พูดคุย:เป็ดน้อย
| |||||
ย้ายเนื้อหามา ควรเรียบเรียงให้เป็นเนื้อหา มากกว่าการรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ไม่เป็นสารานุกรม
เกร็ด[แก้]
- ชายอาวุโส (กำนัน) ที่ตาม พฤหัส บุญหลง (นายชิต) ออกมานอกชานเรือนเมื่อได้ยินเสียงวิวาทข้างล่าง คือ บุญส่ง ดวงดารา นักแสดงละครเวทีในอดีตซึ่งเป็นบิดาของ เมตตา รุ่งรัตน์ ในชีวิตจริง
- ยุพน ธรรมศรี พากย์เสียง ไชยา สุริยัน
- จุรี โอศิริ พากย์เสียง สุทิศา พัฒนุช ,ชฎาพร วชิรปรานี และตนเอง (หญิงใหญ่)
- พูนสวัสดิ์ ธีมากร นอกจากเป็นมือกล้อง ยังแสดงและพากย์เสียงตนเอง (ครูฝึกมารยาท) ด้วย
- สาหัส บุญหลง ,มนัส บุณยเกียรติ ,ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร ณ อยุธยา ,สมพงษ์ พงษ์มิตร ,ธานินทร์ อินทรเทพ และ คณะสามศักดิ์ พากย์เสียงตนเอง
- จันตรี สาริกบุตร พากย์เสียงตนเองในบท บุหงา และเคยแสดงเป็นครูฝึกมารยาทในละครทีวี
- มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา พากย์เสียง มาลี เวชประเสริฐ และตนเอง (สตรีใส่หน้ากาก) ในซุ้มเรือนไทย
- ชรินทร์ นันทนาคร และ จินตนา สุขสถิตย์ ร้องเพลงแทนเสียงดารานำ
- มีศักดิ์ นาครัตน์ ร้องเพลงแทนเสียง ม.ล.รุจิรา
- เพลง "ต้อนกระบือ" ,"เพลิน" ,"ริน ริน ริน" เคยใช้ประกอบภาพยนตร์ยุคไทยฟิล์ม
- ทูล ทองใจ ปรากฏตัวครั้งเดียวบนจอเงิน ร่วมแสดงเป็นตัวเองจากประสบการณ์จริงของนักร้องลูกทุ่ง กับเพลงสัญลักษณ์ประจำตัว โปรดเถิดดวงใจ
- หม่อมปริม บุนนาค ผู้อำนวยการสร้าง ดูแลการแต่งหน้า (เมคอัพ) นักแสดง
- ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ม.จ.ไกรสิงห์ วุฒิชัย แห่งห้องเสื้อชั้นนำ "ไกรสิงห์" เคยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี ประจำปี พ.ศ. 2503 สาขาดังกล่าวจาก ดวงใจที่รัก ผลงานเรื่องอื่นๆ เช่น สวรรค์มืด (2501) และ อ้อมอกดิน (2508)
- พิชัย วาสนาส่ง และ เฉลิม พันธุ์นิล ฝ่ายศิลป
- ระบบบันทึกเสียงเวสเทร็กซ์ (Westrex) ตามมาตรฐานสตูดิโอหลักในฮอลลีวูด สหรัฐอเมริกา (เมืองไทยมีเฉพาะห้องบันทึกเสียงของอัศวิน)
- หลังโปรแกรมในโรงภาพยนตร์ ได้ฉายซ้ำอีกหลายครั้งในรายการพิเศษวันหยุดราชการทางทีวีจนถึงรายการแกะกล่องหนังไทย ทางทีวีไทย (พีบีเอส) พ.ศ. 2552 ล่าสุดฉายในโปรแกรมรำลึกมีศักดิ์ นาครัตน์ ณ โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ชาติ (องค์การมหาชน) วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555[1]
จุดเด่น[แก้]
- ครั้งแรกของวงการภาพยนตร์ไทย ที่อัญเชิญทำนอง เพลงพระราชนิพนธ์ "ใกล้รุ่ง" โดยพระมหากรุณาธิคุณ ประกอบไตเติ้ล (ในแบบเพลงประสานเสียงซึ่งไม่เคยมีเรื่องใดทำมาก่อน )
- ครั้งแรกของหนังไทยที่ลงทุนใช้ฟิล์มจำนวนมากเพื่อถ่ายไตเติ้ลภาพหมู่เมฆเคลื่อนตัวด้วยความเร็วกว่าปกติ และเลนส์ที่ให้ภาพคมชัดสูงเป็นพิเศษสั่งจากต่างประเทศเพื่อภาพธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาโดยเฉพาะ [2]
- จำลองวิถีชีวิต ค่านิยมและวัฒนธรรมในสังคมชนบทเปรียบเทียบกับสังคมเมือง (และเรื่องต่อมาใน ละครเร่ ) เช่น สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ (ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา) ,โรงเรือนในชนบทและข้าวของเครื่องใช้ ,ควาย กับสภาพที่เต็มไปด้วยการปรุงแต่งในเมืองหลวงตั้งแต่ที่อยู่จนถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ สถานที่ต่างๆ เช่น ท่าอากาศยานกรุงเทพ ดอนเมือง ,สถานีขนส่งหมอชิต ,ตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทาง รถยนต์และรถดีเซลราง (สะพานย่านฝั่งธนบุรี) ช่วงต้นทศวรรษ 2510 (ปีที่ฉาย พ.ศ. 2511)
- หนังเพลงร่วมสมัยบอกเล่าเรื่องราวทางสังคมวัฒนธรรมจากดนตรีหลากหลายแนวที่ไม่เคยมีในเรื่องใดก่อนหน้า นับแต่การละเล่นพื้นบ้านลำตัด ,เพลงลูกทุ่ง ,เพลงประสานเสียง ,เพลงแนวหัสดนตรีประกอบเรื่องเล่าของนายทหารไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ใน "วีรกรรม (เสือเก่า)" จนถึงเพลงป๊อบ "ริน ริน ริน" , "ลิงจับมือเสือ" (ในเรื่องใช้เฉพาะทำนอง) และเพลงคลาสสิค "วอลทซ์บลูดานูบ" (เคยใช้ก่อนหน้าในเรือนแพ ด้วย )
- การแสดงเรื่องแรกของ สุทิศา พัฒนุช รองนางสาวไทย พ.ศ. 2508 และเป็นครั้งเดียวที่เคยคู่กับ ไชยา สุริยัน