พิสซิส อโฟรดิตี้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พิสซิส อโฟรดิตี้
ชื่อ
ชื่อไทย พิสเซส อโฟรดิเท
ชื่ออักษรละติน Pisces Aphrodite
ชื่อญี่ปุ่น 魚座のアフロディーテ
นักพากย์ เคอิจิ นัมบะ
ข้อมูลเฉพาะ
ระดับ โกลด์เซนต์
เกิด 10 มีนาคม
ราศี มีน
กลุ่มดาวประจำตัว กลุ่มดาวปลา
อายุ 22 ปี
ความสูง 183 เซนติเมตร
น้ำหนัก 72 กิโลกรัม
กรุ๊ปเลือด O
สถานที่เกิด ประเทศสวีเดน
สถานที่ฝึกวิชา กรีนแลนด์
ท่าไม้ตาย รอยัลเดม่อนโรส
ปิรันย่าโรส
บลัดดี้โรส
ชุดเกราะ
ประเภทชุดเกราะ โกลด์คล็อธ
ชื่อชุดเกราะ พิสเซสคล็อธ
ภาพคล็อธ

พิสเซส อโฟรดิเท (ญี่ปุ่น: 魚座(ピスケス)のアフロディーテโรมาจิPisukesu no Afurodīte) ตัวละครจากการ์ตูนเรื่องเซนต์เซย่า เป็นโกลด์เซนต์ประจำราศีมีน ผู้ดูแลปราสาทปลาคู่ 1 ใน 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่ เป็นเซนต์ที่มีความงดงามที่สุดในบรรดาเซนต์ทั้ง 88 คน[1]

บทบาท[แก้]

ผู้ดูแลปราสาทปลาคู่[แก้]

อโฟรดิเทปรากฏตัวครั้งแรกที่ปราสาทปลาคู่ โดยเหลือเพียงเซย่าและชุน เท่านั้นที่สามารถผ่านมาถึงปราสาทนี้ โดยชุนต้องการเป็นคู่ต่อสู้กับอโฟรดิเทเพราะว่าอโฟรดิตี้เป็นคนฆ่าไดดารอสแห่งเซเฟอุส ที่เกาะอันโดรเมด้า ซึ่งเป็นอาจารย์ของชุนนั่นเอง ถึงแม้ว่าเซย่าจะสามารถผ่านปราสาทปลาคู่ออกไปได้ แต่อโฟรดิเทก็ได้ใช้กุหลาบปิศาจซึ่งสามารถทำลายประสาทสัมผัสทั้ง 5 โปรยไว้ตามเส้นทางจากปราสาทปลาคู่จนถึงห้องเคียวโก ชุนเริ่มโจมตีอโฟรดิเทด้วยเนบิวล่าเชนแต่ถูกโต้กลับมาด้วยรอยัลเดม่อนโรสของอโฟรดิเท แต่ชุนก็สามารถป้องกันและสะท้อนรอยัลเดม่อนโรสกลับโดยใช้ท่าโรลลิ่งดีเฟนซ์ หลังจากนั้น ชุนโจมตีอโฟรดิเทด้วยโซ่เนบิวล่าอีกครั้ง ซึ่งอโฟรดิเทก็สามารถหลบได้โดยหายตัวไปในวังวนของดอกกุหลาบ ชุนจึงใช้ท่าธันเดอร์เวฟจนสามารถหาอโฟรดิเทเจอ อย่างไรก็ตาม อโฟรดิเทสามารถหยุดท่าธันเดอร์เวฟได้โดยใช้กุหลาบดำเพียงดอกเดียว หลังจากนั้น อโฟรดิเทจึงใช้กุหลาบดำโจมตีด้วยท่าปิรันย่าโรสซึ่งทำให้โซ่และชุดคล็อธของชุนแตกสลายไป

เมื่อชุนอยู่ในสภาพที่ไม่มีโซ่และชุดคล็อธแล้วนั้น ชุนได้ระเบิดพลังคอสโมของตนออกมาและโจมตีอโฟรดิเทด้วยท่าเนบิวล่าสตรีม ซึ่งทำให้อโฟรดิเทไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดั่งใจ ดังนั้น อโฟรดิเทจึงตัดสินใจใช้บลัดดี้โรสเป็นครั้งแรก ชุนโดนบลัดดี้โรสปักเข้าที่กลางหัวใจแต่ก็ได้โจมตีอโฟรดิเทด้วยท่าเนบิวล่าสตอมจนทำให้อโฟรดิเทถึงแก่ความตายเช่นกัน[2]

สงครามสุริยะเทพอาเบล[แก้]

หลังจากศึก 12 ปราสาท อโฟรดิเทมีบทบาทอีกครั้งในฉบับภาพยนตร์ ภาคสงครามสุริยะเทพอาเบล โดยเหล่าโกลด์เซนต์ที่ตายในศึก 12 ปราสาท ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งด้วยพลังจากสุริยะเทพ อาเบล ซึ่งการฟื้นคืนชีพของเหล่าโกลด์เซนต์ในครั้งนี้ได้รับคำสั่งจากอาเบลเพื่อให้ทำหน้าที่ปกป้องอาธีน่าแทนพวกเซย่า อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ที่แท้จริงของอโฟรดิเทนั้น ต้องการล้างอายที่ต้องมาพ่ายแพ้ต่อชุนในการต่อสู้ในศึก 12 ปราสาท โดยครั้งนี้อโฟรดิเทได้โจมตีชุนด้วยบรัดดี้โรส โดยชุนไม่สามารถตอบโต้ได้ แต่ฟินิกส์ อิคคิ ก้เข้ามาช่วยเหลือชุนไว้ได้ และสังหารอโฟรดิเทลงได้ด้วยท่าโฮโยกุเท็นโซ

