ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กลไกแอนติคิเธียรา (Antikythera mechanism) เป็นคอมพิวเตอร์แอนะล็อกที่สร้างขึ้นในยุคกรีกโบราณเพื่อทำนายตำแหน่งทางดาราศาสตร์และสุริยุปราคา วิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นในอารยธรรมเริ่มแรกคือดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์

ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ (History of science) คือ การศึกษาพัฒนาการของวิทยาศาสตร์ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์เชิงสังคม วิทยาศาสตร์เป็นองค์ความรู้เชิงประจักษ์ทั้นในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติ เกี่ยวกับธรรมชาติของโลกและจักรวาล วิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ได้รับการค้นพบและต่อยอดโดยนักวิทยาศาสตร์จากรุ่นสู่รุ่น นักวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญกับการสังเกต อธิบาย และทำนายปรากฏการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง[1] นอกจากนั้นประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ยังศึกษาผลกระทบของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่มีต่อวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมืองของมนุษยชาติในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งของวิชาประวัติศาสตร์

วิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางคณิตศาสตร์ วิศวกรรม หรือ ฟิสิกส์ที่เราเข้าใจกันในปัจจุบันนั้น ล้วนมีจุดกำเนิดการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ในยุคพื้นฟูศิลปวิทยาของยุโรป ซึ่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์เหล่านั้น มีรากฐานจากผลงานที่คิดค้นขึ้นในสมัยกรีกโบราณและผลงานความรู้จากโลกมุสลิมที่มาจากโลกตะวันออก ซึ่งรับช่วงต่อมาจากอารยธรรมอียิปต์ เมโสโปเตเมีย และอินเดีย

คำว่า "Scientist" ในภาษาอังกฤษซึ่งแปลว่า "นักวิทยาศาสตร์"เป็นคำที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ศตวรรษที่แล้ว คำนี้ได้มีการใช้เป็นครั้งแรกโดย วิลเลียม เวเวล (William Whewell) ในศตวรรษที่ 19[2] ก่อนหน้านั้นผู้ที่สำรวจธรรมชาติของโลกเรียกตัวเองว่า "นักปรัชญาธรรมชาติ (Natural philosopher)" การสังเกตการณ์ธรรมชาติของโลกและจักรวาลนั้นมีมาตั้งแต่ยุคโบราณ ตัวอย่างเช่นนักปรัชญาธรรมชาติชาวกรีก ธาเลส (Thales) และ อริสโตเติล (Aristotle) และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific method) ถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยยุคกลางของยุโรปซึ่งมีที่มาจากโลกมุสลิม ตัวอย่างเช่น นักปราชญ์ชาวอาหรับ อิบน์ อัลฮัยษัม (Ibn al-Haytham) และนักปราชญ์ชาวอังกฤษ โรเจอร์ เบคอน (Roger Bacon) วิทยาศาสตร์สมัยใหม่เริ่มขึ้นในช่วงต้นยุคใหม่ (Modern era) เพื่อการพัฒนาศักยภาพทางอุตสาหกรรมและการทำความเข้าใจกับธรรมชาติของจักรวาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ในทวีปยุโรปช่วงศตวรรษที่ 16 และศตวรรษที่ 17[3]

ยุคโบราณ[แก้]

เมโสโปเตเมีย[แก้]

กรีก-โรมัน[แก้]

อินเดีย[แก้]

จีน[แก้]

ยุคกลาง[แก้]

จักรวรรดิไบเซนไทน์[แก้]

โลกมุสลิม[แก้]

ยุโรปตะวันตก[แก้]

ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา : การกำเนิดใหม่ของวิทยาศาสตร์ในทวีปยุโรป[แก้]

ยุคเรืองปัญญา[แก้]

ยุคใหม่ : วิทยาศาสตร์สมัยใหม่[แก้]

คณิตศาสตร์[แก้]

ตรรกศาสตร์[แก้]

ฟิสิกส์[แก้]

ดาราศาสตร์[แก้]

ธรณีวิทยา[แก้]

เคมี[แก้]

ชีววิทยา[แก้]

เภสัชศาสตร์[แก้]

สังคมศาสตร์[แก้]

โบราณคดี[แก้]

เศรษฐศาสตร์[แก้]

มานุษยวิทยา[แก้]

ศาสตร์เกิดใหม่[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "For our purpose, science may be defined as ordered knowledge of natural phenomena and of the relations between them." William C. Dampier-Whetham, "Science", in Encyclopædia Britannica, 11th ed. (New York: 1911); "Science comprises, first, the orderly and systematic comprehension, description and/or explanation of natural phenomena and, secondly, the [mathematical and logical] tools necessary for the undertaking." Marshall Clagett, Greek Science in Antiquity (New York: Collier Books, 1955); "Science is a systematic explanation of perceived or imaginary phenomena, or else is based on such an explanation. Mathematics finds a place in science only as one of the symbolical languages in which scientific explanations may be expressed." David Pingree, "Hellenophilia versus the History of Science", Isis 83, 559 (1982); Pat Munday, entry "History of Science", New Dictionary of the History of Ideas (Charles Scribner's Sons, 2005).
  2. "Whewell and the coining of 'scientist' in the Quarterly Review » Science Comma". blogs.kent.ac.uk. สืบค้นเมื่อ 2016-10-19.
  3. Hendrix, Scott E. (2011). "Natural Philosophy or Science in Premodern Epistemic Regimes? The Case of the Astrology of Albert the Great and Galileo Galilei". Teorie Vědy / Theory of Science. 33 (1): 111–132. สืบค้นเมื่อ 20 February 2012.