ฟอร์บิดเดนกันดั้ม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
GAT-X252 ฟอร์บิดเดนกันดั้ม
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทโมบิลสูทรุ่นต้นแบบ
ความสูง17.47 เมตร
น้ำหนัก85.33 ตัน
เกราะทรานส์เฟสอาเมอร์
อุปกรณ์ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์"
เคียว "นีสเฮก"
ปืนกล 115 มม. "อาร์มไฟเยอร์"
เรลกัน 88 มม. "เอคแซน"
ปืนพลาสม่า "เฮรสเวลก์"
คุณสมบัติพิเศษเกราะสะท้อนพลังงาน "เกชไมดิคแพนเซอร์"
นักบินสำคัญชานิ แอนดราส

GAT-X252 ฟอร์บิดเดนกันดั้ม (ญี่ปุ่น:フォビドゥンガンダム ;อังกฤษ:Forbidden Gundam)เป็นโมบิลสูทตัวร้ายซึ่งมีบทบาทสำคัญในการ์ตูนญี่ปุ่น อะนิเมะ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด ออกแบบโดย คุนิโอะ โอคาวาระ

ฟอร์บิดเดนกันดั้มเป็นหนึ่งในGAT-X ซีรีส์รุ่นที่สองที่พันธมิตรโลกพัฒนาขึ้นมา ซึ่งรุ่นที่สองนี้เปลี่ยนระบบเกราะเป็นแบบทรานส์เฟส(TransPhase มีตัวย่อว่า TP)ซึ่งพัฒนามาจากเกราะเฟสชิฟท์ของรุ่นแรก โดยเกราะทรานส์เฟสนั้นจะไม่เปลี่ยนสีและทำงานเฉพาะส่วนที่ถูกโจมตีเท่านั้น แตกต่างจากเกราะเฟสชิฟท์ซึ่งต้องเปิดใช้งานทุกส่วนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกราะทรานส์เฟสมีพลังป้องกันสูงกว่าและใช้พลังงานน้อยกว่าเช่นกัน

บทบาท[แก้]

ฟอร์บิดเดนกันดั้มเป็นโมบิลสูทที่มีลักษณะเด่นคือแบ็คแพ็คขนาดใหญ่ด้านหลัง ซึ่งเมื่อใช้งานจะพับขึ้นมาเป็นเหมือนเกราะคลุมส่วนหัวของฟอร์บิดเดนกันดั้มไว้ เกราะนี้มีระบบเกชไมดิคแพนเซอร์(Geschmeidig Panzer)โดยใช้อนุภาคมิราจคอลลอยด์เบี่ยงทิศทางของพลังงานโดยรอบ ทำให้สามารถป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธบีมได้ แบ็คแพ็คนี้ยังติดตั้งเรลกันไว้สองกระบอกและปืนพลาสม่า "เฮรสเวลก์" ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่ยิงลำแสงเป็นเส้นโค้งจึงคาดเดาวิถีได้ยาก อาวุธอื่นๆของฟอร์บิดเดนกันดั้มประกอบด้วยปืนกลที่แขนทั้งสองข้าง ปืนกลวัลแคน และ เคียว

ฟอร์บิดเดนกันดั้มได้ใช้งานครั้งแรกเมื่อพันธมิตรโลกได้โจมตีอาณาจักรอ็อบ ชานิ แอนดราสซึ่งเป็นนักบินนั้นเป็นมนุษย์ดัดแปลงที่มีปฏิกิริยาเทียบได้กับโคออร์ดิเนเตอร์ จึงสามารถใช้ระบบปฏิบัติการซึ่งซับซ้อนมากได้ ฟอร์บิดเดนกันดั้มถูกดูเอลกันดั้มของอิซาค จูลทำลายในการสู้รบที่ยาคินดูเอ้

ฟอร์บิดเดนบลู[แก้]

GAT-X255 ฟอร์บิดเดนบลู
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทโมบิลสูทสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นต้นแบบ
ความสูง17.47 เมตร
เกราะทรานส์เฟสอาเมอร์
อุปกรณ์ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์"
สามง่าม
ปืนกล 115 มม. "อาร์มไฟเยอร์"
ตอร์ปิโดความเร็วสูง
ปืนโฟนอนเมเซอร์
กงเล็บ
คุณสมบัติพิเศษเกราะสะท้อนพลังงาน "เกชไมดิคแพนเซอร์"
นักบินสำคัญเจน ฮิวส์ตัน