สงครามศักดิ์สิทธิ์-เทพเจ้าฮาเดส[แก้]

อโฟรดิเทและเดธมาสค์ ขณะสวมใส่ชุดเซอร์พรีสเครื่องหมายแห่งสเป็คเตอร์

หลังจากได้เสียชีวิตลง ณ ศึก 12 ปราสาท อโฟรดิเทได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง โดยสวมชุดเซอร์พรีสเครื่องหมายของสเป็คเตอร์และได้รับคำสั่งจากฮาเดสเพื่อมาเด็ดศีรษะของอาเทน่า อโฟรดิเทได้ทำการต่อสู้กับอาริเอส มู ณ ปราสาทแกะขาว เพื่อพยายามผ่านปราสาททั้ง 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่ โดยอโฟรดิเทได้ใช้ท่าปิรันย่าโรสโจมตีใส่มู แต่ก็ถูกป้องกันได้โดยคริสตัลวอลล์ของมู ในขณะที่ อโฟรดิเทโจมตีมูด้วยบลัดดี้โรสนั้น มูได้โจมตีด้วยท่าสตาร์ไลท์เอ็กซ์ทิงชั่นซึ่งทำอโฟรดิเทถูกกำจัดลงอีกครั้ง

หลังจากนั้น อโฟรดิเทและเดธมาสค์ ปรากฏตัวอีกครั้ง ณ ปราสาทฮาเดส เพื่อต้องการขอพบฮาเดส อย่างไรก็ตาม ไวเวิร์น ราดาแมนทีส ได้ปฏิเสธที่จะให้ทั้ง 2 เข้าพบฮาเดสและได้ลงโทษทั้ง 2 คนที่ไม่สามารถเด็ดศีรษะของอาธีน่าได้ โดยการส่งอโฟรดิเทและเดธมาสค์กลับไปยังขุมนรกอีกครั้ง[3]

ในภายหลัง อาริเอส ชิออน จึงได้บอกความจริงแก่พวกเซย่าว่า สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ ซากะ ชูร่า คามิว เดธมาสก์ และอโฟรดิเทนั้นยอมรับใช้ฮาเดสเพราะต้องการบุกขึ้นไปยังวิหารแห่งอาธีน่าเพื่อปลุกอาธีน่าคล็อธขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง[4]

อโฟรดิเทปรากฏตัวอีกครั้ง ณ ยมโลก โดยได้ร่วมมือกับโกลด์เซนต์ทั้ง 11 คน ในการทำลายกำแพงวิปโยคเพื่อเปิดทางให้พวกเซย่า เดินทางไปยังเอรีเชี่ยนเพื่อช่วยเหลืออาเทน่า[5]

ไฟล์:Aphro002.jpg
รอยัลเดม่อนโรส ในปากของอโฟรดิเท

บทบาทในภาค Soul Of Gold[แก้]

ท่าไม้ตาย[แก้]

  • รอยัลเดม่อนโรส (Royal Demon Rose) เป็นดอกกุหลาบสีแดง โดยเกสรของดอกกุหลาบแดงนั้นจะทำลายประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งจะมีผลให้คู่ต่อสู้เกิดอาการวิงเวียนจนอาจจะเป็นบ้าได้ โดยคู่ต่อสู้จะค่อย ๆ ตายอย่างทุรนทุราย
  • ปิรันย่าโรส (Piranha Rose) เป็นดอกกุหลาบสีดำ ซึ่งหนามของมันเปรียบเสมือนฟันของปลาปิรันย่าที่สามารถกัดกินทุกอย่างได้
  • บลัดดี้โรส (Bloody Rose) เป็นดอกกุหลาบสีขาวซึ่งจะพุ่งเข้าสู่หัวใจของคู่ต่อสู้แล้วจะค่อย ๆ สูบเลือดทีละน้อย เมื่อกุหลาบขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเมื่อไหร ผู้ที่โดนกุหลาบขาวแทงอยู่ก็จะตายเมื่อนั้น

หมายเหตุ[แก้]

  • อโฟรดิเท (Aphrodite) เป็นชื่อของเทพีซึ่งเป็น 1 ใน 12 เทพ แห่งสภาเทพแห่งโอลิมปัส โดยเป็นเทพีแห่งความรักและความงาม กล่าวกันว่าเป็นเทพีที่สวยที่สุด และเป็นมารดาของอีรอสหรือคิวปิด เทพแห่งความรัก เหตุที่ มาซามิ คุรุมาดะ ใช้ชื่อเทพีองค์นี้เป็นตัวละครในราศีมีน เพราะในตำนานเทพปกรณัมกรีก การกำเนิดของกลุ่มดาวปลาคู่นี้ มาจากการที่เทพีอโฟรดิเทได้แปลงร่างเป็นปลากระโดดลงแม่น้ำพร้อมเทพอีกองค์เพื่อหนีไทฟอน เทพแห่งพายุ
  • เดิมที ชื่อตัวละครตัวนี้และเทพองค์นี้ คนไทยจะออกเสียงว่า อโฟร์ไดต์ และชื่อราศีก็ออกเสียงว่า พิสเซส แต่ในภายหลังจะออกเสียงว่า อโฟร์ดิเท และ พิสเซส เพื่อให้ถูกต้องตามสำเนียงต่างประเทศจริงๆ

อ้างอิง[แก้]

  1. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์เซย่า เล่มที่ 11, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545
  2. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์เซย่า เล่มที่ 12, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545
  3. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์เซย่า เล่มที่ 19, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548
  4. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์เซย่า เล่มที่ 22, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548
  5. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์เซย่า เล่มที่ 26, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2549

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]