ทัศนาวลัย ศรสงคราม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ทัศนาวลัย ศรสงคราม

ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ใน พ.ศ. 2495
เกิดทัศนาวลัย รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์[1]
11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 (78 ปี)
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สัญชาติไทย
การศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อ.บ.)[2]
คู่สมรสสินธู ศรสงคราม (พ.ศ. 2516–ปัจจุบัน)
บุตรจิทัศ ศรสงคราม
บุพการีอร่าม รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม (สกุลเดิม รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์; เกิด 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488) เป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กับพันเอกอร่าม รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ เป็นพระภาคิไนยเพียงคนเดียวในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นพระเชษฐภคินีฝ่ายสมเด็จพระบรมชนกนาถในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ประวัติ[แก้]

ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นพระธิดาเพียงคนเดียวในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กับพันเอกอร่าม รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ เป็นพระราชนัดดาคนแรกในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นพระราชปนัดดาคนแรกในสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

ขณะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาทรงพระครรภ์นั้น พระองค์ทรงขาดแคลนทุนทรัพย์และไม่ได้ประกอบอาชีพ ทำให้ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยมีโภชนาการไม่ค่อยดี แม้ว่าสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงมอบเงินจำนวน 600 ฟรังก์สวิสต่อเดือนก็ตาม เมื่อท่านผู้หญิงทัศนาวลัยเกิดมา ทั้งสามจึงอยู่กันอย่างมัธยัสถ์ในสวิตเซอร์แลนด์[3] ในวัยเยาว์ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย และไม่ซุกซน[3]

เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรเสด็จนิวัตกลับประเทศไทย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา มิได้ตามเสด็จด้วย เนื่องจากต้องดูแลพระธิดา[3] ครั้นท่านผู้หญิงทัศนาวลัยขณะมีอายุได้ 6 ขวบ ก็ได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กลับประเทศไทยโดยทางเรือ

ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย[3] จากนั้นได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[2]

ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงขุดเรือใบฝีพระหัตถ์จำนวนมาก ซึ่งทรงสร้างได้แนบเนียนตามรูปร่างอย่างแบบเรือใบแข่งเพรียวลมด้วยการย่อส่วนอย่างถูกต้องตามหลัก เรือใบที่สำเร็จขึ้นโดยฝีพระหัตถ์เหล่านี้ มีอยู่ลำหนึ่งซึ่งโปรดกว่าลำอื่น พระราชทานชื่อว่า "ทัศนาวลัย" อันเป็นชื่อของพระภาคิไนย และพระราชทานเป็นพระปรมาภิไธย "ภ.อ." ติดที่เรือใบด้วย ส่วนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์สร้างโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช[4] เดิมชื่อโรงเรียนประชาบาลสามตำบล ต่อมาได้พระราชทานนามโรงเรียนใหม่ว่า "โรงเรียนทัศนาวลัย"[5]

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

บรรพบุรุษทางฝ่ายบิดาของท่านผู้หญิงทัศนาวลัยเป็นชาวจีนแซ่อึ้งที่อพยพมาจากแต้จิ๋ว ชื่อ หวงกุ้ย ซึ่งอพยพเข้ามาทางจังหวัดราชบุรี ในสมัยกรุงธนบุรี หวงกุ้ยได้รับราชการดูแลการค้าทางเรือ ล่วงมาจนถึงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 บุตรชายคนที่สองของหวงกุ้ยคือ หวงจวิน หรือกุน รับราชการเป็นที่สมุหนายกในตำแหน่ง เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (กุน) ต้นสกุลรัตนกุล[6] ซึ่งเป็นบิดาของเจ้าจอมมารดาอิ่มในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1[7] ต่อมาภายหลังได้มีการเปลี่ยนนามสกุลเป็น รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์[6]

ทัศนาวลัยเดินทางไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ และพบกับสินธู ศรสงคราม ซึ่งรับราชการอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับพระราชทานสมรสกับสินธู ศรสงคราม เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2516 โดยมีบุตรชายคนเดียว คือ ร้อยเอก จิทัศ ศรสงคราม[8] สมรสกับเจสสิกา มิกเคลิช อดีตนักแสดงซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์[9]

กิจกรรม[แก้]

การทำงาน[แก้]

ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการตลาดบองมาร์เช่[10] และมีธุรกิจร้านอาหารในอาคารรัจนากร ถนนสาทรใต้[2] นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาของมูลนิธิเพื่อสถาบันราชานุกูล ในพระอุปถัมภ์ฯ[11]และเป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 ของมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย หลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการกองทุนการกุศลสมเด็จย่าและทุนการกุศล กว. สืบทอดพระปณิธานต่อไป[12]

ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยถือหุ้นของ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 10[13] ถือหุ้นของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน ใหญ่อันดับที่ 14[14]

ผู้แทนพระองค์[แก้]

ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม เคยตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชซึ่งทอดพระเนตร และพระราชทานรางวัลการแข่งขันเรือยาวประเพณีรอบชิงชนะเลิศชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ที่อ่างเก็บน้ำเขาเต่า โครงการพระราชดำริ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์[15][16]

