ธิดา ถาวรเศรษฐ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ธิดา ถาวรเศรษฐ์)

ธิดา ถาวรเศรษฐ
เกิดธิดา ถาวรเศรษฐ
25 มกราคม พ.ศ. 2487 (80 ปี)[1]
อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สัญชาติไทย
พลเมืองไทย
องค์การมหาวิทยาลัยมหิดล
คู่สมรสเหวง โตจิราการ
บุตร2 คน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ธิดา ถาวรเศรษฐ หรือ ธิดา โตจิราการ[1] เป็นนักวิชาการชาวไทย มีชื่อเสียงจากบทบาทรักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.)[2] สืบจากวีระ มุสิกพงศ์ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2553

ปัจจุบันเป็น เลขาธิการกรรมการคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553

ประวัติ[แก้]

ธิดา ถาวรเศรษฐ เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2487 ที่ตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นลูกสาวคนโตของนายบัญชา (เฮ้ง) ถาวรเศรษฐ กับนางยิหวา สุทธิสุวรรณ ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน โดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี[3][4]

นาง ธิดา ถาวรเศรษฐได้ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จบปริญญาเภสัชศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล และปริญญาโทด้านจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล[4] เริ่มรับราชการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ [4]ต่อมาจึงได้ย้ายมาสอนที่ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จนได้รับตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์

เคยเป็นหนึ่งในแนวร่วมในเหตุการณ์ 14 ตุลา และเหตุการณ์ 6 ตุลา และภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.​ 2519 เคยเข้าร่วมกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยใช้นามว่า "สหายปูน"[5] และเป็นอดีตกรรมการกลางสำรองและอดีตกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในช่วงสมัชชาที่ 4[4]

ต่อมา หลังจากออกจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้กลับมารับราชการที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ต่อมาสมรสกับนายแพทย์ เหวง โตจิราการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีบุตร 2 คน คือ นางสาวมัชฌิมา โตจิราการ และนายแพทย์สลักธรรม โตจิราการ[4]

บทบาทการเมือง[แก้]

ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2553 ขณะที่แกนนำ นปช. ถูกจับกุมตัวและถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ทำให้ ธิดา ถาวรเศรษฐ จึงได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่รักษาการประธาน นปช. เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในช่วงดังกล่าว

ธิดา ถาวรเศรษฐ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ [6] ว่าเป้าหมายและเจตนารมณ์ ในการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในขณะนี้ ยังอยู่ใน 3 รูปแบบ คือ ต่อต้านรัฐประหาร คัดค้านสงคราม ทวงความยุติธรรม ฉะนั้น ด้านหลักของการเคลื่อนไหว จึงเน้นปัญหาความยุติธรรม เพราะสถานการณ์รัฐประหารก็ยังดำรงอยู่ และพวกจารีตนิยมก็ยังอยากได้สงคราม เราจึงคัดค้าน

"ความยุติธรรมไม่ใช่แค่ เรื่องคนที่ถูกจับกุมคุมขัง แต่เป็นความยุติธรรมที่จะต้องรับผิดชอบคนที่ตายไป รัฐบาลยังไม่หาคนผิดมาลงโทษ ไม่มีทั้งความรับผิดชอบทางการเมือง และทางกฎหมาย" เพราะฉะนั้นนี่เป็นภาระหน้าที่ของคนเสื้อแดงซึ่งแน่นอนเรา เรียกร้องประชาธิปไตย เราเห็นด้วยที่จะมีการยุบสภา แต่ปัญหาที่คนเสื้อแดงถูกกระทำ ก็เป็นเรื่องที่คนเสื้อแดงต้องต่อสู้ เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณปฏิบัติต่อคนไม่เท่าเทียมกัน

ส่วน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เขาเป็นแนวร่วมคนหนึ่ง อย่าลืมว่าเราเป็นองค์กรแนวร่วม ชื่อเต็ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน ในนี้มีองค์ประกอบ 60-70% ที่รักคุณทักษิณมาก ส่วนที่เหลือคือเฉย ๆ แต่ไม่ถึงกับเกลียด และอาจจะมีคนที่อยากอยู่ห่าง ๆ อีกจำนวนหนึ่ง แต่เราเป็นองค์กรแนวร่วม เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ความรักคุณทักษิณมันมีเหตุผลของมัน เพราะเขารักตัวเขา รักผลประโยชน์ของเขา เขาหวังว่าคุณทักษิณจะเป็นนายกฯ ที่ตอบสนองผลประโยชน์ของเขา ฉะนั้น คนเหล่านี้มี loyalty มีความจงรักภักดี แม้ผ่านไปหลายปีแต่เขายังรู้สึกได้ดี เพราะคนไทยเป็นคนซื่อตรง คนเหล่านี้ยังมีความรักคุณทักษิณ แม้เขารู้ว่าความหวังที่คุณทักษิณจะกลับมามันรางเลือน แต่นี่เป็นนิสัยที่ไม่หักหลังคน ฉะนั้น เมื่อเรามองอย่างนี้ในแนวร่วม เราจึงจำเป็นให้คุณทักษิณอยู่ในฐานะที่มีบทบาทพอสมควร พูดง่ายๆ คือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่คนหนึ่งในแนวร่วมนี้

ด้านการต่อต้านรัฐประหาร อันนี้ก็ชัดเจน ตามหลักสากลในประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ต้องเริ่มจากการยอมรับและเคารพในสิทธิ ของบุคคล "หนึ่งคน หนึ่งสิทธิ" ทุกคนมีสิทธิในการเลือกบุคคลที่เขาชอบ เข้ามาเป็นตัวแทนของเขาเท่าๆ กัน ไม่มีใครเป็นอภิสิทธิชน และหากนั่นเป็นเสียงส่วนใหญ่ ทุกคนต้องเคารพ และขอยืนยันว่าการนำกำลังทหาร รถถัง และอาวุธสงครามออกมาทำรัฐประหาร โดยข้ออ้างต่างๆ นานา ไม่ได้ทำให้ชาติบ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้าได้ มีแต่ฉุดรั้งให้ตกต่ำลง รัฐประหาร ปี 2549 มีเหตุผลที่อ้างมา 4 ข้อ ถามว่าวันนี้ ข้ออ้างดังกล่าวได้รับการแก้ไข การแตกแยกในสังคม ทุจริต-คอรับชั่น แทรกแซงอำนาจองค์กรอิสระ และหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นสถาบัน มีข้อใหนดีขึ้นหรือไม่ ไม่เลย มีแต่แย่ลง ตกต่ำลง

อ้างอิง[แก้]