บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร
1リットルの涙
แสดงนำเอริกะ ซะวะจิริ
ฮิโระโกะ ยะกุชิมะรุ
เรียว นิชิกิโดะ
ทะกะโนะริ จินไน
ดนตรีแก่นเรื่องปิดโอนลีฮิวมัน (Only Human)
ประเทศแหล่งกำเนิดญี่ปุ่น
ภาษาต้นฉบับญี่ปุ่น
จำนวนตอน11
การผลิต
ผู้อำนวยการสร้างซะโตะโกะ คะชิกะวะ (Satoko Kashikawa)
ความยาวตอนหนึ่งชั่วโมงโดยไม่พักโฆษณา
ออกอากาศ
เครือข่ายทีวีไทย
ออกอากาศจันทร์,อังคาร 20:30 –
21:30 น.

บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร (ญี่ปุ่น: 1リットルの涙; โรมะจิ: Ichi Rittoru no Namida, อิชิ ริตโตะรุ โนะ นะมิดะ; แปล: น้ำตาหนึ่งลิตร) เป็นละครโทรทัศน์สัญชาติญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากบันทึกประจำวันชื่อ อิชิริตโตะรุโนะนะมิดะ ของอายะ คิโต (ญี่ปุ่น: 木藤亜也; โรมะจิ: Aya Kitō) (19 กรกฎาคม 250523 เมษายน 2531) ผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลังและต้องเผชิญชีวิตกระทั่งตายก่อนวัยอันควร

เรื่องย่อ[แก้]

ละครเรื่องนี้สร้างขึ้นจากชีวิตจริงของเด็กสาวชาวญี่ปุ่นวัยสิบห้าปีชื่ออายะ คิโต ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลัง ซึ่งเป็นโรคที่ไร้หนทางเยียวยา กระทั่งตายเมื่อวัยยี่สิบห้า บทละครอ้างอิงบันทึกประจำวันที่อายะเขียนขึ้นกระทั่งไม่สามารถจับปากกาอีกต่อไปได้

ละครเริ่มต้นจากสมัยที่อายะกำลังจะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เธอนั่งหลับบนรถจนเลยโรงเรียนไปเกือบจะเข้าสอบไม่ทัน อายะต้องวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเข้าสอบให้ทันและระหว่างนั้นได้ไปพบกับฮะรุโตะ (Haruto Aso) ซึ่งกำลังคิดจะไม่เข้าสอบอยู่พอดี แต่ด้วยความสงสารอายะจึงต้องถีบจักรยานไปส่งเธอที่สนามสอบท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ผลปรากฏว่าในที่สุดทั้งสองคนจึงได้เข้าสอบและผ่านเข้าไปเรียนในชั้นเรียนเดียวกัน เนื่องจากทั้งสองเป็นนักเรียนหญิงและนักเรียนชายที่เป็นชื่อแรกของห้องเรียน ทั้งสองจึงถูกคุณครูเลือกให้เป็นตัวแทนของชั้นเรียนในการประสานงานกิจกรรมของห้อง

ความผิดปกติค่อยๆ เกิดขึ้นกับอายะทีละเล็กทีละน้อยมีแต่มารดาของอายะซึ่งมีอาชีพในการให้คำปรึกษาสุขภาพเท่านั้นที่สังเกตรับรู้ได้ แม่ของอายะเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบและเอาใจใส่ครอบครัว เธอพบว่าหลายครั้งที่อายะล้มนั้นจะไม่เอามือยันพื้นเหมือนคนทั่วไป ตลอดจนการหยิบจับสิ่งของก็ไม่ถนัดนัก เคยคีบอาหารหล่นอยู่บ่อยๆ และรินเหล้าหกใส่คุณพ่อในวันสำคัญ จนกระทั่งวันหนึ่งอายะล้มลงอย่างแรงขณะวิ่งไปโรงเรียนยามเช้า คางแตกเพราะกระแทกถนน มารดาของอายะจึงรุดพาตัวไปโรงพยาบาลและถือโอกาสนี้ในการตรวจหาสาเหตุที่เกิดขึ้น

