ประภัทรพงศ์ เวชชาชีวะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ประภัทรพงศ์ เวชชาชีวะ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ดำรงตำแหน่ง
8 มกราคม พ.ศ. 2519 – 20 เมษายน พ.ศ. 2519
นายกรัฐมนตรีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด1 กรกฎาคม พ.ศ. 2476
อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
เสียชีวิต13 มีนาคม พ.ศ. 2562 (85 ปี)
ศาสนาพุทธ
พรรคการเมืองไท
คู่สมรสไพเราะ เวชชาชีวะ

รองศาสตราจารย์[1] ประภัทรพงศ์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี เจ้าของธุรกิจสวนผลไม้ทุเรียนกระดุมทองเจ้าแรกๆ ของจันทบุรี จนได้รับฉายา "เจ้าพ่อกระดุมทอง" และเป็นบิดาของนายพงศ์เวช เวชชาชีวะ[2]

ประวัติ[แก้]

ประภัทรพงศ์ เวชชาชีวะ เกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2476 เป็นบุตรของขุนประวิตรเวชชาชีพ (ประวิตร เวชชาชีวะ) สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย สมรสกับนางไพเราะ เวชชาชีวะ มีบุตรคือ นายพงศ์เวช เวชชาชีวะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดจันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์

การทำงาน[แก้]

ประภัทรพงศ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี 1 สมัย ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2518 สังกัดพรรคไท และได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคไท แทนสมบัติ ธำรงธัญวงศ์[3] และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ในการปรับคณะรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2519[4]

ต่อมาเขาได้วางมือทางการเมือง และหันไปทำธุรกิจปลูกทุเรียนพันธุ์กระดุมทอง ในจังหวัดจันทบุรี หลังจากนั้นชื่อของเขาเป็นที่รู้จักอีกครั้งจากกรณีที่เขามีชื่อเป็นประธานกรรมการบริษัท เคที จำกัด ที่ได้รับการต่อสัญญาการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสจากกรุงเทพมหานคร[5] ในยุคของหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. เว็บไซต์ข่าวแนวหน้า
  2. นักการเมืองถิ่นจังหวัดจันทบุรี[ลิงก์เสีย]
  3. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการอำนวยการพรรคการเมือง
  4. "คณะรัฐมนตรีคณะที่ 36 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-04. สืบค้นเมื่อ 2018-06-27.
  5. "พท.เตรียมยื่น DSI ตรวจสอบ กทม.เอื้อเอกชนต่อสัญญา BTS 30 ปี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2013-08-09.
  6. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๓ ตอนที่ ๒๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒๘๑, ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