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงครามจึงได้สานต่อพระกรณียกิจให้ลุล่วง เช่น การดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาพิเศษของกองทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์[17] การตัดหวายลูกนิมิตรเอกวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ที่อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ศรีพุทธคยา ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นประธานในการจัดสร้าง[18] การเป็นผู้แทนรับมอบปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์[19] และการเป็นประธานรางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นพระประสงค์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552[20] และในปี พ.ศ. 2553[21] เป็นต้น

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ได้เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารราชนครินทร์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมมอบเงิน 6 ล้านบาท จากทุนการกุศล กว. สมทบการจัดซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์สำหรับอาคารดังกล่าว ซึ่งชื่ออาคารถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์[22]

หลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ได้ตามเสด็จพระบรมศพจากโรงพยาบาลศิริราชสู่พระบรมมหาราชวังพร้อมกับพระบรมวงศานุวงศ์[23][24][25] และยังเป็นตัวแทนของราชสกุลมหิดลในการเป็นเจ้าภาพร่วมในการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพด้วย[26][27]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

สถานที่ที่ตั้งตามนาม[แก้]

ลำดับสาแหรก[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ (2553). จดหมายเหตุงานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. p. 7.[ลิงก์เสีย]
  2. 2.0 2.1 2.2 "ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม". สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-27. สืบค้นเมื่อ 27 กรกฎาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 "A royal and not-so-royal past". The Nation (Thailand). 5 January 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-14. สืบค้นเมื่อ 21 February 2011.
  4. "ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม พระธิดาองค์เดียว ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-09. สืบค้นเมื่อ 2010-05-10.
  5. "โรงเรียนทัศนาวลัย". ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  6. 6.0 6.1 คนจีนในแผ่นดินสยาม
  7. ส.พลายน้อย. พระบรมราชินีและเจ้าจอมมารดาแห่งราชสำนักสยาม. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ:ฐานบุ๊คส์, 2554. หน้า 242
  8. "Movie stars bring HRH Princess Galyani Vadhana remembrance pin to sell to cabinet". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-20. สืบค้นเมื่อ 2011-03-09.
  9. "พระนัดดาสมเด็จฯกรมหลวงฯวิวาห์เรียบง่ายพอเพียง" (Press release). ไทยรัฐ. 8 มิถุนายน 2553. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2555. {{cite press release}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  10. "newswit - บองมาร์เช่ มาร์เก็ตพาร์ค ฉลองครบรอบ 10 ปี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2012-06-23.
  11. "มูลนิธิเพื่อสถาบันราชานุกูล ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์". มูลนิธิเพื่อสถาบันราชานุกูล ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  12. "การสืบสานพระปณิธาน". กัลยาณิวัฒนา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-22. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  13. "ก้าวใหม่ "สัมมากร" ปรับทัพรับพันธมิตร เหยียบคันเร่งลงทุนอสังหาฯ". ประชาไท. 25 มีนาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  14. ผู้ถือหุ้นใหญ่ MINT
  15. Kapook.com - แห่ชื่นชมพระบารมี ในหลวง ปีติ แย้มพระสรวล
  16. มติชนออนไลน์ - "ในหลวง" เสด็จฯทอดพระเนตรการแข่งเรือยาวพระราชทาน
  17. Commitee of Fund for Classical Music Promotion
  18. กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ตัดหวายลูกนิมิตเอก[ลิงก์เสีย]
  19. KKU NEWS - มข. ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ [ลิงก์เสีย]
  20. ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี[ลิงก์เสีย]
  21. กระทรวงศึกษาธิการ - รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์[ลิงก์เสีย]
  22. "ข่าวสด - สร้างอาคาร"ราชนครินทร์"รำลึกพระพี่นาง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2011-11-05.
  23. "เชิญพระบรมศพจากศิริราชประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท-สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯตามขบวนเสด็จฯ". ไทยทริบูน. 14 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  24. "พระบรมฯ อัญเชิญ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ". สยามดารา. 14 ตุลาคม 2559. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-22. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  25. "สมเด็จพระราชินีทรงโบกพระหัตถ์ ขณะเสด็จพระราชดำเนินตามขบวนพระบรมศพ". เวิร์กพอยต์. 14 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  26. "หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช". สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์. 7 ธันวาคม 2559. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-26. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  27. "สมเด็จพระเทพฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ". ช่อง 8. 8 ธันวาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  28. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี 2553" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 127 (14ข): 10. 8 ธันวาคม 2553. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-01-24. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม 2553. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  29. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี 2551 (พระราชทานแก่ พระบรมวงศานุวงศ์, พระธิดาและพระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์)" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 125 (16 ข): 2. 14 ธันวาคม 2551. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2552. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  30. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ (ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม)" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 126 (19 ข): 1. 18 ธันวาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2552. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  31. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน ประจำปี 2529" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 103 (82ง ฉบับพิเศษ): 3. 15 พฤษภาคม 2529. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2552. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  32. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 105 (96): 4593. 16 มิถุนายน 2531. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2552. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  33. "ประกาศ เรื่องพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 136 (22 ข): 2. 14 พฤษภาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม 2562. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  34. 34.0 34.1 เอนก นาวิกมูล. นักเดินทางชาวสยาม. กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2562, หน้า 121
  35. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๕๘, ตอน ๐ ง, ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๔, หน้า ๒๙๔๒