งานชิ้นแรกที่อายะและฮารุโตะได้รับมอบหมายนั้นก็คือการประกวดร้องเพลงประสานเสียง ฮารุโตะแรกเริ่มนั้นมีท่าทีเย็นชาและไม่สุงสิงกับผู้คนจึงไม่ร่วมมือกับอายะเท่าที่ควร อายะต้องรับบทผู้อำนวยเพลงถือไม้บาตองกำกับการร้องประสานเสียงของชั้นเรียน ระหว่างที่การฝึกซ้อมดำเนินไป อายะก็ต้องเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลประกอบกันไป บางครั้งในการฝึกซ้อมอาการของโรคได้กำเริบขึ้นมาจนผิดสังเกตจนอายะพลั้งทำโน้ตเพลงหล่นกระจัดกระจายทั่วพื้นห้อง แต่ก็ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น วันสุดท้ายก่อนการแสดงนั้นพ่อแม่ของอายะไปที่โรงพยาบาลและรับทราบแล้วว่าอายะป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลังซึ่งเป็นโรคที่ไม่อาจรักษาให้หายได้ แต่อายะยังไม่รู้ความจริงดังกล่าวนี้และยังขึ้นอำนวยเพลงอย่างเต็มภาคภูมิอย่างคนปกติเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากนั้นเมื่อเธอทราบความจริงเกี่ยวกับโรคร้ายและอาการของโรคได้ปรากฏเด่นชัดขึ้น ความรักครั้งแรกกับรุ่นพี่ ยุจิ คะวะโมะโตะ (Yuji Kawamoto) ในโรงเรียนก็ค่อยๆ สิ้นสุดลง เพราะรุ่นพี่หลีกเลี่ยงที่จะคบกับเธอที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ในทางตรงข้ามฮะรุโตะที่เคยเป็นคนเฉยเมยไม่ไม่ใส่ใจใครก็กลับมาเอาใจใส่เธอมากขึ้น ครั้งหนึ่งรุ่นพี่คนนี้ทอดทิ้งให้อายะต้องรอท่ามกลางสายฝนที่สวนสัตว์แต่ฮะรุโตะก็รู้ว่ารุ่นพี่จะไม่มาจึงได้ไปพาอายะกลับโรงพยาบาล จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็แนบแน่นขึ้นเป็นลำดับ

อายะได้เรียนรู้ว่าฮะรุโตะไม่ใช้คนเย็นชาอย่างไม่มีเหตุผล แต่เป็นเพราะพี่ชายของเขาได้เสียชีวิตไปอย่างกะทันหันทำให้เขาหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตและเคยคุยกับอายะว่ามนุษย์นี่เห็นแก่ตัวที่อยากจะมีชีวิตอยู่ไปไม่รู้จักจบสิ้นในขณะที่พืชและสัตว์ดูเหมือนจะมีช่วงชีวิตของมัน ครั้งหนึ่งอายะถึงกับถามฮะรุโตะว่าชีวิตใครจะเป็นจะตายมันไม่สำคัญกับเขาเลยหรือ ฮะรุโตะในตอนนั้นก็ตอบว่าไม่ แต่ต่อมาฮะรุโตะจึงได้เรียนรู้ความหมายของการดำรงอยู่นี้จากอายะและตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเป็นแพทย์ในอนาคต นับแต่ได้มาพบกับอายะ ฮะรุโตะได้เปลี่ยนแปลงตนเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตั้งใจค้นคว้าตำราการแพทย์เจริญรอยตามบิดาที่เป็นอาจารย์แพทย์ประจำมหาวิทยาลัยโจนัน

แม้ว่าอาการของอายะจะยิ่งทรุดลงแต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ยิ่งแนบแน่นขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งอายะก็ไม่สามารถอยู่ที่โรงเรียนของคนปกติได้อีกต่อไปเธอต้องตัดสินใจย้ายไปเรียนที่โรงเรียนของผู้ทุพพลภาพ การตัดสินใจที่จะต้องจากโรงเรียนเดิมของเธอไปยังโรงเรียนแห่งใหม่นี้เธอกล่าวว่า "ต้องเสียน้ำตาถึงหนึ่งลิตร ถึงจะตัดสินใจได้"

