♣ และชุดตอง 9♥ 9♦ 9♠ ผู้เล่นที่จะฝาก 9♣ จะต้องแจกแจงว่าจะฝากจากชุดใด (เพราะถ้าฝากชุดเรียง 6♣ 7♣ 8♣ ผู้เล่นคนอื่นจะมีสิทธิฝาก 10♣ ต่อได้)

วิธีจบเกมหรือการ "น็อก"[แก้]

คือ เมื่อไรที่ผู้เล่นคนหนึ่งคนใดได้จั่วไพ่ หรือเก็บไพ่จากกองกลางแล้ว และจัดเข้าชุดหรือ "ฝาก" ได้ครบหมด และจะต้องเหลือไพ่ในมืออีกเพียงใบเดียว ถือว่าผู้เล่นผู้นั้น "น็อก" โดยผู้เล่นจะเปิดไพ่ในมือลงทั้งหมด และคว่ำไพ่ใบสุดท้ายนั้นลง

หากไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถน็อกได้เลย จนกระทั่งไพ่หมดจากกองจั่วแล้ว คือผู้เล่นจั่วไพ่ใบสุดท้าย และทิ้งไพ่ใบหนึ่งลงบนกองกลาง และผู้เล่นคนถัดมาไม่สามารถเก็บไพ่จากกองกลางเพื่อน็อกได้ จะถือว่าจบเกม

ผู้เล่นแต่ละคนนับแต้มจากชุดที่วางลงแล้ว และหักลบคะแนนจากไพ่ที่ถืออยู่ในมือ ในเกมถัดมา ผู้เล่นที่น็อกจะได้เป็นคนเริ่มเกม

การนับแต้ม[แก้]

ผู้เล่นแต่ละคนจะนับแต้มของตนเมื่อมีการจบเกมหรือ "น็อก"

เบอร์ 2 3 4 5 6 7 8 9 ใบละ 5 แต้ม (ยกเว้น 2♣ ซึ่งมีค่า 50 แต้ม)

เบอร์ 10 J Q K ใบละ 10 แต้ม (ยกเว้น Q♠ ซึ่งมีค่า 50 แต้ม)

A ใบละ 15 แต้ม (บางที่มีการนับแต้มของ A เป็น 2 กรณี กรณีที่ 1 คือ การเรียง A เป็นตอง หรือการฝาก A ที่เป็นตอง จะนับใบละ 15 แต้ม แต่ถ้าเป็นกรณีที่ 2 คือ การเรียง Q K A หรือการฝาก A ในกรณีนี้จะนับ A เพียง 10 แต้ม เช่นเดียวกับแต้มของ Q และ K)

ไพ่สเปโตคือไพ่พิเศษซึ่งมีคะแนน 50 แต้มคือ 2♣ และ Q♠

ไพ่ใบที่ใช้ "น็อก" ก็ถือว่ามีคะแนน 50 แต้มเช่นกัน

ผู้เล่นจะได้แต้มเฉพาะจากไพ่ที่ได้วางหงายขึ้นบนโต๊ะแล้วเท่านั้น ไพ่ที่เหลืออยู่ในมือ ไม่ว่าจะเข้าชุดแล้วหรือเป็นใบฝากหรือไม่ก็ตาม จะต้องถูกติดลบ

ผู้เล่นผู้ใดที่สะสมคะแนนได้ถึง 500 แต้ม (หรือตามแต่กำหนดไว้) ก่อนเป็นผู้ชนะ

การน็อกมืด[แก้]

หากผู้เล่นคนใดสามารถ "น็อก" ได้โดยมิได้ "เกิด" เลย คือจั่วจากกองจั่วเท่านั้น หรือเก็บไพ่จากกองกลางแล้วก็ "น็อก" ทันทีโดยที่ไม่ได้ "เกิด" มาก่อน ถือว่าผู้เล่นคนนั้น "น็อกมืด" ซึ่งแต้มของผู้น็อกมืดในเกมนั้นจะได้เป็นสองเท่า

การน็อกสี[แก้]

