ขุนแผน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก พลายแก้ว)
ขุนแผน
ตัวละครใน ขุนช้างขุนแผน
รูปปั้นขุนแผนที่วัดแค
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
ชื่อเต็มพลายแก้ว, ขุนแผนแสนสะท้าน
พระสุรินทฦๅชัย (ปลัดเมืองกาญจนบุรี)
พระยากาญจนบุรี
เพศชาย
ตำแหน่งเจ้าเมืองกาญจนบุรี
อาชีพทหาร, ขุนนาง
อาวุธดาบฟ้าฟื้น
คู่สมรสวันทอง
สายทอง
ลาวทอง
บัวคลี่
แก้วกิริยา
บุตรกุมารทอง
จมื่นไวยวรนารถ (พลายงาม)
พลายณรงค์
หลวงฤทธิ์นายเวร (พลายชุมพล)
ญาติขุนไกรพลพ่าย (พ่อ)
ทองประศรี (แม่)
พลายเพชร (หลานชาย)
พลายบัว (หลานชาย)
พลายยง (หลานชาย)
ศาสนาศาสนาพุทธ
ศาสนาผี
บ้านเกิดสุพรรณบุรี
สัญชาติกรุงศรีอยุธยา
อนุสาวรีย์ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
ภาพขุนแผน พิมพิลาไลย ที่วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม

พระยากาญจนบุรี หรือบรรดาศักดิ์เดิม ขุนแผนแสนสะท้าน คนทั่วไปมักรู้จักในนาม ขุนแผน เป็นตัวเอกของวรรณคดีไทยเรื่อง ขุนช้างขุนแผน

ประวัติ[แก้]

ขุนแผนเป็นลูกของขุนไกรพลพ่ายและทองประศรี เกิดที่เมืองสุพรรณบุรี ขุนไกรพลพ่ายเป็นทหารในสมเด็จพระพันวษา พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา รับราชการอยู่ที่เมืองสุพรรณบุรี ขุนไกรพลพ่ายทำความผิดจึงถูกสมเด็จพระพันวษาสั่งประหารชีวิต ทองประศรีกลัวความผิดจึงพาขุนแผนหนีไปอยู่บ้านญาติฝ่ายขุนไกรพลพ่ายที่เมืองกาญจนบุรี

พลายแก้วบวชเป็นเณรที่วัดส้มใหญ่จนสำเร็จวิชาเมื่ออายุ 15 ปี จากนั้นย้ายกลับมายังวัดป่าเลไลยก์วรวิหารโดยเป็นศิษย์ของสมภารมี แล้วไปเรียนต่อที่วัดแคโดยเป็นศิษย์ของสมภารคง และได้พบกับขุนช้างและพิมพิลาไลยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันมาในสมัยเด็กอีกครั้ง พลายแก้วชอบพอกับพิมพิลาไลย สุดท้ายได้สึกจากเณรและได้พิมพิลาไลยรวมถึงสายทอง (พี่เลี้ยงของพิมพิลาไลย) เป็นภรรยาในคืนเดียวกัน

พลายแก้วแต่งงานกับพิมพิลาไลยได้ไม่นานก็ได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระพันวษาไปตีเมืองเชียงทองและเชียงอินทร์ พลายแก้วได้ลาวทอง ลูกสาวนายแคว้นบ้านจอมทองมาเป็นภรรยาคนที่สาม หลังจากรบชนะกลับมา สมเด็จพระพันวษาได้ปูนบำเหน็จให้เป็น ขุนแผนแสนสะท้าน ต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระกาญจนบุรี และ พระยากาญจนบุรี เจ้าเมืองผู้ครองกาญจนบุรี

ภรรยาและบุตร[แก้]

ขุนแผนมีภรรยาทั้งหมด 5 คน เรียงตามลำดับดังนี้

  1. พิมพิลาไลยหรือวันทอง (ลูกสาวของศรีประจันกับพันศรโยธา) มีบุตรด้วยกันหนึ่งคนคือพลายงาม
  2. สายทอง พี่เลี้ยงของพิมพิลาไลย
  3. ลาวทอง (ลูกสาวของศรีเงินยวงกับแสนคำแมนนายบ้านแห่งจอมทอง) มีบุตรด้วยกันหนึ่งคนคือพลายณรงค์
  4. บัวคลี่ (ลูกสาวของหมื่นหาญกับสีจันทร์) มีลูกกับขุนแผนหนึ่งคน แต่ขุนแผนได้ผ่าท้องออกมาก่อนเกิด และปลุกเสกเป็นกุมารทอง
  5. แก้วกิริยา (ลูกสาวของพระยาสุโขทัยกับเพ็ญจันทร์) มีบุตรด้วยกันหนึ่งคนคือพลายชุมพล

คาถาและของวิเศษ[แก้]

ขุนแผนได้เรียนรู้คาถาวิชาต่าง ๆ ในสมัยที่บวชเป็นเณร ตัวอย่างคาถาที่มีได้แก่คาถามหาละลวย วิชาคงกระพันชาตรี วิชามหาเสน่ห์ วิชาสะเดาะกลอน การเสกกุมารทอง การควบคุมผีพรายหรือโหงพราย