การป่วยของอายะส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างทุกคน และสะท้อนให้เห็นถึงความรักความเอาใจใส่ที่ครอบครัวมีให้กับเธอ ครั้งถึงแม่ของอายะถึงกับกล่าวว่า "แม่ขอโทษที่เป็นโรคนี้แทนหนูไม่ได้" และน้องสาวของเธอที่เคยอิจฉาริษยาอายะมาโดยตลอดก็กลับตัวกลับใจตั้งใจเรียนเพื่อสอบเข้าโรงเรียนเดียวกับอายะให้ได้ เพื่อสานฝันที่อายะไม่อาจเดินทางไปจนสุดทาง น้องชายคนเดียวของอายะก็ต้องกล้าหาญที่จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกดูแคลนพี่สาวตัวเองและภูมิใจในพี่อายะที่แม้จะป่วยพิกลพิการแต่ก็ฝึกสอนเขาเล่นฟุตบอลจนได้รับคัดเลือกให้ไปเล่นยิงประตูได้

ฮารุโตะเป็นคนรักธรรมชาติและชอบเลี้ยงสัตว์ อายะชอบให้เขาเล่าเรื่องสัตว์ต่างๆ ให้ฟังอยู่เสมอ จนวันหนึ่งอารุโตะพาอายะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อายะชอบปลาโลมานั้นสื่อสารกันได้ระยะใกล้โดยมิต้องใช้สุ้มเสียง ฮะรุโตะจึงซื้อที่ห้อยโทรศัพท์มือถือรูปปลาโลมาให้เป็นของขวัญ อายะและฮะรุโตะจึงมีที่ห้อยโทรศัพท์รูปปลาโลมานี้เป็นเครื่องสื่อใจถึงกัน

เวลาที่ล่วงเลยไปค่อยๆ นำเอาความสามารถที่อายะเคยมีไปทีละน้อย จากที่เคยเดินได้ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกแห่งความฝัน ก็กลายเป็นต้องอยู่ในรถเข็นและในที่สุดแม้กระทั่งในความฝันอายะก็เห็นตัวเองต้องนั่งอยู่ในรถเข็นเช่นกัน ด้วยโรคที่รุมเร้าทำให้เธอพูดได้ไม่ชัดเจนและไม่จบประโยค แต่คนที่ตั้งใจฟังอย่างฮะรุโตะก็เข้าใจเธอได้เสมอ เธอให้กำลังใจตัวเองว่าจะไม่พูดถึงสิ่งที่เคยทำได้ แต่จะพูดถึงที่ทำได้ในวันนี้ จนกระทั่งในปั้นปลายชีวิตของเธอ อายะสื่อสารกับคนรอบข้างโดยการใช้นิ้วที่สั้นไหวชี้ตัวอักษรบนกระดานตัวอักษร แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อที่จะทำในสิ่งที่เธอยังทำได้อยู่

ด้วยเหตุที่ทราบว่าคงไม่อาจใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ไม่มีอนาคตและไม่อาจแต่งงานได้ วันหนึ่งหลังจากที่กลับจากงานแต่งงานของคุณครูโรงเรียนผู้ทุพพลภาพ อายะจึงคืนของขวัญที่ฮะรุโตะมอบให้ ตอนจบของเรื่อง อายะเสียชีวิตลงโดยสงบ เรื่องราวของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยจำนวนมากมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไป

ฟูจิทีวีได้ทำรายการตอนพิเศษเป็นเรื่องราวหลังจากที่อายะเสียชีวิตไปแล้ว น้องสาวของอายะได้เป็นพยาบาล ส่วนฮะรุโตะได้เป็นหมอที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่อายะเคยรักษาตัวอยู่ ฮารุโตะต้องพบกับคนไข้ที่เป็นเด็กสาวที่ดื้อดึงไม่ร่วมมือในการรักษา จนในที่สุดฮารุโตะต้องนำเธอขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงพยาบาลและเล่าเรื่องราวของอายะให้ฟัง รายการตอนพิเศษนี้เป็นการเล่าเรื่องราวย้อนในตอนที่ผ่านๆ มาและแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ของอายะเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างไร

ผู้แสดง[แก้]