หากผู้เล่นสามารถน็อกโดยไพ่ทุกชุดและใบฝากเป็นดอกเดียวกันหมด จะได้คะแนนเป็น 2 เท่า เช่น ผู้เล่น ก. น็อกด้วย 3♥ 4♥ 5♥ 6♥ และ 9♥ 10♥ J♥ Q♥ และใบน็อก ผู้เล่น ก. จะได้คะแนนเป็นสองเท่าในเกมนั้น

หากผู้เล่นน็อกมืดด้วย (น็อกมืดสี) จะได้คะแนนเป็น 4 เท่า

การลบมืด[แก้]

การลบมืด (หรือบางที่เรียกว่า ตกตึก หรือ ย่าง) หมายถึง หากผู้เล่นคนใดยังไม่ได้ "เกิด" (ไม่ได้เก็บไพ่จากกองกลางเลย) แล้วผู้เล่นคนอื่น "น็อก" หรือไพ่หมดจากกองจั่วโดยที่ไม่มีผู้ใด "น็อก" ผู้เล่นคนนั้นจะถูกลบมืด คะแนนในเกมนั้นจะถูกติดลบเป็นสองเท่า คือแต้มที่ถืออยู่ในมือทั้งหมด รวมถึงการถูกหักคะแนนในกรณีต่าง ๆ ด้วย เช่น ทิ้งโง่ ทิ้งมี่ ทิ้งเต็ม ทิ้งปี้ หรือถูกฝากสเปโต (อ่านเรื่องกติกาเหล่านี้ข้างล่าง)

การทิ้งโง่[แก้]

ผู้เล่น ก. ที่ทิ้งไพ่ลงไปที่กองกลาง แล้วผู้เล่น ข. เก็บไพ่ใบที่ผู้เล่น ก. ทิ้งลงไป ขึ้นมาน็อก เรียกว่า ผู้เล่น ก. “ทิ้งโง่” ทำให้ผู้เล่น ข. น็อกในเกม ผู้เล่น ก.ที่ทิ้งโง่ต้องถูกติดลบ 50 คะแนน (ในกรณีที่ทิ้งไพ่โง่เป็นไพ่สเปโต จะถูกติดลบ 100 คะแนน) และในเกมถัด ๆ มาให้วนย้อนกลับจนกว่าจะมีการทิ้งโง่อีกครั้ง

กติกาเพิ่มเติม[แก้]

ผู้เล่นควรตกลงกันก่อนว่าจะใช้กติกาเหล่านี้หรือไม่ กติกาบางข้อทำให้เกมท้าทายยิ่งขึ้น

  • หากไพ่ใบสุดท้ายที่ใช้น็อกเกมเป็นไพ่สเปโต (2♣ หรือ Q♠) ไพ่ใบนั้นมีค่า 100 แต้ม
  • หากไพ่ใบสุดท้ายที่ใช้น็อกเกมสามารถฝากกองใดกองหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะได้ ไพ่ใบนั้นมีค่า 100 แต้ม
  • การทิ้งมี่ ผู้เล่นที่ทิ้งใบฝากจะถูกหัก 50 แต้มต่อครั้ง
  • การทิ้งเต็ม ผู้เล่นที่ทิ้งไพ่ที่สามารถรวมเข้าชุดได้กับไพ่ในกองกลางอย่างน้อยสองใบ จะถูกหัก 50 แต้ม เช่น หากในกองกลางมีไพ่ 10♣ และ Q♣ ผู้เล่นที่ทิ้ง J♣ จะถูกหัก 50 แต้มโดยทันที หรืออีกตัวอย่างเช่น หากกองกลางมี K อยู่แล้วสองใบ ผู้เล่นที่ทิ้ง K ลงมาอีกใบจะถูกหัก 50 แต้มทันที
  • ใบหัว ไพ่ใบแรกสุดที่เปิดออกเป็นกองกลางหลังการแจกเรียกว่าใบหัว ซึ่งมีค่า 50 แต้ม หากใบหัวนั้นเป็นสเปโตจะมีค่า 100 แต้ม