ปรากฏตัวเป็นดีไซน์ต้นฉบับใน กันดั้มซี้ด โมบิลสูทวาริเอชัน และต่อมามีบทบาทสำคัญในมังงะ กันดั้มซี้ด แอสเทรย์ ฟอร์บิดเดนบลูพัฒนาต่อมาจากฟอร์บิดเดนกันดั้มโดยเปลี่ยนไปเป็นโมบิลสูทแบบสะเทินน้ำสะเทินบกเพื่อใช้สู้กับโมบิลสูทสำหรับใช้ในน้ำของซาฟท์ เกชไมดิคแพนเซอร์ได้รับการดัดแปลงให้เป็นระบบขับเคลื่อนใต้น้ำของฟอร์บิดเดนบลูโดยใช้ควบคุมการไหลของน้ำรอบๆเกราะ ฟอร์บิดเดนบลูจึงสามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างรวดเร็ว เกราะแบ็คแพ็คนี้ยังเปลี่ยนอาวุธโดยเปลี่ยนเรลกันเป็นตอร์ปิโดความเร็วสูงและปืนพลาสม่าเป็นปืนคลื่นเสียงโฟนอนเมเซอร์ และเปลี่ยนเคียวไปเป็นสามง่ามเพื่อให้เหมาะกับการต่อสู้ใต้น้ำมากกว่าเดิม โล่ที่ไหล่สองข้างติดตั้งกงเล็บไว้ ในขณะที่ใช้เกราะสวมหัวนี้ยังมีส่วนหางยาวซึ่งเป็นที่รับสัญญาณโซนาร์ในน้ำ

จุดอ่อนของฟอร์บิดเดนบลูก็คือเมื่อดำน้ำที่ระดับความลึกมากจะต้องใช้เกราะTPป้องกันแรงกดของน้ำ ถ้าหากพลังงานเหลือน้อยแล้วฟอร์บิดเดนบลูก็จะถูกแรงกดของน้ำอัดจนพังทันที ข้อเสียร้ายแรงนี้ทำให้ฟอร์บิดเดนบลูได้รับฉายาว่า โลงศพต้องห้าม (Forbidden Coffin) นักบินทดสอบของฟอร์บิดเดนบลูผู้มีชื่อเสียงก็คือ เจน ฮิวส์ตัน ผู้มีฉายาว่า ปลาวาฬเผือก ในเนื้อเรื่องของ กันดั้มซี้ด เดสทินีแอสเทรย์ เจนได้ใช้ฟอร์บิดเดนบลูต่อสู้กับซอร์ดคาลามิตี้ของเอ็ดเวิร์ด ฮาเรลสัน แต่ด้วยความช่วยเหลือของเจส ริบเบิลทำให้เธอเข้าใจเอ็ดและช่วยในการต่อสู้ปลดปล่อยสหรัฐอเมริกาใต้ในเวลาต่อมา

ดีพฟอร์บิดเดน[แก้]

GAT-706S ดีพฟอร์บิดเดน
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทโมบิลสูทสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นผลิตจำนวนมาก
ความสูง17.2 เมตร
น้ำหนัก80.4 ตัน
เกราะโลหะผสมไททาเนียม
อุปกรณ์สามง่าม
ตอร์ปิโดความเร็วสูง
ปืนโฟนอนเมเซอร์
กงเล็บ
คุณสมบัติพิเศษเกราะสะท้อนพลังงาน "เกชไมดิคแพนเซอร์"
นักบินสำคัญเจน ฮิวส์ตัน

ปรากฏตัวเป็นดีไซน์ต้นฉบับใน กันดั้มซี้ด โมบิลสูทวาริเอชัน ดีพฟอร์บิดเดนเป็นรุ่นผลิตจำนวนมากของฟอร์บิดเดนบลูโดยตัดอาวุธสำหรับใช้บนบกทิ้งไป ดีพฟอร์บิดเดนยังแก้ไขจุดอ่อนของฟอร์บิดเดนบลูโดยหุ้มเกราะไททาเนียมแทนการใช้เกราะTPและปรับโครางสร้างให้สามารถทนแรงกดของน้ำลึกได้ แต่ระบบเซนเซอร์จะด้อยกว่าฟอร์บิดเดนบลู โดยเซนเซอร์ที่ตาจะมีแว่นครอบไว้อีกชั้นทำให้ลักษณะคล้ายกับแด็กเกอร์ซีรีส์

GAT-707E ฟอร์บิดเดนวอเท็กซ์[แก้]

ปรากฏตัวในกันดั้มซี้ดเดสทินีฉบับตัดต่อใหม่ ฟอร์บิดเดนวอเท็กซ์มีลักษณะภายนอกเหมือนฟอร์บิดเดนบลู แต่จริงๆแล้วโครงสร้างหลักได้รับการปรับปรุงด้วยไททาเนียมให้ทนแรงกดของน้ำได้เหมือนดีพฟอร์บิดเดน

อ้างอิง[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]