  1. เอริกะ ซะวะจิริ (Erika Sawajiri) : อายะ อิเกะอุชิ (Aya Ikeuchi)
  2. ฮิโระโกะ ยะกุชิมะรุ (Hiroko Yakushimaru) : ชิโอะกะ อิเกะอุชิ (Shioka Ikeuchi), แม่ของอายะ
  3. ทะกะโนะริ จินไน (Takanori Jinnai) : มิซุโอะ อิเกะอุชิ (Mizuo Ikeuchi), พ่อของอายะ
  4. ริโกะ นะรุมิ (Riko Narumi) : อาโกะ อิเกะอุชิ (Ako Ikeuchi), น้องสาวของอายะ
  5. ยูมะ ซานาดะ (Yuma Sanada) : ฮิโระกิ อิเกะอุชิ (Hiroki Ikeuchi), น้องชายของอายะ
  6. อานิ มิโยะชิ (Ani Miyoshi) : ริกะ อิเกะอุชิ (Rika Ikeuchi), น้องสาวคนเล็กของอายะ
  7. เรียว นิชิกิโดะ (Ryō Nishikido) : ฮะรุโตะ อาโซ (Haruto Asō), คู่รักของอายะ
  8. นาโอะฮิโตะ ฟุจิกิ (Naohito Fujiki) : ฮิโระชิ มิซุโนะ (Hiroshi Mizuno), แพทย์
  9. ซาโอะริ คิโอะเดะ (Saori Koide) : มาริ ซุงิอุระ (Mari Sugiura), เพื่อนของอายะ
  10. เคะนิชิ มะสึยะมะ (Kenichi Matsuyama) : ยุจิ คะวะโมะโตะ (Yuji Kawamoto), คู่รักคนแรกของอายะ ((รุ่นพี่))
  11. คะนะ มะสึโมะโตะ (Kana Matsumoto) : ซะกิ มะสึมุระ (Saki Matsumura)
  12. โมะโมะซุเกะ มิซุตะนิ (Momosuke Mizutani) : โคะเฮ องดะ (Kohei Onda)
  13. เรียว ฮะชิดุเมะ (Ryo Hashidume) : เคตะ นะกะฮะระ (Keita Nakahara)
  14. ฮิโระชิ คะสึโนะ (Hiroshi Katsuno) : โยะชิฟุมิ อาโซ (Yoshifumi Asō), บิดาของฮารุโตะ
  15. อาซะเอะ โอนิชิ (Asae Onishi) : อาซุมิ โออิกะวะ (Asumi Oikawa), เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งของอายะที่โรงเรียนสำหรับบุคคลทุพพลภาพ อาซุมิป่วยเป็นโรคเดียวกับอายะ
  16. ยูกิ ซะโตะ (Yuuki Sato) : เคซุเกะ อาโซ (Keisuke Asō), พี่ชายของฮะรุโตะ
  17. มะยะ ฮะมะโอกะ (Maya Hamaoka) : คิกุเอะ โออิกะวะ (Kikue Oikawa)
  18. คะซุโกะ คะโต (Kazuko Katō) : มะโดะกะ ฟุจิมุระ (Madoka Fujimura)
  19. โทะชิฮิเดะ โทะเนะซะกุ (Toshihide Tonesaku) : คีชิ ทะกะโนะ (Kiichi Takano), อาสาสมัครคนหนึ่งที่โรงเรียนสำหรับบุคคลทุพพลภาพ ผู้ซึ่งต่อมาสมรสกับผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว
  20. ชิเงะยุกิ ซะโต (Shigeyuki Satō) : นิชิโนะ (Nishino), ครูประจำชั้นของอายะสมัยมัธยมศึกษา

การแพร่ภาพ[แก้]

ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น[แก้]

  1. วันแพร่ภาพ: 11 ตุลาคม20 ตุลาคม 2548
  2. สถานีโทรทัศน์: ฟูจิทีวี

จีน ฮ่องกง[แก้]

  1. วันแพร่ภาพ: 15 ตุลาคม30 ตุลาคม 2549

อินโดนีเซีย อินโดนีเซีย[แก้]

  1. วันแพร่ภาพ: 4 พฤษภาคม18 พฤษภาคม 2550

สาธารณรัฐจีน ไต้หวัน[แก้]

  1. วันแพร่ภาพ: 2 กรกฎาคม18 กรกฎาคม 2550

มาเลเซีย มาเลเซีย[แก้]

