พระเจ้าฆอซีแห่งอิรัก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระเจ้าฆอซีแห่งอิรัก

ฆอซี บิน ฟัยศ็อล
(غازي ابن فيصل‎)

พระเจ้าฆอซีที่ 1แห่งอิรัก
มกุฎราชกุมารแห่งซีเรีย
มกุฎราชกุมารแห่งอิรัก
พระมหากษัตริย์แห่งอิรัก
ครองราชย์8 กันยายน พ.ศ. 2476 - 4 เมษายน พ.ศ. 2482
รัชสมัย5 ปี 208 วัน
รัชกาลก่อนหน้าพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรัก
รัชกาลถัดไปพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก
ประสูติ21 มีนาคม พ.ศ. 2455
มักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
สวรรคต4 เมษายน พ.ศ. 2482
แบกแดด ประเทศอิรัก
(พระชนมายุ 27 พรรษา)
พระราชบุตรพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก
พระเจ้าฆอซีที่ 1แห่งอิรัก
ราชวงศ์ฮัชไมต์ (ฮาชิม)
พระราชบิดาพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรัก
พระราชมารดาเจ้าหญิงฮุซัยมา บินต์ นาศิร

พระเจ้าฆอซีที่ 1 แห่งอิรัก หรือ ฆอซี บิน ฟัยศ็อล (อาหรับ: غازي ابن فيصل‎, Ġāzī bin Fayṣal; 21 มีนาคม พ.ศ. 2455 - 4 เมษายน พ.ศ. 2482) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์อิรัก รัชกาลที่ 2 ระหว่างปีพ.ศ. 2476 ถึงพ.ศ. 2482 และทรงเป็นมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซีเรียในปีพ.ศ. 2463 พระองค์ประสูติที่มักกะฮ์ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย) เป็นพระราชโอรสแต่เพียงพระองค์เดียวในพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรัก[1] ปฐมกษัตริย์แห่งอิรัก

ช่วงต้นพระชนม์ชีพ[แก้]

เจ้าชายฆอซีเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรักกับเจ้าหญิงฮุซัยมา บินต์ นาศิร เจ้าชายทรงได้รับการเลี้ยงดูจากฮุซัยน์ บิน อะลี แกรนด์ชะรีฟแห่งมักกะฮ์ ในขณะที่พระราชบิดาของพระองค์มีพระราชกิจมากในการเสด็จเยือนสถานที่ต่าง ๆ เจ้าชายทรงเจริญพระชนมายุแตกต่างจากพระราชบิดาผู้มากประสบการณ์ เจ้าชายทรงเป็นบุรุษที่ขวยอายและไร้ประสบการณ์ พระองค์ต้องเดินทางจากเฮแจซไปยังจอร์แดนที่ซึ่งราชวงศ์ฮัชไมต์สถาปนาขึ้นในปีพ.ศ. 2467 พระองค์ทรงเดินทางมาที่แบกแดดในปีเดียวกันและทรงได้รับการสถาปนาเป็นมกุฎราชกุมาร ขณะมีพระชนมายุ 16 พรรษา เจ้าชายฆอซีทรงประทับเที่ยวบินเป็นครั้งแรกกับริชาร์ด ฮอลลิเบอร์ตัน นักผจญภัยชาวอเมริกันและโมเย ดับบลิว. สตีเฟนส์ นักบิน พระองค์และคณะได้ประทับเที่ยวบินทอดพระเนตรซากโบราณสถานบาบิโลน และโบราณสถานที่ต่าง ๆ และเสด็จออกไปที่สนามโรงเรียนที่ซึ่งพระสหายร่วมชั้นของพระองค์จะสามารถเห็นพระองค์ในเครื่องบินปีกสองชั้น

พระมหากษัตริย์แห่งอิรัก[แก้]

ในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2476 พระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรักเสด็จสวรรคต และมกุฎราชกุมารฆอซีจึงสืบราชสมบัติต่อเป็น พระเจ้าฆอซีที่ 1 แห่งอิรัก ในวันเดียวกันพระเจ้าฆอซีทรงได้รับการแต่งตั้งพระอิสริยยศเป็นจอมพลเรือแห่งกองทัพเรืออิรัก, จอมพลแห่งกองทัพบกอิรัก และจอมพลอากาศแห่งกองทัพอากาศอิรัก ทรงยอมรับในชาตินิยมแพน-อาหรับ ต่อต้านผลประโยชน์ของอังกฤษในประเทศของพระองค์,[2] ในรัชสมัยของพระเจ้าฆอซีทรงถูกกล่าวถึงในเรื่องความตึงเครียดระหว่างฝ่ายพลเรือนและกองทัพซึ่งพยายามเข้าควบคุมรัฐบาล พระองค์ทรงสนับสนุนพลเอกบักร์ ศิดกีในการก่อรัฐประหาร ที่ซึ่งแทนที่รัฐบาลพลเรือนด้วยรัฐบาลทหาร ซึ่งเป็นการรัฐประหารครั้งแรกที่เกิดขึ้นในโลกอาหรับ มีข่าวลือว่า พระองค์ทรงมีทัศนคติที่ดีต่อลัทธินาซีแห่งนาซีเยอรมนี และนอกจากนี้ทรงเรียกร้องให้มีการผนวกคูเวตเข้าเป็นจังหวัดหนึ่งของอิรัก ด้วยเหตุนี้พระองค์ทรงมีสถานีวิทยุส่วนพระองค์ในพระราชวังอัลซูฮอร์ที่ซึ่งทรงสามารถเรียกร้องและทรงมีปฏิกิริยาอื่น ๆ ได้[3]

กรณีสวรรคต[แก้]

เจ้าหญิงอะลียะฮ์ บินต์ อะลีแห่งเฮแจซ พระมเหสีซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต

พระเจ้าฆอซีเสด็จสวรรคตในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2482 อย่างเป็นปริศนาจากการประสบอุบัติเหตุขณะทรงขับรถพาหนะ[3] บางคนเชื่อว่าพระองค์ทรงถูกลอบปลงพระชนม์ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี นูรี อัสซะอีด ในพระราชพิธีฝังพระศพ ฝูงชนได้ตะโกนร้องว่า

นูรี แกจะต้องชดใช้ด้วยพระโลหิตขององค์กษัตริย์ฆอซี

นูรีถูกสงสัยว่าเขาได้รับพระราชเสาวนีย์จากสมเด็จพระราชินีอะลียะฮ์ พระมเหสีของพระองค์เองและเขาได้วางแผนกับเจ้าชายอับดัลอิละฮ์ พระอนุชาในพระราชินีเพื่อดำเนินการถอดถอนองค์กษัตริย์[4]

เจ้าชายฟัยศ็อลพระโอรสเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้าฆอซีทรงสืบราชสมบัติต่อเป็นพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก ซึ่งมีพระชนมายุเพียง 4 พรรษา นายกรัฐมนตรีนูรีได้สนับสนุนให้เจ้าชายอับดัลอิละฮ์ดำรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลของพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 จนกระทั่งพ.ศ. 2496

รัชทายาท[แก้]

พระองค์อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอะลียะฮ์ บินต์ อะลีแห่งเฮแจซและมีพระราชโอรส 1 พระองค์คือ

  พระนาม ประสูติ สิ้นพระชนม์ คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา
พระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก 19352 พฤษภาคม
พ.ศ. 2478
195814 กรกฎาคม
พ.ศ. 2501
ไม่ได้อภิเษกสมรส

เป็นกษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งอิรัก พระองค์และพระราชวงศ์ถูกปลงพระชนม์ในการปฏิวัติ 14 กรกฎาคม

เดอะฟลายอิงคาร์เพต[แก้]

เมื่อครั้งที่พระองค์ยังทรงเป็นเจ้าชายและยังศึกษาอยู่ในโรงเรียน พระองค์ทรงเคยประทับเครื่องบินไปกับโมเย ดับบลิว. สตีเฟนส์ นักบินประจำเครื่องบินเดอะฟลายอิงคาร์เพต (The flying carpet) และริชาร์ด ฮอลลิเบอร์ตัน นักผจญภัยชาวอเมริกัน ในระหว่างการเดินทางรอบโลก เวลาไม่นานหลังจากการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยเครื่องบินของชาลส์ ลินด์เบิร์ก ได้มีการบันทึกประสบการณ์การขับเครื่องบินของเจ้าชายฆอซีผ่านหนังสือเดอะฟลายอิงคาร์เพตของริชาร์ด ฮอลลิเบอร์ตัน

อ้างอิง[แก้]

  1. "The Hashemite Royal Family". Jordanian Government.
  2. Tripp, Charles. A History of Iraq. Cambridge University Press: Cambridge, 2000, p.81.
  3. 3.0 3.1 Tripp, p.98.
  4. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-29. สืบค้นเมื่อ 2012-09-01.