มินามิซันริกุ

พิกัด: 38°40′45.6″N 141°27′38.8″E / 38.679333°N 141.460778°E / 38.679333; 141.460778
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก มินะมิซันริกุ)
มินามิซันริกุ

南三陸町
ศาลาว่าการเมืองมินามิซันริกุในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2013
ศาลาว่าการเมืองมินามิซันริกุในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2013
ธงของมินามิซันริกุ
ธง
ตราอย่างเป็นทางการของมินามิซันริกุ
ตรา
ที่ตั้งของมินามิซันริกุในจังหวัดมิยางิ
ที่ตั้งของมินามิซันริกุในจังหวัดมิยางิ
มินามิซันริกุตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
มินามิซันริกุ
มินามิซันริกุ
 
พิกัด: 38°40′45.6″N 141°27′38.8″E / 38.679333°N 141.460778°E / 38.679333; 141.460778
ประเทศญี่ปุ่น
ภูมิภาคโทโฮกุ
จังหวัดมิยางิ
อำเภอโมโตโยชิ
พื้นที่
 • ทั้งหมด163.40 ตร.กม. (63.09 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (1 พฤษภาคม 2020)
 • ทั้งหมด12,516 คน
 • ความหนาแน่น77 คน/ตร.กม. (200 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+09:00 (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น)
ที่อยู่ศาลาว่าการ77 Shioiri, Shizugawa, Minamisanriku-cho, Motoyoshi-gun Miyagi-ken 986-0792
เว็บไซต์เว็บไซต์ทางการ
สัญลักษณ์
สัตว์ปีกนกอินทรีทอง
สัตว์น้ำหมึกยักษ์ธรรมดา
ดอกไม้Azalea
ต้นไม้Persera thunbergii
สีฟ้า
โรงพยาบาลรัฐชิซูงาวะในมินามิซันริกุ หลังได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นใน ค.ศ. 2011

มินามิซันริกุ (ญี่ปุ่น: 南三陸町โรมาจิMinamisanriku-chō) เป็นเมืองตากอากาศ ตั้งอยู่ในอำเภอโมโตโยชิ จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ 163.74 ตารางกิโลเมตร และจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2004 มีประชากร 19,170 คน เมืองดังกล่าวเป็นการรวมเข้าด้วยกันของเมืองชิซูงาวะและอูตัตสึในอำเภอโมโตโยชิ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2005 และสร้างเป็นเมืองใหม่ชื่อมินามิซันริกุ

พื้นที่ส่วนใหญ่ของมินามิซันริกุถูกทำลายจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุ ค.ศ. 2011 โดยที่อาคารส่วนใหญ่ถูกคลื่นกวาดไปถึง 16 เมตรหรือมากกว่า ประชากรเมืองกว่าครึ่ง หรือ 9,500 คน สูญหาย[1][2][3][4] และเกือบจะแน่ใจได้ว่าเสียชีวิต หากจำนวนดังกล่าวได้รับการยืนยัน การสูญเสียชีวิตในเมืองแห่งนี้จะถือเป็นร้อยละยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดของญี่ปุ่นทั้งประเทศจากคลื่นสึนามิ อย่างไรก็ตาม ประชากร 9,700 คนได้รับยืนยันว่ารอดชีวิต และอพยพไปแล้ว[5]

ก่อนหน้านี้ แผ่นดินไหวใหญ่ชิลี ค.ศ. 1960 ได้ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและถล่มเมืองชิซูงาวะในเวลานั้น โดยสูงถึง 2.8 เมตร[6] ทำให้เกิดความเสียหายเป็นอันมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานทั่วไป ผลคือ มีการสร้างกำแพงท่าเรือสูงเท่ากับตึกสองชั้นจนถึง ค.ศ. 1963 แต่กำแพงท่าเรือดังกล่าวไม่สามารถป้องกันคลื่นสึนามิที่เกิดใน ค.ศ. 2011 ได้ เพราะมีความสูงถึงตึกสี่ชั้น[7]

ประชากร[แก้]

จากข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรของญี่ปุ่น[8] จำนวนประชากรของมินามิซันริกุสูงสุดในคริสต์ทศวรรษ 1950 และลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา

ประวัติจำนวนประชากร
ปีประชากร±%
1920 17,054—    
1930 18,410+8.0%
1940 19,496+5.9%
1950 25,168+29.1%
1960 24,852−1.3%
1970 22,943−7.7%
1980 22,243−3.1%
1990 21,401−3.8%
2000 19,860−7.2%
2010 17,429−12.2%
2020 12,225−29.9%

อ้างอิง[แก้]

  1. "9,500 still unaccounted in Minamisanriku of Japan's Miyagi Prefecture: Kyodo". Xinhua News Agency. สืบค้นเมื่อ 2011-03-12.
  2. Kyung Lah, CNN (March 12, 2011). "Rescuers scramble to save lives as aftershocks jolt Japan". CNN.com. สืบค้นเมื่อ 2011-03-12.
  3. "9,500 People Reported Missing in Small Town Following Japan Quake". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-13. สืบค้นเมื่อ 2011-08-28.
  4. Horiuchi, Junko, (Kyodo News) "Evacuees persevere, eye future", Japan Times, 29 March 2011, p. 3.
  5. [1](Japanese)
  6. flickr.com user ataq411. "Shizugawa Hospital, Minamisanriku-cho, Miyagi" (photo). legend on marker in photo reads:
    昭和35年5月24日
    チリ地震津波水位
    2.8m
    {{cite web}}: |author= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  7. Todd Pitman. "Japan tsunami: Nothing to do but run". Associated Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-03. สืบค้นเมื่อ 2011-04-23.
  8. สถิติประชากรมินามิซันริกุ

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]