ภูมิกมล ผดุงรัตน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภูมิกมล ผดุงรัตน์

ภูมิกมล ผดุงรัตน์ เป็นศิลปินช่างภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออริกอน สหรัฐอเมริกา เคยเป็นอาจารย์ที่สาขาศิลปะภาพถ่าย คณะศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต อยู่ระยะหนึ่ง เป็นผู้ก่อตั้งแกลเลอรี่ 253 ภายหลังลาออกแต่ยังเป็นอาจารย์พิเศษและเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศิลปนิพนธ์ของสาขาศิลปะภาพถ่าย และสถาบันการศึกษาอื่นอีกหลายแห่ง

ช่วงต้นทศวรรษปี ค.ศ. 1980[แก้]

เริ่มต้นจากเด็กโหลดฟิล์ม - เจ้าหน้าที่ห้องแล็บ / ห้องมืดของหนังสือพิมพ์เล็กๆ ใน Lane County, โอเรกอน แลัวขยับขึ้นมาเป็นช่างภาพประจำกองบรรณาธิการ เป็นระยะเวลาสั้นๆ ต่อมาในปลายทศวรรษ เริ่มทำงาน conceptual photography เริ่มมีงานแสดงและขายได้บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ

ช่วงทศวรรษของปี ค.ศ. 1990 ถึงต้นศตวรรษที่ 21[แก้]

  • เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชา ศิลปภาพถ่าย คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต (ระหว่างปี พ.ศ. 2537 - 2548)
  • เคยร่วมเขียนหลักสูตรปริญญาตรี ศิลปบัณฑิต (มหาวิทยาลัยรังสิต) / ร่วมเขียนตำราชุดวิชาศิลปะภาพถ่ายและภาพยนตร์

สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (ปี พ.ศ. 2547 - 48)

  • เคยเป็น curator Gallery 253 ระหว่างปี พ.ศ. 2540 - 43 / ในบางครั้งคราว
  • เป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • หลังปี 2548 เป็นอาจารย์พิเศษ สาขาวิชาศิลปภาพถ่าย คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต และทำงานให้กับสำนักพิมพ์ณัฐนลิน (NATNALIN Publishing)

ภูมิกมล ผดุงรัตน์ เป็นศิลปินที่มีชีวิตจิตใจมุ่งมั่นอยู่กับงานภาพถ่าย นำเสนอผลงานในแบบศิลปภาพถ่ายหลังสมัยใหม่ (Postmodern Photography) สะท้อนภาพสังคมในยุคปัจจุบัน ที่โดดเด่นคือชุดที่มีผู้ตั้งชื่อให้ว่า "ชุดกระทำชำเรากับเนกาทิฟ" เป็นงานที่นำเนกาทิฟมาตัดต่อ สร้างสรรค์เนื้อหาเรื่องราวขึ้นมาและใช้เทคนิค Hand Colored ทำให้ได้งานสร้างสรรค์เป็นทิศทางใหม่เกิดขึ้น มีผลงานภาพถ่ายที่โดดเด่นและเป็นต้นแบบที่เป็นแบบอย่างและแนวทางแก่ศิลปินรุ่นใหม่ ๆ หลายคน อาทิ ศิรวัชร นาคอินทนนท์ อุกฤษณ์ จอมยิ้ม และเอกลักษณ์ นับถือสุข นอกจากผลงานภาพถ่าย ภูมิกมล ผดุงรัตน์ยังเขียนบทความทางด้านการถ่ายภาพที่ให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจมากมาย นอกเหนือจากงานทางด้านการถ่ายภาพแล้วยังสนใจทางด้านภาพยนตร์ เขียนบทภาพยนตร์ อันเป็นบทบาทใหม่อีกอย่างหนึ่งที่ภูมิกมล ผดุงรัตน์ หันมาให้ความสนใจ

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]