  1. วันแพร่ภาพ: 4 กรกฎาคม20 ตุลาคม 2550
  2. เวลาแพร่ภาพ : วันเสาร์ เวลา 18:00—19:00 นาฬิกา
  3. สถานีโทรทัศน์: เอททีวี (8TV)

ไทย ไทย[แก้]

  1. วันแพร่ภาพ: 5 พฤษภาคม 2551-9 มิถุนายน 2551
  2. เวลาแพร่ภาพ : วันจันทร์—วันอังคาร เวลา 20:30—21:30 นาฬิกา
  3. สถานีโทรทัศน์: ทีวีไทย

ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์[แก้]

  1. วันแพร่ภาพ: 25 พฤษภาคม 2552-19 มิถุนายน 2552
  2. เวลาแพร่ภาพ : วันจันทร์—วันศุกร์ เวลา 10:15—10:45 นาฬิกา

กำหนดการแพร่ภาพในประเทศไทย[แก้]

ตอนที่ ชื่อตอน วันแพร่ภาพ
1 ภาวะเริ่มแรกของวัยรุ่น
ある青春の始まり
5 พฤษภาคม 2551
2 วัยสิบห้าปี เมื่อโรคร้ายย่างกรายเข้าหา
15才、忍びよる病魔
6 พฤษภาคม 2551
3 ทำไมโรคนี้จึงเลือกฉัน
病気はどうして私を選んだの
12 พฤษภาคม 2551
4 สองคนผู้โดดเดี่ยว
二人の孤独
13 พฤษภาคม 2551
5 บัตรประจำตัวผู้ทุพพลภาพ
障害者手帳
19 พฤษภาคม 2551
6 สายตาอันโหดร้าย
心ない視線
20 พฤษภาคม 2551
7 ที่ของฉัน
私のいる場所
26 พฤษภาคม 2551
8 น้ำตาหนึ่งลิตร
1リットルの涙
27 พฤษภาคม 2551
9 ชีวิตในตอนนี้
今を生きる
2 มิถุนายน 2551
10 จดหมายรัก
Love Letter
3 มิถุนายน 2551
11 จากไปไกลแสนไกล ไปยังที่ที่น้ำตาจางหาย
遠くへ、涙の尽きた場所に
9 มิถุนายน 2551
พิเศษ บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตรตอนพิเศษ
1リットルの涙」特別篇‧追憶
ยังไม่มีกำหนดการแพร่ภาพ

เพลงประกอบละคร[แก้]

เพลงประกอบละครทั้งหมดประพันธ์ขึ้นโดยซุซุมุ อุเอะดะ (Susumu Ueda) รายชื่อเพลงอย่างเป็นทางการตามที่วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2548 มีดังต่อไปนี้ตามลำดับ

  1. Main Theme (4.10 นาที)
  2. Hurdle Wo Keote (2.53 นาที)
  3. Anata Ga Oshiete Kure Tamono (Ai No Theme) (3.18 นาที)
  4. Yasashisa Ni Tsutsumarete (2.45 นาที)
  5. Anji (2.32 นาที)
  6. Sunadokei (3.09 นาที)
  7. Kimi He No Long Pass (2.28 นาที)
  8. Rakujitsu (2.25 นาที)
  9. Shinobiyoru Byouma (2.33 นาที)
  10. Furi Aoge Ba Aoi Sora (2.20 นาที)
  11. Namida No Imi (2.32 นาที)
  12. Senkoku (2.23 นาที)
  13. Mou Utae Nai (2.56 นาที)
  14. Te Wo Nobase Ba Anata Ga (3.07 นาที)
  15. Kunou No Senritsu (2.54 นาที)
  16. Nagare Yuku Jikan (2.54 นาที)
  17. Sagashi Te Goran (2.38 นาที)
  18. Nigiyaka Na Danran (2.22 นาที)
  19. Toumei Na Sekai (3.03 นาที)
  20. Seimei Aru Kagiri (Sub Theme) (4.17 นาที)
  21. Only Human (Piano Version) (2.57 นาที)
  22. Konayuki (Piano Version) (4.34 นาที)
  23. Only Human (Cello Version) (3.06 นาที)

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]