การทิ้งปี้หัว หากใครทิ้ง "ตัวกัน" (ไพ่ ±1 หรือ ±2 ในดอกเดียวกัน หรือไพ่เบอร์เดียวกัน) ของใบหัวนั้นลงมา ส่งผลให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถเก็บใบหัวนั้นได้ภายในรอบนั้น จะถูกหัก 50 แต้ม เช่น หากใบหัวคือ 7♥ ผู้เล่น ข. ทิ้งไพ่ 8♥ ซึ่งส่งผลให้ผู้เล่น ง. ซึ่งมี 6♥ อยู่ในมือสามารถเก็บชุด 6♥ 7♥ 8♥ ได้ ผู้เล่น ข. จะถูกหัก 50 แต้ม ผู้เล่น ข. จะรอดจากการถูกหัก 50 แต้มหากผู้เล่น ค. ง. และ ก. ไม่สามารถเก็บ 7♥ และ 8♥ มาใช้ได้ จนกระทั่งเวียนกลับมาเป็นตาผู้เล่น ข. อีก (ในกรณีนี้ "ตัวกัน" ของ 7♥ ได้แก่ 5♥ 6♥ 8♥ 9♥ และ 7 ดอกอื่น ๆ)

  • การทิ้งปี้สเปโต ผู้ที่ทิ้งปี้สเปโตจะเสีย 50 แต้ม การทิ้งปี้สเปโตมีความเป็นไปได้ใน 3 กรณี

กรณี 1. หากมีไพ่สเปโตอยู่ในกองกลางอยู่แล้ว แล้วผู้เล่นทิ้งตัวกันสเปโตลงมา

กรณี 2. หากมีตัวกันสเปโตอยู่ในกองกลางอยู่แล้ว แล้วผู้เล่นทิ้งไพ่สเปโตลงมา

กรณี 3. หากมีตัวกันสเปโตอยู่ในกองกลางอยู่แล้ว แล้วผู้เล่นทิ้งตัวกันสเปโตลงมาอีกใบ

(ตัวกันสเปโตคือ 2♠ 2♦ 2♥ / 3♣ 4♣ / Q♣ Q♦ Q♥ / 10♠ J♠ K♠ A♠)

ผู้ที่ทิ้งปี้สเปโตจะถูกหัก 50 แต้มก็ต่อเมื่อ ภายในรอบนั้น ผู้เล่นคนอื่นสามารถเก็บไพ่สเปโตหรือตัวกันทั้งสองใบไปใช้เกิดในชุดสเปโตได้

ผู้ที่ทิ้งปี้สเปโตจะรอดจากการถูกหัก 50 แต้มหากหลังจากทิ้งไพ่แล้ว ไม่มีผู้เล่นอื่นเก็บไพ่ไปใช้ได้จนวนรอบกลับมาถึงตาผู้ทิ้งไพ่

ตัวอย่างกรณี 1. ในกองกลางมีสเปโต Q♠ อยู่แล้ว ผู้เล่นใดที่ทิ้ง Q ดอกอื่นลงมาส่งผลให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถเก็บชุด Q Q Q ได้ภายในรอบนั้นจะถูกหัก 50 แต้ม

ตัวอย่างกรณี 2. ในกองกลางมีตัวกันสเปโต 4♣ อยู่แล้ว ผู้เล่นใดที่ทิ้งสเปโต 2♣ ลงมาส่งผลให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถเก็บชุด 2♣ 3♣ 4♣ ได้ภายในรอบนั้นจะถูกหัก 50 แต้ม

ตัวอย่างกรณี 3. ในกองกลางมีตัวกันสเปโต J♠ อยู่แล้ว ผู้เล่นใดที่ทิ้งตัวกันสเปโต K♠ ส่งผลให้มีการเกิด J♠ Q♠ K♠ ได้ภายในรอบนั้นจะถูกหัก 50 แต้ม