นอกจากนี้ขุนแผนยังมีของวิเศษ 3 อย่างสำคัญ ดังนี้

ม้าสีหมอก
เป็นม้าแสนรู้ พาหนะประจำตัวขุนแผน มีแม่เป็นม้าเทศ พ่อเป็นม้าน้ำ ตัวสีหมอก ตาสีดำ สีหมอกเป็นม้ารุ่นหนุ่มจึงซุกซน เที่ยวไล่กัดม้าตัวอื่น ๆ อยู่เสมอ ถูกคนดูแลม้าไล่ตี ขุนแผนไปพบม้าสีหมอกที่เพชรบุรี เห็นมีลักษณะดีต้องตามตำรา จึงขอซื้อแล้วเสกหญ้าให้สีหมอกกิน สีหมอกจึงเชื่องติดตามขุนแผนไปแต่โดยดี
ดาบฟ้าฟื้น

ดาบที่สร้างจากเหล็กไหล 3 ชนิดในถ้ำวิเศษ สีเหล็กเป็นสีปีกแมลงทับ คมกริบ สามารถฟันศัตรูให้ขาดเป็นสองท่อนได้ในไม่กี่เพลงดาบ สามารถใช้พลังจากสายฟ้าได้ด้วยพลังของเหล็กไหล และมีพลังในการปัดเป่า ขจัดสิ่งอัปมงคล อาคมฝ่ายดำ ภูตผีสัมภเวสีฝ่ายชั่วร้าย

กุมารทอง

ลูกของพลายแก้วกับบัวคลี่ที่ตายตั้งแต่ตอนที่พลายแก้วผ่าศพออกมาทำพิธี เป็นผู้ช่วยคนสำคัญและลูกคนแรก จะปรากฎตัวเมื่อขุนแผนมอบภารกิจให้หรือในยามที่พลายงามตกอยู่ในเหตุคับขัน

โหงพราย

วิญญาณทหารเก่าของขุนแผนที่ตายในสงคราม มีบทบาทเป็นผู้ช่วยเช่นเดียวกันกับกุมารทอง

ส่วนหนึ่งบทเสภาจากวรรณคดีขุนช้าง-ขุนแผนที่แต่งขึ้น ซึ่งกล่าวถึงการเรียนวิชาอาคมของขุนแผน เป็นบทเสภาที่ไพเราะแสดงถึงพรสวรรค์และความชำนาญในการใช้คาถาอาคมของขุนแผน

ด้านการเรียนวิชาอาคมนั้นก็ตกทอดมาถึงพลายงาม ลูกของของขุนแผนกับวันทองด้วย ครั้งเมื่อเดินทางหนีออกจากบ้านของขุนช้างจากสุพรรณบุรีเพื่อไปอยู่กับย่าคือทองประศรีที่กาญจนบุรี โดยเรียนผ่านตำราหนังสือต่าง ๆ ที่เป็นของขุนแผนที่เก็บไว้ในตู้ที่บ้านของทองประศรี ในการเรียนนั้นพลายงามมีทองประศรีคอยสอนให้ ดังปรากฏในกลอนบทที่ว่า

อันเรื่องราวกล่าวความพลายงามน้อย        อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทองประศรี
ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนตร์
ปัถมังตั้งตัวนะปัดตลอด แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องหน
หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล แล้วเล่ามนต์เสกขมิ้นกินน้ำมัน
เข้าในห้องลองวิชาประสาเด็ก แทงจนเหล็กแหลมลู่ยู่ขยั้น
มหาทะมื่นยืนยงคงกระพัน ทั้งเลขยันต์ลากเหมือนไม่เคลื่อนคลาย
แล้วทำตัวหัวใจอิติปิโส สะเดาะโซ่ตรวนได้ดังใจหมาย
สะกดคนมนต์จังงังกำบังกาย เมฆฉายสูรย์จันทร์ขยันดี
ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี
ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา

อาจารย์[แก้]

ในสื่ออื่น[แก้]

ในภาพยนตร์เรื่อง ขุนแผน พ.ศ. 2545 ผู้รับบทขุนแผนคือวัชระ ตังคะประเสริฐ

ได้มีการนำตัวละครขุนแผนมาเป็นตัวละครหลักในละครย้อนยุคเรื่อง ขุนแผนแสนสะท้าน ใน พ.ศ. 2560 โดยเป็นละครที่ดำเนินเรื่องหลังจากที่ขุนแผนได้รับปูนบำเหน็จเป็นขุนแผนแสนสะท้านและได้เข้ามาเป็นเจ้าเมืองด่านกาญจนบุรี แสดงโดยณ ภพ ประสบลาภ ออกอากาศทางช่องจ๊ะทิงจา

จากนั้นใน พ.ศ. 2564 ช่องวันได้นำขุนแผนมาเป็นตัวละครหลักในเรื่อง วันทอง ​รับบทโดย​ณวัฒน์​ กุลรัตนรักษ์ จอย​