  • การตีอ้อนหรือตีกร่าง ในกรณีที่ทิ้งตัวกันสเปโต (2♠ 2♦ 2♥ / 3♣ 4♣ / Q♣ Q♦ Q♥ / 10♠ J♠ K♠ A♠) ลงไปในกองเป็นใบแรก ซึ่งถ้ามีคนเกิดได้ภายในรอบนั้นคนที่ทิ้งอ้อนมาก็จะเสีย 50 แต้ม
  • การถูกฝากสเปโต ผู้เล่นคนใดที่เกิดไพ่ หรือวางใบฝากลง แล้วส่งผลให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถฝากไพ่สเปโตได้จะถูกหัก 50 แต้ม เช่น ผู้เล่น ข. เกิดไพ่ 3♣ 4♣ 5♣ 6♣ ลงบนโต๊ะ เมื่อไรที่ผู้เล่นคนอื่นสามารถฝากไพ่ 2♣ ได้ ผู้เล่น ข. จะถูกหัก 50 แต้ม หรืออีกตัวอย่าง หากผู้เล่น ค. เกิดไพ่ 8♠ 9♠ 10♠ และผู้เล่น ก. วางใบฝาก J♠ ส่งผลให้ผู้เล่น ง. สามารถฝาก Q♠ ได้ ผู้เล่น ก. จะถูกหัก 50 แต้ม

หากผู้ฝากต้องวางไพ่สองใบจึงจะฝากสเปโตได้ เช่น การฝาก 2♣ 3♣ ต่อจาก 4♣ 5♣ 6♣ จะไม่ถือเป็นการถูกฝากสเปโต

  • กรณีซับซ้อนของการหักคะแนน

หากผู้เล่นทิ้งไพ่ที่ถือได้ว่า ทั้งทิ้งมี่และทิ้งเต็ม จะถูกปรับ 100 คะแนน (50 คะแนนจากการทิ้งปี้และ 50 คะแนนจากการทิ้งเต็ม) เช่น ผู้เล่น ข. วางไพ่ 5♣ 5♠ 5♦ ในกองทิ้งมีไพ่ 6♥ 7♥ อยู่ และผู้เล่น ง. ทิ้ง 5♥ ถือว่าผู้เล่น ง. ทั้งทิ้งมี่และทิ้งเต็ม

หากผู้เล่นทิ้งไพ่ที่ถือได้ว่า ทั้งทิ้งปี้หัวและทิ้งปี้เสเปโต จะถูกปรับ 100 คะแนน เช่น ใบหัวเป็น 10♠ ผู้เล่น ค. ทิ้ง J♠ และผู้เล่น ก. สามารถเก็บและวาง 10♠ J♠ Q♠ ได้ในรอบนั้น ผู้เล่น ค. จะถูกปรับ 100 คะแนน

เป็นไปได้ที่ผู้เล่นสองหรือสามคนจะถูกหักคะแนนพร้อมกันจากการเก็บไพ่ในตาเดียว เช่นหากใบหัวเป็น J♥ และในกองทิ้งมี 2♣ และ A♠ อยู่ ผู้เล่น ก. ทิ้ง 4♣ ผู้เล่น ข. ทิ้ง 10♥ และผู้เล่น ค. ทิ้ง K♠ ผู้เล่น ง. เก็บไพ่ทั้งหมดและวางชุด 10♥ J♥ Q♥ ชุด 2♣ 3♣ 4♣ และชุด Q♠ K♠ A♠ ผู้เล่น ก. และ ค. ถูกหัก 50 คะแนนจากการทิ้งปี้สเปโต และผู้เล่น ข. ถูกหัก 50 คะแนนจากการทิ้งปี้หัว หากผู้เล่น ง. วางชุดไพ่เหล่านั้นลง

อีกตัวอย่าง เช่น ในกองทิ้งมี K♠ อยู่ ผู้เล่น ง. ทิ้ง A♠ ผู้เล่น ข. ทิ้ง J♠ และผู้เล่น ค. สามารถเกิดชุด J♠ Q♠ K♠ A♠ ได้ในรอบนั้น ทั้งผู้เล่น ง. และ ข. จะถูกหัก 50 คะแนนจากการทิ้งปี้สเปโตทั้งคู่